- เราพบมานา เราเข้าใจการเป็นผู้เลี้ยงพี่เลี้ยงที่ดีตามแบบอย่างพระเยซู
- เราไม่ทำร้ายจิตใจและทำลายแกะของพระเยซู
- เราพบมานา เราเข้าใจมากมายหลายสิ่งที่เป็นอาหารผู้ใหญ่และเข้าสู่การเติบโตชีวิตฝ่ายวิญญาณและมีสันติสุขมากก่วาคริสเตียนศาสนาได้
- เราพบมานา ตาก็สว่างและเดินในความสว่างได้ ไม่อธิษฐานผิด อ่านผิด รับใช้ผิด นมัสการผิด ประกาศผิด และหลงทาง เราพบความจริงและเข้าใจคำว่า กว้าง ยาว สุง ลึก แห่งความรักและพระคำของพระเจ้า คืออะไร
...
หนังสือ เอเฟซัส พระเจ้าทรงเปิดเผยผ่านเปาโลเรื่อง
1. ข้อลึกลับของพระคริสต์ นั่นก็คือ คริสตจักร
a. คริสตจักร คือผู้เชื่อที่มาร่วมกันเพื่อสำแดงชีวิต และนิสัยของพระเจ้าต่อกันและต่อโลก
b. คริสตจักร คือครอบครัวของพระบิดา และเราที่เป็นลูกๆ ของพระองค์ซึ่งเรามีพระเยซูพี่ชายคนโตนำเราในการนมัสการสรรเสริญ ร้องเพลง และถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
c. คริสตจักร คือพระกายวิญญาณของพระคริสต์ซึ่งมีพระองค์เป็นศรีษะ เรารับการหล่อเลี้ยงจากพระบิดาผ่านพระคริสต์เยซูด้วยกัน และทำการงานของพระเจ้าในโลกนี้โดยพระคริสต์ทำแทน
d. คริสตจักร คือคนใหม่คนเดียว คือพระคริสต์ และเราผู้เชื่อทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของคนใหม่คนนี้ ซึ่งเราเมื่อก่อนเป็นส่วนหนึ่งของคนเก่าคืออาดัม โลกนี้พระเจ้ามองเห็นว่ามีสองคนคือคนเก่าอาดัมและคนใหม่ พระคริสต์
e. คริสตจักร คืออาณาจักรของพระเจ้า และอาณาจักรสวรรค์ในยุคนี้ การที่เราจะมีส่วนรับใช้ในการงานของพระเยซูในยุคหน้าและแผ่นดินโลกใหม่ เราต้องฝึกเดินเพื่อพร้อมที่จะเข้าไปในอาณาจักร
f. คริสตจักร คือภรรยาหรือเจ้าสาวของพระคริสต์ และสามีหรือเจ้าบ่าวของเราก็คือพระเยซู เราจึงทำตัวให้เป็นที่น่ารักของพระองค์เพื่อการมีความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อเราจะถ่ายทอดความรักของสามีให้โลกเห็น และถ้าหากเราทำได้มาก เราก็ได้รับบำเหน็จมากมาย
g. คริสตจักร คือ สถานที่ที่เราอยู่ร่วมกันในวิญญาณ ในพระวิญญาณและในฝ่ายวิญญาณ
h. คริสตจักร คือนักรบของพระเจ้า การต่อสู้ภายในคริสตจักร เราต่อสู้กับกลอุบายล่อลวงของมารเป็นหลัก และต่อสู้กับอำนาจของมารเป็นงานรอง
กลอุบายล่อลวงของมาร ก็คือ การใช้คนที่มันใช้ได้เพื่อสอนผิดหรือนำเชื้อเข้ามาในคริสตจักรเพื่อทำให้เราตาบอด และเชื่อผิดเดินผิดรับใช้ผิดนมัสการพระเจ้าผิด อธิษฐานผิด อ่านพระคัมภีร์แบบผิดๆ ทำทุกสิ่งแบบผิดๆ เพื่อเราจะหลงทาง และไม่ได้กระทำตามน้ำพระทัยพระบิดาซึ่งเราเห็นกันมากมายทุกวันนี้
2. รอดโดยทางความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยการทำดีเชื่อฟังหรือรักษาพระบัญญัติ เชื่อเท่านั่นคือเชื่อว่าพระเยซูเป็นพระผู้ไถ่บาปของเรา และเชื่อว่าพระองค์ตายแทนที่เราเพื่อรับการปรับโทษบาปที่เราควรจะได้รับ
3. เราควรถ่อมเหมือนพระเยซู ไม่โอ้อวด ไม่หยิ่งพยองพองตัว
4. การถอดทิ้งคนเก่า และสวมคนใหม่
5. พระบัญญัติไม่ได้มีไว้เพื่อให้เรารักษา แต่เพื่อให้พระคริสต์ที่อยู่ในเรารักษาแทน
6. การหลับอยู่/ตายแล้ว และอยู่ในความมืด ก็คือการใช้ชีวิตเก่าเพื่อทำดีเพื่อความรอดและพระพร พระเจ้าจะไม่นับและไม่มีบำเหน็จให้ เขาจะได้รอดในวันสุดท้ายเท่านั้น
7. อาวุธของผู้เชื่อเพื่อต่อสู่กับ กลอุบายล่อลวงของมารซาตาน (อฟ 6:10–18)
...
เอเฟซัส 5:1 เหตุฉะนั้นท่านจงเป็นผู้ประพฤติตามแบบของพระเจ้า ให้สมกับเป็นบุตรที่รัก
** ประพฤติตามแบบของพระเจ้า ในที่นี้คือ ให้พระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเรา ผ่านเรา และในเรา เนื่องจากว่าเราทำเองไม่ได้ กท 2:20 ข้าพเจ้าคนเก่าถูกตึรงกับพระคริสต์คนเก่าและข้าคนเก่าไม่มีชิวิตอยู่ พระคริสต์ที่เป็นวิญญาณต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้าคนใหม่
ฟป 2:13 เพราะว่าพระเจ้าเป็นผู้ทรงกระทำกิจอยู่ภายในท่าน ทั้งให้ท่านมีใจปรารถนาและให้ประพฤติตามชอบพระทัยของพระองค์
...
เอเฟซัส 5:2 และจงดำเนินชีวิตในความรักเหมือนดังที่พระคริสต์ได้ทรงรักเรา และทรงประทานพระองค์เองเพื่อเราให้เป็นเครื่องถวาย และเครื่องบูชาแด่พระเจ้า เพื่อเป็นกลิ่นสุคนธรสอันหอมหวาน
5:3 แต่การเอ่ยถึงการล่วงประเวณี การลามกต่าง ๆ และความโลภ อย่าให้มีขึ้นในพวกท่านเลยจะได้สมกับที่ท่านเป็นวิสุทธิชน
** พระคริสต์ทรงถวายพระองค์เป็นเครื่องบูชาแด่พระบิดา เราจึงดำเนินชีวิตโดยเอาความรักอะกาเปเป็นหลัก อย่าทำสิ่งใดที่ปราศจากรัก เพราะว่าพระเจ้าจะไม่นับ (1 คร 13:1-3)
โครินธ์ 13:1-10
13:1 แม้ข้าพเจ้าพูดภาษาของมนุษย์ก็ดี และภาษาของทูตสวรรค์ก็ดี แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง
13:2 แม้ข้าพเจ้ามีของประทานแห่งการพยากรณ์ และเข้าใจในความลึกลับทั้งปวงและมีความรู้ทั้งสิ้น และแม้ข้าพเจ้ามีความเชื่อทั้งหมดพอจะยกภูเขาไปได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าก็ไม่มีค่าอะไรเลย
13:3 แม้ข้าพเจ้ามอบของสารพัดเพื่อเลี้ยงคนยากจน และแม้ข้าพเจ้ายอมให้เอาตัวข้าพเจ้าไปเผาไฟเสีย แต่ไม่มีความรัก จะหาเป็นประโยชน์แก่ข้าพเจ้าไม่
13:4 ความรักนั้นก็อดทนนานและกระทำคุณให้ ความรักไม่อิจฉา ความรักไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง
13:5 ไม่ทำสิ่งที่ไม่บังควร ไม่คิดเห็นแก่ตนเองฝ่ายเดียว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด
13:6 ไม่ชื่นชมยินดีในความชั่วช้า แต่ชื่นชมยินดีในความจริง
13:7 ไม่แคะไค้คุ้ยเขี่ยความผิดของเขา และเชื่อในส่วนดีของเขาอยู่เสมอ และมีความหวังอยู่เสมอ และเพียรทนเอาทุกอย่าง
13:8 ความรักไม่มีวันสูญสิ้น แม้คำพยากรณ์ก็จะเสื่อมสูญไป แม้การพูดภาษาต่างๆนั้นก็จะมีเวลาเลิกไป แม้ความรู้ก็จะเสื่อมสูญไป
13:9 เพราะที่เรารู้นั้นก็รู้แต่ส่วนหนึ่ง และที่เราพยากรณ์นั้นก็พยากรณ์แต่ส่วนหนึ่ง
13:10 แต่เมื่อความสมบูรณ์มาถึงแล้ว ความบกพร่องนั้นก็จะสูญไป
** อย่าลืมว่าการฝึกชีวิตให้พระคริสต์ทำแทนต้องใช้เวลา เราอย่ากังวลและห่วงเรื่องนี้ สิ่งที่เราต้องใส่ใจคือการสร้างความสัมพันธ์ สนิทกับพระเยซูพระเจ้าของเรา การทำดีจะเกิดขึ้นได้เองภายในเรา
...
เอเฟซัส 5:4 ทั้งอย่าพูดหยาบคาย พูดเล่นไม่เป็นเรื่อง และพูดตลกหยาบโลนเกเร ซึ่งเป็นการไม่สมควร แต่ให้ขอบพระคุณดีกว่า
5:5 เพราะท่านรู้แน่ว่า คนล่วงประเวณี คนโสโครก คนโลภ ที่เป็นคนไหว้รูปเคารพ จะได้อาณาจักรของพระคริสต์ และของพระเจ้าเป็นมรดกก็หามิได้
** อาณาจักรเป็นของทุกคนที่พบพระคำล้ำลึก และข้อลึกลับในพระคัมภีร์ และฝึกเดินในวิญญาณ ฝึกชีวิตในแต่ละวัน คนที่ไม่พบมานาที่ซ่อนไว้อย่างแท้จริง และไม่ฝึกก็จะไม่ยอมเลิกทำบาป และเลิกไม่ได้ไปจนตาย เขาเหล่านั้นจึงไม่มีโอกาสได้เข้าไปในอาณาจักรเป็นมรดกที่กำลังจะมา
พระเจ้าไม่ต้องการให้เรามีหุ้นส่วนกับคนที่ไม่เชื่อ เนื่องจากว่า
1. ความเชื่อ พระ ไม่เหมือนเรา
2. จิตใจที่มีความอิจฉา โลภ ฉ้อโกงได้ง่ายๆ ไม่เหมือนเราเหล่าบุตรพระเจ้า