ถาม.
คือความชอบธรรม กับความยุติธรรม อันเดี่ยวกันไหมค่ะ
ตอบ.
คําว่า ความชอบธรรม คือการทําดี ทุกสิ่งคือรสเค็ม รสเค็มที่พระเยซูตรัสในมัทธิวบทที่ 5 คือการทำดี การให้ การสำแดงความรัก การทำทุกสิ่งที่เป็นประโยชน์สําหรับผู้อื่นเรียกว่าความชอบธรรม
ส่วนเรื่องความยุติธรรม ก็คือภาษาอังกฤษก็คือ Justice คือเท่าเทียมกัน คือยุติธรรม คือไม่มีใครเอาเปรียบใคร ไม่มีใครเสียเปรียบใคร เป็นความยุติธรรม
สำหรับคริสเตียน พระเจ้าสร้างเรา ไม่ให้เอาเปรียบใคร แล้วก็เป็นสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าต้องให้เราเป็นทุกวันนี้ ก็คือเสียเปรียบดีกว่า (เรียกว่าเป็นความยุติธรรมของมนุษย์) แต่สําหรับเราไม่มีนะครับไม่มีความยุติธรรม มนุษย์จะได้เปรียบเรา เราเป็นคนที่ยอมเสียเปรียบเขา เพื่อที่จะได้ชนะใจเขา
สำหรับกฎหมายใหม่ของพระเยซู ซึ่งแตกต่างจากกฎหมายเก่าของโมเสสของพระเจ้าที่ประทานให้โมเสสให้ชนชาติอิสราเอล ชนชาติอิสราเอลนะครับใครตบแก้มเรา ใครตีเรา เราก็ต้องตอบแทนเขาใช่ไหม คือตาแทนตา ฟันแทนฟัน ต้องมีการแก้แค้น ต้องมีความยุติธรรม
แต่สำหรับกฎหมายใหม่ของพระเยซู พระเยซูตรัสว่ายังไง เราต้องยุติธรรมไหม? ไม่น่ะ เราต้องเสียเปรียบ เขาต้องได้เปรียบเรา คือเขาตบแก้มข้างหนึ่ง ต้องหันอีกข้างหนึ่งให้เขาตบ (มธ 5:38-41)
แล้วทุกวันนี้เราดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ของพระเยซูไหม หรือว่ายังตาแทน ฟันแทนฟันอยู่ แสดงว่าเราต้องขอการชำระจากพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ
อีกครั้งสรุป... ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ คือกฎหมายใหม่ของพระเยชู เพื่อคริสเตียนในยุคนี้จะต้องทำ เพราะว่าโลกนี้เป็นทุ่งนาและเป็นที่อยู่ชั่วคราวของเรา
เราดําเนินชีวิตเหมือนพระคริสต์ และให้พระคริสต์เป็นคนดำเนินชีวิตแทนเรา เพื่อจะสําแดงความรัก รับการไม่ยุติธรรมกับเรา เสียเปรียบของเรา ต่ำถ่อมของเรา เพื่อเราจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในอาณาจักรของพระเจ้า
...
ถาม.
ก็คือถ้าเป็นการ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ก็คือของผมเนี่ย จะเจอกรณีที่ลูกค้าซื้อของไปจากผม แล้วก็เครดิตไป แล้วก็ไม่จ่ายพอไม่จ่ายแล้วเราโทรไปถามเขา เขาก็ยังมีต่อว่าเราอีกว่าประมานแบบว่าโทรมาบ่อยๆ อาจจะไม่จ่ายก็ได้นะ เหมือนเขารำคาญเรา สุดท้ายเขาก็ไม่ได้จ่ายเรา ยังนี้เราต้องทำยังไงครับเราต้องแบบว่ายอมเสียเปรียบไปเลยหรือเปล่าครับ
ตอบ.
เรื่องแรกที่ผมอยากจะเล่า ก็คือเป็นคำพยานของผมเองที่เกิดขึ้นกับผมเองที่บ่อยมาก บ่อยมากๆ เลยคือเรื่องการเสียเปรียบ และผมก็ขอบคุณพระเจ้า แล้วก็อธิษฐานเผื่อเขา
ในพระคัมภีร์มีอยู่ข้อหนึ่งที่ผมยึด แล้วผมใช้ แล้วก็ได้ผลมากๆ ด้วย คืออธิษฐานเผื่อผู้ที่ข่มเหงท่าน (มธ 5:44) อธิษฐานเผื่อผู้ที่เอารัดเอาเปรียบท่าน และรู้ไหมครับใครเป็นคนตอบแทนเรา ไม่ใช่เขานะครับ แต่เป็นพระเจ้าผู้ที่จะตอบแทนเราให้มีมากกว่าหลายเท่าอีกหลายเท่ายัด สั่น แน่น พูน ล้น เลยนะครับ คือถ้าเราเสียไป เราทําอะไรไม่ได้แล้ว เราทวงไม่ได้ เราพูดกับเขาดีๆ ก็ไม่ได้ หรือพูดยังไงก็ไม่ได้แล้วนะครับ เราสารภาพต่อพระเจ้า แล้วก็เราก็ขอพระเจ้าอวยพรเขาคนนั้น ขอให้เขามั่งมีขอให้เขาพบชีวิตที่ดีขอให้เขาคือได้ดี
รู้ไหมครับว่าคำอธิษฐานของเราสอดคล้องกับคําสั่งของพระเยซู แล้วผู้ที่จะตอบแทนเรา ก็คือพระเจ้า เราจะได้รับมากมายหลายเท่าหลายสิบเท่านะครับ เอเมน
อย่าลืมนะครับทุกสิ่งที่เราทำ อีกครั้งขอย้ำ พระเจ้ามีตากี่ตาครับ? เจ็ดตา เราเล็ดลอด เราหลบหนี เราหลีกเลี่ยง เราซ่อนจากพระเจ้าไม่ได้เป็นอันขาด แม้แต่การกระทำเล็กๆ น้อยๆ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งที่เราทำในทุกวันนี้ เราคิดว่าพระเจ้าไม่มอง ไม่เห็น ไม่ดู ไม่สนใจ อย่าไปคิดแบบนั้นเป็นความคิดที่ผิดนะครับ
คือพระเจ้ามองดู พระเจ้ามองเห็น แล้วพระเจ้าให้ทูตสวรรค์จดทุกการกระทําของเรา ถ้าหากเราทําตามคําสั่งของพระเยซูที่พระองค์สั่งเราไว้ การเสียเปรียบของเราในครั้งนี้ เราจะได้รับผลตอบแทนอีกหลายสิบเท่า สรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ยุติธรรม และสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์วางกฏทองคำให้จักรวาลและให้โลก แม้แต่ผู้ที่ไม่เชื่อพระองค์ ทําดีก็ได้ดี ทําชั่วก็ได้ชั่ว และโดยเฉพาะบุตรของพระเจ้า คือคริสเตียนทั้งหลาย เราทําอะไรไป พระเจ้าจะตอบแทนอย่างมากมายอย่างสะสม เอเมน
อวยพรเขานะครับ อวยพรเขา อวยพรไปเลยนะครับ แล้วก็ยกโทษให้เขา "ขอพระบิดายกโทษให้เขาที่เขาโกงข้าพระองค์ เขาทำแบบนี้กับข้าพระองค์ ขอพระองค์ยกโทษให้เขา และขอพระองค์อวยพรเขา" และถ้าเราทําได้ขอพระเจ้าช่วยเราให้ทําแบบนี้ได้ กิจการงานของเรา ธุรกิจของเรา ทุกสิ่งที่เราทําอยู่จะรุ่งเรืองมากหลายหลายเท่าครับ
ถ้าหากว่าเราทำในสิ่งที่เป็นสิ่งที่ตรงข้าม สมมุติว่าเราไปต่อสู้กับเขา เราไปทําในสิ่งที่เป็นด้านลบกับเขา เราสาปแช่งเขา สุดท้ายสิ่งเหล่านี้มันก็จะทำให้เราเป็นทุกข์มากกว่าเก่าใช่ไหม มันช่วยอะไรไม่ได้ สรุป ก็คือทําในสิ่งที่พระเยซูสั่งเราจะได้ผลรับที่ออกมาดีมากกว่า