เราขอบคุณพระเยซูสำหรับวันนี้ที่พระองค์อยู่ท่ามกลางพวกเรา เรานำความรักและหัวใจอันบริสุทธิ์ และร่างกายใหม่ตัวใหม่คนใหม่มาถวายแด่พระองค์ และนำความรักมาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระองค์ วันนี้เราทั้งหลายอยากจะบอกพระองค์ว่า พวกเรารักพระองค์พระเยซู เอเมน
และเป็นวันที่เรามาเพื่อนมัสการยกย่องสรรเสริญขอบพระคุณ และรับอาหารที่มาจากเบื้องบน ก็คือพระคำล้ำลึกของพระองค์ ขอบพระคุณที่พระองค์ให้เราได้เข้าถึงความรู้ล้ำลึกของพระเจ้า
และสำหรับวันนี้เป็นเรื่องของการที่ เราที่เคยเป็นทรัพย์สินของซาตาน อยู่ในอาดัม แต่วันนี้เรากลายมาเป็นทรัพย์สินของพระเจ้า และอยู่ในพระคริสต์ สรรเสริญพระเยซู โดยที่เราไม่ต้องทำอะไร ไม่ต้องพยายาม แต่โดยความเชื่อ เมื่อเราเชื่อ พระเจ้าก็ทำทุกสิ่งในเราสำเร็จแล้ว โดยผ่านพระคริสต์ เอเมน
สำหรับวันนี้คือผมอยากจะชวนเรามา สามัคคีธรรมกัน 3 เรื่องด้วยกัน และบทเรียนในวันนี้เป็นบทเรียนที่สำคัญมาก หลังจากที่เราสามัคคีธรรมกันจบลงนะครับ ผมอยากจะชวนพวกเรา ไม่ใช่กฎนะครับแล้วก็ไม่ใช่การบังคับ เพียงแต่เป็นการเชิญชวนพวกเรา 1 สัปดาห์เต็มๆ ผมอยากจะขอให้พี่น้องที่เคยลง แล้วก็พี่น้องทุกท่านที่เคยลงโพสต์ข้อความบทเรียนทั้งหลาย มาลงมาคุยมาสามัคคีธรรมกันเรื่องนี้ภายใน 1 สัปดาห์
ก็คือเรื่อง การที่เราตอนนี้เป็นของพระคริสต์ พระเจ้าซื้อเรา เราไม่ใช่เจ้าของชีวิตของเราอีกต่อไป แล้วซาตานไม่ใช่บิดาไม่ใช่พ่อและไม่ใช่เจ้าของทรัพย์สิน คือไม่ใช่เจ้าของของเราอีกต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ใช่ครับเราพบมานา เราพบพระคำล้ำลึก ใช่ครับเราฝึกเดิน ใช่ครับเราสนิท ใช่ครับ แต่ในวันนี้ผมอยากจะชวนเรามาคุยกันเรื่องนี้ “เรื่องการย้ายเจ้าของ จากแต่ก่อนเราอยู่ในอาดัม ซาตานเป็นเจ้าของของเรา แต่เดี๋ยวนี้เราอยู่ในพระคริสต์ พระเจ้าเป็นเจ้าของของเรา”
เราจึงชวนกันนะครับว่า การเป็นเจ้าของของพระเจ้า พระเจ้าทำอะไร แล้วเราเองต้องมีท่าทีบทบาท ต้องทำอะไรบ้าง ซึ่งเราได้เรียนรู้เป็นสิ่งที่ดีนะครับ ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าให้ความเข้าใจกับเรา แต่สิ่งที่เราควรจะได้รับมากกว่านี้ ก็คือการเปิดตาฝ่ายวิญญาณ ให้เราได้เห็นอย่างลึกซึ้งว่าการที่พระเจ้าเป็นเจ้าของของเรา มันเป็นแบบไหน
ขอพระเจ้านำเรานะครับเข้าสู่ประสบการณ์ชีวิตนี้ คือทุกครั้งเราจะตระหนัก ทุกครั้งเราจะนับ ทุกครั้งเราจะมอง ทุกครั้งเราจะจดจำ ว่าร่างกายนี้ ชีวิตนี้ วิญญาณนี้ จิตนี้ ทั้งหมดเป็นของพระเจ้าแล้ว
ถ้าหากเราอยากเป็นผู้ชนะ ถ้าอยากเป็นผู้ชนะ เป็นบทเรียนที่เราต้องเรียนต้องทำความเข้าใจให้ชัดเจน ให้เจาะลึกเข้าไปให้ถึงแก่น
1. ก็คือการเชื่อ
2. ก็คือการร่วมกับ หรือ Join ภาษาอังกฤษ ก็คือ Join คือการมีส่วนร่วม หรือเข้าร่วม Join the club ก็คือการมีส่วนเข้าร่วมในคลับใดคลับหนึ่ง Join the team ก็คือการเข้าร่วมทีม เป็นหนึ่งในทีมนั้น
และการเข้าร่วมในพระคริสต์ คืออะไร เราจะมาคุยกันในวันนี้
สิ่งแรก การร่วมกันเพื่อการสนิทและเป็นหนึ่งเดียวกับพระคริสต์ เราต้องทำความเข้าใจกับพระคำพระเจ้าเรื่อง
1. เชื่อ คำว่า เชื่อ ในยอห์น 3:15 คริสเตียนทั่วไปทุกวันนี้เขาก็ยังคิดว่า เชื่อในพระเยซู เชื่อวางใจในพระเจ้า เชื่อวางใจในพระเยซู แต่จริงๆ แล้วนะครับ ยอห์น 3:15 พระเยซูตรัส เราจะต้องเชื่อเข้าในพระบุตร คำว่าเชื่อภาษากรีกก็มี แต่ต่อจากคำว่า เชื่อ ก็คือ เข้าใน ภาษากรีกก็คือ ἐν แตกต่างกับ ไอซ์ ก็คือเชื่อในพระเจ้า เชื่อในภูตผีปีศาจ เชื่อในวิญญาณ เชื่อในชีวิตหลังความตาย เชื่อนะครับใครก็เชื่อ คนที่เชื่อแบบนั้นเรียกว่า ไอซ์
แต่เมื่อพระเยซูตรัสว่า เชื่อเข้าใน พระเยซูไม่ได้ว่า เชื่อในพระเจ้า แต่เชื่อเข้าใน ก็คือ ἐν การเชื่อ ἐν ก็คือการเอาชีวิตของเรา เอาทั้งชีวิต ทั้งความคิด ทุกสิ่ง เข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เข้าไปอยู่ในพระเจ้า ทันทีนะครับที่เราเชื่อ เราได้เข้าไปอยู่ในพระคริสต์และพระคริสต์อยู่ในเรา
2. เรามีส่วนร่วมในพระกายของพระคริสต์ที่เป็นอวัยวะของพระองค์แบบถาวร สองสิ่งนี้นะครับคริสเตียนทั่วไปส่วนมากไม่รู้ไม่เข้าใจและไม่นับ
แต่ที่สำคัญสัปดาห์นี้นับจากวันนี้ไป เราจะคุยกันเรื่องนี้ 3 สิ่ง ก็คือเชื่อ การเชื่อเข้าใน เพื่อให้ได้อยู่ในพระคริสต์และพระคริสต์อยู่ในเรา วิญญาณของเราสถิตอยู่ในพระคริสต์และพระคริสต์ก็สถิตอยู่ในวิญญาณของเรา เอเมน แล้วมีอะไรเกิดขึ้นครับ เมื่อเราเชื่อเข้าในพระองค์ เราก็ได้รับชีวิตพระเจ้าที่ครบบริบูรณ์แล้ว เดี๋ยวนั้นเลยทันทีที่เราเชื่อ ยอห์น 3:16 และ ยอห์น 10:10
ซึ่งคริสเตียนศาสนาทุกวันนี้รอรับชีวิตที่ครบบริบูรณ์ตอนพระเยซูเสด็จมา แต่ขอบพระคุณพระเจ้า ความลับถูกเปิดเผย ก็คือคนที่เชื่อเนี่ยทันที เราได้เข้าสนิทในพระเจ้าและพระเจ้าเข้าสนิทในเรา เรียกว่าการรับชีวิตที่ครบบริบูรณ์ เอเมน
และที่สำคัญเราต้องเข้าใจตรงนี้ ก็คือเราต้องเชื่อ และเข้าใจ และรับความจริงนี้ ก็คือเราได้อยู่ในพระคริสต์แล้วและพระคริสต์อยู่ในเราแล้ว สองคนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว
สิ่งที่ 2. ที่เราต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจเพื่อที่เราจะเป็นผู้ชนะได้ ก็คือที่อยู่ใหม่ของเรา ก็คือ ในพระคริสต์ in Christ ภาษาอังกฤษ in Christ คำนี้เป็นคำที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตของคริสเตียน ถ้าหากเราไม่เข้าใจไม่รู้จักคำว่า in Christ หรืออยู่ในพระคริสต์ แสดงว่าเราล้มเหลวในการเป็นคริสเตียน เรามาไม่ถึงชีวิตคริสเตียนที่ปกติ
การเชื่อเข้าในพระเยซูก็คือการ อยู่ในพระเยซู ก็คือการ live in Christ ดำเนินชีวิตดำรงชีวิต เดินชีวิตของเรา อยู่ในพระคริสต์ เราไม่ได้ออกไปอยู่ในอาดัมอีกต่อไปแล้ว
มันคืออะไร ก็คือทุกวันตื่นนอนตอนเช้า เราขอบคุณพระเยซู เราบอกว่า “ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ เพราะว่าความจริงของพระเจ้าก็คือพระเจ้าเอาข้าพระองค์ นำเอาชีวิตของข้าพระองค์เข้าไปอยู่ในพระคริสต์แล้ว” 1 คร 1:30 อันนี้เราต้องนับนะครับ ตื่นนอนตอนเช้านับ ตอนที่เราลืมตอนสาย ตอนเที่ยงเราลืม เรากลับมาขอบคุณพระเยซูแล้วเรานับใหม่ ตอนบ่ายเรานับอีก ตอนเย็นเรานับ ตอนค่ำเรานับ “ขอบคุณพระเจ้าที่ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์” เดินทุกก้าวนะครับบอกว่าอยู่ในพระคริสต์
เราซ่อมจักรยาน เราทำงาน เราทำธุรกิจ ทำมาค้าขาย ทำทุกสิ่งนะครับ จิตอีกฝ่ายหนึ่งเราทำงาน แต่จิตอีกฝ่ายหนึ่งเราบอกว่าข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์ เอเมน
ถ้าหากเราทำแบบนี้นะครับ เราจะมีประสบการณ์ชีวิตที่อยู่ในพระคริสต์ ก็คือโลกฝ่ายวิญญาณจะเข้ามามีบทบาทและจะเคลื่อนไหวจะทำงานทำกิจในชีวิตของเรา เราจะเห็นผลแห่งสันติสุข และเห็นผลแห่งพลัง เห็นความเข้มแข็ง แห่งชีวิตที่ดีที่อยู่ในพระคริสต์ เกิดผลมากมายในชีวิตของเรา
เราเคยได้ยินมาแล้วนะครับก็คือ ในอาดัมมีแต่ความอ่อนแอ แต่อยู่ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง เมื่อเราท่อง เราจำ เรานับ ตลอดเวลาทั้งวัน เราจะพบความเข้มแข็งแทนที่จะพบความอ่อนแอ 2. ก็คือในอาดัมเราจะเห็นความทุกข์โศกเศร้าใช่ไหม แต่เมื่อเราท่องจำตลอดเวลา เรานับตลอดเวลา “ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์” กินข้าวก็อยู่ในพระคริสต์ ดื่มน้ำก็อยู่ในพระคริสต์ ล้างถ้วยล้างชามก็อยู่ในพระคริสต์ เดินไปมา ขับรถ ทำงาน ทำอะไรก็ตาม บอกว่า “ตอนนี้อยู่ในพระคริสต์ ตอนนี้อยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระคริสต์” เราจะเห็นสันติสุขแทนที่ความโศกเศร้า
แล้วเราเคยได้ยินใช่ไหมว่า การอยู่ในอาดัมมีแต่ความผิดหวังและสิ้นหวัง แต่ขอบคุณพระเจ้า เมื่อเราท่องเราจำเรานับว่า “ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์” สิ่งที่เราจะพบก็คือความสมหวัง และทางตันไม่มีสำหรับเรา พระเจ้ามีทางออกให้เราเสมอ เอเมน
แล้วเราพบว่าในอาดัมเนี่ยชีวิตไม่แน่นอน แต่ในพระคริสต์ขอบคุณพระเจ้า เราอยู่ในทางของพระเจ้า พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างเราเสมอ ชีวิตเป็นสิ่งที่ยั่งยืนมั่นคงแน่นอนตลอดไป
แล้วสุดท้ายในอาดัม เราพบว่าไม่มีการยกโทษบาปใช่ไหม มีแต่ความเกลียดชังมีแต่สิ่งที่เป็นด้านลบ แต่ขอบคุณพระเจ้าในพระคริสต์ มีการอภัยโทษบาปเสมอ คำว่าชีวิตในพระคริสต์ จึงมีความหมายมากสำหรับคริสเตียนพวกเรา ขอให้เราเรียนรู้อธิษฐานขอการเปิดเผยมากยิ่งขึ้น คำว่าอยู่ในพระคริสต์ คืออะไรกันแน่
สองสิ่งแล้วนะครับที่ผมได้พูดผ่านไป สิ่งแรกก็คือความเชื่อ การเชื่อเข้าในพระเยซู ตอนนี้นะครับทุกวันเวลาเราอยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระเยซูแล้ว เราเอาชีวิตของเราทั้งชีวิตเข้าไปอยู่ในพระเจ้า การเป็นคริสเตียนนะครับไม่ใช่ศาสนาคริสต์ ไม่ใช่นับถือศาสนา ไปโบสถ์วันอาทิตย์ หรือนมัสการวันอาทิตย์ วันจันทร์ถึงวันศุกร์วันเสาร์ก็คือเฉยๆ ไม่สนใจพระเจ้าไม่รู้จักพระเจ้าไม่อธิษฐาน ใช้ชีวิตของอาดัมต่อไป อันนั้นก็คือการล้มเหลวในการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง และสิ่งที่สอง ก็คือที่อยู่ใหม่ของเรา คือในพระคริสต์
สิ่งที่ 3. สุดท้าย ก็คือการเข้าร่วมกับพระคริสต์ การเข้าร่วมคืออะไร วันนี้เปาโลพูดถึงใน 1 คร 6:17 ว่าเราเข้าร่วมกับพระคริสต์กับพระเจ้า เราก็เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า
การเข้าร่วมนะครับ คืออะไร ก็คือ Join / Join แตกต่างกับ Abide แตกต่างกับการสนิทยังไง คือก่อนที่เราจะสนิทได้นะครับ เราต้องเข้าร่วมก่อน ซึ่งพระเจ้าเป็นคนทำแล้ว ทันทีที่เราเชื่อ อย่างที่ผมพูดนะครับก็คือ ทันทีที่เราเชื่อปุ๊บ พระเจ้าก็เอาเราเข้ามาร่วมในพระกาย เป็นอวัยวะหนึ่งที่มีส่วนในอวัยวะหลายๆ อวัยวะ คือเราทุกคนนะครับเข้าร่วมเป็นพระกายเดียวกัน และมีศีรษะก็คือพระคริสต์ เป็นศีรษะของพวกเรา
ขอบคุณพระเจ้าทุกวันนี้ พระเจ้ามองมาที่เรา พระเจ้ามองเห็นเราเข้าร่วมกับพระกายและเป็นหนึ่งในพระกายเป็นส่วนหนึ่งในพระกายของพระเยซู
เราเคยคิดกันไหมที่ผ่านมา ก็คือเราต่อเนื่องเชื่อมต่อ ระหว่างกันและกัน อย่าลืมนะครับคุณเป็นอวัยวะหนึ่งที่ผมก็มีส่วนด้วย เราเชื่อมต่อกันและกันนะครับ เรามีส่วนสำคัญ เราให้ความสำคัญต่อกัน เราทุกคนต่างก็มีบทบาท มีความหมายต่อกันและกันทั้งนั้น ไม่มีใครที่ไม่สำคัญ
ซึ่งเราจะพบว่า ถ้าสมมุติว่ามีคนเอาเข็มมาแทงมาทิ่มที่นิ้วก้อยของเรา ทั้งร่างกายของเราก็รู้สึกเจ็บใช่ไหม เพราะฉะนั้นทุกคนสำคัญสำหรับพระเจ้า และเราทุกคนเป็นอวัยวะของพระเยซูที่พระองค์เป็นพระเศียร ก็คือศีรษะ
เพราะฉะนั้นเราขอบคุณพระเจ้า ตั้งแต่นี้ต่อไปนะครับก็คือ เรานับว่า เราได้เข้าร่วมกับพระเยซู และเราได้อยู่ในพระเยซู และเราก็เชื่อมต่อกับพี่น้องทุกๆ คนด้วยที่เป็นอวัยวะของพระองค์
คือง่ายๆ ตั้งแต่ตอนเช้าตื่นนอน เรานับ ขอบคุณพระเยซูที่ข้าพระองค์เข้าร่วมกับพระองค์แล้ว เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์แล้ว อย่าลืมนะครับ 1 คร 6:17 คนที่เข้าร่วมกับพระเจ้าก็เป็นหนึ่งเดียว คำว่าหนึ่งเดียวไม่มีสองแล้วนะครับ ก็คือเรากับพระวิญญาณเป็นหนึ่งเดียวกัน มันคืออะไร เดี๋ยวผมจะอธิบาย
ยอห์น 3:6 กล่าวถึงวิญญาณ 2 วิญญาณนะครับ สิ่งที่เกิดจากพระวิญญาณก็คือวิญญาณ สิ่งที่เกิดจากอาดัมก็คือเนื้อหนัง แต่สิ่งที่เกิดจากพระวิญญาณก็คือวิญญาณ เรามีวิญญาณอยู่ภายในซึ่งสามารถเกิดจากพระวิญญาณได้ วิญญาณทั้ง 2 นี้ต้องถูกนำมารวมกันโดยการบังเกิดทางวิญญาณ ดังนั้น 1 คร 6:17 จึงกล่าวว่า ผู้ที่ผูกพันผู้ที่เข้าร่วมกับองค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นวิญญาณเดียวกัน คือเรานะครับเป็นวิญญาณเดียวกันกับวิญญาณของพระเจ้า สรรเสริญพระเยซูสำหรับสิ่งนี้ เพราะว่าพระองค์ตอนนี้เป็นหนึ่งเดียวกับพวกเราแล้ว เอเมน
หน้าที่ของเราที่สำคัญมากก็คือ เราต้องนับ เราต้องจดจำ เราต้องท่องจำ เราต้องนับนะครับว่า “ขอบคุณพระเจ้า เดี๋ยวนี้วิญญาณของข้าพระองค์มีพระวิญญาณเป็นหนึ่งเดียว มีพระคริสต์เป็นหนึ่งเดียว และมีพระเจ้าพระบิดาเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณของข้าพระองค์”
เพราะฉะนั้นเราจะไม่กลัวอะไร เราจะไม่วิตกไม่กังวล ไม่หวั่นไหว เพราะว่าเราเป็นทุกข์ พระเจ้าก็เป็นทุกข์ เราเป็นอะไรเราโศกเศร้า เรามีปัญหา พระเจ้าก็มีปัญหากับเรา เราเจออะไรมรสุมชีวิต พระเจ้าก็เจอมรสุมชีวิตกับเรา เพราะว่าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับเราแล้ว ลงเรือลำเดียวกันนะครับ เราทุกข์พระองค์ก็ทุกข์ เราเป็นอะไรพระองค์ก็เป็นด้วย
เพราะฉะนั้นคนที่จะแก้ไขคนที่จะช่วยเหลือ พระเจ้ามีอำนาจ พระเจ้ามีทางออก พระเจ้ามีสติปัญญา พระเจ้าเป็นทุกสิ่ง พระเจ้าก็ทำได้ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราลำบาก พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราเจอมรสุมคนเดียว พระเจ้าจะไม่ปล่อยให้เราเจอความโศกเศร้ากังวลกระวนกระวายเพียงแต่คนเดียวเพียงแต่ผู้เดียว เพราะว่าตอนนี้พระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับคุณแล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นหนึ่งเดียวกับคุณแล้ว และพระบุตรเป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณของคุณแล้ว เอเมน
อีกครั้งนะครับผมอยากจะขอย้ำกับพวกเรา
ถ้าหากเราไม่พบความจริงเรื่องเชื่อเข้าในพระคริสต์ ชีวิตของเราก็ล้มเหลวนะครับ คือเพียงแต่เชื่อเฉยๆ แล้วก็ใช้ชีวิตเป็นมนุษย์อาดัมธรรมดาคนทั่วไป ไม่ได้เข้าไปอยู่ในพระคริสต์เอาทั้งชีวิตเข้าไป ก็คือเราล้มเหลว
ถ้าหากเราไม่เข้าใจเรื่องการเข้าร่วมกับพระคริสต์ คือในวันนี้ 1 คร 6:17 ภาษาอังกฤษ Join การเข้าร่วม ตอนนี้เราเข้าร่วมกับพระองค์ และพระองค์ก็เข้าร่วมกับเรา ทั้งสองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว
เพราะฉะนั้นถ้าหากเราไม่เข้าใจ ไม่รู้จักความจริงนี้ ก็คือเราล้มเหลวในการดำเนินชีวิตของเรานะครับ
และถ้าหากเราไม่เข้าใจการสนิท การสนิทเป็นสิ่งที่สำคัญมาก Abide in Christ สนิทในพระคริสต์ เพราะว่าทุกวันนี้เราอธิษฐาน คริสเตียนศาสนาอธิษฐานวันละ 3 ครั้ง หรือนานๆ อธิษฐานครั้งหนึ่ง หรือพอเจอปัญหาปุ๊บก็จะวิ่งมาหาพระเจ้าคุกเข่าอธิษฐาน
แต่สำหรับคริสเตียนพวกเรา ตอนนี้ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปิดตาให้เห็นความจริง ก็คือ 1 ธส 5:17 บอกว่าจงอธิษฐานอย่างสม่ำเสมอ ก็คือภาษากรีกนะครับ คำว่าอธิษฐาน มีความหมายก็คือ จงพูดคุยสนทนากับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ อย่างสม่ำเสมอเนี่ยภาษาอังกฤษเรียกว่า Unceasingly / Unceasingly ก็คือพูดไม่หยุด คล้ายๆ กับคนที่พูดมาก พูดไม่หยุด น่ารำคาญ แต่สำหรับพระเจ้าขอบคุณพระเยซู ที่พระองค์ต้องการแบบนี้ เพื่ออะไรครับ เพื่อที่เราจะสนิทในพระองค์ และพระองค์ก็จะสนิทในเรา
การที่จะรู้จักกันมากขึ้นมากยิ่งขึ้นในแต่ละวัน ก็คือการพูดคุยกันมากขึ้นมากขึ้น ใช่ไหมครับ ถ้าคุยน้อยก็รู้จักกันน้อย ถ้าคุยมากก็รู้จักกันมาก อันนี้คือความจริง แล้วพระเจ้าต้องการให้เราพูดคุยกับพระองค์ Unceasingly ก็คืออย่างสม่ำเสมอ ในวันหนึ่งเราพูดเราคุย เราบอกรัก เราคุย เราพูด เราบอกรัก เราสรรเสริญ ขอบพระคุณ สารภาพ ทุกสิ่งนะครับ โดยที่เราสนิทในพระเยซูตลอดเวลา
แล้วเมื่อเราทำสิ่งนี้ อะไรจะเกิดขึ้น พระเยซูตรัสว่า ถ้าท่านสนิทในเรา เราก็จะสนิทในท่าน แล้วท่านก็จะเกิดผลมาก สรรเสริญพระเยซู
ยกตัวอย่างก็คือ ถ้าสมมุติว่าเราพูดคุยกับใคร ทันทีที่เรารู้สึกว่าพระองค์ไม่ได้อยู่ร่วมกับเรา ไม่ได้ Join กับเรา แล้วเราก็ไม่ได้ Abide ไม่ได้สนิทกับพระองค์อยู่ ให้เรารีบหยุด
อันนี้ผมเชื่อนะครับหลายคนมีประสบการณ์นี้ก็คือ เราพูดคุยกับคนอื่น หรือเราทำมาค้าขาย ทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ หรือทำงานอยู่ กินข้าวนะครับ หลายครั้งบ่อยครั้งที่เราลืมว่าเรา Join เรามีส่วนร่วมในพระคริสต์ พระคริสต์มีส่วนร่วมในเรา แล้วเราลืม ลืมว่าเราสนิทในพระองค์ เราออกห่างจากพระองค์ไปแล้ว แล้วความเชื่อของเรา เราก็ถอยห่างไปจากความเชื่อที่ว่า เราตอนนี้อยู่ในพระคริสต์ เราตอนนี้มีส่วนในพระคริสต์ และเราเกิดมาเพื่อสนิทในพระองค์ เราลืม 3 สิ่งนี้ สุดท้ายเราก็ออกไปจากพระคริสต์ เราเป็นกันบ่อยไหม
แม้แต่ตอนนี้นี่เอง ยกตัวอย่างที่สอง ก็คือตอนนี้นี่เอง ขณะที่เรานมัสการอยู่ จิตความคิดของเรานะครับ ก็คือเราต้องตั้งอยู่ในความเชื่อ ในพระคำแห่งความจริง ว่าเราอยู่ในพระคริสต์ เรามีส่วนร่วมในพระคริสต์ แล้วเราต้องสนิทในพระคริสต์ ถ้าหากเราขาด 3 สิ่งนี้ การสามัคคีธรรมครั้งนี้เราก็ล้มเหลวเหมือนกัน
ตอนที่คุณฟังผมอยู่ คุณคิดไหมว่าคุณ Join มีส่วนกับพระคริสต์ และพระคริสต์ก็มีส่วนกับคุณอยู่ แล้วพระคริสต์ก็ฟังกับเรา เราก็ฟังกับพระคริสต์อยู่ ถามพระองค์นะครับว่า พี่เจ น้องเจ ลุงเจ อาจารย์เจ พูดอะไรอยู่พระองค์ ขอความเข้าใจด้วย นี่คือการสนิทที่แท้จริงนะครับ แม้แต่ตอนที่นมัสการพระเจ้า ไม่ใช่แต่ตอนนี้นะครับ คือทุกครั้งทุกเวลาทุกสถานการณ์ทุกเหตุการณ์
เราต้อง..
1. มีส่วนร่วมกับพระคริสต์ และพระคริสต์มีส่วนร่วมกับเรา
2. สนิทในพระคริสต์ และพระคริสต์สนิทในเรา และตั้งอยู่ในความจริงของพระเจ้าก็คือ เราตอนนี้เป็นอวัยวะของพระคริสต์ และเราเป็นหนึ่งเดียวกันกับพระคริสต์แล้ว เอเมน
ที่เหลือนะครับเราทำ แต่ที่สำคัญ 3 สิ่งนี้เป็นสิ่งหลักที่เราดำเนินชีวิตในแต่ละวันเราขาดไม่ได้ ถ้าหากเราอยากเป็นผู้ชนะนะครับ นำบทเรียนนี้ไปฝึก แล้วกลับไปฟังซ้ำในยูทูป แล้วคุณจะเป็นผู้ชนะ แล้วไม่ต้องใช้ข้ออ้างว่าฝึกมา 10 ปี 15 ปี 20 ปีก็ยังไม่ไปถึงไหน เพราะว่า 1. เราไม่ได้มีส่วนร่วมกับพระคริสต์ และพระคริสต์ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเราอย่างจริงจังจริงๆ แล้วก็เราไม่เคยคิด เราลืม เราหลุด เราเผลอ เราไม่กลับเข้ามามีส่วนร่วมในพระคริสต์ Join พระคริสต์ ก็คือร่วมทีม ทีมเข้าไปถึงไหนแล้ว แต่เราเนี่ยไม่รู้อยู่ไหน ใช่ไหม
เหมือนกับเรา Join ทีม ร่วมทีมกับพวกนักแข่งจักรยาน เขาปั่นจักรยานไปถึงไหนเราไม่รู้ เราเนี่ยอยู่ที่ไหนสักแห่งหนึ่งที่ไม่มีพวกเขาอยู่ เพราะฉะนั้นต้องตามเขาให้ทันนะครับ ก็คือขอบคุณพระเจ้าที่เราสารภาพ แล้วก็กลับเข้ามาบอกว่า “ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ข้าพระองค์ร่วมกับพระคริสต์ มีส่วนกับพระคริสต์ และพระคริสต์ก็มีส่วนกับข้าพระองค์ ขอโทษที่ข้าพระองค์ลืมไป เผลอพลั้งไป หลุดไป”
ถ้าหากเราฝึกแบบนี้ทุกวันทุกเวลา 3 สิ่งนี้อย่าให้ขาด ก็คือ
1. ร่วมกับพระคริสต์ พระคริสต์ร่วมกับเรา Join the team / Join พระคริสต์
2. ก็คือ Abide สนิทในพระองค์ พระองค์สนิทในเรา
และสิ่งที่ 3. อยู่ในความจริงของพระเจ้า ก็คือเราเป็นอวัยวะของพระองค์ เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์แล้ว เอเมน
สรุปก็คือ ขอบคุณพระเจ้าที่เมื่อเราได้บังเกิดใหม่ เราได้เชื่อในพระองค์ พระองค์ก็นำเราเข้าไปเป็นส่วนเข้าไปมีส่วนในพระกายเป็นหนึ่งในอวัยวะของพระคริสต์ อันนี้เป็นสิ่งที่เราต้องรู้
สิ่งที่สอง เราก็คือมีส่วนร่วมในพระคริสต์อยู่เสมอ เราจะไปไหนจะทำอะไรเราต้องให้พระองค์มีส่วน คือเป็น พาร์ทเนอร์ (Partner) ของเรา ทำอะไรคิดอะไรพูดอะไร ประกาศรับใช้ ทำงานทำธุรกิจ ทำมาค้าขาย ทำอะไรก็แล้วแต่ ขอให้พระองค์มีส่วนร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ของเรา
และสิ่งที่สาม ก็คือสิ่งสำคัญมาก สนิทในพระองค์ พูดคุย บอกรัก สนทนา เอเมน
อย่าลืมนะครับว่าพระเจ้าทรงซื้อเราแล้ว และเราเป็นคริสเตียนถ้าอยากเป็นคริสเตียนที่แท้จริง เป็นคริสเตียนที่เป็นคริสเตียนจริงๆ เราต้องได้เรียนรู้บทเรียนนี้ และเราต้องจริงจังกับความเชื่อของเรา ถ้าหากเราจะเชื่อแล้วก็ใช้ชีวิตแบบปกติทั่วไป บทเรียนนี้ก็ไม่เหมาะกับเรา
แต่ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้าเลือกเราทุกคนที่ได้ยินได้ฟังความจริงในวันนี้
แล้วถามว่าตอนนี้เรายังทำบาปอยู่ เรายังมีปัญหาอยู่ เรายังฝึกไม่ไปถึงไหน จะทำยังไง
ไม่ยากครับ สารภาพบาป แล้วก็กลับเข้ามาสู่ความจริงของพระเจ้า แล้วฝึกใน 3 เรื่อง 3 สิ่ง 3 ข้อนี้
1. เราเป็นหนึ่งในอวัยวะของพระองค์ พระองค์ไม่ทิ้งเราแน่
2. ก็คือเรามีส่วนเเล้วพระองค์มีส่วนกับเรา ก็คือเรียกว่า พาร์ทเนอร์ ทำอะไรก็แล้วแต่มีพระองค์เป็นพาร์ทเนอร์ของเรา เราเป็นพาร์ทเนอร์ของพระองค์
3. ก็คือ Abide ก็คือสนิทในพระองค์
ถาม.
การเชื่อเข้าในพระคริสต์ การเริ่มต้นก็คือเราเชื่อพระเยซูแล้วก็จากนั้นเราก็เข้าใจว่าเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์แล้ว ใช่ไหมครับ แล้วก็จากนั้นเรามีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ เรามีชีวิตอยู่กับพระคริสต์ แล้วก็สนิทพูดคุยกับพระองค์ สนิทสร้างความผูกพันกับพระองค์ จากนั้นก็ไม่ว่าจะในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็เชื่อว่าเรามีส่วนร่วมกับพระเยซู ทำด้วยกัน โดยพระองค์เป็นผู้ทำแทน แบบนี้ใช่ไหมครับ ซึ่งเราก็ฝึกกันแบบนี้อยู่แล้ว เอเมน
ตอบ.
สิ่งแรกนะครับ สิ่งแรกที่เราต้องตระหนักก็คือ อย่างที่ผมพูดนะครับ
ข้อ 1. ถูกนับว่าเป็นหนึ่งในอวัยวะของพระคริสต์แล้ว ก็คือเราถูกนับแล้ว พระเจ้านำเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เป็นหนึ่งในพระกาย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพระเยซู อันนี้เข้าใจชัดเจนไหมครับ เรานะครับถูกนับเข้าไปมีส่วนไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของพระเยซูแล้ว
และสิ่งที่ 2. ก็คือเรากับพระเยซูตอนนี้ เป็นพาร์ทเนอร์กัน เราทำทุกสิ่งโดยที่พระเยซูต้องมีส่วน อย่าให้พระเยซูออกนอกทีมของเรา แล้วเราต้องอยู่ในทีมของพระเยซู ก็คือทีมนี้มีแค่ 2 คนนะครับ ก็คือเรากับพระเยซู 2 คน ไปไหนทำอะไรต้องทำด้วยกันต้องไปด้วยกันต้องพูดด้วยกัน
ถ้าสมมุติว่าผมพูด ผมลืมไปนะครับว่า เอ๊ะ ตอนนี้ผมรู้สึกว่าพูดเอง พูดคนเดียว ผมรีบสารภาพนะครับ แล้วบอกว่า พระเยซูพูดต่อ เราพูดด้วยกัน ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์กำลังพูดอยู่
ถ้าหากเราไม่เห็นเราไม่มีประสบการณ์เรื่องการที่พระเยซูเป็นพาร์ทเนอร์ หรือมีส่วนทำกับเราร่วมกับเราอยู่ ตอนที่เราฝึกแรกๆ นะครับขอให้เราเชื่อ ขอให้เชื่อว่าทุกสิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ พระเยซูก็ทำด้วย พระเยซูก็ร่วมด้วย และพระเยซูเป็นพาร์ทเนอร์ด้วย เราเดิน เราไปมา เรานั่งนอน เราพูด เราคุย เราสนทนา เราประกาศข่าวประเสริฐ เรารับใช้ เราทำอะไรก็แล้วแต่ เราเชื่อว่าพระเยซูเป็นพาร์ทเนอร์อยู่ ก็คือพระเยซูทำร่วมกับเราอยู่
เรายังไม่เห็นนะครับแต่ขอให้เชื่อ เมื่อเราเชื่อ เชื่อมากยิ่งขึ้น มากขึ้นทุกวันๆ เราจะเห็นการเข้ามามีส่วนมีบทบาทการเป็นพาร์ทเนอร์ของพระเยซูชัดเจนมากขึ้น เอเมน
สิ่งที่ 3. เราสนิท ก็คือบอกรัก พูดคุยสนทนา อันนี้เป็นคนละเรื่องกันกับการมีส่วนร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ การเป็นพาร์ทเนอร์ก็คือ 2 คนทำด้วยกันทำร่วมกัน ทำทุกสิ่งพระองค์เป็นคนทำ เราเป็นคนให้ทำ
แต่สิ่งที่ 3 ก็คือ เราพูดคุย สนทนา บอกรัก สรรเสริญ ยกย่อง ขอบพระคุณ ถาม แล้วก็สารภาพเมื่อเราทำผิด นี่คือความหมายของการสนิทที่แท้จริง
ซึ่งที่ผ่านมาเราอาจจะไม่ได้นับ ไม่ได้ตระหนัก ไม่ได้เข้าใจชัดเจน เรื่องเกี่ยวกับเราเองที่ถูกนับเป็นหนึ่งในอวัยวะของพระคริสต์ คือเราเองเป็นหนึ่งในพระกายของพระองค์ เรามีส่วนในชีวิตพระคริสต์ และพระคริสต์มีส่วนในชีวิตของเรา พูดง่ายๆ นะครับ 1 คร 6:17 ก็คือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้ว
ทุกวันนี้เราไม่มีสอง ทุกวันนี้เราไม่ได้อยู่คนเดียวโดดเดี่ยว แต่ทุกวันนี้เราไปไหน อยู่ไหน ทำอะไร คิดอะไร พูดอะไร เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับพระเจ้าทั้ง 3 พระภาค เอเมน
ถาม.
ก็คือการเข้าในพระคริสต์ ก็คือเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นกายอันเดียวกัน จากนั้นก็มีชีวิตอยู่ด้วยกัน เอเมนครับผม
ตอบ.
ถูกครับ แล้วข้อที่ 2. ก็คือมีส่วนร่วม ก็คือมี Join
เอาเป็นถ้าเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
ข้อที่ 1. เราถูกนับเป็นอวัยวะของพระคริสต์ แล้วก็เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า be one in the spirit / One in the spirit หรือว่า one in Christ ก็ได้ one in God, one in Christ ก็ได้ เป็นหนึ่งเดียวแล้วนะครับ
อันที่ 2. เรามีส่วนร่วม ก็คือเป็นพาร์ทเนอร์กัน ระหว่างเรากับพระเจ้า พระเจ้ากับเรา เรียกว่าพาร์ทเนอร์ (Partner) หรือ Join
และอันที่ 3. ก็คือสนิท ก็คือบอกรักพูดคุยสนทนา ภาษาอังกฤษเรียกว่า Abide เอเมน
ถาม.
ขอบคุณอาจารย์ที่ใช้คำว่าพาร์ทเนอร์ เพราะว่าตอนแรกไม่กล้าใช้คำว่าพาร์ทเนอร์กับพระเยซู เพราะว่าคำว่าพาร์ทเนอร์มันคือหุ้นส่วน แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เปิดตามากขึ้นว่าพระเยซูเป็นหุ้นส่วนกับชีวิตของเราและเรามีหุ้นส่วนกับพระเยซู ก็คือเป็นหนึ่งเดียวกัน ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์มาใช้ชีวิตในเราแล้วก็เราก็เป็นหนึ่งเดียวกันกับพระองค์ นอกจากว่าพระองค์ทำให้เราได้ถูกเปิดตาแล้วก็ตระหนักว่า เราทำสิ่งใด เราจะพูดสิ่งใด ก็คือมีพระเยซูอยู่ด้วยเสมอ แล้วก็กระทำกิจด้วยกันกับเรา
แล้วก็อีกสิ่งหนึ่งก็คือทำให้ผมตระหนักว่าการที่เราจะทำสิ่งใดกับพี่น้อง ก็คือเหมือนกับทำกับพระเยซูไปด้วย ทำให้เราขอบคุณพระเยซูที่ว่าเราต้องระมัดระวัง เราทำสิ่งใดก็คือทำร่วมกับพระเยซูในพระเยซู แล้วก็ระมัดระวังในการที่จะทำกับพี่น้องด้วย เพราะว่าพระเยซูก็อยู่ในพี่น้องทุกท่านเช่นกันครับ
ตอบ.
อันนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกของเรา เมื่อเรามองพี่น้องนะครับเรารู้ว่าพระเยซูอยู่ในพวกเขา แล้วเราเองต้องปรนนิบัติพระองค์ยังไง ผ่านพี่น้องของพวกเรา เราทำดีกับพี่น้อง เรารักพี่น้อง เราก็ได้ทำดีกับพระเยซู และรักพระเยซู
แล้วถ้าหากเราทำร้ายพี่น้อง พูดใส่ประชดประชันกับพี่น้อง คิดลบพูดลบกับพี่น้อง เราก็ได้ทำกับพระเยซูเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอันนี้เป็นสิ่งสำคัญมากครับ
ถาม.
เอเมนค่ะขออนุญาตค่ะ แล้วอย่างที่เราอดอาหาร ก็จะเป็นร่างกายเดียวกันกับพระองค์หรือเปล่าค่ะ หรือยังไง เราจะบอกกับพระองค์ว่ายังไงค่ะ ในการอดอาหาร
ตอบ.
ไม่ว่าจะอดอาหาร หรืออย่างที่ผมพูดนะครับ ทุกสิ่งที่เราทำ ขอให้เราตระหนักถึง 3 ข้อนี้
1.เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ 2.เรามีส่วนร่วมกับพระองค์และพระองค์มีส่วนร่วมกับเรา เราอดอาหารพระองค์ก็อดอาหารกับเราด้วย เอเมน
...
ถาม.
แล้วเราต้องบอกพระองค์หรือเปล่าค่ะ
ตอบ.
คือเมื่อเราเข้าใจนะครับ บางสิ่งที่เรารู้เราไม่จำเป็นต้องบอก มีอยู่คำนึงที่ผมได้ยินพี่น้องพูดบ่อยๆ (เราทั้งหลายขอถวายตัวใหม่แด่พระองค์) อันนี้คือจริงๆ แล้วไม่พูดก็ได้ เพราะว่าเราทุกคนรู้ดี รู้แก่ใจว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว และการถวายของเราเมื่อเราพูดว่าถวายแด่พระองค์ ก็คือแน่นอนครับถวายตัวใหม่สิครับ เพราะว่าเราเชื่อว่าตอนนี้เราเป็นคนใหม่แล้ว
เมื่อเราอดอาหารนะครับ เราขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญพระเยซู เรารู้ดีนะครับว่าพระองค์มีส่วนร่วมกับเรา และเราร่วมกับพระองค์แล้ว เราก็สนิทในพระองค์ พูดคุยสนทนาบอกรักกับพระองค์ และในจิตของเราในความคิดของเรา เรารู้ดีว่าตอนนี้เราเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า พระเจ้าเป็นหนึ่งเดียวกับเรา be one in God and God in us เป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว เพียงแต่เรารู้เราเชื่อเราเข้าใจ ก็คือแค่นั้น
ถ้าหากว่าสมมุติว่าเราอยากอธิษฐานให้พี่น้องได้เข้าใจด้วย หรืออยากเตือนอยากย้ำให้พี่น้องพวกเราได้นึกถึง เราก็พูดได้ก็ไม่ผิดนะครับ
ถาม.
เอเมนค่ะขอถามค่ะ แต่ยกเว้นเรื่องเดียวใช่ไหมค่ะ ที่พระคริสต์ไม่ร่วมกับเราก็คือ เมื่อเราอยู่ในเนื้อหนังหรือว่าเราอยู่ในการบาปอ่ะค่ะ อันนั้นคือพระคริสต์ไม่มีส่วนร่วมในเราใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการอยู่ในพระคริสต์ เวลาที่ขณะที่เราทำบาปก็คือเราหลุดออกจากพระคริสต์ไปแล้ว เราไปอยู่ในอาดัม แล้วพระเยซูไม่ตามมาด้วย ก็คือเราต้องกลับเข้าไป
อย่าลืมนะครับชีวิตในพระคริสต์อันนี้สำคัญมาก ขอให้เรากลับไปศึกษา ไปค้นหา ไปขอการเปิดเผยให้มากกว่านี้ ก็คือการอยู่ในพระคริสต์ ก็คือเราเองนะครับเป็นคนที่เข้าไปอยู่ในพระคริสต์ แล้วพระคริสต์ก็อยู่ในเราที่เป็นวิญญาณใหม่ เป็นชีวิตใหม่เป็นคนใหม่ เป็นคนที่ฟื้นขึ้นมาจากความตายแล้ว
ส่วนการดำเนินชีวิตที่ผิดบาป การดำเนินชีวิตในอาดัมในเนื้อหนัง ก็คือเราหลุดออกไป เราไม่ได้อยู่ในพระคริสต์แล้ว พระเยซูก็ไม่ตามไป
ความหมายคืออะไร วิญญาณของเรานะครับมีพระเจ้าสถิตอยู่ด้วย แล้วเมื่อเราทำบาป จิตของเราไปทำ ความคิดของเราจิตของเราที่ยังไม่ถูกชำระไปทำ แล้วเมื่อจิตทำ พระวิญญาณบริสุทธิ์พระบิดาพระบุตรและพระเยซูคริสต์ ก็คือพระองค์อยู่ในวิญญาณของเรา พระองค์จะไม่เข้าไปมีส่วนในเนื้อหนัง พระองค์จะไม่เข้าไปในจิตที่ทำบาปอยู่ได้ นอกเสียจากว่า วันนึงเราถูกเปิดตา แล้ววันนึงพระเจ้าชำระจิตของเรา พระเจ้าครอบครองจิตของเราได้แล้ว พระเจ้าก็จะย้ายพระองค์ขยายอาณาเขตจากวิญญาณไปสู่จิต
แล้วเมื่อจิตนั้นถูกครอบครอง ก็จะทำบาปไม่ได้ คือที่ไหนที่พระเจ้าเข้าไปแล้ว ก็คือที่นั่นเป็นที่ที่ทำบาปไม่ได้แล้ว
เมื่อเราทำบาปอยู่แสดงว่า เราหลุดออกจากพระคริสต์ เราต้องขอการชำระ สารภาพบาปแล้วขอการชำระ แล้วทำ 3 สิ่งนี้
1. นับว่าเราเป็นหนึ่งในอวัยวะของพระคริสต์ พระองค์ต้องชำระ พระองค์ต้องแก้ไข พระองค์ต้องช่วย พระองค์ต้องเลี้ยงดูดูแล พระองค์ต้องช่วยเหลือ เพราะว่าเราเป็นหนึ่งกับพระองค์แล้วไง พระองค์จะทิ้งเราหรอ
2. ก็คือมีส่วนร่วม ก็คือ Join กับพระองค์ จอยน์ทีม มีส่วนร่วมในทีมของพระเจ้า พระเจ้ามีส่วนร่วมในทีมของเรา เป็นหนึ่งเดียวกันเป็นทีมเดียวกัน พระเจ้าจะให้น้ำ ให้สันติสุข ให้พลัง ให้ทุกสิ่งที่เราจะวิ่งแข่งไปจนถึงชัยชนะได้ พระเจ้าเป็นคนให้เราเองประทานให้เรา
สิ่งที่ 3. ก็คือเราขาดไม่ได้ก็คือสนิท การสนิทพูดคุยสนทนา บอกรัก
3 สิ่งนี้เราฝึกเป็นประจำ เราจะพบว่าเราไม่ต้องหลุดออกไปในอาดัม และทำบาปอีก เอเมน
อีกครั้งนะครับ เมื่อเราทำบาป พระเจ้าไม่ได้ทำกับเรา และเมื่อเราทำบาป คนที่ทำก็คือจิตของเราที่นำพาร่างกายของเราเป็นคนทำ แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์พระเจ้าพระบิดาพระเยซูคริสต์ อยู่ในวิญญาณของเรา
ถาม.
ขออาจารย์ขยายเพิ่มเติมนะคะเมื่อหลายปีก่อนได้ยิน คำสอนในคลิปอ่ะค่ะสอนว่า เมื่อเราดูหนังฟังเพลง ก็ให้เชื่อเอาว่าพระเยซูดูอยู่กับเราด้วย อยากให้อาจารย์ช่วยขยายความค่ะ เอเมน
ตอบ.
สำหรับเมื่อเราดูหนังฟังเพลง อยู่ในทางแห่งตัณหาของร่างกายตัณหาของเนื้อหนัง เรายังมีความปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอยู่ในสิ่งนี้ รักชอบสิ่งนี้อยู่ เราพูดกับพระองค์เลย
“พระเยซูดูกับข้าพระองค์ พระเยซูฟังเพลงกับข้าพระองค์” เป็นสิ่งที่กระตุ้นนะครับเป็นสิ่งที่ทำให้พระเจ้าต้องการที่จะชำระเรา แล้วทำให้เราเนี่ยดูไม่ได้ฟังไม่ได้อีก
เมื่อเราสูบบุหรี่ เราบอกว่า “พระเยซู ปากนี้สูบบุหรี่อยู่ พระองค์ขอพระองค์จัดการ หรือขอพระองค์มีส่วนในภารกิจที่จะทำให้ข้าพระองค์เลิกทำได้ ขอให้พระองค์ครอบครองแล้วเข้ามามีส่วน Join เป็นทีมในจุดนี้ ในตรงนี้ ที่ข้าพระองค์ยังไม่ได้มีส่วนกับพระเจ้า และยังไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า ก็คือจิตของข้าพระองค์ที่ทำบาปอยู่ ที่สูบบุหรี่อยู่”
แล้วสุดท้ายพระเจ้าก็จะทำให้เราไม่อยากดูหนัง ไม่อยากฟังเพลง ไม่อยากทำในสิ่งที่ผิดต่อน้ำพระทัยของพระองค์
แต่พระเจ้าไม่ได้รักชอบนะครับ พระเจ้าไม่ได้รักชอบสิ่งที่เป็นความผิดบาป สิ่งที่เป็นชีวิตฝ่ายเนื้อหนัง แต่พระเจ้าเข้ามาเนี่ยเพื่อจะช่วยเราเพื่อจะแก้ไขครับ
ความหมายนะครับอยากให้เราเข้าใจตรงนี้ เมื่อเราบอกว่าพระเยซูดูกับข้าพระองค์ ก็คือให้พระเจ้าชำระเรา แล้วพระเจ้ามาดูเนี่ยพระเจ้าไม่ได้ชอบนะ โอ้พระเอก อ๋อนางเอก อ๋อมันร้องไห้ พระเยซูก็ร้องไห้ตามเหมือนเราใช่ไหม อันนั้นไม่นะครับ ก็คือพระเจ้าเข้ามาเพื่อมาช่วย ไม่ใช่เพื่อมาร่วม ไม่ใช่เพื่อมาร่วมในการผิดบาปทั้งหลาย แต่เข้ามาช่วย
เรื่องการฝึกเดิน เรื่องการสุกงอม ระยะเวลา ประสบการณ์ชีวิต อยู่ที่พระเจ้า แล้วก็สำคัญก็คือสิ่งสำคัญก็คืออยู่ที่เราด้วย ถ้าหากเราใส่ใจ เปาโลประสบความสำเร็จในการฝึกเดิน เพราะว่าท่านใส่ใจ
ถามว่าเราใส่ใจหรือไม่? ไม่ใช่ว่าปีนี้ผ่านไปปีหน้าผ่านไป 3-4 ปีผ่านไปก็เหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แสดงว่ามีบางอย่างที่ผิดปกตินะครับ ต้นไม้ที่เรารดน้ำเป็นปกติ ถูกวิธี มันก็โตใช่ไหม ต้นไม้มันก็โต มีผลเยอะ แต่ถ้าเราทำผิดวิธี มันก็ไม่เกิดผล
เรารู้นะครับว่าพระคำพระเจ้าเป็นความจริง เรารู้แล้วว่าพระคำพระเจ้าทำให้เกิดผลได้ เราพบความหวังแล้ว ได้ชิมสันติสุขแล้ว ได้ชิมชีวิตที่มีพลังแล้ว แล้วแน่นอนครับการฝึกทุกวิธีจะนำมาซึ่งการเกิดผลอย่างมากมายในอนาคต
ก็เคยมีนะครับที่พี่น้องบางคนที่ออกไป บอกว่ามานาที่ซ่อนไว้ไม่สำเร็จไม่ได้ผลใช้ไม่ได้ผล ก็คือได้นิดๆ หน่อยๆ มีความสุข พระคัมภีร์บางตอนก็ดีคำแปลก็ดีการแปลก็ดี แต่จริงๆ แล้วนะครับถ้าหากเราใส่ใจในการฝึก เราใส่ใจเหมือนเปาโลใส่ใจ เราก็จะพบชีวิตผู้ชนะเหมือนเปาโลได้พบ
แล้วสิ่งสำคัญวันนี้นะครับ 3 ข้อ ที่ผมอยากจะชวนเรามาคุย ให้พระเจ้าเปิดเผยมากขึ้นทั้งสัปดาห์เลย บอกพี่น้องทุกคนที่โพสต์อย่าโพสต์เรื่องอื่น เราจะคุยกันเรื่องนี้ เพราะว่าเราทุกคนอยากเป็นผู้ชนะ เอเมน
1. เรานับว่าเราเป็นอวัยวะของพระคริสต์แล้วเพราะว่าพระเจ้าเป็นคนนับเรา พระเจ้าให้เราเป็นแล้วสำเร็จแล้ว แล้วเราตอนนี้เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า พระเจ้าก็เป็นหนึ่งเดียวกับเรา
2. ก็คือ Join มีส่วนร่วม เป็นทีมเดียวกับพระคริสต์ และพระคริสต์ก็เป็นทีมเดียวกับเรา มีส่วนร่วมกัน ไปไหนทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ก็ขอให้พระคริสต์คิดด้วยพูดด้วยทำด้วย อย่าขาดพระองค์
3. ก็คือ สนิท บอกรัก พูดคุย สนทนา สารภาพ ขอบพระคุณทุกสิ่ง อย่างสม่ำเสมอในแต่ละวัน แน่นอนครับชีวิตผู้ชนะจะไม่ไปไหน
ที่ผ่านมาผมรู้นะครับว่าพวกเราจะเผลอบ่อยมาก พลาดบ่อยมาก หลุดบ่อยมากใช่ไหม เรื่องการมีส่วนร่วมกับพระคริสต์ พระคริสต์มีส่วนร่วมกับเรา เรื่องการสนิทในพระเยซู เราเผลอบ่อยๆ เพราะว่าโลกมันเต็มด้วยการทดลอง สิ่งล่อลวงใช่มั้ย เพราะฉะนั้นขอพระเจ้าช่วยเรานะครับ
เมื่อเราฝึก แน่นอนครับเมื่อเราใส่ใจในการฝึก เมื่อเรามีความปรารถนาอยากจะเป็นผู้ชนะ พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ได้นิ่งเฉย พระเจ้าคอยรอคอยที่จะช่วยเรา ทุกเวลาทุกโอกาสทุกสถานการณ์ ขอเพียงแต่เราเอ่ยปากบอกว่า..
“เอเมนพระเยซู ข้าพระองค์ต้องการเติบโต เอเมนพระเยซูข้าพระองค์มีส่วนร่วมกับพระองค์และพระองค์มีส่วนร่วมกับข้าพระองค์ เอเมนพระเยซูข้าพระองค์เป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ พระองค์ไม่ทิ้งข้าพระองค์แน่นอน เอเมนพระเยซูข้าพระองค์จะใส่ใจเรื่องการสนิท บอกรัก พูดคุยสนทนากับพระองค์ ขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้ ชีวิตผู้ชนะอยู่กับข้าพระองค์แล้วเอเมน”
ถาม.
ขอสอบถามข้อพระคัมภีร์ค่ะในสดุดีบทที่ 127:1-2 ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า
เป็นการเหนื่อยเปล่าที่ท่านลุกขึ้นแต่เช้ามืด นอนดึก และกินอาหารแห่งความเศร้าโศก เพราะพระองค์ประทานแก่ผู้ที่รักของพระองค์ให้หลับสบาย
ตอบ.
ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงสร้างบ้าน บรรดาผู้ที่สร้างก็เหนื่อยเปล่า ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงเฝ้าอยู่เหนือนคร คนยามตื่นอยู่ก็เหนื่อยเปล่า
** อันนี้เป็นคำที่เราน่าจะเข้าใจกันดีใช่ไหม ผมไม่ต้องแปลก็ได้ การทำทุกสิ่งโดยที่ไม่มีพระเจ้ามีส่วนร่วม ไม่มีพระเจ้าเป็นทีม ไม่มีพระเจ้าเป็นผู้นำพา ไม่มีพระเจ้าเป็นคนสั่งให้เราทำ เราจะสร้างไปมันก็เหนื่อยเปล่า ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ก็ไร้ค่าไร้ความหมาย ไม่มีความหมายสำหรับพระเจ้า ไม่ได้เป็นทองคำเงินและเพชรพลอย
ถึงแม้เราจะมีคนยามที่ตื่นอยู่นะครับ ทำเป็นรั้วป้องกันกำแพงป้องกันบ้าน แต่ถ้าไม่มีพระเจ้าอยู่ด้วย ไม่มีพระเจ้าเป็นทีม ไม่มีพระเจ้า เราไม่สนิทในพระองค์ ไม่มีการนำพาของพระเจ้า กำแพงที่เราทำยามที่เราจ้างมา ก็ไม่มีค่าไม่มีความหมายอะไร ก็ไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม
เพราะฉะนั้นชีวิตของเราอยู่ที่พระเจ้า เอเมน การพึ่งพาพระเจ้าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นหลักการการดำเนินชีวิตของคริสเตียนพวกเรา เอเมน
และแน่นอนการดำเนินชีวิตที่เราจะเป็นผู้ชนะ
ก็คือเราต้องเป็นหนึ่งเดียวในพระกาย เป็นอวัยวะของพระเยซู เป็นส่วนหนึ่งของพระเจ้า เป็น One in the spirit เป็นหนึ่งในพระเจ้า พระเจ้าเป็นหนึ่งในเราและ
สิ่งที่ 2. ก็คือ Join เราเป็นทีมกับพระองค์ ไปไหนมาไหน ทำอะไร พูดอะไร เราต้องให้พระเยซูมีส่วน อย่าให้พระองค์ไม่มีส่วนในชีวิตของเรา ในการกระทำในคำพูดของเราและ
สิ่งที่ 3. ก็คือเราไม่ขาดจากการสนิท บอกรัก พูดคุยสนทนา อธิษฐาน สารภาพ ขอบพระคุณ ยกย่องสรรเสริญ ให้เรามี 3 สิ่งนี้ แล้วการสร้างบ้านของเรามันจะไม่เหนื่อยเปล่า
การสร้างบ้านที่เราให้พระเจ้าสร้างด้วย ให้เป็นคนที่สร้างให้เรา อยู่กับเรา ร่วมกับเรา แล้วเราสนิทในพระองค์ เป็นการก่อชีวิตขึ้นด้วยคนใหม่ เป็นการก่อชีวิตขึ้นด้วยทองคำเงินและเพชรพลอย มีพระบิดาเป็นสติปัญญา มีพระเยซูคริสต์เป็นคนทำแทน มีพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนนำพา 3 สิ่งนี้ ทำให้บ้านของเราปลอดภัย ทำให้บ้านของเราเจริญรุ่งเรือง ทำให้บ้านของเราเกิดผลแห่งพระวิญญาณอย่างมากมาย และสุดท้ายบ้านหลังนี้ คนในบ้านก็ได้รับมงกุฎ
วันนี้ 3 สิ่งที่สำคัญคืออะไรบ้างครับ เพื่อที่จะกลายเป็นผู้ชนะตามกำหนดเวลาของพระเจ้า
1. เราถูกนับเป็นหนึ่งในวัยวะของพระคริสต์แล้ว เป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้า One in the
2. มีส่วนร่วมกับพระองค์และพระองค์มีส่วนร่วม partner Part / join
3. สนิท Abide
เอเมนขอบคุณพระเยซู 3 สิ่งนี้ เราจะคุยกัน เราจะค้นหา เราจะขยายความ เราจะอธิบาย เราจะสามัคคีธรรมกัน ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงสัปดาห์หน้า เรื่องอื่นเราจะเอาไว้ก่อน เพราะว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพื่อชีวิตของเราจะสุกงอมตามกำหนดเวลาของพระเจ้า เอเมนพระเยซู
อ่านสรุปเพิ่มเติม: เรื่อง จะเป็นผู้ชนะได้ ต้องใส่ใจในการฝึกเดิน นับ ทำบัญชี ตายและตั้งอารมณ์ตาย