โรม 2:13 เปาโลพูดถึงใครกันแน่
ถาม:
โรม 2:13 (เพราะว่าคนที่เพียงแต่ฟังพระราชบัญญัติเท่านั้น หาใช่ผู้ชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้าไม่ แต่คนที่ประพฤติตามพระราชบัญญัติต่างหากเป็นผู้ชอบธรรม)
ตอบ:
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจเป้าหมายของเปาโล ที่เขียนหนังสือโรมสี่บทแรกก่อนครับ
โรมบทที่ 1 จนถึงบทที่ 4 มีสี่เรื่องที่สำคัญด้วยกัน อย่างเช่น…
มนุษย์หลงทางเรื่องพระเจ้า พระ ศาสนา สิ่งที่กราบไหว้ และการทำดีที่ใช้ชีวิตอาดัมทำ แต่ที่แท้มนุษย์ยังหนีไม่พ้นการทำบาปชั่ว
ศาสนาเป็นแค่การแสดงที่ดูดีแค่ภายนอก และคนที่เคร่งก็ใช้มนุษย์อาดัมทำดี พระเจ้าไม่รับ (โรม 1:22–32)
คนที่ไม่รู้จักพระเจ้า จิตสึกนึกดีชั่ว คือเครื่องตัดสินเขาเอง (โรม 2:1–16)
ยิวที่มีพระบัญญัติ จะต้องถูกตัดสินด้วยพระบัญญัติที่เขารักษา (โรม 2:12–28)
เปาโลจึงกล่าวว่า “ถ้ารักษาพระบัญญัติ สอนพระบัญญัติ ต้องทำให้ได้ด้วย ไม่ใช่แค่สอนเท่านั้น” (คือคำตอบของคำถามที่พี่น้องถามมา)
มนุษย์ทั้งสามกลุ่ม (1–3) ต่างก็จะถูกพิพากษา เพราะทำดีอย่างครบถ้วนไม่ได้ และทำด้วยเนื้อหนังความดีจากอาดัม เพราะทุกคนเป็นคนบาป (โรม 3:1–20)
ทางออกของมนุษย์มีทางเดียว เราจะกลายเป็นคนชอบธรรมได้ คือโดยทางความเชื่อ (ในพระเยซูคริสต์ พระเจ้าจะยอมรับ และนับเราว่าเป็นคนชอบธรรมได้) (โรม 3:21–31)
เปาโลสรุปข้อที่สี่ และข้อนี้คือคำตอบ และทางออกของคนต่างชาติที่ไม่ศาสนาเลย และคนนับถือศาสนาต่างๆ ทั้งยิวที่รักษาพระบัญญัติ
เพราะฉะนั้น การทำดี เคร่งศาสนา และรักษาพระบัญญัติ จะไม่มีทางรอดได้ เพราะว่าพระเยซูเป็นทางเดียว ที่จะนำเราไปถึงพระบิดาได้
สรุป
ชาวโลกไม่รอดด้วยการเคร่งศาสนา
ยิวไม่รอดได้ด้วยการรักษาพระบัญญัติ
ทุกคนในโลกเป็นคนบาป จะทำดีมากมาย เคร่งศาสนาแค่ไหน ก็ไม่ดีพอสำหรับพระเจ้า
ทางเดียวเท่านั้นที่ช่วยมนุษย์ให้รอดได้ คือพระเยซู นี่คือหลักการแห่งความรอดในวันสุดท้ายในยุคพระคุณนี้
โรม 4:22 ด้วยเหตุนี้เอง พระเจ้าทรงถือว่า ความเชื่อของท่านเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน
23 แต่คำว่า ‘ทรงนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่ท่าน’ นั้น มิได้เขียนไว้สำหรับท่านแต่ผู้เดียว
24 แต่สำหรับพวกเราด้วย จะทรงถือว่าเราเป็นคนชอบธรรม คือเราที่เชื่อวางใจในพระองค์ ผู้ทรงให้พระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเราฟื้นขึ้นจากความตาย
25 คือพระองค์ผู้ทรงถูกมอบไว้เพราะการละเมิดของเรา และได้ทรงฟื้นขึ้นจากความตายเพื่อให้เราเป็นคนชอบธรรม