ถาม.
คริสเตียนรวยได้ไหม เป็นคำถามที่หลายคนต้องการคำตอบที่ชัดเจน
ตอบ.
คำตอบก็คือ คริสเตียนรวยได้ ถ้าพระเจ้าอนุญาตให้เขารวย และถ้าพระเจ้าให้เขารวยแล้วพระเจ้าจะรู้นะว่าคนที่พระเจ้าให้รวยก็คือคนที่มีใจกว้าง คือเพื่อช่วยเหลือพี่น้องที่ขัดสน ช่วยเหลือชาวโลกเพื่อนำข่าวประเสริฐไปสู่เขา เพื่อการงานของคริสตจักร ซึ่งจะต้องใช้เงินนะครับ
แล้วอย่าลืมนะครับมัทธิว 6:33 พระเยซูตรัสว่า หลังจากที่พระองค์พูดสามครั้งอย่ากระวนกระวายถึงชีวิตนี้ แล้วพระองค์ก็ได้ตรัสว่าจงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงประทานสิ่งทั้งปวงให้แก่ท่านที่ท่านแสวงหาอยู่ สิ่งทั้งปวงนั้นมีเสื้อผ้า มีอาหาร แล้วก็สำคัญที่สุด สิ่งสำคัญก็คือ "เงิน" ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ขาดเงินไม่ได้
ตราบใดที่พระเจ้าให้เรามีเท่าไหร่ เราพอใจที่เรามีอยู่ เราไม่กระเสือกกระสน เราไม่ดิ้นรน เราไม่แสวงหา แต่พระเจ้าให้มี เราขอบคุณพระเจ้า เราเอเมนกับสิ่งนั้น พระเจ้าให้เรามีเท่าไหร่ รวยเท่าไหร่ เราก็เอเมนกับสิ่งนั้น
เพียงแต่ว่าพระเจ้าให้เรา พระเจ้าก็จะรักษาเราไม่ให้เกิดความโลภ และไม่ให้เงินเป็นนายเรา สุดท้ายเรากลับไปเป็นทาสของเงิน อันนี้ผิดครับ
ตราบใดที่คนที่พระเจ้าให้รวยให้พระเยซูเป็นนายและเราเป็นทาสพระเยซูตลอดไปทุกวันทุกเวลา คนนั้นก็รวยได้
เพราะฉะนั้นพระเจ้าให้หลายคนในโลกนี้ที่มีฐานะร่ำรวย และเขาส่วนมากนะครับจะเป็นคนที่มีจิตใจกว้าง มีใจกว้าง เพื่อช่วยเหลือคริสตจักร ช่วยเหลือพี่น้องคริสเตียนที่ขัดสน และเพื่อช่วยเหลือชาวโลกเพื่อนำเขาสุดท้ายนะครับเพื่อนำเขามาสู่การเป็นบุตรของพระเยซู
...
คริสเตียนมากมายมักจะคิดว่าการมีเงิน การมีฐานะร่ำรวย อาจจะเป็นสิ่งที่ทำลายชีวิตของเรา ไม่จริงครับ
เรื่องฐานะร่ำรวย เรื่องการมีเงินเยอะ เป็นสิ่งที่ดีถ้าหากเราไม่เป็นทาสมัน ขอย้ำนะครับ ถ้าหากเราไม่ตกเป็นทาส เป็นเหยื่อของมันแค่นั้นเอง เรามีได้ เรารวยได้ พระเจ้าให้เรานะครับ เราดูในพระคัมภีร์ใหม่นะครับ เราจะเห็นว่าเปาโลต้องใช้เงิน คริสตจักรต้องใช้เงิน มนุษย์ทุกวันนี้เราเอง ครอบครัวเราก็ต้องใช้เงินใช่ไหม เราไปไหน ไม่มีเงินอยู่ได้ไหม ไม่ได้นะครับ
เพราะฉะนั้นเงินเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่อย่าให้มันเป็นนายเรา เราเป็นนายมัน เอเมน แค่นี้เองง่ายๆ อย่าลืมนะครับที่พระเยซูบอกว่า จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะประทานสิ่งทั้งปวง สิ่งทั้งปวงนะครับก็คือ เสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่ม ทุกสิ่งที่เราต้องใช้ และโดยเฉพาะในนั้นก็มีเงินจริงไหมครับ
ขอให้เราเข้าใจตรงนี้นะครับ เพราะฉะนั้นอย่าไปคิดลบกับเงินมากเกินไป จนกลัว บอกว่าโอ๊ยไม่กล้ารวยละ อ่ะยกให้คริสตจักร ยกให้โรงเรียน ยกให้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อ่ะยกให้ญาติพี่น้องไปเลย แล้วก็เรา ก็เดินทางทิ้งหมด สละทิ้งทั้งหมด
คำว่า สละทิ้งทั้งหมดที่พระเยซูพูดถึงก็คือ สละชีวิตเก่า สละพ่อแม่เก่า สละทุกสิ่งที่เป็นเนื้อหนังอาดัม คือสิ่งเหล่านี้เป็นทรัพย์สมบัติเก่าที่เรามี เมื่อตอนที่เราเกิดมา
ส่วนเรื่องเงิน เป็นสิ่งที่เราต้องใช้ในโลกนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นมนุษย์วิญญาณก็ตาม คุณก็ต้องได้ใช้เงินนะครับ เพียงแต่ว่าสำหรับคนที่มีฐานะดีนะครับ ส่วนมากผมจะเห็นว่าเขาจะเป็นคนที่มีใจกว้าง เขาจะใช้เงินของพระเจ้าโดยที่ไม่คิดเสียดาย โดยที่ไม่คิดอะไร เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์กระตุ้นทำให้เขามีใจร้อนรน เมตตา รัก คนใดคนหนึ่งเขาก็จะให้ เอเมน
...
และสำหรับเรื่องการเป็นผู้ชนะ จริงครับพระเยซูจะรับหลายคนขึ้นไปและพระเยซูอาจจะยังรักษาบางคนไว้เพื่อเห็นแก่ข่าวประเสริฐ
...
และสำหรับเรื่องสันติสุขทุกวันทุกเวลา เราไม่ถึงขั้นเป็นผู้ชนะได้ ก็มีได้นะครับ อย่าลืมนะครับสันติสุขทุกวันทุกเวลาเป็นของขวัญ เป็นของประทาน ที่พระเจ้าให้เราทันที ที่เราเชื่อ เราจำกันได้นะ โรม 5:1 เราจึงได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อ และเราจึงมีสันติสุข
เห็นไหมครับสิ่งที่ตามมาก็คือสันติสุข ทุกคนที่เชื่อตั้งแต่วันแรกที่เขาเชื่อ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นภายในจิตใจของเขา ในวิญญาณของเขาก็มีบ่อน้ำพุ แม่น้ำแห่งชีวิต และน้ำแห่งชีวิตนั้นก็คือพระเยซูเอง พระคริสต์เยซูที่เป็นพระวิญญาณ ที่เข้ามาอยู่ในเราเอง
เพราะฉะนั้นใครก็ตามสุกงอมหรือไม่สุกงอม ยังเป็นเด็กอยู่ ใครก็ตามถ้าเราแสวงหา เราเข้าใจการรับสุข การรับสันติสุขทุกวันทุกเวลาได้ เราก็จะมีไม่ขาด
ผมขอบคุณพระเจ้าผมเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยขาด และพี่น้องหลายคนก็มีใช่ไหม เราก็เอเมนนะครับ ก็ขอบคุณพระเยซู อย่าเข้าใจผิดนะครับว่าถ้าไม่สุกงอมสันติสุขทุกวันทุกเวลาเราจะไม่ได้ จะได้สันติสุขแต่บางครั้ง อันนั้นไม่ถูกครับ
คือเราเรียนรู้นะครับเพื่อรับสุขทุกเวลา เราขอบพระคุณพระเจ้าทุกเวลา เราเชื่อว่ามีสันติสุขในเราทุกเวลา สันติสุขก็จะเคลื่อน พระวิญญาณก็จะทำกิจ และเราจะไม่ขาดสันติสุขเลย