ถาม.
โยบเกิดก่อนยุคพระบัญญัติ หรือเกิดในยุคพระบัญญัติ เอเมนค่ะ
ตอบ.
โยบเกิดก่อนยุคพระบัญญัตินะครับ โยบมาก่อนโมเสส
...
ถาม.
เเล้วโยบอ่านพระคัมภีรเล่มไหนครับ
ตอบ.
สมัยที่โยบมีชีวิตอยู่ ยังไม่มีพระคัมภีร์เดิมนะครับ
โมเสสและผู้ปกครองอิสราเอลเป็นผู้เขียนและเรียบเรียงหนังสือห้าเล่มแรกในพระคัมภีร์เดิมขณะที่เดินทางอยู่
...
ถาม.
โยบอยู่ก่อนพระบัญญัติ โยบยังไม่มีพระบัญญัติ แต่ว่าเดินกับพระเจ้า แล้วการที่เขาติดต่อสื่อสารกับพระเจ้า ติดต่อยังไงครับอาจารย์ อย่างเช่นเราคือใช้ความเชื่อแล้วก็มีพระคำพระเจ้าแล้วก็เชื่อตามความจริงพระคำพระเจ้า แล้วก็พระวิญญาณก็จะชำระเรา ให้เราเข้าใจความจริงของพระเจ้า
สำหรับโยบ แล้วก็อับราฮัม หรือว่าคนที่อยู่ก่อนยุคพระบัญญัติ เขาจะเดินกับพระเจ้าแล้วก็ติดต่อสื่อสารกับพระเจ้ายังไงครับ
ตอบ.
สำหรับยุคเดิมนะครับ สมัยนั้นพระเจ้าเรียกว่ายุคบาป พระคัมภีร์เรียกว่ายุคบาป ซึ่งมีผู้เชื่อหลายคนที่เชื่อพระเจ้าเชื่อในพระเจ้าแล้วก็เดินไปกับพระเจ้า ขอใช้คำว่า เดินไปกับพระเจ้า นะครับ โนอาห์ อับราฮัม แล้วก็โยบ โยเซฟ อาดัม ลูกหลานทั้งหลายสมัยที่ยังไม่มาถึงยุคของโมเสสและพระบัญญัติ พวกเขาเหล่านั้นมีความเชื่อในพระเจ้าศรัทธาในพระเจ้าและถวายเครื่องบูชาแด่พระเจ้าและยำเกรงพระเจ้าและเดินไปกับพระเจ้า
คำว่า เดินไปกับพระเจ้า ก็คือเชื่อในพระองค์ และเคารพนับถือบูชากราบไหว้พระองค์ และพยายามทำดีนะครับ เป็นคนชอบธรรมช่วยเหลือคนยากจน ทำดี เขาอธิษฐานยังไง? ก็อธิษฐานก็พูดกับพระเจ้านะครับ ก็คือสาธุการแด่พระเยโฮวาห์ ข้าพระองค์ขอพระองค์อวยพรชีวิตในวันนี้ ขอพระองค์นำพา คือเหมือนกับคนที่นับถือศาสนาทั่วๆ ไป
และจะมีบางครั้งและบางคนใช่ไหมที่พระเจ้ามาตรัสมาพูดมาเยี่ยม เราพบว่าพระเจ้ามาเยี่ยมอับราฮัมหลายครั้ง แล้วก็ตรัสกับอับราฮัมหลายครั้ง ทั้งโยบด้วย การทดลองเกิดขึ้นก็คือโยบมาถึงชีวิตที่ไม่เหลืออะไรเลย พระเจ้าเป็นคนอนุญาตและพระเจ้าเป็นคนตรัสกับเขา
...
ถาม.
ก็คือ มีสัตวบูชาตั้งแต่ก่อนพระบัญญัติมาแล้ว แล้วก็ตอนหลังพระบัญญัติก็นำเข้ามาในบทบัญญัติ เพื่อที่ชนชาติอิสราเอลถวายเครื่องสัตวบูชา หรือว่าเป็นเครื่องลบล้างบาปใช่ไหมครับ
ตอบ.
สมัยก่อนนะครับไม่มีการถวายเครื่องบูชาไถ่บาปนะครับ (ยุคบาป) เนื่องจากว่าก็คือมนุษย์อยู่ภายใต้ความบาป แต่คนที่เชื่อพระเจ้าและเดินไปกับพระเจ้าใช้ชีวิตที่ทำดีเท่าที่จะทำได้ สำหรับพระเจ้าพระเจ้ายอมรับและให้เขาได้รอด
เพราะฉะนั้นอับราฮัมก็ดี โยบก็ดี ใครก็ตามที่อยู่ในยุคบาป ถ้าเชื่อในพระเจ้ากราบไหว้พระเจ้ายกย่องพระเจ้านับถือพระเจ้าเป็นพระเจ้าของเขาและเดินไปกับพระเจ้าในแต่ละวัน ก็คือพยายามทำดีเป็นคนดีให้ได้เท่าที่จะทำได้ ซึ่งเขาได้ก็มีส่วนในการเป็นบุตรของพระเจ้าและมีโอกาสได้รอดครับ
อย่าลืมนะครับว่าสมัยก่อน (ยุคบาป) ก่อนที่จะมีพระบัญญัติ อับราฮัมโกหกหลายครั้ง อับราฮัมทำบาปหลายครั้ง และบุตรพระเจ้าหลายคนคนที่เชื่อพระเจ้าทำบาปหลายคนหลายครั้งเราเห็นนะครับ แต่พระเจ้าก็ยอมรับ พระเจ้าไม่ได้ถือสาเขา เนื่องจากว่าเขาเดินไปกับพระเจ้าเชื่อพระเจ้าเท่านั้นก็ได้นะครับ ซึ่งเป็นยุคบาป
คือเมื่ออาดัม เอวา มีลูกชาย 2 คน คาอิน อาเบล คาอินฆ่าอาเบล แล้วหลังจากนั้นก็มีลูกชายอีกคนหนึ่งที่มาแทนที่ของอาเบล ก็คือเสท หลังจากนั้นเสทก็มีลูกหลานเต็มบ้านเต็มเมือง จะมีหลายคนนะครับลูกหลานหลายคนที่รับความรู้ความเชื่อการติดตามพระเจ้าของเสท และหลายคนก็ตัดสินใจเลือกทางที่จะดำเนินชีวิตต่อไปแยกย้ายกันไปเดินทางนี้ไปไกล ไปทั่วทุกทิศทุกแห่งทุกคน หลายคนก็ไม่มีพระเจ้าไม่เชื่อพระเจ้า แต่มีลูกหลานบางคนที่เชื่อศรัทธาเดินไปกับพระเจ้า จนมาถึงโนอาห์และอีกหลายคน
จากนั้นเราพบว่าน้ำท่วมสมัยโนอาห์ แล้วโนอาห์ก็เป็นครอบครัวที่เชื่อพระเจ้า และทุกคนที่ไม่เชื่อนะครับก็ไม่รอด เราขอบคุณพระเจ้าลูกหลานโนอาห์ก็เกิดขึ้นมากมายเต็มโลก แล้วก็มีหลายคนที่ติดตามเชื่อและเดินไปกับพระเจ้า ซึ่งในยุคบาปนี้นะครับไม่มีการถวายเครื่องบูชาไถ่บาป ไม่มีพระคัมภีร์พูดถึงนะครับ แต่เขาฆ่าสัตว์ ฆ่าสัตว์เพื่อถวายเพื่อเผาบูชาแด่พระเจ้า แต่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าพอพระทัยคนที่อยู่ในยุคบาปสมัยนั้นพูดรวมๆ นะครับ ก็คือเขาเชื่อในพระเจ้าเขาเดินไปกับพระเจ้าพยายามเป็นคนดีนะครับ
แต่พอมาถึงยุคพระคุณ เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เราไม่ต้องพยายามเป็นคนดีเพื่อที่จะกลายเป็นคนชอบธรรม และไม่ต้องรักษาพระบัญญัติเหมือนชาวยิว (ยุคพระบัญญัติ) เพื่อที่จะได้กลายเป็นคนชอบธรรม เราชอบธรรมโดยทางความเชื่อ พระเยซูนำพระพรของพระเจ้าจากอับราฮัม นำพระพร การได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยที่ไม่ต้องรักษาพระบัญญัติโมเสส ทุกสิ่งสำเร็จแล้วในพระเยซู เรารับความรอด รับฐานะ สถานะ คนชอบธรรม คนที่บริสุทธิ์ที่สุด ชอบธรรมที่สุด เท่ากับยิวที่เคร่งศาสนาคนหนึ่ง โดยการมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ เชื่อในพระคริสต์ วางใจในพระคริสต์ และเดินไปกับพระคริสต์ เอเมน
...
ถาม.
เมื่อได้ถูกเปิดตามากขึ้นเราจะเห็นคุณค่าของการอยู่ใต้พระคุณอย่างมากมาย แต่ว่าก่อนที่เราจะได้ถูกเปิดตาก็เหมือนกับชาวยิวที่เดินเร่ร่อนอยู่ในถิ่นทุรกันดาร 40 ปี แต่เมื่อเราได้ถูกเปิดตา เหมือนเราได้เข้าในแผ่นดินที่มีน้ำนมน้ำผึ้งคืออยู่ในแผ่นดินคานาอันแล้ว เราขอบพระคุณพระเจ้าวันนี้เราได้มองเห็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์แล้ว เอเมน
ตอบ.
สำหรับพระคัมภีร์ใหม่นะครับถ้าจะเอ่ยถึง หรือพูดถึงคำว่า พระคุณ grace พระคุณ มีประมาณ 128 ครั้ง แต่พี่น้องทราบไหมครับว่า อยู่ในคำว่า พระคุณ 128 ครั้งนั้น พระคุณของพระเจ้าแม้แต่คำเดียวมันก็ล้นเหลือสำหรับพวกเราแล้ว
“พระคุณ” ก็คือการกระทำของคนหนึ่ง ทำแทนคนหนึ่ง ทำให้คนหนึ่ง ให้คนหนึ่งได้รับผลประโยชน์จากคนที่เป็นคนทำ รักคนที่ไม่ได้ทำเป็นคนได้รับ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นสิ่งที่อัศจรรย์เป็นสิ่งที่เป็นบุญคุณอันล้นเหลือของพระเยซูที่พระองค์มาเพื่อทำให้เราโดยที่เราไม่สมควร ไม่สมควร ไม่เหมาะที่จะได้รับมัน แต่ปรากฏว่าเมื่อเราได้รับทุกสิ่ง โดยความรักโดยพระคุณของพระเยซู สรรเสริญพระเจ้า
และสำหรับการใช้ชีวิตที่อยู่ในรูปแนวศาสนาหลายปีของพวกเรา ถ้าหากเราไม่พบพระคุณจริงๆ เราจะไม่เห็นคุณค่าของความรักของพระเยซู และสำหรับการข่มเหงที่เกิดขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้น ภายนอกคริสตจักรและภายในคริสตจักร ก็ทำให้เราได้รู้ว่า พระเยซูจริงๆ แล้วเป็นผู้ช่วยเราคนเดียว ที่ทำให้ทุกสิ่งผ่านไปได้ให้เราผ่านทุกสิ่งไปได้ นี่คือ "พระคุณ"
อ่านต่อ: อยู่ใต้พระบัญญัติหรืออยู่ใต้พระคุณ