ผมพูดกับพี่น้องบางคนก่อนสามัคคีธรรม ถ้าเปาโลในสมัยนั้น สิ่งที่จะช่วยให้เขาฝึกง่ายกว่าและอาจจะย่อเวลา 10 ปีที่เป็นผู้ชนะ อาจจะเป็น 5-6-7 ปี ก็ได้ หรือ 5 ปี ก็ได้ ถ้าเขามีมือถือเหมือนพวกเรา คือมันช่วยได้เยอะนะ ตั้งนาฬิกาปลุกสิครับ ตั้งเลย เพราะว่าคริสเตียนเราขี้ลืม มนุษย์เราขี้ลืม เราเผลอบ่อย เราลืมบ่อย ตั้งนาฬิกาปลุกเลยครับ ทุกๆชั่วโมง พอนาฬิกาปลุกปั๊บ "พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ ขอบคุณพระเยซูวันนี้ข้าพระองค์สนิทในพระองค์ ข้าพระองค์จะพูดคุยสม่ำเสมอ"....... ก็คืออธิษฐานสม่ำเสมอ
...
ถาม.
เราพูดคำประโยคซ้ำๆ นี้ได้หรอคะ
ตอบ.
พูดซ้ำได้ครับ "I love you" "I love you" "I love you" บอกรักพระเยซูได้
แต่การขอไม่ต้องขอซ้ำๆ พระเจ้ารู้ พระเจ้าเข้าใจ ขอวันละครั้งก็ได้ขอวันละครั้งพอ
แต่การบอกรักพระเยซูซ้ำๆ ตลอดเวลา พระเจ้าชอบมาก คือพระเจ้าเป็นความรัก แล้วพระเจ้าอยากเห็นความรักในเรามันทวีคูณมีมากมายให้พระเจ้า การพูดก็คือการสื่อหัวใจของเราว่าเรารักพระเจ้า เราพูดมากเท่าไหร่เราก็รักพระเจ้ามากเท่านั้น
...
ถาม.
บางครั้งเรามีความรู้สึกที่แสนรักพระองค์มากๆเลย ตอนที่เราสมหวังตอนที่เราเหมือนแบบมีปัญหาอะไรแล้วเราได้รับตรงนั้น แล้วเรารู้สึกรักพระองค์แบบล้วงไม่ถึงไม่มีก้นไม่มีอะไรเลย แบบนั้นคือความรักแท้ใช่ไหมค่ะ
ตอบ.
ใช่ครับ พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำให้เราเกิดมีความรักมากมายให้กับพระองค์ แล้วก็เราร้องไห้ เราอยากบอกรักพระเยซู อันนี้คือหัวใจ เป็นช่วงที่เราอยู่ในรักแรกพบกับพระเจ้า มันเป็นความรักที่ดีที่สุด พระเจ้าต้องการให้เรามีสิ่งนี้อยู่ตลอดเวลาครับ
...
ข้อที่ 14 เราเข้าใจกันแล้วนะครับตอนนี้เราไม่กลัวพระเจ้า เราจะทำบาปมากมายแค่ไหนก็ตาม เราไม่กลัวพระเจ้า พระเจ้าไม่อยากให้เรากลัวพระองค์ พระเจ้าก็เลยตั้งพระโลหิตไว้ พระเจ้ารู้นะครับ พระองค์ทรงทราบล่วงหน้าแล้วว่ามนุษย์ ถ้าทำบาป ถ้าทำผิด ก็จะฟ้องผิด แล้วกลัว แล้วไม่กล้าเข้ามาใกล้พระเจ้า
ถามว่าทำไม? พระเจ้าตั้งพระโลหิตไว้ เพื่อให้เราไม่กลัวและเข้ามาใกล้พระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าต้องการก่อเราขึ้น
ถ้าหากเรากลัว เราฟ้องผิด เราก็ไม่กล้าเข้ามาหาพระเจ้า
เราอยู่ห่างไกล เมื่อเราอยู่ห่างไกลพระเจ้า พระเจ้าก็ทำอะไรไม่ได้
เมื่อเราเข้ามาใกล้พระเจ้า พระเจ้าก็ทำได้ ชีวิตเปลี่ยนแปลงก็มา สันติสุขก็เต็ม พระพรก็มีเยอะ
เพราะฉะนั้นเข้ามาเลยครับไม่ต้องกลัวพระเจ้า
แล้วการที่จะไม่กลัวพระเจ้าทำยังไง? เราต้องเข้าใจบทเรียน 4 บท
(1.) ก็คือการยกโทษบาป พระเจ้ายกโทษให้แล้ว แล้วก็ชำระล้างความผิดบาปทั้งหมด พระเจ้าจำไม่ได้นะครับว่าคุณทำอะไรในอดีตและในวันนี้ที่คุณสารภาพ พระเจ้าจำไม่ได้ เราขอบคุณพระเยซูพระองค์จำไม่ได้นะครับ
(2.) ก็คือการเข้ามาหาทางพระโลหิต เราจะมาหาพระเจ้าเมื่อไหร่ ตอนไหน เวลาไหน จะจับพระคัมภีร์ขึ้นมาอ่าน จับพระคัมภีร์ขึ้นมา เราจะอธิษฐาน เราอธิษฐานเลย เราทำทุกสิ่งโดยที่ไม่ต้องกลัวเพราะว่าเรามาหาพระเจ้าโดยทางพระโลหิตพระเจ้าต้อนรับเรา
(3.) เรามั่นใจในความรอดของเราแล้ว เราไม่กลัวว่าจะไม่รอด นรกไม่ใช่ของเรา คือนรกเป็นที่ต้องห้ามสำหรับเรา เราไปไม่ได้พระเจ้าไม่ให้ไป เรารอดแล้วรอดเลย เรารอดแน่นอนเพราะว่าความรอดเป็นพระคุณเป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้เรา
(4.) สิ่งที่เราต้องเรียนรู้ก็คือ สันติสุข อย่าลืมนะครับสันติสุขในพระคัมภีร์มี 2 แบบ
1. สันติสุข ก็คือความสงบสุข (peace)
2. สันติสุข ก็คือความชื่นชมยินดี (joy)
อันแรกเราได้รับตั้งแต่วันที่เราได้รู้ว่าเราไม่กลัวพระเจ้า พระเจ้ายกโทษบาปให้เรา เราเข้ามาหาทางพระโลหิต เรามั่นใจในความรอดของเรา และเราเชื่อว่าเรามีสันติสุขแล้ว และมีความชื่นชมยินดีแล้ว พระเยซูนะครับเป็นน้ำแห่งชีวิตที่อยู่ภายในเรา เราขอบคุณพระเจ้า
เพราะฉะนั้นขอให้เราแยก สันติสุข กับความสงบสุข ออกจากกัน
ความสงบสุขเราได้มาโดยการเชื่อ โดยการเข้าใจ เราได้รู้ว่าเรารอดแล้วรอดเลย เราไม่กลัวพระเจ้า เรามาหาพระเจ้าได้ทุกเวลา เราสารภาพเมื่อไหร่ พระเจ้ายกโทษให้เมื่อนั้น อันนี้เรามีสันติสุขแล้ว คือความสงบสุข
แล้วสันติสุขอันที่สองก็คือ ความชื่นชมยินดี การดีใจนะครับ การชื่นชมยินดี เป็นน้ำแห่งชีวิต เมื่อไหร่ที่เราเข้าใกล้พระเจ้ามาก สนิทในพระเยซูมาก เราพูดคุย บอกรักมากเท่าไหร่ พระเจ้าก็ส่งความชื่นชมยินดี ความดีใจ มาให้เรามากเท่านั้น
...
ข้อที่ 15 ขอบคุณพระเยซูนะครับ พระเจ้ามองเราว่าเป็นคนใหม่แล้ว แม้ว่าเรานะครับจะดำเนินชีวิตเหมือนคนเก่า แต่พระเจ้าไม่แคร์ พระเจ้ามองเราว่าเป็นคนใหม่ 2 คร 5:16-17 พระเจ้าไม่มองเราในมาตรฐานของอาดัม ในฐานะของเนื้อหนัง มนุษย์คนเก่า แต่พระเจ้ามองเราในมาตรฐานของพระเยซูคริสต์ เราทุกคนที่อยู่ในพระคริสต์ ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว ใหม่ทั้งนั้น สิ่งเก่าก็ล่วงผ่านไป เราขอบคุณพระเยซู
ตอนนี้เราไม่ใช่คนต่างชาติ ไม่ใช่คนยิว แต่เราเป็นยิวฝ่ายวิญญาณ เราเป็นยิวแท้ของพระเจ้าแล้ว ขอให้จำนะครับ เราเป็นคนใหม่ทุกวัน ทุกวัน ใหม่ตั้งแต่เช้าจนถึงเย็น จนถึงค่ำ เราใหม่แล้ว
ชาวยิวเมื่อเขาจะเป็นคนชอบธรรมได้ต้องรักษาพระบัญญัติ ต้องเคร่งครัด และเมื่อไหร่ที่ทำไม่ได้ เขาพลาด เขาก็จะนำแกะไปที่พระวิหาร เพื่อถวายเป็นเครื่องบูชาไถ่บาป
แต่เดี๋ยวนี้เรามีพระเยซูที่เป็นความชอบธรรมของเรา พอเราเชื่อพระเยซูปุ๊บ เราก็ได้กลายเป็นคนชอบธรรมเท่ากับชาวยิวที่เคร่งครัดเลย ขอบคุณพระเจ้า พระเจ้าเมตตาเรานะครับ ให้เรากลายเป็นคนชอบธรรมแบบง่ายๆ