"ถ้าหากข้าตายแล้ว ทำไมข้ายังโกรธอยู่" และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ......
- เมื่อผมได้เรียนรู้และเข้าใจว่าผมตายแล้วกับพระคริสต์ ผมก็ฝึกและท่องจำทุกวัน ...
- อยู่มาวันหนึ่ง ผมบอกแจ็ก (ลูกชาย) ว่า " นี่ลูก. อย่าเอาแต่เล่นเกมส์สิ ทำความสอาดห้อง ทำการบ้านบ้างสิ กลิ่นอะไรก็ไม่รู้ ทำไมสกปรกจัง"
- แจ็กทำหน้าบึ้งแบบไม่พอใจ โยนรีโมททิ้ง เดินไปเก็บเสื้อผ้า กระดาษที่เขาทิ้งทั่วห้อง
- ผมเดินออกมานั่งที่ห้องรับแขก ถามพระเจ้าว่า " ถ้าหากข้าพระองค์ตายแล้ว..ทำไมข้าพระองค์ยังโกรธได้...ข้าพระองค์ตายแลเวไม่ใช่หรือ"
- สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..... ผมลุกขึ้น เดินกลับไปที่ห้องของแจ็ก ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่พอใจและไม่อยากจะมองหน้าลูกในเวลานั้น เหมือนกับว่ามีใครที่เดินแทนผม...ผมถามตัวเองว่า เอ่า ๆ นี่เราจะไปไหน....
- พอเข้าไปยืนต่อหน้าแจ็ก ...ผมพูดเบาๆ ว่า " ลูก..พ่อรักลูกนะ ขยะ เสื้อผ้าไม่ซักทิ้งอย่างนี้ สกปรก และทำให้สุขภาพไม่ดีนะลูก ค่อยๆ เก็บก็ได้ แล้วค่อยไปเล่นเกมส์นะลูก...
- ลูกชายร้องให้ เดินมากอดผม และพูดว่า ลูกขอโทษ พ่อพูดถูก ผมจะพยายามรักษาห้องนอนของผมให้สะอาดครับพ่อ...
- ผมเดินออกไปจากห้องแจ็ก ทั้งมืนงงและถามตัวเองว่า "เราทำได้ไงนี่"
- นี่คือผลของการได้ รู้ เชื่อ และนับทุกวันว่าเราตายแล้วในพระคริสต์ครับ
- เมื่อฝึกนานเข้า เวลาก็ผ่านไป เรามาถึงการดำเนินชีวิตในพระคริสต์มากขึ้น ภาระก็เบา สุขก็ไม่เคยขาด เพราะเราพึ่งพระคริสต์ในเราทำแทน และยอมรับการตายของตัวเก่าของเราครับ
* ท่านล่ะครับ ตายกันหรือยังครับ ???