มีคุณป้าคนหนึ่งนะครับที่เป็นคริสเตียนมานานหลายปี รักพระเจ้ามาก ดำเนินชีวิตอยู่ในความเชื่อ
แต่ปัญหาของคุณป้าคนนี้ ก็คือเขารู้สึกผิดบาปมาก เพราะเมื่อก่อนที่เป็นคริสเตียนและหลังจากเป็นคริสเตียนแล้ว เขายังทำบาปในชีวิตประจำวันของเขา
แล้วมีอยู่วันหนึ่งนะครับผู้รับใช้ไปเยี่ยมคุณป้าคนนี้ แล้วคุณป้าก็เล่าเรื่องว่า "ฉันรู้สึกว่ามีบาปมากเหลือเกิน พระเจ้าคงไม่ยกโทษให้ฉัน" ชีวิตในแต่ละวันอยู่ด้วยความกลัว หวั่นใจ ไม่แน่ใจเรื่องความรอด และก็ไม่แน่ใจว่าพระเจ้าจะพอพระทัยในชีวิตของเขาไหม
ผู้รับใช้ท่านนั้นก็บอกว่า "ทุกครั้งเมื่อเราสารภาพบาปนะครับ ทันทีที่เราเอ่ยปากขอโทษพระเจ้า สารภาพบาปผิดต่อพระเจ้า การยกโทษบาปก็ตามมา"
1 ยน 1:9 กล่าวว่า "ถ้าท่านสารภาพบาปของท่าน พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม จะทรงยกโทษบาปทุกชนิดของท่าน บาปทุกชนิดของท่าน" (บาปทุกชนิด every sin)
คำว่า บาปทุกชนิด ในที่นี้ คือไม่ได้เกี่ยวว่าจะเป็นบาปใหญ่ บาปเล็ก บาปมาก บาปน้อย บาปนานๆ ทำที หรือทำบ่อยๆ ทุกวัน บาปที่ทำในที่ลับลี้ ที่ผู้คนไม่อาจเห็นได้ และบาปที่ทำเปิดเผย แล้วก็บาปที่ตั้งใจทำ หรือไม่ตั้งใจทำก็ตาม ทั้งบาปที่มนุษย์ยกโทษให้เรา และบาปที่มนุษย์ไม่อาจยกโทษให้เราได้ เพราะเป็นบาปที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเขาและอาจจะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มากสำหรับเรา
แต่สำหรับพระเจ้านะครับ การยกโทษบาปของพระองค์ไม่ได้มองดูที่ความผิด ความบาปของเรา แต่การยกโทษบาปของพระเจ้า ก็คือมองไปที่พระโลหิต แล้วก็ยกบาปของเรา (เพราะเห็นแก่พระโลหิต)
ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ถูกตั้งไว้แล้วเพื่อยกโทษบาปให้แก่มนุษย์ ทุกครั้งที่เราสารภาพบาปต่อพระเจ้า การยกโทษก็ตามมา พระเจ้าจะมองดู หรือจดจำพระโลหิตของพระเยซูคริสต์ที่หลั่งไหลบนไม้กางเขนเพื่อไถ่บาปเรา
พระเจ้าจะบอกเราว่า "นี่ ความบาปของเธอน่ะ ฉันไม่ได้สนใจ แต่เพราะว่ามีคนจ่ายหนี้บาปของเธอให้ฉันแล้ว ก็คือบุตรของฉันนี่เอง"
ในทำนองนี้นะครับเมื่อเราสารภาพบาป พระเจ้าก็จะยกโทษให้ พระเจ้าจะไม่มองว่าบาปนั้นเป็นบาปชนิดไหน เป็นบาปใหญ่เล็กมากน้อยแค่ไหน
เมื่อเราสารภาพบาปต่อพระเจ้า พระเจ้ายกโทษ การยกโทษของพระเจ้าจะมีสิ่งหนึ่งตามมา สิ่งนั้น ก็คือ การลบล้าง ภาษาอังกฤษเรียกว่า Forgive and Justify (การยกโทษและลบล้าง)
ทุกครั้งที่พระเจ้ายกโทษให้เรา พระเจ้าก็จะลบล้างความผิดและจำไม่ได้ว่าเราทำอะไรผิดต่อพระองค์
เพราะฉะนั้นขณะที่เราสารภาพบาปต่อพระเจ้า เราขอบพระคุณทันที เพราะว่าในขณะนั้นมีการสารภาพเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การยกโทษก็ตามมาเมื่อนั้น แล้วยังไม่พอการยกโทษตามมาแล้ว ก็มีการลบล้างความผิดตามมาด้วย
เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าเราทำผิดต่อมนุษย์นะครับ มนุษย์อาจจะไม่ลืมความผิดของเรา แล้วเราจะพบว่า พี่น้องคริสเตียนมากมายมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับการยกโทษให้พี่น้องนะครับ แต่ยังจดจำความผิดของเขา
แต่สำหรับพระเจ้าแล้วนะครับ พระเจ้าเมื่อยกโทษให้เรา พระเจ้าก็ทรงลบล้างความผิดทั้งหลาย และจดจำไม่ได้อีก เราจึงเข้ามาหาพระเจ้าได้ทุกวันโดยทางพระโลหิต และสารภาพเพื่อการทำงานของพระเจ้าจะทำได้อย่างต่อเนื่องในชีวิตของเรา
คริสเตียนทุกวันนี้ไม่สามารถเติบโตได้ เพราะเขาไม่เข้าใจเรื่องการสารภาพ เพราะเขาไม่เข้าใจเรื่องการยกโทษบาปของพระเจ้า เรายังอยู่ในความผิดบาป เรายังกลัวพระเจ้ามาก เลิกกลัวพระเจ้าได้แล้วนะครับเพราะว่าพระเจ้ารักเราและยุคนี้เป็นยุคพระคุณนะครับ
เมื่อก่อนคนยิวที่ทำผิดบาป เขาก็จะนำเครื่องบูชาถวายไถ่บาปไปที่พระวิหาร
แต่ปัจจุบันนี้นะครับเป็นยุคพระคุณ พระโลหิตของพระเยซูคริสต์จะตั้งอยู่เพื่อการสารภาพบาปและยกโทษบาปของพระเจ้าที่ให้เราในแต่ละวันได้
สารภาพเถอะ อย่ารีรอนะครับ พระเจ้าจะทรงยกโทษให้ เราไม่ต้องนั่งรอว่า เอ๊ะ รู้สึกดี หรือว่ารู้สึกมีสันติสุข หรือรู้สึกอะไรบางอย่าง ไม่ครับ การสารภาพไม่จำเป็นต้องรอนาน เมื่อสารภาพเสร็จก็ขอบพระคุณทันที และยิ้ม และเข้าหาพระเจ้า นมัสการ สรรเสริญ ยกย่อง สนทนากับพระเจ้า สามัคคีธรรมกับพระเจ้าต่อไป เพื่อการเติบโตของชีวิตของเราจะเป็นไปตามเวลาฤดูกาลของพระเจ้า
อ่านเรื่อง: การสารภาพบาป (Confession) / รอดแล้วรอดเลย (Sure Salvation)