สำหรับภาษาอังกฤษและหลายภาษา เขาไม่มีปัญหากับคำว่าพระคริสต์ทำแทน สำหรับที่อเมริกาเราได้ยินบ่อยมาก Christ lives for me. Christ lives in us.
คือคริสเตียนฝรั่งส่วนมากเขาจะรู้ แต่ที่สำคัญเขาก็รู้แบบธรรมดา รู้แบบตื้นๆ แต่ถ้าจะรู้ว่าพระคริสต์เข้ามาอยู่ในเราแล้ว สถิตในเราแล้ว มาทำแทนเรา อันนี้มีน้อยมาก คือคนที่ได้ถูกเปิดตาได้รับการเปิดตา ได้รับการชำระด้วยพระคำจึงจะเข้าใจจึงมาถึงจุดนี้ได้
แล้วเราก็ขอบคุณพระเยซูที่พี่น้องหลายคนมีประสบการณ์ใช่ไหม ผมเชื่อนะครับหลายคนมีประสบการณ์เห็นพระคริสต์สำแดงชีวิตผ่านเรามาแล้วไม่มากก็น้อยใช่ไหม เพราะฉะนั้นซาตานจะเกลียดชังผู้เชื่อที่สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซู
แต่ถ้าหากคริสเตียนเชื่อพระเยซูมันก็เกลียดชัง แต่มันไม่กลัวมันไม่สนใจเท่าไหร่ เนื่องจากว่าคริสเตียนเหล่านั้น ที่ยังไม่มาถึงการชำระด้วยพระคำ ก็คือยังสำแดงชีวิตและนิสัยซาตานอยู่ อันนี้ผมพูดถูกไหม แค่สวมหน้ากากนะครับ
แต่ถ้าหากเราจะหลุดพ้นได้ ก็คือต้องรับการชำระด้วยพระคำของพระเจ้าที่เป็นความจริง พระเยซูจึงขอพระบิดาในข้อที่ 17 ว่า "ขอพระองค์ชำระเราด้วยพระคำ เพราะว่าพระคำเป็นความจริง" เมื่อรับการชำระเราจะเข้าสู่รูปแนวชีวิต
สำหรับพระเจ้าผมขอย้ำ ไม่ใช่ศาสนาคริสต์ พวกเราไม่ได้นับถือศาสนาคริสต์ พวกเราไม่มีศาสนา เราเข้าสู่รูปแนวชีวิต เราอยู่ในชีวิตของพระเจ้า ชีวิตของพระคริสต์ชีวิตที่ครบบริบูรณ์
เพราะฉะนั้นเราทำทุกสิ่งเราไม่เน้นที่กฎเกณฑ์ รูปแนวชีวิตไม่มีกฎเกณฑ์ แต่อยู่ในกฎเกณฑ์ของพระวิญญาณ อย่าลืมนะครับ ก็มีนะครับกฎเกณฑ์ แต่เป็นกฎเกณฑ์ของพระวิญญาณ
แต่ผมหมายถึงกฎเกณฑ์ของรูปแนวศาสนาที่ศาสนาก่อตั้ง ศาสนาทำให้เราติดตาม ให้เรารักษา ให้เราพยายามทำให้ได้เพื่อความรอด เพื่อความหวัง เพื่อความสุข เพื่อพระพรทั้งหลาย
แต่สำหรับพวกเราขอบคุณพระเยซู พระพรก็มา ชีวิตก็มี สันติสุขก็เต็ม เพียงแต่เราเข้าสู่รูปแนวชีวิต เพราะว่าชีวิตของพระเจ้าหลั่งไหลเข้ามาสู่เราอย่างเต็มล้น อะไรจะเกิดขึ้น? ก็คือสันติสุข ก็คือความสงบสุข ก็คือพลังที่ยิ่งใหญ่ ก็คือทุกสิ่งที่อยู่ในเราทำกิจในเรา และเราเข้ามาถึงการทำแทนของพระเยซู
เพราะฉะนั้นรูปแนวชีวิตเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขอให้มองที่ครอบครัว อย่าไปมองเรื่องการเชื่อพระเจ้า อย่ามองไปที่ บริษัทใดบริษัทหนึ่ง พนักงานจะต้องมาแล้วก็ทำงาน ต้องมาให้ทันเวลา อะไรก็ต้องเป็นกฎเกณฑ์ทั้งนั้น
แต่สำหรับเรารูปแนวชีวิต ก็คือทำตามขนาดของความเชื่อ ทำด้วยหัวใจรัก ทำเท่าที่ทำได้ และทำในลักษณะของครอบครัวของพระเจ้า และเราบุตรทั้งหลายของพระองค์ ก็คือเราไม่ใส่ใจที่การกระทำ แต่เราใส่ใจ เราเน้นที่ความผูกพันความสัมพันธ์ก่อน..ก่อน.. ซึ่งการกระทำจะมาทีหลัง คือการกระทำของพระเจ้าที่ทำผ่านเรา
สิ่งสำคัญเมื่อเรามาถึงการชำระด้วยพระคำ การอธิษฐานก็ถูกไม่ผิดเหมือนก่อน ถูกวิธี การอ่านพระคัมภีร์ก็อ่านถูกวิธี อ่านเพื่อกิน เพื่อเติบโต ไม่ใช่แค่เพื่อได้เรียนรู้ได้เข้าใจเท่านั้น และการรับใช้ การประกาศข่าวประเสริฐ การกระทำทุกสิ่ง การดำเนินชีวิตทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปหมดเลย เพียงแค่เราเข้าสู่การชำระด้วยพระคำที่เป็นความจริง ซึ่งเมื่อก่อนเราอยู่ในความไม่จริง
ขอบคุณพระเจ้าเมื่อเราได้รับการชำระด้วยพระคำ พระคำก็เป็นความจริงมีชีวิต ขอบคุณพระเจ้าชีวิตมาแล้ว และมีฤทธิ์เดช ถ้อยคำของพระเยซู ถ้อยคำของพระเจ้า คำว่าเอเมน ทุกสิ่งมีฤทธิ์เดชทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นถ้าหากไม่ได้เข้าสู่การชำระด้วยพระคำ ก็คืออธิษฐานก็ผิด อ่านพระคัมภีร์ก็ผิด การรับใช้ก็ผิดวิธี การนมัสการก็ผิด อะไรก็ผิดหมด สุดท้ายทุกสิ่งที่เราทำคือการกระทำที่ตายแล้ว ผลที่ได้รับก็คือ ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง เสียดายนะครับชีวิตการรับใช้ ชีวิตคริสเตียนที่เราอยู่ในศาสนาคริสต์มานานหลายปี สุดท้ายก็มาถึง ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง ไม่มีผลอะไรเลย และยังถูกตีสอนในเกเฮนาอีกเป็นเวลาพันปี
แต่เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์เลือกเราคนส่วนน้อย ที่ให้ได้มาพบพระคำที่เป็นความจริง ได้รับการชำระ คำอธิษฐานของพระเยซูในข้อที่ 17 "ขอทรงโปรดชำระเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความจริงของพระองค์ พระวจนะของพระองค์เป็นความจริง" มันเกิดขึ้นแล้วกับผู้เชื่อทั้งหลายที่รับมานาที่ซ่อนไว้ ขอบคุณพระเยซู
แต่ตอนนี้พระกายมีเยอะมาก แล้วก็ไม่ได้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันด้วย แล้วก็ใส่ชื่อพระกาย คริสตจักรแบ๊บติส คริสตจักรเพนเทคอสต์ คริสตจักรนู่นนี่นั่น เขาลืมไปว่าในหนังสือกิจการ เราจะเห็นว่าไม่มีชื่อคริสตจักร แต่สาวกทั้งหลายเรียกว่าคริสตจักรของพระเยซู คือคริสตจักรของพระเจ้า เพราะฉะนั้นเราจะไม่ใส่ชื่อให้พระกาย เพราะว่าพระกาย ก็คือพระกายของพระเยซู
พระองค์ไม่ต้องการชื่อ พระบิดาไม่เคยมีชื่อ ไม่เคยมีพระนาม คำว่า I AM HE เยโฮวาห์ แปลว่าเรานี่แหละ เราเป็นเรานี่แหละ เราก็คือเรานี่แหละ เพราะฉะนั้นคริสตจักรทุกวันนี้ ก็คือคริสตจักร I AM HE คริสตจักรของพระเยโฮวาห์ สรรเสริญพระเจ้า
พระเจ้าต้องการให้เราพิสูจน์ พระเจ้าต้องการให้เราค้นหา แสวงหา เรื่องการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน คริสตจักรไหนทำได้ อยู่ด้วยความรัก และเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ก็คือต้องมีหัวใจที่ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ใครทำได้คริสตจักรไหนทำได้ คริสตจักรนั้นจะได้นั่งร่วมโต๊ะกับพระเยซูในยุคพันปีและชั่วนิรันดร์ ได้นั่งใกล้พระเยซู
ถ้าอยากนั่งใกล้พระเยซู ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบเหมือนพระเยซู และยอมต่อพี่น้อง เขาอยากได้เปรียบเรา เขาอยากพูดว่าเขาถูกเราผิด เราก็เอเมนทั้งนั้น ไม่ใส่ใจไม่หนีไม่ท้อไม่ถกเถียง ไม่ต่อสู้ ไม่บ่นว่า เราขอบคุณพระเจ้า
ในหนังสือยากอบบทที่ 5:1-2 ถ้าใครบ่นว่าด้วยอาการหัวใจที่มีทุกข์ โอดครวญ โศกเศร้า คนนั้นจะถูกตีสอน เพราะฉะนั้นพระเยซูให้เราบังเกิดใหม่ รับชีวิตพระเจ้า มีชีวิตที่มีสันติสุขแล้ว พระองค์ต้องการให้เราไม่บ่นไม่ว่าไม่โอดครวญ ไม่เป็นทุกข์โศกเศร้า เพราะว่าเรามีพระเจ้า พระบิดาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ที่ดูแล เป็นผู้เลี้ยงที่ดีของพวกเรา เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นเราเปลี่ยนจากการบ่นและร้องทุกข์ แล้วไปบอกคนนู้นคนนี้ โอ๊ย..กลุ้มใจเหลือเกิน เราหยุดอาการนี้นะครับ เพราะว่าเป็นอาการของอาดัม
เราเข้าสู่อาการของชีวิตในพระคริสต์ ก็คือไม่โอดครวญ ไม่คร่ำครวญ ไม่บ่นว่า แต่เราขอบพระคุณ เราอดทนและขอบพระคุณ การอดทนและขอบพระคุณ จะทำให้ยากกลายเป็นง่าย หนักกลายเป็นเบา ร้ายกลายเป็นดีได้
เราขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้เราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันแล้ว เริ่มจากการเชื่อก่อน เราเชื่อก่อนว่าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะว่าเป็นหน้าที่ของพระเยซู เป็นหน้าที่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสำหรับพระเจ้าทุกสิ่งในพระคริสต์มันจบแล้ว มันสำเร็จแล้วที่กางเขน
เพราะฉะนั้นทุกวันนี้เราอยากได้อะไรอยากเป็นอะไรเราเชื่อเอา เราเชื่อในความจริงของพระเจ้า เพราะว่ามันมีความจริงไม่ใช่การโกหก ในพระคริสต์เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในอาดัมแตกแยก
เราจะเห็นว่าคริสตจักรไหนอยู่ในอาดัม หรืออยู่ในพระคริสต์กันแน่
เมื่อมีการแตกแยกคริสตจักรนั้นก็เป็นศาสนาคริสต์
เมื่อมีการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันจริงๆ รักกันด้วยน้ำใสใจจริง ทำทุกสิ่งด้วยเอารักเป็นใหญ่ เอารักเป็นหลัก ก็คือคริสตจักรเที่ยงแท้ของพระเยซู แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องใช้เวลา ต้องใช้เวลา และเราก็เห็นใจพี่น้องที่เข้ามาใหม่ ที่ยังฝึกที่ต้องใช้เวลารับการเปิดเผยพระคำล้ำลึก เปิดตาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ผู้ที่เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องอดทนต่อผู้ที่เป็นเด็ก และค่อยๆ เปิดตาเขาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ด้วยพระคำแห่งความจริง
เพราะฉะนั้นเมื่อพระเยซูฟื้นขึ้นมาและไปสู่พระบิดา พระองค์ได้รับเกียรติจากพระบิดาและมีสิทธิอำนาจ ในการประทานชีวิตของพระองค์ให้เข้ามาอยู่ในเราทุกๆ คน ทุกวันนี้ผู้เชื่อทุกคนมีพระคริสต์อยู่ในเขา เพียงแต่ว่าเขาจะค้นพบความจริงหรือไม่
การค้นพบความจริง คือพระคริสต์อยู่ในเราเป็นความหวังแห่งสง่าราศี คือมันเป็นข้อลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับพระเจ้า ก็คือความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ความลับที่เป็นข้อลึกลับที่สุด
เพราะฉะนั้นเรื่องความลับเรื่องอาณาจักร ข้อลึกลับเรื่องข่าวประเสริฐ ข้อลึกลับของพระเจ้า ข้อลึกลับแห่งคริสตจักร ข้อลึกลับแห่งพระคริสต์ อะไรก็ตาม แต่ข้อลึกลับที่ยิ่งใหญ่ที่สำคัญมากกว่าใคร ก็คือพระคริสต์อยู่ในเรา และตอนนี้มีใครบ้างที่ได้พบความลึกลับข้อลึกลับนี้แล้ว ขอให้สรรเสริญพระเจ้าเพราะว่ามันเป็นความจริงที่เราต้องรู้ เพื่อเราจะดำเนินชีวิต รับใช้ นมัสการ ประกาศข่าวประเสริฐ อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ทำทุกสิ่งให้ถูกต้อง และมีพลังที่ยิ่งใหญ่เหมือนระเบิดไดนาไมต์ที่อยู่ในเราเพราะว่าพระคริสต์อยู่ในเรา
สำหรับการข่มเหง การกล่าวหา การใส่ร้ายหรืออะไรทั้งหลายเกิดขึ้น เราก็เห็นในบทที่ 17 พระเยซูตรัสว่าเราเป็นแบบไหนเขาก็เป็นแบบนั้น ถ้าพระองค์เป็นแบบไหน สาวกทั้งหลายก็จะเป็นแบบนั้น แล้วพระองค์จึงขอพระบิดาให้ปกป้องเขา การปกป้องไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้โดนอะไรเลย โดนแดด โดนฝน ก็ต้องโดนครับ แต่หนักก็เป็นเบา ร้ายก็ไม่ร้ายแรง
เพราะฉะนั้นเราจะต้องเจอ แต่พระเจ้าทรงรู้ พระองค์ทรงทราบดี ว่าเราแต่ละคนรับได้มากน้อยแค่ไหน แล้วพระเจ้าก็ให้แค่นั้น ไม่ให้หนักเกินไป ไม่ให้ยากเกินไป ไม่ให้นานเกินไป
และสิ่งที่ดีที่สุด ก็คือพระคริสต์อยู่ในเรา เป็นผู้ปลอบประโลมเราเมื่อเราอยู่ในมรสุม อย่ากลัวนะครับแล้วก็เราอดทนนะครับ ผลแห่งการอดทนและขอบพระคุณ ก็คือบำเหน็จ
ถาม.
เราไม่ต้องจดจำพระคำเป็นไปไม่ได้ ถ้าเราไม่จดจำพระคำ พระคำจะชำระเราได้ยังไง ถ้าเกิดว่าไม่จดจำ
ตอบ.
แต่ตรงข้ามเราไม่เพียงแต่จดจำนะครับ เราท่อง เรานับ เราฝึก เราสะสม สะสมให้มากเท่าที่จะมากได้
เรื่องการจดจำถ้าใครมีความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องความจำ หน่วยความจำคือสำหรับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ จะมีหน่วยเก็บความจำ คือมันเก็บได้เยอะมาก แล้วก็คอมพิวเตอร์โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ตอนนี้มันกี่เทราไบต์แล้วครับ กี่พันกิกะไบต์
แล้วสำหรับเราล่ะที่เป็นมนุษย์ ขอบคุณพระเจ้าพระเยซูเป็นความจำของเรา พระเยซูมีฮาร์ดดิสก์ในสมองฝ่ายวิญญาณของเราเต็ม เพราะฉะนั้นไม่มีขีดจำกัด ถ้าใครต้องการจะสะสมพระคำพระเจ้าไม่ต้องห่วงครับ พระองค์จะช่วย พระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นผู้ช่วยให้เราจำได้เยอะมาก ขอบคุณพระเยซู
ไม่ต้องห่วงนะครับว่า เอ่อ..มันจำไม่ได้หรอก.. มันเยอะมาก.. อันนี้ไม่ถูก ขอแย้งนะครับ
คือเราสามารถจำได้มากมาย โดยพระคุณพระเจ้า โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เอเมน
เราจำกันได้นะในหนังสือลูกาพระเยซูเติบโตจากเด็กสู่วัยสิบสองปี พระคัมภีร์ตอนนั้นจะบอกว่า พระองค์เต็มล้นด้วยพระวจนะของพระเจ้า พระองค์จำเริญขึ้นในถ้อยคำของพระเจ้า
เพราะฉะนั้นสำหรับชาวยิว โดยเฉพาะฟาริสี ธรรมจารย์ เขาจะท่องจำพระคัมภีร์เดิมได้เต็มได้เยอะมากกว่าใครด้วยการอัศจรรย์ ก็คือสมองของเขาเจริญเติบโตเพราะพระเจ้าเลือกชนชาตินี้
เพราะฉะนั้นเมื่อชนชาติใดที่พระเจ้าเลือก อย่างพวกเรา พระเจ้าเลือกไหมครับ? แน่นอนสมองฝ่ายวิญญาณของพวกเราจะเจริญเติบโต มีความสามารถจดจำได้มาก ไม่ต่างไปจากชาวยิว
เพราะฉะนั้นถ้าใครต้องการที่จะจดจำ หรือท่องจำ หรือสะสมมานา รีบทำเลย ไม่ต้องห่วงความจำคุณจะไม่เต็ม เอเมน
...
และก่อนอื่นเราต้องเข้าใจว่าสมองของมนุษย์ทุกวันนี้ และฝ่ายเนื้อหนัง ฝ่ายอาดัมมันทำงานได้แค่กี่เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็คือมันเป็นต่อมเป็นขี้เลื่อยเป็นน้ำที่ท่วมสมองแล้ว เพราะฉะนั้นมันทำงานไม่ได้เต็มที่มันไม่เต็ม เนื่องจากว่ามนุษย์ถูกสาปแช่งแล้วก็ตกต่ำ
แต่ตอนนี้เราขอบคุณพระเจ้า เมื่อเราเชื่อ สมองฝ่ายวิญญาณ ความจำฝ่ายวิญญาณ คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะให้เราจดจำได้ดีมากๆ ใช่ครับนานๆ ที ที่เราถึงเวลาจะใช้พระคัมภีร์ข้อไหน ใช้ถ้อยคำของพระเจ้าเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องใด พระองค์ก็จะให้พระคำผุดขึ้นมา ก็ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ทำงานในเราอยู่เสมอ
...
ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปิดเผยความจริงให้เราได้รับรู้และเข้าใจ และได้กินจนอิ่ม สำหรับเรื่องพระคริสต์อยู่ในเรา เรื่องการถูกข่มเหง เรื่องโลกจากเกลียดชังเราเมื่อมาเชื่อในพระเยซู เราขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์รักและเมตตาและนำพระคำแห่งความจริงมาเปิดเผยให้พวกเราได้เข้าใจ เพื่อชีวิตของเราจะดีกว่า มีสันติสุขที่มากกว่า มีพลังที่ยิ่งใหญ่กว่า ทุกสิ่งดีกว่าหมด และเปลี่ยนเราจากรูปแนวศาสนามา เป็นเข้าสู่รูปแนวชีวิต สรรเสริญพระเจ้าพระเยซูพวกเรารักพระองค์