"รับใช้พระเจ้า" ความหมายคือ...

"รับใช้พระเจ้า" ความหมายคือ...

เนื่องจากว่าคริสเตียนเราส่วนมากพอเชื่อได้ไม่นานก็คิดจะถวายตัวรับใช้ แต่ก่อนที่จะรับใช้พระบิดา เราต้องเข้าใจสิ่งนี้ก่อน คือการรับใช้ของคริสเตียนมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน...

1. ในฐานะปุโรหิตหลวง

2. ในฐานะคนต้นเรือน หรือผู้ดูแลคริสตจักร ร่วมกับพี่น้องทุกคน

.....

1. การรับใช้ของผู้เชื่อในฐานะปุโรหิต

เราร่วมร้องเพลง พูดคำว่า เอเมน ร่วมอธิษฐาน ร่วมอ่าน ร่วมเผยพระวจนะ เป็นพยาน ทำทุกวิธี เพื่อให้การนมัสการ อยู่ในบรรยากาศ ที่ร้อนรนกระตือรือร้น มีชีวิต เพื่อ ทุกคนจะได้รับการก่อขึ้น สรุปก็คือปุโรหิต นำพาพี่น้อง ให้ได้นมัสการพระบิดา จริงๆ โดยการที่เรามีส่วน ในทุกรายการ

ทุกวันนี้คริสตจักรมากมาย ไม่เปิดโอกาส ให้ผู้เชื่อทุกคนมีส่วนร่วม ในการปรนนิบัติพระบิดาในฐานะของปุโรหิต พูดเทศนา คือผู้นำเท่านั้น พวกเขาไม่รู้เสียด้วยซ้ำว่าพวกเขาทุกคน คือปุโรหิต วันอาทิตย์ก็ได้แต่มาโบสถ์ฟังเทศนาแล้วก็กลับบ้าน คนที่อธิษฐาน ก็คือผู้นำรายการเท่านั้น 

สำหรับเรื่องการเป็นปุโรหิต เราทำทุกสิ่งในข้อที่ 1  ทำไม่มากก็น้อย

.....

2. การรับใช้ในฐานะของคนต้นเรือน

คือผู้เชื่อทุกคนมีของประทาน พิเศษ ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะเลือกว่าให้ใคร สอน เทศนา รักษาโรคไล่ผี ประกาศ และอีกมากมาย เหล่านี้คือสิ่งที่ คนต้นเรือน ใช้ เพื่อรับใช้พระเจ้า ร่วมกับพี่น้องในคริสตจักร

เพื่อการรับใช้ จะเป็นที่ยอมรับของพระเจ้าและถวายเกียรติแด่พระองค์ได้ คือการรับใช้ ที่ก่อขึ้น ด้วยทองคำเงินและเพชรพลอย 

เนื่องจากว่าผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ รับใช้ไม่เป็น ผลงานที่เขาก่อขึ้น จึงใช้ไม่ได้ ไม่ถวายเกียรติ และพระเจ้าไม่ยอมรับ ไม่มีบำเหน็จให้ เรียกว่าไม้ฟางและหญ้าแห้ง 1 คร 3:12-15

ทั้งนี้ทั้งนั้น เราต้องรับใช้ด้วยตัวใหม่ในพระคริสต์ ถ้าหากเราเอาตัวเก่ารับใช้ พระเจ้าจะไม่นับและไม่มีบำเหน็จให้ในยุคหน้าและแผ่นดินโลกใหม่

สำหรับเรื่องการเป็นคนต้นเรือน เราถามพระเจ้าว่าพระองค์ให้ของประทานอะไรแก่เราแล้วเราใช้มัน ให้เกิดประโยชน์เกิดผลเพื่อบำเหน็จรางวัล และเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า

ท่านคือปุโรหิตหลวง และคนต้นเรือนของพระเจ้า  (1 ปต 2:9; ลก 12:42-48)