1. พระเจ้าตามหาผู้เชื่อที่ดำเนินชีวิตและรับใช้ตามน้ำพระทัยของพระบิดา. น้ำพระทัยคืออะไร
2. ผู้ที่ข่มเหงผู้เชื่อส่วนมากจะเป็นผู้เชื่อด้วยกันอาจทำต่อหน้าหรือยืมมือผู้อื่นเพื่อการข่มเหง
3. การหน้าซื่อใจคด คือสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชังมากที่สุด มธ 23 พระเยซูเริ่มตำหนิพวกยิวโดยเริ่มด้วยคำว่า เจ้าผู้หน้าซื่อใจคด ฯลฯ
4. การต่อสู้ตอบแทนแก้แค้นไม่ใช่หน้าที่ของเราแต่เป็นพระเยซู ทุกการกระทำดีหรือไม่ดีต่อผู้เชื่อย่อมจะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน
5. การเป็นขึ้นมาจากความตายของพระเยซูและผู้เชื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเป็นพยานของผู้ประกาศ
และมาถึงบทเรียนที่กล่าวถึง 4-5 เรื่อง ที่สำคัญสำหรับชีวิตคริสเตียน เปาโลถูกจับแล้วก็อยู่ต่อหน้าสภาแซนแฮริน ซึ่งเป็นสภาของศาสนายิวนะครับผู้นำส่วนมากจะเป็นศาสนาทั้งนั้น ซึ่งไม่มีผู้ปกครองกษัตริย์เจ้าเมืองโรมเข้ามาเกี่ยวข้อง เป็นการตัดสินเรื่องเปาโลที่ทำผิดเกี่ยวกับศาสนา เกี่ยวกับการละเมิดพระบัญญัติ
แต่ปรากฏว่าครั้งนี้เขาไม่พบความผิดไม่มีหลักฐานว่าเปาโลทำผิด ซึ่งเปาโลก็เปิดเผยต่อหน้าทุกคน กล้าพูด บอกว่าข้าพเจ้าทำทุกสิ่งตามน้ำพระทัยของพระเจ้าในสิ่งที่ดีชอบทั้งนั้นไม่ได้ทำผิดต่อใคร ไม่ได้ทำผิดอะไร และไม่ได้ละเมิดคำบัญญัติ
คำว่า ไม่ได้ละเมิดพระบัญญัติ ก็คือ เปาโลเข้าสู่พระบัญญัติใหม่จากพระบัญญัติเดิม และพระบัญญัติใหม่ก็คือผ่านพระเยซูคริสต์ ซึ่งอันนี้ทำให้ชาวยิวไม่เข้าใจยิ่งไม่เข้าใจไปใหญ่ แล้วโกรธมาก แล้วก็ให้มาหาปุโรหิตให้คนหนึ่งไปตบปากของเปาโล แต่เปาโลก็ยืนยันนะครับว่าข้าพเจ้าไม่ได้ทำผิดต่อใครต่อพี่น้องชาวยิวทั้งหลาย
วันนี้เราจะเห็นว่าเปาโลยืนยันว่าข้าพเจ้าดำเนินชีวิตรับใช้ทำทุกสิ่งตามน้ำพระทัยของพระบิดา ซึ่งเราเห็นแล้วว่าน้ำพระทัยของพระบิดา สำหรับพระเจ้าสำหรับการดำเนินชีวิตที่พระเจ้าต้องการให้เราทำในแต่ละวัน ก็คือดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์ ในพระคริสต์ เรากินดื่มนั่งนอนไปมาในชีวิตใหม่ในคนใหม่ในมนุษย์วิญญาณ ที่ทำทุกสิ่งโดยเรามีรากฐานมีพิกัดมีที่ตั้งมีตำแหน่งอยู่ในพระคริสต์ เอเมนไหมครับ
เป็นการเชื่อและเป็นการนับว่าในพระคริสต์ ในพระคริสต์ ทุกย่างก้าวทุกก้าวของเราคือในพระคริสต์ ในพระคริสต์ อย่าออกนอกพระคริสต์ การออกนอกพระคริสต์ก็คือการเผลอไปอยู่ในอาดัมในเนื้อหนัง ไปคิดถึงกิเลสตัณหาโลภโกรธหลง ไปคิดถึงสิ่งที่เป็นของโลกนี้
เพราะฉะนั้นการมีชีวิตอยู่ในพระคริสต์ ก็คือเราคิดถึงแต่เรื่องฝ่ายวิญญาณการฝ่ายวิญญาณ สนิทพูดคุยสนทนาบอกรักพระเยซูเท่านั้น อันนี้เรียกว่าการดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์
เพราะฉะนั้นถ้าหากเราออกจากพระคริสต์อยู่นอกพระคริสต์ก็คือความบาปและความตายความอ่อนแอ
แต่การอยู่ในพระคริสต์ก็คือสันติสุขและชีวิต เอเมน
ในพิกัดในตำแหน่งพระคริสต์ มีแต่พระพร มีแต่การเลี้ยงดู การดูแล การช่วยเหลือ การนำพาของพระเจ้า ในพระคริสต์มีชีวิตและสันติสุข คือการรับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณทั้งภายในและภายนอกอยู่เสมอ สรรเสริญพระเยซู
เราขอบพระคุณพระเจ้านะครับ ขณะที่ผู้เชื่อมากมายคิดว่าการอยู่ในพระคริสต์ คือการเชื่อในพระเยซู หรือการเชื่อฟังไม่ทำบาป ถ้าหากทำบาปเมื่อไหร่ก็ออกนอกพระคริสต์ออกไปจากพระคริสต์ อันนี้เป็นการเข้าใจผิดของพวกเขา 1 โครินธ์ 1:30 เปิดเผยว่าทันทีที่เราเชื่อ พระเจ้าก็ย้ายเราออกจากอาดัมไปอยู่ในพระคริสต์ และเราจะไม่ออกไปไหนเป็นอันขาด นี่คือความเชื่อที่แท้จริง และการมีชีวิตในพระคริสต์เป็นที่อยู่ถาวรของเรา เพียงแต่เราเชื่อเราก็มีประสบการณ์ชีวิตในพระคริสต์แล้ว
เพียงแต่เราเชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ สันติสุขก็มา
เพียงแต่เราเชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง ความอ่อนแอก็หายไป
เพียงแต่เราเชื่อว่าในพระคริสต์ มีแต่สันติสุขมีแต่ความสุข ความทุกข์ก็หายไป
การหายไปของสิ่งเหล่านี้ที่เป็นเป็นอยู่ในอาดัม ก็คือ การที่เราเชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ เอเมน
สิ่งที่สอง การดำเนินชีวิตและรับใช้ร่วมกับพระคริสต์ สำหรับชีวิตพวกเราตอนนี้ ร่างกายนี้ไม่ใช่เรามีชีวิตอยู่คนเดียว ก็คือเรากินดื่มนั่งนอนไปมาทำทุกสิ่งร่วมกับพระคริสต์ ร่างกายนี้มี 2 คนที่อาศัยอยู่ ไม่ใช่เราคนเดียวอีกต่อไป เมื่อปัญหาเมื่อตัวบาปยุเราให้ทำบาป พระคริสต์จะเป็นผู้คิดแทนและรับมือกับทุกสิ่งแทนเรา โดยที่เรายอมให้พระองค์เป็นผู้ครอบครองควบคุมจิตใจร่างกายของเรา เอเมน
สุดท้ายก็คือการดำเนินชีวิตและรับใช้เพื่อพระคริสต์เท่านั้น อันนี้อาจจะเป็นประเด็นนะครับสำหรับพี่น้องบางคน แต่สำหรับพี่น้องที่ถ่อมใจและทำใจได้และทำได้ก็ขอบคุณพระเยซู
เพราะฉะนั้นในกลุ่มในพี่น้องท่ามกลางพี่น้องคริสตจักร พระกายฝ่ายวิญญาณ เราหลีกเลี่ยงนะครับอันนี้ผมขอย้ำเตือนพวกเรานะครับ เราหลีกเลี่ยง เรื่องการที่จะยกตนข่มท่าน การที่จะยกตนให้พี่น้องยกย่อง สรรเสริญ ยกขึ้นให้เป็นผู้นำเป็นอาจารย์ อยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ สิ่งนี้บางคนมีปัญหานะครับ ก็คือไม่อยากเป็นใหญ่ท่ามกลางผู้คนมากมายก็ขอให้เป็นใหญ่ท่ามกลางกลุ่มเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ขอให้ได้เป็นใหญ่ก็พอ ถ้าหากเรามีความคิดแบบนี้นะครับการหยิ่งผยองพองตัวก็ยังอยู่
ซึ่งการหยิ่งผยองพองตัว เป็นศัตรูของพระเจ้าหมายเลข 1 เราฟังกันดีๆ นะครับ prideful ก็คือการหยิ่งผยอง การอวดตัว ว่าเราเก่ง เราดี เราชอบธรรม เราเข้มแข็ง ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือเป็นสิ่งที่พระเจ้าเกลียดชังมาก เป็นศัตรูหมายเลข 1 ของพระเจ้า เพราะฉะนั้นพระเยซูจึงตรัสว่า ผู้ใดที่ยกตนขึ้น พระเจ้าจะข่มเขาลง เอเมนไหมครับ (มธ 23:12)
ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้นะครับอาจจะเกิดขึ้นในชีวิตนี้ แต่แน่นอนที่สุดก็คือในยุคหน้า พระเจ้าจะข่มลงไม่ได้เป็นใหญ่ในอาณาจักรไม่ได้มีส่วนครอบครองร่วมกับพระเยซูในยุคพันปี เพราะฉะนั้นขอให้เรายอมเป็นคนต่ำต้อย ไม่มีตัวตน ไม่รับการเคารพยกย่องแม้แต่นิดเดียว แต่ทุกสิ่งให้เป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า
อย่าลืมนะครับน้ำพระทัยของพระบิดา คือ
ข้อที่ 1. การรับใช้การดำเนินชีวิตในพระคริสต์
ข้อที่ 2. ก็คือ การดำเนินชีวิตและการรับใช้ร่วมกับพระคริสต์
ข้อที่ 3. ก็คือ การดำเนินชีวิตและการรับใช้เพื่อพระคริสต์เท่านั้น
อย่าลืมนะครับ For Christ Only เพื่อพระคริสต์เท่านั้นไม่ใช่เพื่อเรา ไม่ใช่เพื่อชื่อเสียงเกียรติยศ หน้าตาตำแหน่งของเรา
แต่ทุกสิ่งพระเจ้าเท่านั้นในชีวิตเราที่สมควรยกย่องสรรเสริญกราบไหว้และนมัสการ การใช้ชีวิตการรับใช้การสามัคคีธรรม เราแค่เพียงเอ่ยถึงขอบคุณสำนึกถึงบุญคุณของผู้นำที่รักพระเจ้าและถ่อมใจ เป็นบางครั้งคราวอันนี้ได้ แต่คนเดียวเท่านั้นที่เราสมควรจะยกย่องสรรเสริญกราบไหว้และขอบพระคุณ ก็คือพระคริสต์
เรากลับมาถามตัวเราเองนะครับว่าที่ผ่านมา ก็คือเราดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์หรือยัง เราดำเนินชีวิตและรับใช้ร่วมกับพระคริสต์หรือยัง และเราดำเนินชีวิตและรับใช้เพื่อพระคริสต์เท่านั้นหรือยัง ถ้ายังนะครับขอการชำระจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วพระองค์จะช่วยเราเอเมน
ประเด็นที่ 2. ก็คือเรื่องการข่มเหง การข่มเหงนะครับจะมีเป็นครั้งคราวจะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลา พระเจ้าจะอนุญาตจากคนที่ไม่เชื่อ และก็ยังมีการข่มเหงจากพี่น้องผู้เชื่อด้วยกัน ซึ่งบางครั้งก็ข่มเหงต่อหน้าต่อตา หรือบางครั้งก็ใช้คนที่ไม่เชื่อยืมมือคนอื่นเพื่อมาข่มเหงเรา เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจนะครับ สำหรับความเห็นแก่ตัวของคริสตจักรมากมายทุกวันนี้มีก็คือ ผมถูกคุณผิดใช่มั้ย ใครก็คิดว่าเขาถูก และคิดว่าคนอื่นผิด
ซึ่งเป็นความคิดที่สำหรับพระเจ้าแล้วเราควรจะเปิดใจ เราเองพี่น้องที่รับมานาฯ พวกเรามาถึงความรู้ที่ล้ำลึก เข้าถึงแก่นแท้ของพระคำพระเจ้าแล้ว แต่เราก็ยังเปิดใจนะครับเราไม่มองว่า เอ๊ะจะมีจุดที่ถูกทั้งหมดไหม หรืออาจจะมีจุดบกพร่องบ้าง เราก็ยอมฟังคนอื่น เราให้โอกาสคนอื่นที่จะพูด แต่เมื่อเขาพูดเนี่ย คือเรามาถึงมานาที่ซ่อนไว้ ถ้าหากเราเรียนรู้ครบถ้วน เราจะเห็นว่าส่วนมากคำสอนของพวกเขาจะเป็นคำสอนที่แปลผิด แต่ก็ยังมีหลายส่วนนะครับหลายส่วนที่เขาเชื่อถูกนะครับ ซึ่งไม่ได้ผิดทั้งหมด อันนี้เราก็ขอบคุณพระเจ้า
แต่ที่สำคัญเราจะไม่ตัดสินเขา และเราก็คือยอมเป็นคนที่ต่ำต้อย ยอมเป็นคนที่เปิดใจ เราไม่อวดตัว เราทำตนเป็นคนที่ไม่มีตัวตน ซึ่งอีกครั้งนะครับเราขอพระเจ้าชำระเรา ช่วยเรา ท่ามกลางมนุษย์วิญญาณกลุ่มคริสตจักรเที่ยงแท้ เราจะไม่ยกตัวเราขึ้นยกตนขึ้น เพื่อให้คนอื่นยกย่องว่าเป็นอาจารย์เป็นผู้นำ เป็นนี่นั่น เราเป็นคนที่ไม่มีชื่อเสียงไม่มีอะไร เป็นคนเลี้ยงแกะที่ไม่มีรองเท้าใส่ ใส่เสื้อขาด แล้วก็ไม้เท้าก็คือสำหรับสิ่งที่เรามีอยู่เพื่อดูแลเพื่อรักแกะ เหมือนที่พระเยซูรักแกะของพระองค์ เราก็ต้องรักแกะของพระองค์เหมือนกัน เราไม่ตีไม่ข่มเหงไม่ทำให้แกะดูเหมือนต่ำต้อย หรือบังคับแกะให้ยกเราขึ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม เอเมน
เพราะฉะนั้นการข่มเหง เราจะไม่ข่มเหงใคร โดยปกติเราเองจะถูกข่มเหง แต่ว่าสิ่งที่เรากระทำก็คือไม่ตอบแทนไม่แก้แค้น ไม่ต่อสู้ ไม่ถกเถียง เราเดินหนี และเราอวยพรเขา และเรารักศัตรู เอเมน
สิ่งที่สำคัญมากที่เปาโลเอ่ยถึง ก็คือผนังฉาบด้วยปูนขาว เมื่อพระเยซูตำหนิฟาริสีและธรรมอาจารย์ในมัทธิวบทที่ 23 เราจะพบว่าเกือบจะทุกข้อก่อนที่จะเอ่ยถึงความผิดพลาดของเขา พระเยซูจะใช้คำว่าเจ้าผู้น่าซื่อใจคด เจ้าผู้น่าซื่อใจคด เจ้าผู้น่าซื่อใจคน นี่นะครับก็คือผนังฉาบด้วยปูนขาว ก็คือไม่ใช่คนที่เป็นคนหน้าซื่อใจซื่อ
สำหรับโลกคนที่ไม่เชื่อเขาก็ยังเป็นคนน่าซื่อใจซื่อนะ เขาไม่มีอาการน่าซื่อใจคดโดยปกตินะครับ ก็คืออยากจะด่าก็ด่า อยากจะพูดอะไรก็พูด อยากจะเป็นอะไรเขาก็เป็นของเขา เราลองไปดูลองไปสังเกตดูนะครับที่ตลาด ที่ทำงาน ทุกที่ทุกแห่งทุกหน ชาวโลกเขาจะเป็นคนหน้าซื่อใจซื่อ แต่คนที่มีปัญหามากกว่าชาวโลกก็คือพวกเรานี่แหละ
อีกครั้งนะครับคริสตจักรทั่วไปทุกวันนี้ เป็นเหมือนโรงละคร และดารานักแสดงทั้งหลายก็คือคริสเตียน อันนี้เป็นเรื่องที่น่าเศร้า ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ก็คืออาการน่าซื่อใจคด ทุกคนที่ไปก็คือจะติดเชื้อกับคริสเตียนที่ไปอยู่ก่อนเรา ติดเชื้อกับผู้นำที่ไปอยู่ก่อนเรา เราเข้าไปปุ๊บเนี่ยเห็นทุกคนยิ้มเราก็อยากจะยิ้มกับเขา เห็นทุกคนดูเข้มแข็ง เราก็อยากจะเข้มแข็งกับเขา ใส่เสื้อผ้าแต่งกายดูดี เราก็จะไปหาเสื้อผ้า ชุดใส่เพื่อให้ดูดีเหมือนพวกเขา
คือมันเป็นเชื้อที่เราติดกับเขา คือเราก็มีส่วนผิดแต่ส่วนผิดที่มีมากกว่าใครก็คือ คริสตจักรที่เขาเป็นอยู่แล้ว คือเข้าไปอยู่ที่ไหนเราเห็นว่าเขาเป็นแบบนั้นเราก็เป็นเหมือนเขา อีกอย่างทุกคนก็อยากจะแสดงว่าตนเป็นคนเข้มแข็งเป็นคนดีเป็นคนชอบธรรม เราก็เลยเป็นกันทั้งหมด ก็คือน่าซื่อใจคดใส่หน้ากาก
เราขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้เราหลุดพ้นจากสิ่งนี้แล้ว ก็คือหลุดพ้นจากการเป็นผนังที่ฉาบด้วยปูนขาว เราเป็นคนหน้าซื่อใจซื่อ เป็นอะไรก็ได้เราไม่ต้องแคร์ว่าใครจะยกย่องเราหรือไม่ มองเราว่าเข้มแข็งหรือไม่ เป็นอะไรหรือไม่ ผมนะครับถ้ามีจุดบกพร่องอะไรผมก็ยอมรับ ใครมาบอกว่าต้องแก้ไขตรงนี้มีความผิดตรงนี้ ผมก็บอกว่าโอเคเอเมนจะแก้ไข เมื่อก่อนอดีตคุณเคยมีปัญหาแบบนี้ ผมก็บอกว่าผมจำไม่ได้ เพราะว่าผมสารภาพพระเจ้ายกโทษ พระเจ้าก็จำไม่ได้ผมก็จำไม่ได้จะไปจำทำไม เอเมน
เพราะฉะนั้นเรามีชีวิตอยู่วันนี้ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด พี่น้องมาตำหนิเรา เราขอบคุณพระเจ้า เราแก้ไข เราขอพระเจ้าชำระเรา และถ้าหากเราแก้ไขได้ ขอบคุณพระเจ้าที่ทุกสิ่งพระเกียรติเป็นของพระองค์ เอเมน
และข้อที่ 4. ก็คืออย่าแก้แค้นใคร แต่จงรักเขารักศัตรู เพื่อพระเจ้าจะแก้แค้นแทนเรา และดูแลเราเป็นอย่างดี เอเมน
ข้อที่ 5. ก็คือเราพบว่าเรื่องการเป็นขึ้นมาจากตาย เป็นสิ่งที่มนุษย์รับไม่ได้ ตั้งแต่เริ่มแรกและสุดท้ายของมนุษย์ไม่มีใครเป็นขึ้นมาจากตายและมีชีวิตอยู่ตลอดไปได้ ซึ่งอาจจะมีคนที่ตายนะครับก็มีอยู่แล้วเป็นขึ้นมาไม่กี่วันจากนั้นก็ต้องตาย คืออยู่ต่อไปไม่ได้ และท่ามกลางมนุษย์ไม่มีใครเชื่อว่าการเป็นขึ้นมาจากตายและมีชีวิตอยู่ตลอดไปเป็นสิ่งที่มีเป็นไปได้ มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขา เพราะว่ามันไม่มีคนที่เคยตายแล้วฟื้นขึ้นมาแล้วอยู่กับมนุษย์ไปนานหลายเดือนหลายปีตลอดไป ไม่มีนะครับ
แต่ขอบคุณพระเจ้าในวันนี้ เมื่อเราเชื่อพระเจ้าที่ตามองไม่เห็น แต่พระองค์ปรากฏกับเราทางการสัมผัส การดูแลการช่วยเหลือการนำพา การรับสันติสุขเมื่อเรามีทุกข์ เหล่านี้นะครับทำให้เราเชื่อพระเจ้า เอเมน
เช่นเดียวกัน เรื่องการเป็นขึ้นมาจากความตาย เราไม่เห็นพระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย เราเพียงแค่ได้อ่านในพระคัมภีร์ แต่เราเชื่อ เมื่อเราเชื่อขอบคุณพระเยซู พระเยซูได้มาปรากฏกับพวกเรา เรามีประสบการณ์กันมากใช่ไหมเรื่องพระเยซูมาปรากฏ เรื่องพระเยซูมาตรัสกับเรา เรื่องพระเยซูมาเข้าในนิมิตให้เราเห็นนิมิตที่พระองค์มาหาเรา
ซึ่งมีคำพยานจากพี่น้องผู้เชื่อมากมายในโลกนี้ สิ่งหนึ่งที่คริสเตียนจะโกหกไม่ได้เรื่องการเห็นพระเจ้า สิ่งหนึ่งที่คริสเตียนจะโกหกไม่ได้เรื่องการได้สัมผัสพระเจ้า อันนี้ไม่มีใครกล้านะครับซึ่งเราขอบคุณพระเจ้าที่เราได้รู้ว่าพระเยซูมีจริงและพระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตายจริงๆ ผ่านคำพยานของพี่น้อง และโดยเฉพาะตัวเราเองเป็นพยาน เอเมน
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับบทเรียน 5 เรื่องสำหรับวันนี้ เป็นสิ่งที่มีค่ามาก และสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับคนนี้ ก็คือเรากลับไปทบทวนดูว่าการดำเนินชีวิตของเราทุกวันนี้ รับใช้พระเจ้าดำเนินชีวิตนมัสการสามัคคีธรรม ทำทุกสิ่ง เราได้กระทำตามน้ำพระทัยของพระบิดาหรือไม่
น้ำพระทัยของพระบิดา ก็คือเราได้ดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์หรือยัง เราดำเนินชีวิตและรับใช้ร่วมกับพระคริสต์หรือยัง เราดำเนินชีวิตและรับใช้เพื่อพระคริสต์หรือยัง ถ้ายังขอการชำระจากพระเจ้า แก้ไขเพื่ออาณาจักรจะเป็นของเรา เพื่อมงกุฎจะเป็นของเรา เพื่อบำเหน็จมากมายสันติสุขในโลกนี้ในชีวิตนี้การดูแลปกปักรักษาจะเป็นของเรา เอเมน
สำหรับการได้รับการเปิดตา เป็นพระคุณพระเจ้าอย่างมากมาย คือเราได้หลุดพ้นจากความเชื่อผิดๆ และจากสิ่งที่พี่น้องศาสนาเขาทำให้เราแบกหนัก เรารู้สึกว่าภาระมันหนักแอกหนักมาก ขอบคุณพระเยซูสำหรับการได้มาพบว่าใน 2 โครินธ์ 9:7 เราทำทุกสิ่งตามขนาดของความเชื่อ คริสตจักรต้องการอะไร แล้วถ้าหากพระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเราและเราไม่มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ซึ่งพระเจ้าเองจะเป็นคนจัดเตรียม เราสรรเสริญพระเจ้า เราก็ทำ
แต่ถ้าในกรณีแบบนี้โดยส่วนมากก็คือ เราหนักใจ เราฝืนใจ เราการชำระยังมาไม่ถึง และเรื่องการเงินของเราก็อาจจะไม่สะดวก แล้วทางคริสตจักรก็ต้องการ อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ใช่แล้วนะครับ เราขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าเปิดเผยเรื่องความจริงเกี่ยวกับเรื่องการให้ของเรา คือเราให้ตามขนาดของความเชื่อ ไม่ต้องห่วงครับถ้าหากเราให้น้อย คนอื่นถ้าเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้า คนอื่นก็จะมีให้ แล้วพี่น้องหลายคนก็จะช่วยกัน ไม่ใช่เพียงแต่เราคนเดียวเท่านั้นที่ต้องแบกภาระ ซึ่งอันนี้เราขอบคุณพระเยซู และพระพรก็เป็นของทั้งคนผู้ให้แล้วก็ผู้รับด้วย
สิ่งไหนก็ตาม ขอย้ำเราดำเนินชีวิตทำทุกสิ่งโดยเฉพาะเรื่องการให้ ก็คือให้ตามขนาดของความเชื่อ ใช่ครับเราไม่ต้องไปสนใจว่าเขาจะพูดยังไง เราไม่เข้มแข็ง เราไม่รักพระเจ้า เรารู้ดีภายในจิตใจของเราว่าเรารักพระเจ้าหรือไม่ เข้มแข็งหรือไม่ เอเมนขอบคุณพระเยซู
ถาม.
ขอถามข้อสรุปที่ 4. ที่ว่าการต่อสู้ตอบแทนแก้แค้นไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่เป็นของพระเยซู อันนี้เข้าใจอยู่ แต่ว่าไม่เข้าใจที่ว่าทุกการกระทำดีหรือไม่ดีต่อผู้เชื่อย่อมจะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน คือว่าไม่เข้าใจที่ว่าถ้าไม่ใช่เป็นคริสเตียนไม่ใช่คริสเตียนของเราแต่เป็นของชาวโลกที่เขาทำดีหรือไม่ดี การตอบแทนนี้พระเจ้าจะทำให้เขาไหมค่ะ
ตอบ.
คือมีกฎอยู่อย่างหนึ่งนะครับเรียกว่า เรียกว่ากฎทองคำ หรือกฎของพระเจ้า อันนี้ในพระคัมภีร์มีบอกไว้ว่ามนุษย์จะเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อ จะรู้จักพระเจ้าหรือไม่รู้จัก ถ้าหากเขาทำดีเขาก็ได้รับผลดีตอบแทนอย่างแน่นอน คือทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว อันนี้เป็นกฎของพระเจ้าที่ให้กับโลกนี้ไม่ว่าเขาจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่เชื่อพระเจ้าก็ตาม
แล้วทีนี้พอเรามาเชื่อพระเยซู การกระทำของเรานะครับถ้าหากเราทำถูก ทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เราก็ได้รับผลตอบแทนทั้งในชีวิตนี้และในยุคหน้า
สำหรับคริสเตียนนะครับที่ดำเนินชีวิตที่ทำดี แต่ไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า โดยที่พระเจ้าไม่นำพาเขา ไม่ได้บอกเขาไปแต่เขาไป ไม่ได้บอกให้เขาไปประกาศข่าวประเสริฐกับคนนี้แต่เขาไป ไม่ได้บอกให้รับใช้ตั้งแต่เช้าจนค่ำแต่เขาทำ เขาทำเพื่อหวังดีกับมนุษย์และเพื่อหวังดีต่อพระเจ้า แต่เขาไม่รู้ว่าควรจะทำแบบไหนวิธีทำของเขาไม่ถูก เขาได้รับผลตอบแทนในชีวิตนี้เท่านั้น แต่ไม่มีบำเหน็จในอาณาจักรและในแผ่นดินโลกใหม่
สิ่งนี้นะครับเราควรจะเข้าใจ ทำให้ชัดเจนกับเรา เพื่อเราจะไม่ต้องแก้แค้น เราไม่ต้องไปตอบโต้ ไม่ต้องไปต่อสู้ เพราะว่าทุกสิ่งทุกคนที่เขาทำอะไร ทำดีก็ได้ดี ทำไม่ดีก็ได้ไม่ดี และโดยเฉพาะเมื่อเราเป็นลูกพระเจ้าเป็นบุตรพระเจ้า ถ้าหากใครมาทำอะไรเราแน่นอนครับพระเจ้าจะตีเขาไม่มากก็น้อยตามขนาดตามการกระทำของเขา แล้วเราเองถ้าหากเราไม่ตอบแทนไม่แก้แค้นไม่ต่อสู้ พระพรทุกสิ่งก็จะเป็นของเรา เอเมน
แล้วเราก็ยังถูกเรียกด้วยว่าเป็นบุตรที่รักของพระบิดา ซึ่งบุตรมากมายก็มีอยู่แต่ก็เป็นบุตรพระเจ้า แต่สำหรับเราที่ดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระบิดา เมื่อมีการข่มเหงเราไม่แก้แค้นเราไม่ต่อสู้ไม่ถกเถียงไม่ตอบโต้ พระเจ้าก็เรียกเรานะครับว่าเป็นบุตรที่รัก ในมัทธิวบทที่ 5 ครับผม
ถาม.
อาจารย์...ค่ะอยากจะสอบถามนิดนึงค่ะคือตัวพี่นี่นะคะเชื่อในพระเจ้า แล้วก็ลูกสาวพี่ไปอยู่สหรัฐอเมริกา แล้วแฟนเขาก็เป็นคริสเตียน จะถามว่าตอนนี้หลานกับลูกสาวจะทำยังไงให้เขาเชื่อพระเจ้าค่ะ
ตอบ.
อันแรกก็คือถ้ามีโอกาสถ้าเราพูดกับเขาได้นะครับก็บอกเขาให้กลับใจให้เชื่อให้รับพระเยซู อันที่สองก็คืออธิษฐานเผื่อ ถ้าหากเรารักเขาและเป็นห่วงเขาก็คืออธิษฐานเผื่ออยู่เสมอครับผม แล้วถ้าหากว่าเขาเป็นคนที่ถูกเลือก พระเจ้าเลือกเขาไว้ สุดท้ายเขาก็จะมาถึงความรักของพระเจ้าและพระคุณของพระเจ้า แต่ถ้าเขาไม่ใช่นะครับก็เอเมนนะครับ
สำหรับคนที่อยู่ในครอบครัวของพระเจ้า ส่วนมากนะครับส่วนมาก จะกลับใจ ถ้าหากเขาอยู่ในการดูแลอยู่ในท่ามกลางของคนที่เชื่อ แล้วก็พูดถึงการไปโบสถ์การนมัสการพระเจ้าอะไรทั้งหลาย ก็จะมีโอกาสได้เป็นคริสเตียนโดยเฉพาะที่อยู่ต่างประเทศนะครับเขามีศาสนาคริสต์เป็นหลัก ไปไหนก็มีแต่ศาสนาคริสต์ มีแต่โบสถ์ โอกาสที่จะได้รู้จักพระเยซูก็มีมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่การเลือกของพระเจ้า พระเจ้าเลือกใครคนนั้นก็รอด พระเจ้าไม่เลือกก็จำเป็น หน้าที่ของเราก็คือบอกเขาเรื่องพระเยซูแล้วก็อธิษฐานเผื่อเขาอยู่เสมอ
ถาม.
สามีเขาก็พาไปโบสถ์อยู่เรื่อยๆ นะคะ
ตอบ.
ก็มีโอกาสนะครับมีโอกาสที่จะรอด แต่อย่างที่ผมพูดนะครับขอย้ำนะครับว่าคนที่ถูกเลือกก็คือจะรอด คนที่ไม่ถูกเลือกก็คือพระเจ้ารู้ว่าใครจะเลือกพระเจ้าหรือไม่เลือกพระเจ้า แล้วพระเจ้าก็หมายไว้ แล้วสุดท้ายก็จะมาถึงพระคุณพระเจ้าวันยังค่ำ เอเมนครับ
เราทำหน้าที่ดีที่สุด ก็คืออธิษฐานเผื่อ และประกาศกับเขาเมื่อมีโอกาส 2 สิ่งนี้คือสิ่งที่เราคำนึงตระหนักถึง
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่นะคือสำหรับคริสเตียนหลายคน รู้สึกน้อยใจเสียใจเป็นห่วงกังวลมากพ่อแม่เรา ทำยังไงถึงจะให้เขาได้รอดได้เชื่อพระเยซู สามีเราภรรยาเราลูกเรา คือเป็นห่วงคิดหนักมากใช่ไหม แต่จริงๆ แล้วพอเรามาถึงการชำระเรื่องพระเจ้าเลือกและไม่เลือก ก็คือขอบคุณพระเยซู
ตั้งแต่แรกเริ่มเขายังไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พระเจ้าทราบจิตใจของทุกๆ คน จิตใต้สำนึกของทุกๆ คน DNA ของเขามันจะฟ้องว่าคนนี้จะรับพระเจ้าเมื่อได้ยินเรื่องพระเยซู คนนี้จะไม่รับและจะไม่รอด เมื่อได้ยินเรื่องพระเยซูแต่ไม่รับ พระเจ้ารู้ทั้งหมดนะครับ แล้วพระเจ้าก็หมายไว้ ถ้าเป็นคนที่พระเจ้าเลือกเราไปบอกไปพูดอาจจะไม่รับวันนี้ แต่วันหนึ่งเขาก็จะรับ
หน้าที่ของเราสิ่งสำคัญเราต้องทำหน้าที่ของเรา ซึ่งเราเป็นปุโรหิต เราเป็นคนต้นเรือน ก็คือประกาศข่าวประเสริฐกับเขา และอธิษฐานเผื่อเขา แล้วรางวัลก็เป็นของเราอยู่แล้ว ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ พอเราไปทำงาน เป็นไปรษณีย์ ประกาศข่าวประเสริฐ เขารับเราก็ได้รางวัล เขาไม่รับเราก็ได้รางวัลอยู่ดี เอเมน
ถาม.
ถึงแม้ว่าเราจะทำด้วยจิตสำนึกที่ดี แต่ถ้าเราไม่เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าก็ไม่มีความหมายใช่ไหมครับ ช่วยอธิบายหน่อยครับ
ตอบ.
นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าให้เรามาถึงกิจการบทที่ 23 นะครับเปาโลพูดว่าข้าพเจ้าทำในสิ่งที่ดีที่สุด คืออยู่ในจิตสำนึกที่ดี ความหมายก็คือการกระทำตามน้ำพระทัยของพระบิดา และเราพบว่าเปาโลพูดเองใช่มั้ย ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะถวายตัวให้พระเจ้า ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะยอม ถูกเขาจับเอาไปฆ่าไปเผาไฟ ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าจะสละทรัพย์สินสิ่งของมากมายทั้งชีวิตทั้งหมดให้พระเจ้าเพื่อพระเจ้า แต่ก็ไม่มีความหมายอะไรถ้าไม่มีความรัก ความรัก (1 คร 13:1-3)
สิ่งที่สองก็คือเราพบว่าการดำเนินชีวิตในพระคริสต์ร่วมกับพระคริสต์และเพื่อพระคริสต์ จริงๆ แล้วก็คือดำเนินชีวิตในความรัก เอเมน
เพราะฉะนั้นคริสเตียนมีปัญหา 2 เรื่อง ก็คือ 1. มาไม่ถึงความรักที่มีต่อกัน 2. มาไม่ถึงความรักที่มีต่อพระเจ้า มาไม่ถึงความรักต่อศัตรู นี่คือจุดอ่อนของคริสเตียนทุกวันนี้ อันนี้ผมพูดถูกมั้ย เรารักกันน้อยมาก และโดยเฉพาะคำว่าศัตรู โอ้ รักไม่ได้ นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นท่ามกลางคริสเตียนทั้งหลายทั่วโลกตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว
แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้านำเรามาถึงมานาที่ซ่อนไว้ และสิ่งที่เราจะวิ่งตามหาต่อไป ก็คือการดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์ ร่วมกับพระคริสต์ และเพื่อพระคริสต์
ถ้าหากเราทำได้ 3 สิ่งนี้และเราเชื่อทุกวัน เราเดินในพระคริสต์ เดินร่วมกับพระคริสต์ และเดินเพื่อพระคริสต์ สิ่งที่เกิดขึ้นและมีมากขึ้นก็คือความรักของพระเยซู “อากาเป”
สรุปก็คือ การใช้ชีวิตที่ทำเพื่อพระเจ้าแต่ไม่รู้จักน้ำพระทัยของพระบิดา โดยที่พระเจ้าไม่ได้เร้าใจเราให้ไปทำ และพระคริสต์ไม่ได้ทำแทนเรา เรารู้สึกเฉยๆ กับมันแต่ด้วยความที่สงสารเมตตาอาจจะช่วยคนบ้าง อาจจะช่วยเหลือใครบ้าง อาจจะไปประกาศข่าวประเสริฐบ้าง ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าหากไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าและไม่ได้รับการเร้าใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ สิ่งที่เราทำก็สูญเปล่าต่อเรื่องของอาณาจักร แต่ก็จะมีบำเหน็จบ้างในชีวิตนี้ พระเจ้าก็ตอบแทน
สำหรับวันนี้เราอาจจะจบตอนบ่ายโมงหรือบ่ายโมงครึ่งแต่บทเรียนนะครับขอให้พี่น้องอธิษฐาน และไปค้นหาข้อมูลคำอธิบายความรู้เพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องการดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์ ร่วมกับพระคริสต์ และเพื่อพระคริสต์ เพื่อ 3 สิ่งนี้ที่เราทำได้เนี่ยความรักของพระเจ้าจะครบบริบูรณ์เต็มล้นในเรา เราจะเดินในความรักตลอดวันตลอดเวลาได้ เอเมน
เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับการดำเนินชีวิต และรับใช้ตามน้ำพระทัยพระเจ้า คือในพระคริสต์ ร่วมกับพระคริสต์ และเพื่อพระคริสต์ เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินชีวิตคริสเตียน เพราะว่าถ้าหากเราตายกับพระเยซูและฟื้นขึ้นมาใหม่อยู่ร่วมกับพระเยซู แต่ถ้าหากปราศจากความรัก ก็ไม่มีความหมายอะไร
และคนที่จะดำเนินชีวิตอยู่ในความรักทั้งวันได้ ก็คือคนที่จะแสวงหาการใช้ชีวิตอยู่ในพระคริสต์ ร่วมกับพระคริสต์ และเพื่อพระคริสต์ คนๆ นั้นจะมีการสนิทสนม พูดคุย บอกรัก อยู่ในความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซูตลอดเวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ จนชีวิตของเรามาถึงผู้ชนะและผู้คนก็จะเห็นพระคริสต์ผ่านเรา เราก็ได้ประกาศพระคริสต์แล้ว และผู้คนจะกลับใจเพราะเห็นว่าเราดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระบิดา เอเมน
สำหรับผมนะครับทำอะไรก็ได้เพื่อแลกกับอาณาจักร เพราะว่าอาณาจักรเป็นสิ่งที่มีค่ามาก จงแสวงหาอาณาจักรคือคำสอนของพระเยซูคือคำสั่งของพระเยซู วันนี้ถ้าหากเราแสวงหาอาณาจักร เรายอมทิ้งทั้งหมด ความหยิ่งผยองพองตัว ความอวดตัว การเป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้าผู้อื่น ผนังฉาบด้วยปูนขาวคืออาการหน้าซื่อใจคดเราจะทิ้งทั้งหมดไป
แล้วเราจะดูแลแกะ รักแกะ ช่วยเหลือแกะ ดูแลกันและกัน รักกันและกัน และรักศัตรูของพวกเรา ถ่อมใจรับฟังคนอื่น และถ่อมใจรับฟังถ้อยคำของพระเจ้าที่ตักเตือนเราหนุนใจเราผ่านพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราใช้ชีวิตอยู่เพราะเห็นแก่อาณาจักรนะครับ จากนั้นชีวิตก็จะมีคุณค่ามากสำหรับเราในแต่ละวัน สรรเสริญพระเยซู
เราจะขอบคุณพระเจ้าร่วมกัน เราจะเอเมนด้วยกันเพื่อเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวและเพื่อรับถ้อยคำที่มีชีวิตเป็นความจริงและเป็นฤทธิ์เดช พระเยซูวันนี้ขอบพระคุณพระองค์ที่พระองค์เตือนย้ำให้พวกเราได้ตระหนักคำนึงถึงสิ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิตคริสเตียน ก็คือการดำเนินชีวิตและรับใช้ในพระคริสต์ เอเมน
เราจะแสวงหาการดำเนินชีวิตตั้งแต่เช้าจนค่ำทุกวันก็คืออยู่ในพระคริสต์ เอเมน
และสิ่งที่สอง เราจะดำเนินชีวิตตั้งแต่เช้าจนค่ำ และรับใช้พระองค์ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ร่วมกับพระคริสต์ มีพระคริสต์อยู่กับพวกเรา อยู่ในพวกเรา ร่วมกับพวกเราตลอดเวลาไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ไปไหนมาไหน นั่งนอนกินดื่ม พูดคุย ใช้ชีวิตในท่ามกลางคริสตจักร และท่ามกลางผู้คนที่ไม่เชื่อทั้งหลาย ก็คือร่วมกับพระคริสต์มีพระคริสต์ร่วมกับพวกเรา เอเมน
และสิ่งสุดท้าย ขอบพระคุณพระองค์ และขอพระองค์ชำระนำพวกเรามาถึงจุดที่จะดำเนินชีวิตและรับใช้ทำทุกสิ่งเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้าเท่านั้น ก็คือเพื่อพระคริสต์เท่านั้น เอเมน เราจะไม่แสวงหาชื่อเสียง เกียรติยศ ค่าจ้างรางวัล ตำแหน่งทั้งหลาย แต่เราจะถ่อมใจและเป็นคนที่ไม่มีตัวตนไร้ตัวตนเหมือนชื่อเปาโลที่เป็นผู้เล็กน้อย เราเองก็เป็นเปาโลผู้เล็กน้อยเหมือนกัน เพราะฉะนั้นขอพระองค์ให้เราเป็นคนที่ต่ำต้อยในสายตาของผู้คน เพื่อพระองค์จะยกเราขึ้นเมื่ออาณาจักรมาถึง เอเมนพระเยซูพวกเรารักพระองค์