รู้มาก ก็ทำบาปน้อยลง

...

พระเจ้าให้บางคนรู้อย่างมากมายเหลือล้น รู้อย่างครบถ้วน รู้เกือบทั้งหมดเลย

...

ถาม.

ผู้เชื่อทั้งหลายจำเป็นไหมคะ ที่จะต้องรู้พระคัมภีร์ทุกข้อทุกตอน เอเมนคะ

ตอบ.

จริงๆ แล้ว ก็คือพระเจ้าให้บางคนรู้อย่างมากมายเหลือล้น รู้อย่างครบถ้วน รู้เกือบทั้งหมดเลย พระเจ้าอนุญาตให้บางคนที่หิวกระหาย ที่ร้อนรน ที่แสวงหา ที่ค้นหา คือใจมันอยากรู้ อยากรู้ อยากกิน อยากรับ อยากเห็นไปหมดทั้งหมด เพราะว่าเราเป็นคนที่กระตือรือร้นมาก มีความร้อนรนมากพระเจ้าก็ให้

แต่บางคนพระเจ้าให้เล็กๆ น้อยๆ พอที่จะเข้าสู่ชีวิตแห่งอาณาจักรได้ เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่เข้าไปในอาณาจักรโดยที่ไม่มีตำแหน่ง และให้เขามีสันติสุขในโลกนี้ ให้เขาหลุดพ้นจากความกลัว ว่าจะไม่รอด กลัวพระเจ้า กลัวพระเจ้าจะตีสอนพระเจ้าจะลงโทษอะไรทั้งหลาย

เพราะฉะนั้น ความรู้ พระเจ้าให้บางคนได้รู้มากมาย 

บางคนพระเจ้าอนุญาตให้ได้ "รู้" เท่าที่เขารู้ได้ ก็คือเล็กน้อย

ถามว่าจำเป็นไหม จำเป็นพระเจ้าอยากให้เขารู้ แต่เชื่อผมเถอะครับไม่มีใครที่จะมาถึงความรู้ที่ครบทุกคน

พี่น้องที่รับมานาก็ยังรับได้บางคนก็ส่วนหนึ่ง บางคนก็สองส่วน สามส่วน บางคนก็รับสี่-ห้าส่วน บางคนก็รับครบสิบก็มี

เพราะฉะนั้นคนที่ได้รับครบสิบ เราเห็นเปาโลใช่ไหมเป็นคนหนึ่ง แล้วก็อีกหลายๆ คนเราจะรู้นะครับ 

และบางคนก็รับได้ความเข้าใจมาถึงระดับหนึ่ง ก็หยุด

แล้วยังมีอีกบางคนนะที่รับมานา ได้รับสันติสุข ได้เห็นความรู้ การเปิดตาจากพระเจ้า ตื่นเต้นมากดีใจมาก เอาแค่นั้นก็พอ จากนั้นไม่นานก็สะดุด สะดุดล้ม อาจจะสะดุดล้มมนุษย์ด้วยกัน พี่น้องมานาด้วยกัน หรืออาจารย์ หรือผู้นำ ก็ล้มก็ถอย ถอยออกไปก็มี

เพราะฉะนั้นขอพระเจ้านะครับ ขอพระเจ้าให้เราได้เป็นคนที่กระตือรือร้น

"พระบิดาช่วยข้าพระองค์ให้รู้ครบ เพื่อข้าพระองค์จะมีส่วนกับพระองค์ อยู่ใกล้พระองค์ที่สุดในอาณาจักร และในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ พระองค์ไปไหนข้าพระองค์ก็ไปด้วย พระองค์อยู่ไหนข้าพระองค์ก็อยู่ด้วย เป็นคนที่ใกล้ชิด เป็นคนที่สนิทกันมากๆ"

ขอพระเจ้าสิครับ ขอพระเจ้าชำระเรา ให้เป็นคนที่ได้รู้ครบ รู้หมด รู้ชัดเจน ทะลุปรุโปร่ง หรือทะลุพระคำพระเจ้าให้เห็นพระคัมภีร์ทั้งหมดได้ ยิ่งเข้าสู่การเปิดตาที่ครบถ้วนบริบูรณ์ ก็คือเป็นคนที่ทำทุกสิ่งได้ง่ายมาก

รู้มาก ก็ทำบาปน้อยลง

รู้มาก สันติสุขก็มีมากขึ้น ความทุกข์ก็น้อยลง

รู้มาก ความกังวลก็มีน้อยลง อาการปล่อยวางก็มีมาก

เห็นไหมครับ นี่คือผลของการได้ "รู้" มาก รู้มานาที่ซ่อนไว้อย่างมากมาย ก็เป็นอิสระได้อย่างมากมาย เป็นผู้ชนะได้อย่างครบถ้วน

ถามว่าจำเป็นไหมกับคำถามหลังจากที่ผมอธิบายมามากมายแล้วนะครับ ตอบคำถามก็คือ จำเป็นครับ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะเข้าสู่การได้ "รู้" ทั้งหมด หรือ "รู้" มากมาย

และวิธี วิธีแก้ เราไม่รู้ว่าพระเจ้าเลือกใครให้ได้รับมานาที่ซ่อนไว้ ได้รับการเปิดตาอย่างมากมาย ก็คือขอพระเจ้า ขอพระเจ้า

"ให้ข้าพระองค์เป็นคนนั้นที่พระองค์จะเปิดตาให้อย่างครบบริบูรณ์ ให้ข้าพระองค์ได้รับการเปิดตามีอิสระอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ ให้เป็นชีวิตผู้ชนะที่อยู่ในโลกนี้ ทุกสิ่งเบา สบาย ปล่อยวางได้หมด อะไรมาใจข้าก็ดี สู้ได้ทั้งนั้น ทั้งวัน ขอบคุณพระเยซู"

ถ้าหากเราได้รับการเปิดตามาก เราก็ทำบาปน้อยลง ก็ทำดีมากขึ้น รับการเปิดตามาก สันติสุขก็มีมาก ความทุกข์ก็มีน้อยลง

- เราจะทำบาปมาก ถ้าหากตาของเราถูกเปิดน้อย

- เราจะทำบาปน้อย ถ้าหากตาเราถูกเปิดมาก

- เราจะมีสันติสุขไม่นาน ถ้าหากตาของเราถูกเปิดน้อย

- เราจะมีสันติสุขทั้งวันทุกวัน ถ้าหากตาเราถูกเปิดมาก

- เราจะกระวนกระวายน้อย ถ้าหากตาของเราถูกเปิดมาก

- เราจะกระวนกระวายมาก ถ้าหากตาเราถูกเปิดน้อย

ทุกสิ่งมันอยู่ที่การเปิดตา ทุกสิ่งมันเป็นเรื่องของตา ตาของเราเป็นประทีปของร่างกาย (มธ 6:22-23) พระเยซูพูดเอง มันเป็นเรื่องของตา เรื่องชีวิตคริสเตียนมันเป็นเรื่องของตา 

ตาสว่างมากเท่าไหร่ ก็เห็นครบมากเท่านั้น ก็อยู่ในความปลอดภัย อยู่ในพระเจ้า เป็นอิสระมากเท่านั้น สรรเสริญพระเยซู

ตาเป็นเรื่องสำคัญนะครับ ถ้าเรื่องไม่สำคัญพระเยซูจะไม่สอน ไม่มีคำสอนเรื่อง ตาเป็นความสว่างของชีวิต ตาเป็นประทีปของร่างกาย

อ่านเพิ่มเติม:

• มันเป็นเรื่องของ " ตา " 

• การเปลี่ยนความคิดเพื่อรับจิตใจใหม่