เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ พระคำแห่งความจริงมาถึงพวกเรา และพระองค์เปิดเผยมากมายหลายสิ่งให้เกิดความรู้ความเข้าใจในฝ่ายวิญญาณ
เราขอบพระคุณสำหรับพระคำที่เป็นอาหารที่มาจากสวรรค์เรากินดื่มและได้อิ่มเพื่อการเติบโตเพื่อการเข้าสู่สติปัญญาความจริงที่มาจากพระวิญญาณแห่งความจริง เราสรรเสริญยกย่องพระเยซู เอเมน
ผมขอสรุปสั้นๆ นะครับก็คือในวันนี้เราเข้าใจถึงเรื่องปัญหามาจาก 3 แหล่ง
ก็คือ มาจากพระเจ้า คือฝนที่มาจากฟ้า/ จากซาตาน ก็คือลมพายุ/ และจากแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว ก็คือจากมนุษย์
และสิ่งที่สองก็คือ การหายโรคเกิดขึ้นได้ก็เพราะความเชื่อ ความเชื่อมีอยู่ที่ไหน มีความเชื่ออยู่ที่ไหน การรักษาโรคก็มีอยู่ที่นั่น เนื่องจากว่าเป็นพระสัญญาเป็นพระพรของพระเจ้าที่ให้พระเยซูแบกเอาความเจ็บไข้ไปไว้ที่กางเขนแล้ว เพราะฉะนั้นเรามีสิทธิ์ เราสามารถมีโอกาสที่จะหายโรคได้ ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรหายได้ทั้งหมด เนื่องมาจากความเชื่อของเรา เอเมน
และสิ่งที่สาม เป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก พระเจ้าต้องการที่จะเตือนสติเรา ที่เป็นมนุษย์วิญญาณ เราเป็นคริสเตียนแท้ เป็นบุตรที่รักของพระเยซูใช่ไหมครับ
เพราะฉะนั้นนะครับ คือมนุษย์อาดัมเนี่ยส่วนมากก็จะอยากเป็นใหญ่ อยากเป็นผู้นำ อยากเป็นหัวหน้า คือไม่ได้เป็นมากก็ขอให้เป็นน้อย อาจจะเป็นหัวหน้าเป็นผู้นำเป็นใหญ่ในครอบครัวก็ได้ ในหมู่บ้านก็ได้ ในเมืองที่เราอยู่ก็ได้ หรือในที่ทำงานก็ได้ ที่ไหนก็ได้ ที่คริสตจักรก็ได้ หรือกลุ่มเล็กๆ ก็ได้ ขอให้ได้เป็นใหญ่ ขอให้ได้เป็นหัวหน้า ขอให้ได้เป็นผู้นำ ขอให้มีคนยกย่องให้มีหน้ามีตาไม่มากก็น้อยถูกไหมครับ คือนี่ คือมนุษย์นะครับ
เราดูตัวอย่างจากสาวก 12 คน เขาบอกว่าเราอยากนั่งที่ข้างๆ ของพระองค์ เมื่อพระองค์ลงมาตั้งอาณาจักรใช่ไหมครับ แล้วเขาก็ถามบ่อยๆ นะครับว่าพวกเราติดตามพระองค์เนี่ยจะได้อะไร นี่คือสิ่งที่บ่งบอกนะครับว่ามนุษย์นะครับ แม้แต่สาวกของพระเยซูที่ติดตามพระเยซู 3 ปีกว่า เขาก็ต้องการตำแหน่ง ต้องการเกียรติยศ ชื่อเสียง คนยกย่อง คนกราบไหว้นะครับ
แต่เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับเปาโลและยอห์น เมื่อได้รับพระคำแห่งความจริง พวกเขาไม่ยอมรับเกียรติ ชื่อเสียง หน้าตา และการยกย่องกราบไหว้ เรารู้ดีใช่ไหมครับว่าซาตานเมื่อก่อนมันตกตำแหน่ง ก็เพราะว่าความหยิ่งผยองพองตัว ความอยากเป็นใหญ่ อยากเป็นผู้นำ อยากเป็นหัวหน้า อยากเป็นเหนือกว่าคนอื่น มันจึงสูญเสียตำแหน่งของมันไป
วันนี้นะครับเราเป็นคริสเตียนแท้หรือไม่ คริสเตียนแท้จะดำเนินชีวิตและนิสัยของพระคริสต์ คริสเตียนแท้พูดง่ายๆ ก็คือจะถ่อมใจ
ไม่ถ่อมใจเท่านั้นนะครับ คือถ่อมถึงดิน ถ่อมใจจนถึงดินนะครับ เราฉีกเสื้อผ้าของเราทำให้เสื้อผ้าขาดดูไม่ดีอีกต่อไปใช่ไหม นี่คือการปฏิเสธอย่างสิ้นเชิงว่าจะไม่ยอมรับเกียรติ ชื่อเสียง การยกย่อง การกราบไหว้จากมนุษย์ แต่เราถ่อมถึงดิน เราไม่อยากเป็นใหญ่ ไม่อยากเป็นผู้นำ ไม่อยากเป็นหัวหน้า ไม่อยากเป็น
เรามองตัวเราเอง คือไร้ตัวตน
เรามองตัวเอง ว่าเราไม่มีค่าอะไร
แต่พระคริสต์ต่างหากที่อยู่ในเรา ที่มีค่าสูงสุด ที่สมควรคู่ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ คู่ควรแก่พระเกียรติพระสิริ สรรเสริญพระเจ้า นี่คือความหมายของการฉีกเสื้อผ้าของเรา
สำหรับพี่น้องที่อาจจะไม่เห็นภาพของการแต่งกาย การใส่เสื้อผ้าของเปาโลและยอห์น ผมมีรูปให้ดูนะครับเป็นรูปของการแต่งกายของผู้ชายยิวในสมัยสองพันปีก่อนนะครับ และฉีกเสื้อผ้าเนี่ย ก็คือจะฉีกออกทั้งหมด และเหลือแค่กางเกงขาสั้นนะครับ อาจไม่เรียกว่ากางเกงก็ได้คือเขาจะทำเป็นมีภาพผืนหนึ่ง จะทำเป็นเหมือน ขอโทษนะครับเหมือนกางเกงในที่คนทั่วไปใส่นะครับ
เราเห็นภาพใช่ไหมว่าการไม่ใส่อะไรเลยของเปาโลและยอห์นในตอนนั้น ณขณะนั้น ก็คือการดูไม่ดี ก็คือการดูไม่ดีสำหรับสายตาของมนุษย์ จากคนที่ใส่เสื้อผ้าที่ดูดีนะครับ
เราก็เหมือนกันนะครับ ขอบคุณพระเจ้าวันนี้เราจะฉีกเสื้อผ้าของเรา ก็คือมองตัวเราว่าไร้ตัวตนไม่มีค่า ไม่ดูดี ไม่มีเกียรติ ไม่มีชื่อเสียง เราจะถ่อมถึงดิน และนี่นะครับคือนิสัยของพระเจ้า คือการถ่อมถึงดิน เอเมนไหมครับ
เมื่อเราทำได้ เราถ่อมถึงดินได้ และเมื่อถึงเวลาอันควร พระเจ้าจะเป็นคนยกเรา และเมื่อถึงเวลาอันควรที่สุด ก็คือในยุคอาณาจักร และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ คนที่เล็กน้อยจะเป็นคนที่ยิ่งใหญ่
และสุดท้ายนะครับผมขอย้ำว่า คริสเตียนแท้จะยอมถ่อม และถ่อมถึงดิน มองตัวเองไม่มีค่า ไม่มีตัวตน ไม่แสวงหาที่นั่งอันมีเกียรติ แล้วเมื่อถึงเวลาพระบิดาจะยกเราขึ้น แทนที่จะเหยียดเราลง
และสุดท้ายในข้อนี้กิจการ 14:17 ฝนจากฟ้า ก็คือพระพรฝ่ายร่างกาย ที่พระเจ้าจะดูแลเลี้ยงดู จะเลี้ยงดูดูแลให้เรามีอยู่มีกิน มีใช้ ไม่ยากจน
เราแสวงหาการดำเนินชีวิตในโลกนี้ในฝ่ายโลกนี้เป็นสิ่งที่มนุษย์ย่อมจะทำนะครับ เพื่อเราเองเพื่อครอบครัว
แต่สิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราแสวงหามากกว่านั้นก็คือ อาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วที่เหลือพระเจ้าจะเป็นคนจัดการเองไม่ต้องห่วง แน่นอนที่สุดนะครับฝนจากฟ้า ก็คือพระพรฝ่ายร่างกาย การเลี้ยงดูดูแลของพระเจ้าจะมาถึงคนที่รักพระองค์ และคนที่ดำเนินชีวิต เป็นพยาน ใจกว้าง รับใช้พระเจ้าตามน้ำพระทัยของพระบิดา เอเมน
และสุดท้ายก็คือ การประกาศของเรานะครับ อย่าไปคาดหวังว่าใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ เราจะพูดดีแค่ไหน พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราก็ตาม อาจจะมีบางครั้งที่มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับมนุษย์ที่จะรับได้ อาจจะไม่ถึงเวลาของเขา หรืออาจจะไม่ใช่คนที่จะมาถึงความรอด เราก็ทำใจนะครับ แต่เราตัดสินไม่ได้ว่าใครจะรอดหรือไม่รอด ตอนที่เขารับหรือไม่รับตอนนั้นนะครับ เวลาสุดท้ายของชีวิตของใครที่ไม่รับพระเยซูจริงๆ ก็คือไม่รอดจริงๆ แต่ตอนนี้นะครับก็คือทุกคนยังมีโอกาส ถึงแม้ว่าเราประกาศแล้วเขายังไม่รับก็ตาม
ขอบคุณพระบิดาสำหรับพระคำพระเจ้าในวันนี้ ที่เปิดเผย และขอบคุณพระเจ้าที่ย้ำเตือนพวกเราเรื่องการถ่อมถึงดิน เราไม่แสวงหาการเป็นหัวหน้า เป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้นำ เป็นผู้สั่ง สั่งๆๆๆ แต่เราเป็นคนที่ถ่อม ถ่อมๆๆๆ รับๆๆๆ เข้ามา เอเมนขอบคุณพระเยซู
พระเยซูพระองค์ผู้เดียว ที่สมควรแก่การยกย่องและสรรเสริญ
ถาม.
ในกิจการ 14:8 ที่บอกว่าคนที่พิการมาแต่เกิดใช่มั้ยค่ะ เพื่อพระราชกิจของพระเจ้าจะสำเร็จ แต่สำหรับคนที่ไม่เชื่อแล้วก็ที่เป็นชาวโลกล่ะค่ะ ที่เขาเกิดมาพิการจนตาย หรือว่าเกิดมาแล้วป่วยจนตายอะไรเหล่าเนี่ยค่ะ จะทำให้น้ำพระทัยพระเจ้าสำเร็จยังไงค่ะ เพราะบางคนก็ไม่เคยได้ยินข่าวประเสริฐเลย เกี่ยวข้องกันไหมค่ะ เกี่ยวกับตรงนี้
ตอบ.
ไม่เกี่ยวครับผม สำหรับคนที่พิการ สำหรับคนที่หูหนวกตาบอด คนที่เป็นอัมพาต อัมพฤกษ์อะไรก็แล้วแต่นะครับ คือเมื่อเขามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องความเชื่อ ในเรื่องของพระเจ้า ในเรื่องการรักษาโรค ก็คือเป็นเรื่องของที่พระเจ้าจัดเตรียมคนเหล่านี้ไว้ เพื่อถวายเกียรติแด่พระองค์
เมื่อถึงวันหนึ่งนะครับข่าวประเสริฐมาถึงเขา และเขากลับใจต้อนรับพระเยซู และพระเจ้าก็รักษาโรคเขา ผู้คนมากมายก็ได้เห็น และเขาก็ยกย่องพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า และแสวงหาพระเจ้า ต้องการที่จะมาหาพระเจ้าเพื่อขอความช่วยเหลือบ้าง หรือต้องการบางสิ่งบางอย่างจากพระเจ้าเหมือนที่ผู้ชายคนนั้นได้รับนะครับ
แต่กรณีของคนที่ไม่เคยเชื่อ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับศาสนาคริสต์ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับความเชื่อ เขาเกิดมาพิการเนี่ยก็คือเป็นผลที่ได้รับจากความบาป มนุษย์ทุกคนที่เกิดมา และไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ความรอด หรือพระเจ้า ก็คือเขาเกิดมาอยู่ภายใต้การสาปแช่ง ความบาป และสิ่งที่เขาเป็นอยู่ทุกวันนี้ คือเกิดมาเเล้ว และได้สิ่งเหล่านี้ก็คือมาจากความผิดพลาดล้มเหลวของมนุษย์ของอาดัมเอวา เข้าใจนะครับ
ความผิดปกติของร่างกายของจิตใจของฝ่ายวิญญาณของมนุษย์ มาจากไหน? มาจากการเสื่อมทรามตกต่ำของอาดัมเอวา
ถาม.
สมัยก่อนตอนที่พระเจ้าสร้างสัตว์มาใช่ไหมค่ะ พระเจ้าก็ให้สัตว์กินพืชผลใช่ไหมค่ะ แล้วสุดท้ายพออาดัมเอวาล้มลงในความบาป สัตว์ก็ได้รับผลกระทบนั้นด้วยใช่ไหมค่ะ สัตว์ก็เลยหันมากินเนื้อสัตว์ กินกันเอง หรือว่ากินสัตว์ชนิดอื่นๆ หรือว่ากัดกินมนุษย์อะไรพวกเนี่ย เกี่ยวข้องด้วยใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
เมื่อมนุษย์ทำบาปนะครับ การสาปแช่งเข้ามาสู่โลก ความตกต่ำของโลกนี้ทำให้มนุษย์มีกิเลส ตัณหา โลภ โกรธ หลง ชีวิตและนิสัยของซาตานมีเต็มในมนุษย์ อาดัมเอวาและลูกหลานของเขากลายเป็นมนุษย์ดินที่ไม่มีความครบถ้วนครบบริบูรณ์ของพระเจ้า จึงเกิดมีนิสัยของมารของซาตานของผีมารพูดง่ายๆ ก็คือความโหดร้ายก็ตามมา ความชั่วช้าก็ตามมา ความเลวทรามความเสื่อมทรามก็ตามมา
สุดท้ายเขาจะไม่มีการแสวงหาการกินอาหารที่เป็นพืชผักเท่านั้น พระเจ้าสร้างมนุษย์ให้เกิดมาเพื่อกินเจ เรารู้กันไหมครับ มนุษย์จะไม่กินเนื้อสัตว์นะครับ แต่เนื่องจากความตกต่ำความเสื่อมทราม การถูกสาปแช่ง ทำให้มนุษย์มีนิสัยมีชีวิตของซาตานของมาร แล้วก็กับมากินเนื้อสัตว์ทำร้ายสัตว์
(ปฐก 1:29 และพระเจ้าตรัสว่า “ดูเถิด เราให้บรรดาต้นผักที่มีเมล็ดซึ่งอยู่ทั่วพื้นแผ่นดินโลกแก่พวกเจ้า และบรรดาต้นไม้ซึ่งมีเมล็ดในผลแห่งต้นไม้นั้น จะเป็นอาหารสำหรับพวกเจ้า)
และสัตว์เองนะครับที่เคยเป็นมิตรเป็นเพื่อนของมนุษย์ ก็กลับกลายมาตกต่ำอยู่ภายใต้ความบาปตกต่ำเสื่อมทราม ก็กลายเป็นสัตว์ร้าย แล้วก็เป็นศัตรูกับมนุษย์
แต่อย่าลืมนะครับ มีข่าวดี มาถึงยุคพันปี พระเจ้าจะทำให้สัตว์ทั้งหมดกลับกลายมาเป็นมิตร เป็นเพื่อนของมนุษย์เหมือนเดิม เด็กๆ ก็จะเล่นกับงูเห่าได้ ไม่มีพิษ เอเมนขอบคุณพระเยซู
อิสยาห์ 11:6-9
6 สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ ลูกวัวกับสิงโตหนุ่มกับสัตว์อ้วนพีจะอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ จะนำมันไป
7 แม่วัวกับหมีจะกินด้วยกัน ลูกของมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน และสิงโตจะกินฟางเหมือนวัวผู้
8 และทารกกินนมจะเล่นอยู่ที่ปากรูงูเห่า และเด็กที่หย่านมจะเอามือวางบนรังของงูทับทาง
9 สัตว์เหล่านั้นจะไม่ทำให้เจ็บหรือจะทำลายทั่วภูเขาอันบริสุทธิ์ของเรา เพราะว่าแผ่นดินโลกจะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องของพระเยโฮวาห์ ดั่งน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น
และที่สำคัญสำหรับวันนี้ ก็คือ เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์เตือนสติเราทุกๆ คน พระองค์เตือนสติเราว่าอย่าแสวงหาการเป็นหัวหน้าที่ชอบสั่ง สั่งๆๆๆ แต่เราแสวงหาเรื่องหลักคือการ เป็นผู้เล็กน้อย เป็นคนต่ำต้อย เราฉีกเสื้อผ้าของเราให้ดูเหมือนคนที่น่าอับอาย ไม่มีค่าอะไร ไม่มีตัวตน เพื่อพระเจ้าจะยกเราขึ้นเมื่อถึงเวลาอันควร เอเมน
ขอให้เราเห็นภาพชัดเจนนะครับ การฉีกเสื้อผ้า ฉีกเสื้อผ้า เปาโลและยอห์นเป็นคนที่ถ่อมใจมากๆ ถ่อมถึงดินนะครับ เขายอมฉีกเสื้อผ้า ไม่ยอมเป็นนาย ไม่ยอมรับเกียรติ ชื่อเสียง การยกย่องจากมนุษย์
เราเองที่เป็นบุตรพระเจ้าที่สำแดงชีวิตและนิสัยของพระองค์ ก็จะทำเหมือนกัน เราจะฉีกเสื้อผ้าของเรา
แล้วข่าวดีนะครับ ก็คือ เสื้อผ้าที่ดีที่สุดที่เราจะสวมใส่ก็คือชุดขาวที่มีสง่าราศีมากๆ ที่พระเยซูจัดเตรียมไว้ให้ในยุคพันปี ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับสำหรับพี่น้องที่จะถ่อมถึงดินได้ เอเมน
พระเยซูขอบคุณพระองค์สำหรับวันนี้ ขอบคุณพระองค์ที่อยู่ท่ามกลางพวกเรา ขอบคุณที่ทำหน้าที่ของพี่ชายคนโตนำเราในการถวายเครื่องบูชาที่หอมหวนที่สุด ที่ดีที่สุดแด่พระบิดา และนั้นก็คือความรัก ความรักที่บริสุทธิ์ ความรักที่เต็มในหัวใจของพวกเรา ขอถวายแด่พระบิดา พระบิดาพวกเรารักพระองค์ พวกเรารักพระเยซู เอเมน
ขอบคุณพระองค์ที่นำพวกเราให้เห็นความชัดเจน เรื่องการฉีกเสื้อผ้า ก็คือการทำตัวให้ไร้ตัวตน ไม่มีคุณค่า ไม่ชอบเป็นหัวหน้าเป็นผู้นำชอบสั่ง
แต่เราจะเป็นคนที่ถ่อมใจ ถ่อมถึงดิน เป็นผู้เล็กน้อยคนหนึ่ง เปาโลความหมายภาษากรีกคือ ผู้เล็กน้อย
ฉีกเสื้อผ้าก็คือการไม่ใส่เสื้อผ้าไม่แต่งกายเหมือนเดิมที่ดูดี แต่ทำตัวเป็นคนที่น่าอับอายไม่มีค่าอะไร ท่ามกลางมนุษย์ต่อสายตาทุกคน
แต่เป็นคนที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่ง ต่อสายพระเนตรของพระบิดา สรรเสริญพระองค์ เอเมน