ถาม.
อาเมนครับ ขอถามนิดนึงนะครับ เวลาเราทำบาปและเราสารภาพบาปกับพระเจ้า เราต้องขอการชำระจากพระเจ้าทุกครั้ง อันนี้เราควรจะอธิษฐานแบบแนวไหนยังไงอ่ะครับ ขอบคุณครับ
ตอบ.
คือขอให้เข้าใจตรงนี้นะครับ คือเมื่อเราทำบาปปุ๊บ หรือเราทำบาปไปแล้วน่าจะเป็น 2-3 ชั่วโมงผ่านไป ไม่สำคัญนะครับ รีบสารภาพเลย “พระเยซูข้าพระองค์ขอโทษ ข้าพระองค์สำนึกผิด ข้าพระองค์ยอมรับว่าสิ่งที่ข้าพระองค์ทำไป มันเป็นสิ่งที่ผิดบาปต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า ขอยกโทษบาปให้ข้าพระองค์ด้วย” จากนั้นก็ตามมาถ้าสะดวกหรือมีเวลา แต่สิ่งที่สำคัญควรทำ ก็คือ “ขอพระองค์ชำระข้าพระองค์เถิด ให้เลิกทำในสิ่งที่ข้าพระองค์ทำอยู่ เพราะว่าข้าพระองค์ไม่ต้องการที่จะวนไปวนมาก็คือสารภาพแล้วก็กลับไปทำ สารภาพแล้วก็กลับไปทำแล้วก็กลับมาสารภาพอีก ไม่อยากเป็นแบบนี้ พระองค์เห็นใจเมตตาข้าพระองค์เถิด ช่วยข้าพระองค์เถิด ชำระข้าพระองค์ให้เลิกทำในสิ่งที่ข้าพระองค์จะต้องทำนี้เพื่อไม่ต้องกลับมาสารภาพอีก”
นี่คือสิ่งที่ผมทำบ่อยๆ ทำบ่อยมากตอนที่ผมได้รับบทเรียนได้รู้ได้เข้าใจ คือการสารภาพ สิ่งที่ตามมาก็คือขอการชำระเป็นสิ่งที่ต้องทำตาม เอเมน. คือความต้องการของเราใช่ไหม
คือการสารภาพเฉยๆ ไม่มีการขอการชำระของการเปลี่ยนแปลงมันเล็งถึงการที่ว่าเราน่าจะต้องกลับไปทำอีก แล้วก็กลับมาสารภาพอีก วนไปวนมา แต่สำหรับคนที่มีหัวใจที่รักพระเจ้าจริงๆ ก็คือ “พระองค์คือมันเหนื่อยแล้วนะ คือมาสารภาพแล้วก็กลับไปทำ แล้วก็กลับมาสารภาพอีก แล้วก็กลับไปทำอีก คือเบื่อมาก มันเหนื่อยแล้ว แล้วเป็นสิ่งที่ข้าพระองค์รู้ว่าพระองค์ไม่ต้องการ แล้วมันเป็นสิ่งที่รบกวนหัวใจข้าพระองค์อยู่เสมอ พระบิดาขอเถอะ ขอเถอะขอชำระข้าพระองค์เถอะ”
เมื่อเรามีหัวใจในลักษณะที่ร้อนรน ที่มีหัวใจที่ต้องการอยากจะเลิกทำเพื่อไม่ต้องกลับมาสารภาพ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทำพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็นำเราเข้าสู่กระบวนการเพื่อที่จะให้เราได้รับการชำระโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็คือเลิกทำบาปได้ เอเมน
แล้วเราจะเห็นคำตอบของพระเจ้าอยู่ตรงไหน เมื่อท่านสารภาพบาป ถ้าหากท่านสารภาพบาป พระเจ้าผู้ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรมก็จะ 1. ยกโทษบาป และ 2. จะชำระ คำว่า "ชำระ" ก็คือไม่ให้มีความผิดบาปทั้งหลาย แล้วยังไม่พอการชำระยังเล็งถึงการทำให้เราเลิกทำบาปได้ เอเมน
“1 ยอห์น 1:9 ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงสัตย์ซื่อและเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น”
พระองค์ต้องการอยู่แล้ว ต้องการอยู่แล้ว แต่มันขัดกันตรงที่เรามีอิสระเสรีเรามีสิทธิเสรีภาพ freewill ที่จะเลือกขอพระเจ้าเปลี่ยนหรือไม่
แล้วเมื่อเรายืนยันนะครับว่าพระเจ้า “ข้าพระองค์เบื่อมาก เหนื่อยเหลือเกินที่จะต้องกลับมาสารภาพ แล้วก็กลับไปทำอีก” เพราะฉะนั้นเราร้อนใจร้อนรนนะครับที่จะต้องการให้พระเจ้าทำ แล้วเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าอยู่แล้วที่จะทำก็คือยกโทษให้เราแล้วก็ชำระเราลบล้างความผิดทั้งหลาย แล้วยังไม่พอก่อเราขึ้นนำเราเข้ามาอยู่ในกระบวนการการก่อขึ้นเพื่อชีวิตเราจะเลิกทำบาปได้มากขึ้นมากขึ้น สุดท้ายก็กลายเป็นหนุ่ม แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นคริสเตียนระดับพ่อ ก็คือผู้ชนะ
อีกครั้งนะครับขอย้ำสำหรับพี่น้องที่สารภาพแล้วกลับมาทำ สารภาพแล้วกลับมาทำ แสดงว่าเรายังอยู่ในปัญหาอีกมากมายเรื่องการสนิท ยังอยู่ในปัญหาเรื่องการสะสมมานาฯ ที่ได้รู้มากขึ้น ยังอยู่ในปัญหาเรื่องการสารภาพและการขอการชำระ อย่างจริงจังจริงใจซีเรียสกับพระเจ้า
ฝ่ายพระเจ้าทำได้ฝ่ายพระเจ้าทำจริงฝ่ายพระเจ้ามีฤทธิ์เดชที่จะเปลี่ยนเราได้ แต่ฝ่ายเราคือปัญหา พระเจ้ารออยู่นะครับ รอชำระ รอยกโทษ รอเปลี่ยนแปลงหัวใจของเรา รอทำให้เราเป็นเหมือนพระฉายาของพระบุตรก็คือสำแดงชีวิตของพระคริสต์นิสัยของพระองค์เพื่อให้โลกได้เห็นพระองค์ผ่านเรา เอเมน
ถาม.
เอเมนค่ะ เมื่อเราสารภาพบาปเสร็จแล้วเรียบร้อยขอการชำระแล้ว จำเป็นเราต้องบอกทุกครั้งไหมว่า พระบิดาเราเข้ามาหาพระองค์ทางพระโลหิต อะไรแบบนี้ค่ะเอเมนค่ะ
ตอบ.
อยู่ใต้จิตสำนึกของเราในใต้จิตสำนึกของเรา เราคิดถึงการมาหาพระองค์ทางพระโลหิต เราไม่พูดก็ได้ หรืออยากจะให้มันชัดเจนนะครับ คือพูดคำพูดที่พูดออกมามันชัดเจนกว่าความคิดใช่ไหม เพราะฉะนั้นเราจะพูดก็ได้หรือไม่พูดก็ได้ สำนึกในใจเรานะครับว่าตอนนี้เรามาหาพระองค์ทางพระโลหิต
ทุกครั้งที่เรามาร่วมนมัสการกับพี่น้องในพระกาย เรามาทางอะไรครับ (ทางพระโลหิต) หรือว่าก่อนที่จะเข้ามาร่วมกันตั้งแต่เช้าเนี่ยเราจำกันไม่ได้เราไม่นึกถึงการมาทางพระโลหิตเลย
เพราะฉะนั้นการมาทางพระโลหิต หรือการสารภาพ หรือการทำอะไรก็ตาม นมัสการพระเจ้าอธิษฐานอ่านพระคัมภีร์ ทุกสิ่ง เราเข้ามาหาทางพระโลหิตคือสิ่งที่เราจดจำ
พี่น้องทราบไหมการเป็นคริสเตียนการเดินในพระวิญญาณ ไม่มีอะไรยาก ก็คือง่ายมาก ก็คือเพียงแค่จดจำ จดจำว่าพระคริสต์อยู่ในเรา จดจำว่าเราอยู่ในพระคริสต์ จดจำว่าเราเป็นคนใหม่ จดจำว่าทุกครั้งที่เรามาหาพระเจ้าเรามาทางพระโลหิต เอเมน
คือมันมีแค่การนับกับถวายตัวเท่านั้นเอง คือเป็นความคิดและการพูดกับพระเจ้า ส่วนที่เหลือก็คือพระเจ้าจะเป็นคนทำเอง สรรเสริญพระเยซูเอเมน
คือมันเบามากชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง มันเบามากๆ อยากได้อะไรอยากทำอะไรก็เชื่อเอา อยากเป็นคนใหม่ก็เชื่อเอาและจดจำนึกถึงเสมอว่าเราเป็นคนใหม่ อยากเห็นพระเยซูอยู่ในเราก็เชื่อเอา มาทางพระโลหิตก็เชื่อเอาและจดจำอยู่เสมอ ก็แค่นี้เชื่อเอาจดจำ เชื่อเอาจดจำนับ เท่านั้นเอง แล้วที่เหลือจะเป็นสิ่งที่พระเจ้าเป็นคนกระทำ
งานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ทุกวันนี้มีอยู่ท่ามกลางพระกาย และมีอยู่ในเรา เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์มาอยู่กับเรา เป็นผู้ปลอบประโลม เป็นผู้ตักเตือน ติเตือน สั่งสอน นำพาชีวิตของเรา แล้วยังไม่พอพระองค์เป็นคนทำงานนะครับเพื่อที่เราจะเข้าสู่การรับการชำระด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ หน้าที่ของเราก็คือแอกเบาภาระเบากางเขนเบา คืออะไร คือเชื่อเอา คือนับเอา คือจดจำเอา แค่นี้เองเอเมน
เราอยากเลิกทำบาปทุกวันนี้ เราพยายามไหม ไม่ต้องพยายามนะครับ แต่ Trust ก็คือวางใจ ก็คือเชื่อในการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระคริสต์ที่อยู่ในเรา
แล้วคำที่ผมชอบมากในโรมบทที่ 1:17 คริสเตียนดำเนินชีวิตอยู่ในความเชื่อ “เริ่มต้นก็ด้วยความเชื่อและจบลงก็ด้วยความเชื่อ” ตื่นนอนตอนเช้าเชื่อว่าเป็นคนใหม่ ตื่นนอนตอนเช้าเชื่อว่าคนใหม่คนนี้ถวายความรักแด่พระเจ้า ตื่นนอนตอนเช้าเชื่อว่าเรามาทางพระโลหิต ตื่นนอนตอนเช้าเชื่อว่าเราตอนนี้รับสันติสุขในพระคริสต์ในพระวิญญาณบริสุทธิ์รับกำลังมหาศาลจากพระเจ้า เลิกทำบาปได้ไม่ทำอะไรที่เป็นสิ่งที่ไม่พอพระทัยพระเจ้าได้ เชื่อเอานะครับ เชื่อๆๆๆๆ คือเป็นงานที่มันมหัศจรรย์มากเป็นงานที่มีความสุขมากๆ
ถ้าผมรู้นะครับว่าเป็นคริสเตียนแล้วดีแบบนี้ คือขอเป็นตั้งแต่แรก แต่เสียดาย 18 ปีที่เสียเวลาในการเป็นคริสเตียนศาสนาที่แอกหนักภาระหนักการงานหนักทุกสิ่งหนักไปหมดแล้วไม่มีความสุขด้วยจนหลายครั้งอยากจะเลิกเป็นคริสเตียน แต่ตอนนี้สรรเสริญพระเจ้าขอบคุณพระบิดาที่นำเรามาถึงพระคำล้ำลึกของพระองค์ เปิดตาพวกเรา สวรรค์บนดินเป็นของเราแล้วชื่นชมยินดีนะครับเอเมน
ถาม.
เอเมน ชอบมากคือเราเป็นคนพูด พระเจ้าก็เป็นคนทำ ค่ะเอเมนขอบพระคุณพระเยซู
ตอบ.
ถามว่าทำไม เราทำไม่ได้ไงเราทำเองไม่ได้กำลังเราไม่พอ เราเป็นเนื้อหนังที่ตกต่ำถูกสาปแช่งแล้ว เพราะฉะนั้นเราต้องการพึ่งพระเจ้า แล้วที่พึ่งของเราก็คือพระเยซูคริสต์ โรมบทที่ 7 ข้อที่ 25 ขอบคุณพระเจ้า “ทางพระเยซูคริสต์” นี่คือคำพูดของเปาโล ที่หลังจากท่านเหนื่อย ยอมแพ้ต่อการพยายามเลิกทำบาปให้ได้ สุดท้ายคำตอบอยู่ตรงที่โรมบทที่ 7:25 ขอบคุณพระเจ้า “โดยทางพระเยซูคริสต์” เอเมน