การใช้ชีวิตที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า

เอเฟซัสบทที่ 5  จะเน้นถึงเรื่องการใช้ชีวิตที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า

เอเฟซัสบทที่ 5  จะเน้นถึงเรื่องการใช้ชีวิตที่ไร้ประโยชน์ ไร้ค่า อยู่อย่างคนไร้ปัญญา ซึ่งเป็นชีวิตที่อยู่ในอาดัมไม่ว่าเราจะทำดีหรือชั่วจะทำอะไรก็ตาม ที่เกิดผลหรือไม่เกิดผล สำหรับมนุษย์มากมายหรือเกิดผลให้เรา แต่มันไร้ค่าสำหรับพระเจ้าอันนี้เราดูได้จากการก่อผลชีวิต ด้วย ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง (1 คร 3:12-15)

แล้วก็อีกชีวิตหนึ่งอีกด้านหนึ่ง ก็คือ ชีวิตในความสว่างคือผลของพระวิญญาณ พระวิญญาณในที่นี้ คือพระวิญญาณของพระคริสต์ ไม่ใช่พระวิญญาณบริสุทธิ์ ในกาลาเทียบทที่ 5 ข้อ 22 พูดถึงว่าผลของพระวิญญาณพระคริสต์ ไม่ใช่พูดถึงผลของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้เราเข้าใจ ภาษาอังกฤษก็คือ "the Fruit of the Spirit" ไม่ใช่ "the Fruit of the Holy Spirit"

ซึ่งผลนี้ก็คือการทำดี การสำแดงความชอบธรรม การกระทำกิจของพระคริสต์ที่อยู่ภายในเราที่สำแดงความชอบธรรมออกมา เพื่อเลิกทำบาปได้ไม่ว่าจะเป็นความดีอะไรก็ตาม การช่วยเหลือ ความรักอากาเป ความอดทนนาน มีเก้าอย่างใน (กท 5:22-23)

เราขอบคุณพระเยซู ข้อ 9 ผลของพระวิญญาณคือผลของพระคริสต์ทำแทน และความดีทุกอย่างความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้นนี้ คือ อะไร คือ ชีวิตที่สุกงอมแล้ว เราจึงมีชีวิตและนิสัยของพระองค์ สำแดงออกมาอย่างมากมาย ซึ่งเข้ามาแทนที่การทำดีของเราเองหรือของชีวิตอาดัมแล้ว เพราะว่าคำนี้สำคัญมาก ความดีทุกอย่างความชอบธรรมทั้งมวลและความจริงทั้งสิ้น ก็คือการเข้าสู่ชีวิตสุกงอมแล้ว

ในข้อที่ 10 เมื่อเราพบมานาเราจึงแยกแยะได้อะไร คือน้ำพระทัยของพระเจ้า จงพิสูจน์ ตอนที่เราเป็นคริสเตียนศาสนาเราพิสูจน์ได้ไหม ไม่ได้. เราไม่ได้ถูกเปิดตา เราตาบอด เราเดินหลงทาง เราไม่รู้เลยว่าน้ำพระทัยของพระเจ้าคืออะไร เราไม่รู้เลยว่าอะไรผิดอะไรถูก พระคำของพระเจ้าข้อไหนแปลผิด แปลไม่ผิดเราไม่รู้ ซึ่งเมื่อก่อนคริสเตียนแบ่งออกเป็นสองฝ่าย รอดด้วยการเชื่อ อีกฝ่ายรอดด้วยการเชื่อฟัง  ฝ่ายหนึ่งพระวิญญาณสถิตอยู่กับเรา อีกฝ่ายพระวิญญาณไม่สถิตอยู่กับเรา คือ มันจะมีข้อขัดแย้งกันแล้วคนที่เชื่อความเชื่อหนึ่ง ก็ยังแปลกใจ ยังสงสัย ยังข้องใจ ยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เราเชื่อมันเป็นความจริงไหม ผมที่เคยไปเรียนที่มหาลัยศาสนศาสตร์ ผมก็ยังแปลกใจว่าแบ็พติสที่ผมเรียน แล้วมันไปตรงเพนเทคอสไหม  ไปตรงกับคณะนิกายอื่นไหม แล้วของเราที่เชื่ออยู่เนี่ย มันถูกหรือผิดเรายังไม่แน่ใจเลย ก็ต้องเรียนรู้กันต่อไป คือ คำที่คนทั่วไปพูด  "เรียนรู้ต่อไป" แต่ขอบคุณพระเจ้า พอเรามาถึงมานาที่ซ่อนไว้ เราพิสูจน์ได้แล้ว  พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นผู้ยืนยัน เป็นผู้ยืนยันว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไร สูง กว้าง ลึก ยาว  ขอบคุณพระเยซูที่เราแยกแยะได้ว่าอะไรคือน้ำพระทัย แยกแยะได้อะไรคืออะไรไม่ดี แยกแยะได้ว่าอะไรที่เราทำแล้วไร้ประโยชน์หรือมีประโยชน์

สำหรับข้อที่ 11 กิจการของความมืด คืออะไรก็ตามไม่ว่าจะดีหรือไม่ดี ที่เป็นศาสนาหรืออยู่ในอาดัม เรียกว่ากิจการของความมืดทั้งนั้น

แล้วข้อที่ 13 บุตรพระเจ้าที่รักจะฟังคำตำหนิติเตียนจากผู้อื่น  บุตรพระเจ้าที่รักก็คือ คนที่ชอบฟังคำตำหนิติเตียนของผู้อื่นถึงแม้ว่าเขาจะรู้มากก็ตาม เราบางครั้งมีคนมาพูดมาสอนมาแนะนำเรา มาหนุนใจเรา เราก็ขอบคุณ เราก็เอเมนด้วยถึงแม้เราจะรู้มากกว่าเขาก็ตาม นี่คือบุตรพระเจ้าที่ถ่อมใจ

ข้อที่ 14 สำคัญมาก การหลับอยู่ การตายแล้ว การอยู่ในความมืด หรือปักใจอยู่ในความบาปและความตาย คือการดำเนินชีวิตอยู่ในเนื้อหนัง คือการที่เราไม่นับว่าเราตายในแต่ละวันไม่นับว่าเราเป็นคนใหม่ และไม่สนิทในพระคริสต์ จงตื่นขึ้น ก็คือการกลับมาสนิทในพระเยซูอีกครั้งหนึ่ง การเข้ามาอยู่ในพระคริสต์หลังจากที่เราหลุดไป หลงไป เผลอไปแล้ว เอเมน

แล้วก็สุดท้ายขอบคุณพระเยซู ที่ยุคนี้ทุกวันนี้พระเจ้าเรียกว่าเป็นวันชั่วช้า เราฉวยโอกาสทำดี ขณะที่มนุษย์มากมายฉวยโอกาสทำชั่ว เราฉวยโอกาสสำแดงความชอบธรรมของพระคริสต์ ขณะที่คนมากมายสำแดงชีวิตของซาตาน และคริสเตียนสำแดงชีวิตของเขาเองของเนื้อหนังเอง

แล้วก็สุดท้ายของสุดท้ายก็คือ ขอบคุณพระเยซูที่เราเข้าใจแล้วว่า

วันนี้การใช้ชีวิตที่ไร้ค่าคืออะไร

และการใช้ชีวิตที่มีค่าคืออะไร  ก็คือการใช้ตัวใหม่และให้พระคริสต์ทำแทน เพื่อความชอบธรรมที่จะเกิดผลภายในเรา แล้วเราจะเป็นบุตรที่รักของพระบิดา และบำเหน็จของเราจะมีมากมายในสวรรค์และตำแหน่งของเราจะมีเต็มสูงส่งในอาณาจักรของพระเจ้าและแผ่นดินโลกใหม่ 

สำหรับพี่น้องที่ยังไม่ตื่น.  เราตื่น. เอเมน  เราจะตื่นด้วยกันเราจะปลุกทุกคนให้ตื่น

.....

มีพี่น้องที่ถามว่า อยู่คนเดียวสนิทในพระเยซูพูดคุยบอกรัก นับว่าตายตัวเก่าฝึกเดินในวิญญาณแต่ไม่มาร่วมได้ไหม....

สนิทไหมก็สนิทครับเรายังสนิทชิดเชื้อกับพระเยซู เรายังเป็นบุตรที่รักของพระองค์เพียงแต่ว่า การร่วมกันการมาร่วมกันแบบออนไลน์ก็ดี ร่วมกันในคริสตจักรก็ดี  คริสจักรต้องการเราและเราต้องการคริสตจักร เราต้องการการหนุนใจจากพี่น้อง และพี่น้องก็ต้องการการหนุนใจจากเรา คือเราเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งของพระกาย พระเจ้าขาดเราไม่ได้และเราก็ขาดพระเจ้าไม่ได้ และก็ขาดพี่น้องในพระกายไม่ได้

ถ้ามีโอกาสขอให้มาร่วม แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ถ้าไม่สะดวกก็อธิษฐาน เอาวิญญาณของเรามาร่วมกับพี่น้องเอเมนกับพี่น้อง  นึกถึงกันก็ขอบคุณพระเยซู ตอนนี้เรากำลังร่วมกับพี่น้องอยู่ แต่ไม่ได้เข้ามา ไม่เป็นไรครับ