1. คำสอนเรื่อง เชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตจะราบรื่น ดีไปทุกอย่าง
2. ยุคนี้ทำนา ยุคหน้าเข้าอาณาจักร
3. ปัญหาที่มาจากการตีสอนก็ดี การทดลองก็ดี การถวายเกียรติก็ดี
- ไม่หนักเกินที่เราจะทนได้
- ไม่นานเกินไป
- พระเจ้าอยู่กับเราและปลอบประโลมเรา
4. ยุคนี้ ชีวิตชั่วคราว เป็นแค่เงา ยุคหน้าชีวิตนิรันดร์
พวกเรามาร่วมกันเพื่อถวายความรักที่บริสุทธิ์แด่พระบิดา และพวกเรานำชีวิตใหม่มาถวายเป็นเครื่องบูชาแด่พระบิดา เพื่อให้เป็นเครื่องใช้เป็นอวัยวะของความชอบธรรม ก็คือให้พระคริสต์เป็นผู้สำแดงชีวิตแทนพวกเรา เพื่อถวายเกียรติแด่พระบิดาทั้งวันเอเมน
เราวางทุกสิ่งไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซู สำหรับเราอยู่เพื่อสนิท สร้างความผูกพันที่ดีกับพระองค์ จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน เมื่อเราแสวงหา 2 สิ่งนี้ ก็คือให้ได้พบอาณาจักร และให้พระคริสต์ทำแทน เพื่อที่จะเข้าในอาณาจักร
หลังจากนั้นพระเยซูสัญญาว่าพระองค์จะประทานทุกสิ่ง จะประทานเสื้อผ้า อาหาร เพื่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของเรา ไม่ต้องห่วงไม่ต้องห่วงเรื่องนี้ ไม่ต้องกระวนกระวาย พระเยซูตรัสบอกพวกเรา 3 ครั้ง อย่ากระวนกระวาย อย่ากระวนกระวาย ไม่ต้องกระวนกระวาย สบายใจได้ ขอแค่แสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน
วันนี้เราพบอาณาจักรแล้ว และตอนนี้เราแสวงหาความชอบธรรม ก็คือให้พระเยซูเป็นคนดำเนินชีวิตแทนเราในแต่ละวันมากขึ้นมากขึ้นทุกๆ วัน เราจะไม่มีปัญหาเรื่องการกินดื่ม ไปมา กินอยู่ เป็นอยู่ยังไง พระเจ้าจัดเตรียมทั้งหมด พระเยซูเป็นผู้เลี้ยงที่ดีพระองค์ไม่ทิ้งให้เรายากจนขัดสน (มธ 6:25-34)
ทีนี้มาถึงเราพบว่ามีคำสอนที่ฮิตมากในท่ามกลางคริสตจักรมากมาย ซึ่งเขาไม่เข้าใจ คำสอนเกี่ยวกับเรื่องเชื่อพระเจ้าแล้วชีวิตจะราบรื่น ดีไปทุกอย่าง ก็คือสุขภาพดี ครอบครัวดี การงานดี การเงินดี อะไรก็ดีไปหมด จริงๆ แล้วคำสอนนี้ไม่มีในพระคัมภีร์นะครับ ซึ่งจะมีก็มีอยู่ในพระคัมภีร์เดิมยุคพระบัญญัติ ชาวยิวอยากได้รับพระพรจากพระเจ้าเนี่ยก็คือต้องรักษาพระบัญญัติให้ครบ
ทีนี้สำหรับเราที่เป็นคริสเตียน พระเจ้าเปลี่ยนยุคนี้ให้เป็นยุคทำนา ไม่ใช่ยุคที่จะต้องสบาย ไม่ใช่ยุคที่จะต้องเฉลิมฉลองร่วมกับพระเยซูเป็นเวลาพันปีหรือชั่วนิรันดร์ เราจึงเป็นชาวนาสำหรับพระเจ้า เราเป็นคนต้นเรือน เราเป็นชาวสวน สวนองุ่น เราเป็นพนักงานของพระเยซู เป็นคนงานของพระเจ้า เราอยู่เพื่อรับใช้พระองค์ และเราสร้างความผูกพันที่ดีให้กับพระองค์ ระหว่างเรากับพระเจ้าบอกรักพระองค์สนิทในพระองค์ทุกๆ วัน ไม่ต้องห่วง ชีวิตของเราจะอยู่ในการดูแลของพระเจ้าเอง
แต่อย่าลืมว่าเมื่อเราทำบาปการตีสอนก็มาและเมื่อเราสารภาพเราเสียใจการตีสอนก็เบา เอเมน
และจะมีบางครั้งที่พระเจ้าทดลองทดสอบความเชื่อของเรา ว่าเราจะซื่อสัตย์ในพระเจ้าหรือไม่ เราจะทิ้งพระเจ้าหรือไม่ เมื่อพระองค์นำสิ่งที่เราไม่อยากได้รับมันมา สิ่งที่เป็นด้านลบ ปัญหา มรสุมชีวิตต่างๆ เพื่อจะดูว่าเราจะซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าไหมวางใจในพระเจ้าไหมจะทิ้งพระเจ้าไหม และสิ่งที่ซ่อนอยู่ที่มากับปัญหาต่างๆ ก็คือพระพร ถ้าหากเราผ่านมันได้เราอดทนได้ เราสรรเสริญขอบพระคุณพระเจ้าแทนที่จะบ่นว่าสาปแช่งหรือโทษคนนู้นคนนี้หรือโทษพระเจ้า ถ้าหากเราผ่านมันได้พระพรก็จะมีเต็มในเรา
แต่อย่าลืมนะครับบางครั้งก็อาจจะเจอปัญหาบ้าง มรสุมชีวิตเข้ามาบ้างเป็นระยะๆ เพื่อช่วยก่อเราขึ้นสู่ความเข้มแข็งในพระคริสต์ เพื่อให้เราเป็นผู้ชนะ “ต้นไม้ต้องการแสงแดดฉันใด เราเองก็ต้องการปัญหาฉันนั้น” ซึ่งใช่ครับแสงแดดมันร้อน ปัญหาก็เราไม่มีใครชอบไม่มีใครอยากได้อยากเจอ แต่จำเป็นนะครับ และเมื่อมันเข้ามา สิ่งที่เราจะทำก็คือ “เอเมนขอบคุณพระเยซู” คำนี้ศักดิ์สิทธิ์มาก มันเป็นคำที่แก้ปัญหาได้ทุกอย่าง มันเป็นคำที่ทำให้ปัญหาหนักกลายเป็นเบา ยากกลายเป็นง่าย ร้ายกลายเป็นดีได้ คำเดียวนะครับ “เอเมนขอบคุณพระเยซู”
ซึ่งคำนี้เปาโลเปิดเผยความลับนี้ ท่านเขียนเอาไว้โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ วิธีแก้ปัญหา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาหลักปัญหาเบาปัญหาอะไรก็แล้วแต่ เมื่อมันเกิดขึ้นเราอาจจะยิ้มไม่ได้ แต่เราพูดคำนี้ได้ก็คือ
“เอเมนขอบคุณพระเยซู ถ้าพระองค์จะให้มันผ่านไปเร็วๆ ก็เอเมน ถ้าพระองค์จะให้มันอยู่ถึงกำหนดเวลาก็เอเมน แต่ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์อยู่กับข้าพระองค์ ขอบพระคุณพระเจ้าที่ข้าพระองค์รู้แล้วว่ามันไม่ยากเกินไปที่ข้าพระองค์จะทำได้จะทนได้ ไม่หนักเกินไปที่ข้าพระองค์จะทนได้ และไม่นานเกินไป และขอบพระคุณพระเจ้าโดยเฉพาะมีพระเยซูที่อยู่เคียงข้างข้าพระองค์เป็นผู้ปลอบประโลมข้าพระองค์อยู่เสมอ ไม่ได้ทิ้งทอดทิ้งข้าพระองค์ไปไหน เอเมน”
อีกครั้งเราเมื่อแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าแล้ว เราพบแล้ว และเมื่อเราตอนนี้กำลังแสวงหาความชอบธรรมของพระเยซูให้พระคริสต์ทำแทนในแต่ละวัน เราฝึกเดินอยู่จะมีปัญหาเข้ามาเป็นระยะๆ สิ่งที่เราทำก็คือ “เอเมนขอบพระคุณพระเยซู ขอบพระคุณพระบิดา” แค่นี้ครับทุกสิ่งจะดีขึ้น
สำหรับผม 30 กว่าปีที่เป็นคริสเตียน ขอบคุณพระเยซูสำหรับปัญหา ซึ่งมันทำให้ผมเห็นว่าชีวิตถ้าขาดพระเจ้า ปราศจากพระเจ้าถ้าอยู่ห่างไกลพระเจ้า เป็นชีวิตที่น่าเบื่อมากเป็นชีวิตที่ไม่น่าอยู่เป็นชีวิตที่ไม่มีความหมายไม่มีความหวัง ขอบคุณพระเยซูสำหรับปัญหา ทำให้ได้รู้ว่าเราต้องพึ่งพระเจ้า เราต้องมีพระเจ้า เราต้องอยู่ใกล้พระเจ้า นี่คือบทเรียนที่ผมได้รับ แล้วผมอยากหนุนใจพวกเราเมื่อปัญหาเข้ามานะครับ เราขอบคุณพระเยซูเพื่อเราจะคำนึงสำนึกได้ว่าคนที่เราต้องการจริงๆ ไม่ใช่ใครอื่น ก็คือ “พระเยซู”
และอย่าลืมว่ายุคนี้เปลี่ยนไปแล้ว ยุคพระคุณพระเจ้าเรียกว่ายุคแห่งการทำนา ก็คือรับใช้พระเจ้า เราอาจจะทำมาหากินทำมาค้าขายทำงานทำธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ ทำ แต่ให้พระเยซูเป็นคนดูแลให้พระเยซูเป็นคนทำแทน และอย่าลืมการรับใช้ การรับใช้พระเจ้าอาจจะประกาศบ้าง อาจจะอยู่ร่วมกับพี่น้องในกลุ่มพวกเราบ้าง หรืออาจจะรับใช้พระเจ้าไม่ว่าจะเป็นงานไหนที่พระเจ้าให้ของประทานแก่เรา เราใช้ของประทานให้เป็นประโยชน์ เพื่อเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมาพระองค์จะไม่มามือเปล่า ก็คือจะถือบำเหน็จถือมงกุฎมาสวมที่ศีรษะของเรา เอเมน
สรุปก็คือยุคนี้ ชีวิต เป็นชีวิตที่ชั่วคราว ทุกสิ่งเป็นแค่เงา ไม่นานมันก็จะจบ ไม่นานมันก็จะจางหายไปจืดจางหายไป แต่ยุคหน้ายุคพันปีและฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ คือยุคแห่งชั่วนิรันดร์กาล
เราขอบพระคุณพระเยซูที่เรามีความหวัง เราขอบพระคุณพระเยซูที่เราเชื่อ เราขอบพระคุณพระเยซูที่เรามีประสบการณ์ชีวิตในพระคริสต์ เราจึงไม่ใช่การเชื่อโดยเชื่อแบบงมงาย หรือเชื่อในสิ่งที่มนุษย์เห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่มีความหมายอะไร แต่เราเชื่อเพราะว่าเราได้มีประสบการณ์ในพระคริสต์เราจึงมายืนที่จุดนี้ได้ และขอบพระคุณพระเยซูเราจะก้าวต่อไปแล้วเราจะอธิษฐานเผื่อกันและกันเราจะสู้ไปด้วยกัน เอเมน
ถ้าหากคริสเตียนรู้ตั้งแต่แรกใช่ไหมว่าสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ลูกๆ ของพระองค์ แทนที่จะบ่นว่า แต่ขอบพระคุณ บอกรัก สนิท วางใจ นิ่งสงบ พระเจ้าก็แก้ไขพระเจ้าก็ช่วย
แต่ทุกวันนี้คริสเตียนส่วนมากจะบ่นต่อว่าพระเจ้า วางใจในสติปัญญาความสามารถของตน รีบหาทางแก้ไขปัญหาไม่ยอมรับปัญหาที่เข้ามา รับไม่ได้ สุดท้ายก็เลิกเดินในความเชื่อ เลิกรับใช้ หนี
แต่วิธีที่ดีที่สุดเปาโลกล่าวโดยพระวิญญาณ เราขอบพระคุณในทุกกรณี และสรรเสริญพระเจ้าในทุกกรณี เราชื่นชมยินดีเพราะว่าเรารู้ว่าพระเจ้าเป็นผู้เลี้ยงที่ดีของเราแล้ว เราจะกลัวทำไม (1 เธสะโลนิกา 5:18)
เพราะฉะนั้นเมื่อพี่น้องพบเจอกับปัญหา อย่าวิตกอย่ากังวลอย่ากระวนกระวาย แต่จงแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าและความชอบธรรมของพระองค์ก่อน ก็คือการอยู่ใกล้ อยู่ในพระคริสต์ การอยู่กับพระเจ้า สนิทใพระองค์ บอกรักสร้างความผูกพันที่ดีกับพระองค์ในแต่ละวัน เอเมน
ในช่วงแรกๆ ที่อธิบายเกี่ยวกับเรื่องชาวยิวที่เคร่งศาสนาประมาณ 12 คนที่เข้าพิธีร่วมกันเข้าพิธีสาบานเพื่อที่จะถูกสาปแช่ง ถ้าหากเปาโลไม่ถูกฆ่าตาย เขากล้านะครับเขามั่นใจขนาดว่ายอมถูกสาปแช่ง และพิธีนี้นะครับเป็นพิธีที่พระเจ้าไม่เกี่ยวไม่เกี่ยวข้องไม่ข้องเกี่ยวอะไร พระเจ้าไม่เกี่ยวนะครับบอกตรงๆ ก็คือซาตานจะเป็นคนเข้ามาและทำการสาปแช่งทำการทำร้ายทำลาย ไม่ใช่เปาโลก็จะเป็นพวกเขาเอง ซึ่งพวกเขาก็คือมั่นใจมากว่าเปาโลสอนผิด
ทุกวันนี้ชาวยิวไม่ยอมรับพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู ชาวยิวไม่เชื่อพระเยซูมีเยอะมาก ขอบคุณพระเจ้าสำหรับชาวยิวที่ต้อนรับพระเยซูแล้วก็เป็นคริสเตียน แล้วทุกวันนี้คริสเตียนศาสนาเองก็มีปัญหาไม่ต่างไปจากยิวเคร่งศาสนา 12 คนนี้ที่เข้าสู่พิธีการเพื่อการสาปแช่ง ต้องการคนใดคนหนึ่งตาย ถ้าคุณไม่ตายผมก็ขอตายดีกว่า ก็คือพี่น้องคริสเตียนที่อยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง คริสเตียนศาสนาหรือศาสนาคริสต์
บางครั้งนะครับอาจจะอยากทำร้ายทำลายคนอื่นที่เราคิดว่าเขาสอนผิด โดยใช้รัฐบาล โดยใช้อำนาจ โดยใช้ผู้ปกครองทางฝ่ายบ้านเมืองเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อทำร้ายทำลายอีกฝ่ายนึง เขามั่นใจมากว่าเขาถูก คือในโลกนี้เนี่ยคนเราส่วนมากจะเห็นแก่ตัวมาก โดยเฉพาะเราพบเยอะในท่ามกลางพี่น้องคริสเตียนด้วยกัน ผมก็เห็นแก่ตัว คุณก็เห็นแก่ตัว ใครก็บอกว่าเขาสอนถูก ผมก็บอกว่าผมสอนถูก คุณก็บอกว่าคุณสอนถูก ทั้งๆ ที่ไม่แน่ใจ 100%
แล้วถามว่าพวกเราล่ะ พี่น้องมานาฯ พวกเรารับประกันได้ยังไงว่าผมสอนถูก แล้วพวกเราเรียนรู้มาถูก รับประกันได้ครับ เพราะว่าเราแต่ละคนผ่านชีวิตที่เคยอยู่ในพวกเขาที่มั่นใจว่าสอนถูกแต่สุดท้ายเรารู้ดีว่าสอนผิดแล้ว เพราะว่าเรามีประสบการณ์ชีวิตได้รับสันติสุขทุกวันเวลา เพราะว่าเราพบความสว่างที่แท้จริง ไม่มีความขัดแย้งในพระคำของพระเจ้าเมื่อเราพบมานาฯ เอเมนฮาเลลูยา
ใครจะมาหลอกเรามาโกหกเราไม่ได้หรอกใช่ไหม อาจารย์...หลอกพวกเราไม่ได้เพราะว่าเรามีประสบการณ์กับพระคริสต์มากกว่าสมัยก่อนที่เราไม่ได้เข้าสู่มานาฯ อันนี้เป็นสิ่งที่ยืนยันว่าพระคำของพระเจ้าเป็นความจริงเป็นชีวิตและเป็นฤทธิ์เดชจริงๆ ได้ สรรเสริญพระเยซู
ถาม.
อาเมนค่ะอาจารย์อย่างปัญหาที่มาถึงพวกเราทุกคนเนี่ย เพื่อการขัดเกลาเราแล้วก็ตีสอนเราด้วยหรือเปล่าค่ะ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับเราอ่ะค่ะ
ตอบ.
สำหรับปัญหาที่เข้ามาเพื่อขัดเกลานะครับ พระเจ้าต้องการให้มีปัญหาเข้ามาแต่ละช่วงๆ เพื่อจะก่อเราขึ้น ไม่ใช่การตีสอน
ส่วนปัญหาที่เข้ามาเพื่อการตีสอน เป้าหมายการตีสอนลงโทษ ก็คือเพราะว่าเราทำบาปครับผม ต้องแยกก่อนนะครับ แล้วพระเจ้าจะเป็นคนบอกเราอยู่ภายในจิตใจจิตใต้สำนึกของเราจะรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ เราทำผิดแล้วพระเจ้าตีสอนลงโทษเราเนี่ย เราจะรู้เลยว่า อ๋อ โดนแล้ว เจอแล้ว พระเจ้าเอามาให้เราแล้ว เราจะรู้เลยนะครับ
และถ้าหากว่าเป็นการขัดเกลาเฉยๆ ก็คือเอามาหรือการทดลองทดสอบความเชื่อ ก็คือเข้ามา เราอยู่ในการรักษาความผูกพันที่ดีกับพระเยซูเราสนิทเราบอกรักเราดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณอย่างสม่ำเสมอแล้ว และปัญหาเข้ามาเรารู้ดีว่าข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิด ข้าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่สิ่งนี้เข้ามาเพื่อขัดเกลาบ้าง เพื่อทดสอบความเชื่อเราบ้าง เอเมน
แล้วอีกอย่างหนึ่งอีกประการหนึ่งถ้าหากว่าเราไม่ได้ทำผิด พระเจ้าไม่ตีสอน และถ้าหากว่าพระเจ้าไม่ได้ทดสอบทดลองความเชื่อของเรา แต่มีอยู่บางครั้งพระเจ้าให้บางสิ่งเกิดขึ้น เพื่อให้คนรอบข้างได้เห็นว่าเราไม่บ่น เราไม่ทิ้งความเชื่อ เรายังรัก ยังรับใช้ เรายังดำเนินชีวิตในพระวิญญาณอยู่สม่ำเสมอ เมื่อเราเจอปัญหา
นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการจะให้เราถวายเกียรติแด่พระองค์ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ แต่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า คนรอบข้างมองเห็นเรา โอ๊ย ทำไมไม่บ่นไม่เบื่อไม่ทิ้งพระเยซู ยังไม่เลิกไปโบสถ์ ยังไม่เลิกเชื่อ ทำไมดีจังเลย ทำไมคนนี้เข้มแข็งในความเชื่อของเขา อันนี้พระเจ้าได้รับเกียรติครับผม
มีผู้ชายคนหนึ่งที่ตาบอด (ยน 9:1-3) แล้วสาวกถามพระเยซูว่าชายคนนี้เขาตาบอดเป็นเพราะบาปของใคร หรือเป็นเพราะอะไร พระเยซูตรัสตอบว่า เขาป่วยเนี่ยไม่ใช่เพราะเป็นเพราะความบาปของเขาหรือไม่ใช่เพราะใครทั้งนั้น แต่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า
เราเห็นนะครับ คือเขาไม่ได้ทำอะไรไม่ได้ผิดอะไร แล้วพระเจ้าก็ไม่ได้ทดสอบความเชื่อของเขา แต่เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า แล้วพระเยซูรักษาเข้าปุ๊บเนี่ยก็คือหลายคนที่เดินมาแล้วเห็นก็ยกย่องพระเจ้าสรรเสริญพระเจ้าที่พระเจ้าทำกิจในขณะนั้น
ถาม.
แล้วอย่างที่เราไม่ได้ทำผิด แล้วเขามาใส่ร้ายว่าหาว่าเราพูด แต่ดูแล้วเหมือนกับเขามาจะตบทรัพย์เรา คือเป็นพระสงค์ของพระเจ้าหรือเปล่าค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
สำหรับเราจะถามว่าคือพระประสงค์ของพระเจ้าหรือไม่อันนี้เราตอบไม่ได้ แต่พระเจ้าอนุญาตนะครับ พระเจ้าทรงรับรู้พระเจ้าทรงเห็นและพระเจ้าก็อนุญาตให้เขาทำ แต่อย่าลืมนะครับเพื่อพระเจ้าจะได้เห็นว่าเราซื่อสัตย์ในความเชื่อไหม เราวางใจในพระเจ้าไหม เราใช้สติปัญญาและความสามารถของเราเพื่อแก้ไขปัญหาไหม หรือเราหันมาพึ่งพระเจ้า มองมาที่พระเยซูแล้วบอกว่า..
“ข้าพระองค์กำลังจะถูกกลั่นแกล้ง ถูกโกง หรือปัญหากำลังเข้ามา พระเยซูพระองค์เป็นสติปัญญาของข้าพระองค์ พระองค์เป็นทางออกของข้าพระองค์ ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ ขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้เอเมน”
รอดูนะครับอีกไม่นานปัญหาจากยากก็จะง่าย หนักก็จะเบา ร้ายก็จะกลายเป็นดี
ถาม.
ก็คือไปมาแล้วศาล แล้วก็เบาลงแล้วค่ะ เบาลงแล้วศาลก็พิจารณาธรรมดาค่ะ ก็เดี๋ยวไปเดือนหน้าอีกค่ะ เอเมนค่ะก็เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ตลอดเลยค่ะ ให้พระองค์ทรงทำตามน้ำพระทัยของพระองค์แล้วแต่พระองค์จะให้ความเมตตาหรือยังไงหรือสิ่งที่เกิดขึ้นให้มันเบาที่สุด ให้มันหลุดพ้นจากตรงนี้ไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ค่ะ รักพระเยซูมากเลยค่ะเอเมนค่ะขอบคุณค่ะ
ตอบ.
เรามีพี่น้องพวกเราที่เป็นผู้ชอบธรรมทั้งหมดในที่นี้ เพราะว่าเราเป็นผู้ชอบธรรมแล้ว สรรเสริญพระเยซู แล้วก็เรามีพี่น้องในที่นี้ที่คำอธิษฐานของเราจะเกิดผลเพราะว่า พระเจ้าสัญญาว่าคำอธิษฐานของผู้ชอบธรรมก็เกิดผล วันนี้ขอบคุณพระเยซูที่เราเป็นผู้ชอบธรรมทั้งหมดแล้ว เอเมน
และใครที่มีปัญหา นำปัญหาเข้ามาฝากพี่น้องอธิษฐานเผื่อนะครับ สัปดาห์ละครั้งก็ได้ ถ้าหากเรามีปัญหาที่มันยืดยาวมันนานเกินไป เราฝากพี่น้องนะครับเขียนลงไปในกลุ่ม แล้วพี่น้องพวกเราก็รับช่วงรับหน้าที่เป็นปุโรหิตของพระเจ้า ดูแลซึ่งกันและกัน รักกันและกันฉันพี่น้อง ไม่ทิ้งกันช่วยเหลือกัน สุดท้ายอาณาจักรก็จะเป็นของเรา บำเหน็จก็จะเป็นของเรา พระเกียรติก็จะเป็นของพระเจ้า และการแก้ไขปัญหาก็จะเป็นของพระเจ้า เอเมน
สำหรับผมนะครับมีประสบการณ์เรื่องการช่วยเหลือของพระเจ้า เมื่อเราอธิษฐาน เมื่อเราวางใจในพระเจ้าจริงๆ แล้ว บางครั้งก็คือพระเจ้าไม่ให้เรามีทางเลือกอื่น นอกจากจะวางใจในพระองค์ เราก็ต้องวางใจ สุดท้ายคำตอบก็เป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมยินดีสำหรับเรา ขอบคุณพระเยซู
แล้วอย่าลืมพวกเราอธิษฐานเผื่อนะครับแล้วย้ำเตือนพี่น้องก็คือสัปดาห์ละครั้งก็ได้ ลงในกลุ่มบอกว่าอธิษฐานเผื่อด้วย เพื่อปัญหาหนักจะกลายเป็นเบา ร้ายจะกลายเป็นดี และความชอบธรรมความยุติธรรมจะเกิดกับเราลูกๆ ของพระองค์ แค่นี้ครับพระเจ้าก็จะทำกิจเอเมน
ถาม.
ถ้าเราไม่ยอมรับปัญหาที่เข้ามา เราจะเป็นยังไงบ้างค่ะ
ตอบ.
ถ้าเราไม่ยอมรับปัญหาตอนนี้ พระเจ้าจะนำมาตอนหน้าแล้วตอนหน้าเราปฏิเสธไม่อยากจะรับ พระเจ้าก็จะเลื่อนไป แต่ก็ต้องมาอยู่ดีนะครับ ปัญหาต้องมาไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนนี้
ถาม.
ถ้าเรายังรักษาหน้า หน้าซื่อใจคด เรายังเป็นผนังที่ฉาบปูนเขาอยู่ พระเจ้าจะขุดภายในใจของเราออกมาให้เห็น แต่เราไม่ยอมรับ เราไม่ยอมเราไม่ยอมขอการชำระตรงนั้น มันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างค่ะ
ตอบ.
ถ้าหากเราไม่กลับใจ อย่าลืมนะครับว่าตะเกียง ตะเกียงเนี่ยคือพระเจ้าจะล้มมัน ไม่ให้มันส่องสว่างได้ ก็คือพระเจ้าจะไม่สนใจจะปล่อยทิ้งเราไป แล้วเราจะถูกซาตานตีทำลายทำร้าย เราจะเจอหนักมาก
สำหรับคริสเตียนศาสนาทั่วไปทุกวันนี้ เขาก็ไม่ได้ทิ้งคุณสมบัติที่เรียกว่าผนังฉาบปูนขาว คือแทบจะทุกคนที่น่าซื่อใจคด ไม่ยอมรับว่าตนเป็นคนผิดบาป ไม่ยอมรับว่าตนเป็นคนหน้าซื่อใจคด แสดงตนว่าชอบธรรมใส่หน้ากากแสดงละครกันเต็มไปหมด
แล้วเราเองถ้าหากเราทำแบบนั้นอยู่แล้วเราไม่กลับใจ พระเจ้าก็จะตีเรา และเราไม่กลับใจพระเจ้าก็จะปล่อยเราให้ออกไปจากร่มพระคุณของพระองค์ สุดท้ายซาตานก็จะตี จะเจอหนักมาก แล้วไม่นานนะครับถ้าคนที่กลับใจจริงๆ เขาก็จะยอมแพ้ แล้วสุดท้ายก็กลับมาหาพระเจ้าอยู่ดีครับผม
และอย่าลืมว่าสำหรับเราเองเรารู้แก่ใจเราว่าเราเป็นยังไง ถ้าถามเพื่อตัวเราเองก็เอเมน แต่ถ้าถามเผื่อคนอื่น บางคนเนี่ยเขากลับใจนะ บางคนเขาก็อยากจะกลับใจ อยากจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข อยากจะถอดหน้ากากไม่ใส่หน้ากาก แต่บางครั้งก็ต้องใช้เวลานะครับ
การเปลี่ยนแปลงการเข้าสู่การเปลี่ยน แต่ละคนไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน บางคนเปลี่ยนช้าบางคนเปลี่ยนเร็ว บางคนเลิกใส่หน้ากากได้ทันที บางคนยังเลิกไม่ได้ แต่ก็ค่อยๆ ดีขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่พระเจ้าจะทำงานในแต่ละคนที่มีหัวใจมีใจให้พระเจ้ามากน้อยแค่ไหน
อย่าลืมนะครับว่าพระเจ้าเป็นความจริง เอเมนไหมครับ เมื่อพระเจ้าเป็นความจริง แต่ถ้าหากเราไม่อยู่ในความจริง เราใส่หน้ากาก เราแสดงละคร เราไม่ใช่ตัวจริงของเรา เมื่อเราเป็นแบบนี้อยู่ พระเจ้าก็ทำงานไม่ได้นะครับ เพราะว่าพระเจ้าเข้าได้ ไปถึงได้ อยู่ได้เฉพาะที่ที่เรียกว่าเป็นความจริง
ถ้าเรายังใส่หน้ากากเป็นคนที่เล่นละครอยู่ พระเจ้าก็ทำงานไม่ได้ เราต้องยอมรับความจริงว่า ผมผิดตรงนี้ ฉันผิดตรงนี้ ต้องการพี่น้องอธิษฐานเผื่อ อยากจะแก้ไขยอมรับว่าผิด อันนี้เป็นคนที่น่ารักมากสำหรับพระเจ้า และไม่นานเขาก็จะเปลี่ยนได้
เราขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าทรงเที่ยงธรรมทรงสัตย์ซื่อ พระองค์ตรัสคำไหนพระองค์ก็ทำตามสิ่งที่พระองค์ตรัส สัญญาอะไรก็ทำตามที่พระองค์สัญญา พระองค์จะแก้ไขพระองค์จะช่วยเหลือพระองค์จะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเรา เมื่อเราทำแบบนี้ทำสิ่งนี้ แล้วก็เห็นผลอย่างที่หลายคนได้รับนะครับ
สำหรับเรื่องการที่เราจะมองพี่น้องในด้านลบอยู่เสมอ หรือเรามักจะคิดเรื่องเกลียดชังแก้แค้น เรื่องคิดร้ายคิดไม่ดีอะไรกับใคร คือมันเป็นแบบนี้ครับ เราตอนนี้นะครับอาจจะยังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนใน 2 โครินธ์บทที่ 5:16-17 บุคคลผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ ก็เป็นคนที่ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงไป ดูเถิดมีแต่สิ่งใหม่ทั้งนั้น
ถ้ามันชัดเจนต่อหน้าต่อตาเราและเข้าสู่ภายในจิตใจของเราเข้าสู่วิญญาณของเรา เราจะเห็นว่าเราไม่ได้อยากจะคิดที่จะมองลบหรือคิดทำร้ายทำลายพูดไม่ดีพูดลบใส่ใคร มีแต่เราเนี่ยมองเห็นเขาที่เป็นคนที่ไร้เดียงสา เป็นคนที่ไม่รู้อะไร แล้วคนที่พูดแทนเขาก็คือซาตาน คนที่ทำแทนเขาก็คือซาตานที่อยากจะทำร้ายผู้อื่นอยากจะทำร้ายเรา ซาตานอยู่เบื้องหลังเขา ให้เรามองแบบนี้นะครับ
เขาเป็นคนที่ดีสำหรับพระเจ้า เขาเป็นคนที่บริสุทธิ์ เขาเป็นคนใหม่สำหรับพระเจ้าแล้ว เมื่อพระเจ้าเรียกเขาว่าใหม่ เราก็ต้องยอมรับว่าเขาใหม่ ถ้าเราจะมองลบถ้าเราจะคิดไม่ดีกับเขาเนี่ย แสดงว่าเรายังไม่ใช่มนุษย์วิญญาณ และอีกอย่างก็คือคนที่คิดในด้านลบหรือคิดไม่ดีกับใคร จริงๆ แล้วเนี่ยคนอื่นที่มีเรื่องกับเราอาจจะลืมมันไปแล้ว และไปใส่ใจไปสนใจเรื่องอื่นไปแล้ว แต่เราเองก็ยังแบกอยู่ เรายังแบกอยู่เราก็หนักเองใช่ไหม
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าวิธีของพระเจ้า ก็คือ ไม่ต้องการให้เราแบกหนัก พระเจ้าจึงให้เราท่อง 2 โครินธ์บทที่ 5:16-17 บุคคลผู้ใดที่ถูกสร้างขึ้นใหม่ บุคคลผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงไป ดูเถิดมีแต่สิ่งใหม่ทั้งนั้น ทั้งนั้นก็คือทั้งหมดเลยนะครับ ขอบคุณพระเยซู
ถาม.
เอเมนขอถามค่ะ กระต่ายอธิษฐานแบบนี้ตั้งแต่มีปัญหามาตลอดเลยว่า (ข้าแต่พระเจ้าขออย่าให้มนุษย์มาพิพากษาข้าพเจ้าได้ ไม่มีใครที่จะมาพิพากษาข้าพเจ้าได้ มีแต่พระองค์เท่านั้นที่พิพากษาข้าพเจ้าได้เพียงผู้เดียว) อย่างนี้ได้ไหมค่ะเอเมนค่ะ
ตอบ.
ผมอยากจะขอแนะนำคำอธิษฐานที่เรียกว่าจะเหมาะกว่านะครับ ก็คือข้าแต่พระเจ้าเราจะไม่ใช้นะครับ
พระเยซู พระเยซูเป็นตัวแทนของพระเจ้าพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราร้องเรียกหาพระเยซู ก็คือเราร้องเรียกหาพระบิดาพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์และพระเจ้า ก็คือพระเยซู ดูจะใกล้ชิดกว่านะครับ
และคำอธิษฐานของเราคืออะไร “พระเยซูขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ ขอให้ตามใจพระองค์ทุกอย่างในวันนี้ ไม่ว่าจะเกิดอะไร ไม่ว่าจะมีอะไรที่เข้ามา” แค่นี้ครับ เอเมน
ส่วนเรื่องสิ่งที่ไม่ยุติธรรมเข้ามา คนคิดร้ายกับเรา คนที่อะไรกับเรา คืออันนี้เราห้ามไม่ได้ พระเจ้าอาจจะอนุญาตนะครับให้บางครั้งให้บางสิ่งเกิดขึ้นกับเรา แต่ถ้าหากเราขอนะครับว่า “ขอให้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับข้าพระองค์ในแต่ละวันเป็นไปตามใจเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ตามใจพระองค์เถิด” แบบนี้ก็คือพระองค์จะทำและทุกสิ่งที่พระองค์นำเข้ามามันจะเกิดผลดีให้เราภายหลัง เอเมน
และสำหรับพวกเรา เราไม่ใช่คริสเตียนศาสนา คำว่าข้าแต่พระเจ้าหรือขอเดชาหรืออะไรทั้งหลาย เราตัดทิ้งไป เราพูดแบบเป็นคนรักของพระเยซู เป็นลูกสาวของพระเยซู เป็นสาวกของพระเยซู ก็คือ “พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ พระเยซูขอให้ตามใจพระองค์ในวันนี้ไม่ว่าอะไรจะเข้ามา ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์” แค่นี้ครับ
คือสำหรับผมแต่ก่อนก็คืออธิษฐานเก่งมาก พูดคล่องแคล่ว สุดท้ายมาพบมานาฯ ก็พบว่าพระเจ้าไม่ได้ต้องการคำพูดที่ดูดีสวยหรูอะไรทั้งหลาย และไม่ต้องการคำพูดที่อ่อนหวานอ่อนโยนอะไรทั้งหลาย แต่ต้องการคำพูดที่พูดออกมาจากใจ และต้องการคำพูดที่สั้นๆ ง่ายๆ และคำเดียวที่พระเจ้าต้องการสำหรับคริสเตียนที่จะอธิษฐาน ก็คือ “ขอให้น้ำพระทัยของพระบิดาสำเร็จ ขอให้ทุกสิ่งเป็นไปตามใจของพระองค์ ตามใจพระองค์เถิด” แบบนี้ครับตามน้ำพระทัย
เราแต่ก่อนมักอธิษฐานใช่ไหม อย่าให้ข้าพระองค์เจออันนี้ อย่าให้ข้าพระองค์เป็นแบบนี้ ขอพระองค์ทำแบบนี้ ขอพระองค์เข้ามา ขอพระองค์ออกไป ขอพระองค์ช่วยตรงนี้ ขอพระองค์แก้ปัญหาตรงนี้ คือขอนะครับก็คือขอพระเจ้าแล้วก็สอนพระเจ้าไปด้วยแนะนำพระเจ้าไปด้วย ว่าอย่าทำแบบนี้ ทำแบบนี้ให้ข้าพระองค์ เอาแบบนี้เข้ามานะ ข้าพระองค์ไม่ต้องการอันนี้ สิ่งนี้นะครับเป็นสิ่งที่คริสเตียนทั่วไปเขาทำกันเรียกว่าคริสเตียนศาสนา
แต่เราเป็นมนุษย์วิญญาณ เราขอสิ่งเดียวครับ ตามใจพระเจ้าเลย เอเมนแล้วทุกสิ่งจะดีเอง
ถาม.
มีพระคำบอกไว้ว่าไม่มีการปรับโทษสำหรับคนที่อยู่ในพระคริสต์ อันนี้พิสูจน์ได้ใช่ไหมค่ะ คือจะไม่มีใครมาชี้หน้ากล่าวโทษเราได้
ตอบ.
พี่น้องต้องเข้าใจนะครับว่าโรมบทที่ 8:1 ไม่มีใครกล่าวโทษคนที่อยู่ในพระคริสต์เพราะว่าเราเป็นผู้ชนะแล้ว เปาโลกล่าวตอนนั้นนะครับก็คือเขาได้รับกฎแห่งพระวิญญาณและกฎแห่งชีวิตทำงานเต็มที่ในเขาเป็นผู้ชนะแล้ว ไม่ได้ทำผิดอะไร แล้วพระเจ้าก็กล่าวโทษเขาไม่ได้ก็ตีสอนเขาไม่ได้ ก็คือเราดำเนินชีวิตผู้ชนะในแต่ละวัน สนิทบอกรักไม่ทำบาป นานๆ จะทำทีนึง อันนี้เรียกว่าชีวิตผู้ชนะ และการปรับโทษก็จะไม่มีต่อเรา
ส่วนคนจะมาชี้หน้าเราว่าทำผิด หรือคนจะมาใส่ร้ายเราอันนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับผม จำได้ไหมเปาโลที่เป็นผู้ชนะแล้ว สุดท้ายก็มีคนมาชี้หน้าบอกว่าเขาสอนผิด แล้วสุดท้ายก็จับไป แล้วสุดท้ายก็ถูกประหาร เอเมน
ถาม.
อยากจะถามเรื่องการอธิษฐาน เรื่องซื้อบ้านครับ
ตอบ.
เราขอพระเจ้าไม่ว่าจะซื้อบ้านซื้ออะไรก็แล้วแต่นะครับ เราอธิษฐานบอกว่า “ขอให้การซื้อบ้านเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ขอให้การซื้อบ้านอยู่ในพระคุณพระเมตตา อยู่ในคำตอบของพระเจ้า ความเห็นชอบของพระเจ้า” แค่นี้เองครับ ถ้าจะแปลภาษาอื่นก็แปลไปประมาณทำนองนั้นประมาณนั้นครับ “ขอให้เป็นไปตามใจของพระเจ้าเรื่องการซื้อบ้านหลังนี้”
แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าพระเจ้าจะตอบ ก็คือพระเจ้าจะไม่ขัดขวางเราจะซื้อได้ แล้วทุกสิ่งจะราบรื่นในการซื้อขาย ในการต่อรองราคาก็เหมือนกันทุกสิ่งดูจะเหมือนง่ายไปหมด แล้วพระเจ้าก็จะเร้าใจเราจะให้เราสำนึกรู้สึกภายในจิตใต้สำนึกเราว่าเป็นคำตอบที่มาจากพระเจ้า แล้วเมื่อเราไปซื้อไปขายไปต่อรองราคา ก็คือจะได้รับคำตอบที่พอใจครับผม
ถาม.
อยากจะถามเรื่องการอธิษฐาน เรื่องซื้อบ้านครับ
ตอบ.
เราขอพระเจ้าไม่ว่าจะซื้อบ้านซื้ออะไรก็แล้วแต่นะครับ เราอธิษฐานบอกว่า “ขอให้การซื้อบ้านเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ขอให้การซื้อบ้านอยู่ในพระคุณพระเมตตา อยู่ในคำตอบของพระเจ้า ความเห็นชอบของพระเจ้า” แค่นี้เองครับ ถ้าจะแปลภาษาอื่นก็แปลไปประมาณทำนองนั้นประมาณนั้นครับ “ขอให้เป็นไปตามใจของพระเจ้าเรื่องการซื้อบ้านหลังนี้”
แล้วเรารู้ได้ยังไงว่าพระเจ้าจะตอบ ก็คือพระเจ้าจะไม่ขัดขวางเราจะซื้อได้ แล้วทุกสิ่งจะราบรื่นในการซื้อขาย ในการต่อรองราคาก็เหมือนกันทุกสิ่งดูจะเหมือนง่ายไปหมด แล้วพระเจ้าก็จะเร้าใจเราจะให้เราสำนึกรู้สึกภายในจิตใต้สำนึกเราว่าเป็นคำตอบที่มาจากพระเจ้า แล้วเมื่อเราไปซื้อไปขายไปต่อรองราคา ก็คือจะได้รับคำตอบที่พอใจครับผม
ถาม.
ขอถามหน่อยครับคือคำว่า เราใหม่หมดแล้ว ก็คือเรามองทุกสิ่งใหม่หมดแล้ว คำว่าเรามองออกไปว่าใหม่หมดแล้วเนี่ย เรามองแบบไหนครับ ขออธิบายตรงนี้เพิ่มหน่อยครับ
ตอบ.
คือโลกนี้ทุกวันนี้สำหรับเรา คริสเตียนนะครับคือมี 2 โลก
โลกอันแรก ก็คือโลกอาดัม โลกตัวเก่าชีวิตเก่าเนื้อหนังซึ่งมีแต่ทั้งความบาปทั้งความมีทั้งหลายที่อยู่ในโลกนี้ที่เราเห็นทุกวันนี้ เมื่อเราใช้สายตามอง ใช้ความรู้สึกมองเราจะเห็นโลกเก่า
แต่โลกใหม่ โลกใหม่ ก็คืออยู่ในพระคริสต์ โลกเก่าอยู่ในอาดัม โลกใหม่อยู่ในพระคริสต์ และเมื่อเราอยู่ในพระคริสต์ เราจะต้องมองนะครับว่าทุกสิ่งใหม่หมด คำพูดของใครการกระทำของใคร ไม่มีอะไรที่จะมากระทบกระเทือนกระแทกชีวิตของเรา เรามองมันว่าเป็นสิ่งที่ใหม่ทั้งนั้นใหม่หมดเลย แล้วเราเองก็มองตัวเราเองนะครับว่าเป็นคนใหม่ มองพี่น้องคริสเตียนว่าเป็นคนใหม่ ถูกสร้างขึ้นมาใหม่
เราสำหรับเราที่เป็นผู้เชื่อทั้งหลายทุกคนเป็นผู้ที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่แล้ว เอเมน และเมื่อเรามองแบบนี้เราจะเห็นว่าจิตใจเรามันดีกว่าเดิมตั้งเยอะ เรามีเมตตามากกว่าแต่ก่อนซึ่งเราไม่เคยคิดว่าฉันจะเป็นคนที่มีความเมตตามากขนาดนี้ มีความรักมากขนาดนี้ พูดดีขนาดนี้ คือเป็นคนที่อ่อนโยนมากขนาดนี้ แต่ก่อนเป็นคนที่แบบพูดไม่น่ารัก พูดไม่น่าฟัง พูดไม่มีใครอยากจะคุยด้วย ไม่มีใครชอบหน้าเรา แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไป นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นถ้าหากเราเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่ทุกวันทุกวันในแต่ละวัน
แล้วสำหรับคนที่ไม่เชื่อล่ะเราจะมองเขาใหม่ไหม อันนั้นเราไม่เกี่ยวนะครับไม่มองนะครับ แต่เรามองคนที่อยู่ในพระคริสต์ทุกสิ่งที่อยู่ในพระคริสต์ เป็นโลกของพระคริสต์เนี่ยก็คือทุกสิ่งใหม่หมด
ถาม.
เอเมนค่ะ อยากจะให้อาจารย์แล้วก็พี่น้องอธิษฐานเผื่อในเรื่องการฝึกเดินของพี่นก ตอนนี้มันยังไม่เข้มแข็งพอในการกังวลที่เป็นห่วงลูกสาวที่อยู่อเมริกา เราเป็นห่วงเขาตลอดเลยค่ะ อยากให้อธิษฐานให้ค่ะ
ตอบ.
เอเมนพระเยซูความรักความเมตตาพระคุณของพระองค์ ถ้าคุณซ้อนพระคุณของพระองค์ ขอให้เต็มล้นในชีวิตของลูกสาวของพี่น้องของพวกเรา สรรเสริญพระเยซูและขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ สันติสุขจงเต็มล้นในพี่น้องของพระองค์ลูกของพระองค์ เอเมน
พวกเราผู้ชอบธรรมทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ ที่พระองค์ทรงสดับฟัง และพวกเราขอบพระคุณพระองค์ที่พวกเราได้เรียนรู้การวางใจในพระเจ้า พวกเรารู้ว่าพระองค์เป็นผู้เลี้ยงแสนดีของพวกเรา คำอธิษฐานของพี่น้องทุกท่านพระองค์ทรงรับรู้ และพระองค์ทรงตอบ เอเมนพระเยซู
สำหรับบทเรียนในวันนี้เราขอบคุณพระเยซูที่พระองค์สอนเราให้เข้าใจในเรื่องการรับกับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิตของเราในแต่ละวัน ซึ่งถ้าหากเราแสวงหาอาณาจักรและความชอบธรรม พระเจ้าจะให้เรามีชีวิตที่ราบรื่น แต่จะมีบางครั้งที่ปัญหาเข้ามาเป็นระยะๆ อันนี้เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราขอพระเจ้าให้มันผ่านไปไม่ได้ พระเจ้าต้องนำเข้ามา อาจจะเป็นเพราะว่าเราทำบาปพระเจ้าก็ตีสอนเรา
อาจจะเป็นเพราะว่าพระเจ้าต้องการทดสอบทดลองความเชื่อของเรา เราจะทิ้งพระเจ้าไหม จะท้อถอยไหม
และสิ่งที่สามก็คืออาจจะเป็นเพราะว่าพระเจ้าต้องการให้เราถวายเกียรติแด่พระเจ้า ซึ่งทุกสิ่งเมื่อเราผ่านมันไปได้
เมื่อเราขอบคุณ แทนการบ่น
เมื่อเราขอบคุณ แทนการท้อ
เมื่อเราขอบคุณ แทนการหนี
พระพรการดูแลการเลี้ยงดูจะมาถึงเรา เอเมน
และอย่าลืมนะครับ อย่าคาดหวังอย่าหวังในชีวิตนี้มากจนเกินไป เพราะว่าตอนนี้โลกนี้เป็นเงาโลกนี้เป็นสิ่งชั่วคราว อีกไม่นานเราก็จะจากกันไปจากโลกนี้ไป แต่ชีวิตนิรันดร์กำลังรอเราอยู่ เราจะอยู่กับพระเจ้าไปจนชั่วนิรันดร์ ตายไม่ได้เจ็บป่วยไม่ได้ร้องไห้เสียใจไม่ได้อีกแล้ว มีแต่ความสุขมีแต่ความยินดีอยู่กับพระเจ้าไปตลอดชั่วนิรันดร์ อันนี้ถ้าหากเราเชื่อพระเยซูเราต้องเชื่อความจริงในพระคำพระเจ้าด้วย เอเมน
สำหรับการเรียนรู้พระคำพระเจ้า ไม่ต่างไปจากการเรียนหนังสือ ซึ่งเมื่อมีการเรียนก็ต้องมีการบ้าน เมื่อเรามาถึงเรื่องของการทดสอบการทดลอง เรื่องปัญหาที่เข้ามา เราจะทำยังไง ขอให้จำคำนี้นะครับ “ขอบพระคุณพระเยซู” คือทางออกที่ดีที่สุด พระเจ้าจะทำให้หนักเป็นเบา ร้ายเป็นดี ยากเป็นง่ายได้ ปัญหาจะมาไหมมาแน่นอน เพราะว่าเมื่อเราเรียนรู้สิ่งไหน การทดลองการทดสอบก็จะมาตามการเรียนรู้ของเรา
แต่อย่าลืม “ขอบคุณพระเยซู” คือคำคือเคล็ดลับที่จะหลุดพ้นจากปัญหาต่างๆ ได้ เอเมน
ชีวิตจะมีปัญหาเข้ามา หรือไม่มีปัญหา ชีวิตราบรื่น หรือไม่ราบรื่นก็ตาม แต่พวกเรา “ขอบพระคุณพระเยซู” เอเมน