ตอน. เรื่องงานแต่งงานที่หมู่บ้านคานาสอนอะไรเราบ้าง
ถาม:
เรื่องงานสมรสที่หมู่บ้านคานา มณฑลกาลิลี มีการอธิบายแตกต่างกันมากค่ะ สรุปย่อๆ ให้ได้ป่าวคะ
ตอบ:
ได้ครับ
พระเยซูเปลี่ยนความตายให้มีชีวิตได้ (Christ Can Turn Death into Life)
2:1 วันที่สาม มีงานสมรสที่หมู่บ้านคานา แคว้นกาลิลี และมารดาของพระเยซูก็อยู่ที่นั่น
งานแต่งงาน หมายถึงการเกิด แก่ ตาย และยกให้เป็นสามีภรรยากันของมนุษย์อาดัม
มารดาของพระเยซู (ฝ่ายเนื้อหนัง) ก็เป็นมนุษย์อาดัมคนหนึ่ง
2:2 พระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับเชิญไปในงานนั้น
พระเจ้าทรงเสด็จเข้ามาในโลกเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ เพราะทรงทราบจิตใจพวกเขาดีว่า ต้องการความสุข และชีวิตที่ดีกว่าที่เขาเป็นอยู่
ความรัก คือต้นเหตุที่พระเจ้าสละพระบัลลังก์บนสวรรค์ เพื่อลงมาช่วยเหลือมนุษย์ในครั้งนี้
2:3 เมื่อน้ำองุ่นหมดแล้ว มารดาของพระเยซูทูลพระองค์ว่า “เขาไม่มีน้ำองุ่น”
น้ำองุ่น หมายถึงชีวิต น้ำองุ่นเก่าที่จะหมด คือชีวิตอาดัมปสุเค (Psuche) น้ำองุ่นใหม่ที่พระเยซูนำมาประทานให้เรา คือโซว์ (Zoe) หรือชีวิตของพระเจ้า ที่มนุษย์ไม่เคยมีโอกาสได้รับเลย ตั้งแต่อาดัมจนถึงพระเยซู
น้ำองุ่นหมด หมายถึงชีวิตอาดัมจบลงแล้ว
มารดาของพระเยซูทราบดีว่า พระเยซูทรงช่วยพวกเขาได้ (มธ. 1:21 เธอจะประสูติบุตรชาย แล้วเจ้าจะเรียกนามของท่านว่า เยซู เพราะว่าท่านจะโปรดช่วยชนชาติของท่านให้รอดจากความผิดบาปของเขาทั้งหลาย”)
2:4 พระเยซูตรัสกับนางว่า “หญิงเอ๋ย ข้าพเจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับท่านเล่า เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง”
“หญิงเอ๋ย” ในที่นี้หมายถึงท่านหญิง หรือสุภาพสตรีเอ๋ย (เป็นคำที่พระเยซูทรงให้ความนับถือมารดาฝ่ายเนื้อหนังของพระองค์)
“ข้าพเจ้าเกี่ยวข้องอะไรกับท่านเล่า เวลาของข้าพเจ้ายังไม่มาถึง” หมายถึงการไม่ทำตามความต้องการของมนุษย์ หรือตามเวลาของมนุษย์ แต่ตามเวลา และน้ำพระทัยของพระเจ้า
2:5 มารดาของพระองค์จึงบอกพวกคนใช้ว่า “ท่านจะสั่งพวกเจ้าให้ทำสิ่งใด ก็จงกระทำตามเถิด”
มารดาของพระเยซูจึงเข้าใจ และยอมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า จึงบอกให้พวกคนใช้รอ
ผู้เชื่อส่วนมากมักทำตามใจเขาเอง ไม่รอและไม่ชอบ ถ้าหากพระเจ้าทรงตอบช้า และให้ในสิ่งที่เขาไม่ต้องการ แต่พระเจ้าทรงทราบดีว่า จะเกิดผลดีต่อเขาในอนาคต
2:6 มีโอ่งหินตั้งอยู่ที่นั่นหกใบ ตามธรรมเนียมการชำระของพวกยิว จุน้ำใบละสี่ห้าถัง
ชาวยิวมีธรรมเนียมการชำระมลทิน หรือเคราะห์ร้ายเหมือนศาสนาอื่นทั่วๆ ไป แต่ไม่มีในพระบัญญัติ และพระเจ้าไม่รู้เห็นอะไรในสิ่งที่เขาทำ
2:7 พระเยซูตรัสสั่งเขาว่า “จงตักน้ำใส่โอ่งให้เต็มเถิด” และเขาก็ตักน้ำใส่โอ่งเต็มเสมอปาก
น้ำ หมายถึงความตาย ตักน้ำใส่ให้เต็ม หมายถึงตายให้สนิท ยอมจำนนทั้งหมด หรือยอมแพ้ไม่ขัดขืน (Completely Dead)
2:8 แล้วพระองค์ตรัสสั่งเขาว่า “จงตักเอาไปให้เจ้าภาพเถิด” เขาก็เอาไปให้
2:9 เมื่อเจ้าภาพชิมน้ำที่กลายเป็นน้ำองุ่นแล้ว และไม่รู้ว่ามาจากไหน (แต่คนใช้ที่ตักน้ำนั้นรู้) เจ้าภาพจึงเรียกเจ้าบ่าวมา
พระเยซูเปลี่ยนความตายให้เป็นชีวิต เราจะพบว่า ชีวิตพระเจ้าจะมีสันติสุขที่ไม่เหมือนความสุขของโลกนี้ ช่างอร่อย สุขล้น ชื่นชมยินดี และมีความหวังเหมือนเหล้าองุ่นใหม่ เพราะว่าเป็นชีวิตนิรันดร์ของพระเจ้า หลั่งไหลเข้ามาสู่ชีวิตเก่าที่ตายของเรา เพื่อเติมเต็มในส่วนที่ขาดหาย ที่ชีวิตเก่าอาดัมไม่เคยมี
2:10 และพูดกับเขาว่า “ใครๆ เขาก็เอาน้ำองุ่นอย่างดีมาให้ก่อน และเมื่อได้ดื่มกันมากแล้ว จึงเอาที่ไม่สู้ดีมา แต่ท่านเก็บน้ำองุ่นอย่างดีไว้จนถึงบัดนี้”
ธรรมเนียมของชาวยิว เมื่อจัดงานเลี้ยง เขาจะเตรียมเหล้าองุ่นสองชนิดเพื่อรับรองแขกที่มา ตอนเริ่มงานใหม่ๆ เจ้าของงานเลี้ยงจะเอาเหล้าองุ่นที่ราคาแพง และอร่อยออกมาให้แขกดื่มจนเมา และหลังจากนั้นจึงนำเอาเหล้าองุ่นราคาถูกๆ และไม่อร่อยออกมาให้แขกดื่ม
สรุป
พระเยซูเป็นคำตอบ และทางออกของชีวิตอาดัมที่กำลังจะจบ และความสุขที่ไม่มั่นคงยืนยาวตลอดไป
พระเยซูเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนความตายให้มีชีวิตได้ และชีวิตที่เราจะได้รับนั้น คือชีวิตของพระเจ้า ที่เติมเต็มในสิ่งที่เราขาดหายได้
ขอให้เป็นเวลากำหนด และน้ำพระทัยของพระเจ้า ไม่ใช่ตามใจเราเอง
ยอมจำนนต่อพระเจ้า เชื่อและยอมรับว่า พระเยซูเท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของเราผู้เดียว ไม่ยุ่งเกี่ยวและแสวงหาทางอื่น และสิ่งอื่นเพื่อเติมให้เต็มในชีวิตของเราอีกต่อไป
เรื่อง “การดื่มเหล้า” ที่ผู้เชื่อส่วนมากไม่เข้าใจ
เหล้าองุ่นในเวลานั้นมีแอลกอฮอล์น้อยมาก (2–3%) ถ้าไม่นั่งดื่มหลายชั่วโมง หรือทั้งวันก็จะไม่เมา
เป็นเรื่องปกติธรรมดา ที่ชาวยิวดื่มน้ำองุ่นแทนน้ำหลังอาหารทุกมื้อ เพราะว่าดินแดนแถบนั้นขาดแคลนน้ำ
คริสเตียนดื่มได้เพียงเล็กน้อย แต่ห้ามไม่ให้ผู้เชื่อเห็น หรือสะดุดเพราะการดื่ม (เพื่อสุขภาพ) ของเรา
คริสเตียนดื่มได้ แต่เมาไม่ได้ (ดื่มเพื่อสุขภาพ และเหล้าองุ่นต้องมีแอลกอฮอล์เล็กน้อย)
พระคัมภีร์ไม่ได้ห้ามไม่ให้ดื่ม แต่ห้ามไม่ให้เมาเหล้าองุ่น
โรม 13:13 เราจงดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับเวลากลางวัน มิใช่เลี้ยงเสพสุราเมามาย มิใช่หยาบโลนลามก มิใช่วิวาทริษยากัน
1 ทิโมธี 5:23 อย่าดื่มแต่น้ำอีกต่อไป แต่จงใช้เหล้าองุ่นบ้างเล็กน้อย เพื่อประโยชน์แก่กระเพาะอาหารของท่าน และโรคที่บังเกิดแก่ท่านเนืองๆ