ถาม.
ผู้เชื่อในสมัยก่อน เขาเข้าใจข้อลึกลับเหมือนเราไหมครับ คือพระคริสต์อยู่ในเรา เขาก็นับทุกวัน นับว่าตัวเก่าตาย ตัวใหม่เป็นอยู่ อะไรอย่างเนี่ย คือเขาฝึกเดินเหมือนเราไหมครับผู้เชื่อสมัยก่อน
ตอบ.
เราขอบพระคุณพระบิดาที่พระองค์ประทานเปาโล ตอนที่เปาโลกลับใจ เปาโลเดินทางไปที่อาระเบีย แล้วก็อยู่ที่นั่นสามปีกว่า พระเยซูเสด็จมาแล้วก็สอนเปาโล เมื่อเปาโลได้เรียนได้รับรู้ความจริงถ้อยคำแห่งมานาที่ซ่อนไว้ พระคำล้ำลึก เปาโลก็เดินทางมาเดินทางไปทั่วทุกแห่งทุกหน แล้วเปาโลก็เปิดเผยความจริงนี้
แล้วมีคริสตจักรมากมายรับความจริงนี้ และคริสตจักรเหล่านั้นส่วนมาก ก็คือเขาฝึกเดิน เขาทำเหมือนพวกเรานี่แหละ นับตาย แล้วก็ถวายตัวต่อพระเจ้า ตอนเช้านะครับ แล้วก็คือทุกวันก็จะสนิทในพระเยซู เขาก็ทำเหมือนเรานะครับ เนื่องจากว่าเขาได้รับจดหมายฝากของเปาโล ไม่ว่าจะเป็นหนังสือโรม ฟีลิปปี เอเฟซัส ทั้งหลาย คือเขาจะก๊อปปี้ ก๊อปปี้แล้วก็แจกกัน บางคนอาจจะสงสัยก๊อปปี้คืออะไร
สมัยก่อนไม่ได้ก๊อปปี้เหมือนพวกเรานะครับ ไม่มีปริ้นเตอร์นะครับ คือเขาต้องลอก ต้องเขียน ใช้หนังสัตว์เพื่อเขียน คือลอกยากมาก แล้วก็ส่งให้แต่ละคริสตจักร ก็แบ่งๆ กันไป บางทีก็ยืมกันถ้าอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่ เขาใช้บทเรียนของเปาโลหนังสือจดหมายฝากของเปาโลเพื่อฝึก ฝึกเดิน
แต่ก็มีส่วนหนึ่งอย่าลืมนะครับมีส่วนหนึ่งมีหลายคริสตจักรที่ไม่รับคำสอนของเปาโล และมีหลายคริสตจักร ก็มีหลายคนที่ไม่ได้ถูกเปิดตา ก็เป็นทั้งคริสเตียนศาสนา และคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วนะครับผมขอสรุปนะครับ คือผู้เชื่อตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วจะมีอยู่น่าจะประมาณ 90% ของทุกยุคทุกสมัยที่ไม่ได้ถูกเปิดตาเป็นคริสเตียนศาสนา และมีผู้เชื่ออีกประมาณ 10% ที่ได้ถูกเปิดตา เข้าใจถ้อยคำของเปาโลที่พระเยซูสั่งสอน และผู้เชื่อที่ไม่ทิ้งพระคำล้ำลึกที่ถูกเปิดตาครบนะครับ จริงๆ แล้วเนี่ยจาก 10% นะครับ ก็เหลือแค่ 5 คน 5% ไม่ใช่เฉพาะอยู่ในสมัยของพวกเรานะครับ คือมีมาตั้งแต่นานแล้วตั้งแต่สมัยเปาโล
...
ถาม.
ที่ว่าจะมีผู้ชนะ 10% หรือ 5% นี่จะเป็นไปได้ไหมครับ
ตอบ.
แน่นอนครับเท่าที่เรารู้ คือคนที่ยึดหลักชีวิตของตน เมื่อรับพระคำล้ำลึกแล้วจะไม่ไขว้เขว มั่นคง ยั่งยืน อยู่กับถ้อยคำเหล่านี้ คือหนีไม่ได้ เลิกไม่ได้ ไปไหนไม่ได้ คือเจอแล้วนะครับพบของจริงแล้วของแท้แล้ว คือจิตใจของเขายอมรับจริงๆ 100% อันนี้เรียกว่าเป็นผู้ชนะจริงๆ ครับ สำหรับข้อนี้คือเราต้องรอดูตอนจบนะครับยังมีตอนต่อไป
...
ถาม.
เป็นไปได้ไหมสำหรับคริสเตียนที่พระเจ้าเลือกเป็นผู้ชนะ ที่แบบเวลาที่เราฟังอาจารย์ที่ไม่ได้ถูกเปิดตาเทศนา เราแบบมันไม่รับเลยภายในจิตใจ เป็นไปได้ไหมครับว่าพระเจ้าเตรียมเราเลือกเรา
ตอบ.
คืออาการไม่รับคำสอนเก่า หรือคำสอนเดิมๆ หรือคำสอนที่เป็นอาหารน้ำนม เป็นเชื้อยีสต์ เนื่องจากว่าตอนนี้เราโตขึ้นแล้วเราโตแล้วนะครับ อย่าลืมนะครับพี่น้องที่รับมานาฯ แล้วไปฟังคำสอนเดิมจากที่โบสถ์หรือจากที่ไหนก็ตามปรากฏว่ามันกินไม่ได้ ก็คือเราโตแล้วครับ ขอแสดงความยินดีด้วยเราโตแล้ว อย่างเหมือนคนที่โต คือเขาโตขึ้นมาระยะหนึ่ง แล้วจะไปกินนม ก็คือมันจะมีอาการแบบไม่อยากกิน เพราะว่ามีอาหารมากมายหลายสิ่งที่อร่อยมากรอเราอยู่ คือนมเราก็ไม่อยากกินแต่เรานานๆ มากินทีนึงก็โอเคใช่ไหม
...
ถาม.
ไม่อยากรับเลยนะก็ไม่รู้เป็นอะไรนะ แต่ก่อนชอบฟังมาก แต่เดี๋ยวนี้ไม่แล้วไม่อยากรับ ก็ขอบคุณพระเยซูครับ
ตอบ.
เป็นอาการของคนที่โตขึ้นแล้วครับ เอเมน
เมื่อก่อนผมตอนที่ยังไม่ได้ถูกเปิดตา ผมเคยชื่นชอบอาจารย์ท่านหนึ่ง (คนไทย) แล้วก็มีนักเทศน์ฝรั่งที่ผมชอบมาก แล้วก็มีอีกหลายคน นักเทศน์เหล่านี้พอฟังแล้วรู้สึกคือได้รับการกระตุ้นมาก แต่พอถูกเปิดตารับมานาฯ ผมกลับไปฟังนะครับรู้สึกว่าคือมันรับไม่ได้จริงๆ เนื่องจากว่าเรารู้แล้ว ทำไมเรารับไม่ได้เพราะว่าเรารู้ว่าสิ่งที่เขาสอนเป็นอาหารน้ำนม แล้วก็เป็นสิ่งที่ตื้นมาก แล้วก็เป็นเชื้อยีสต์ มีเชื้อยีสต์ผสมเยอะมาก เรารู้ คือเราเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น เราตื่นแล้วนะครับรู้แล้ว เมื่อเราฟัง เราอ่าน คือความรู้ของเราสูงขึ้นมากจนถึงระดับไหนไม่รู้แล้ว สูงขึ้นมากแล้ว
แต่ทีนี้เราฟังเราเห็นเลยว่าสิ่งนี้คืออาหารน้ำนม เขาป้อนแค่อาหารน้ำนมแค่นั้นเอง แล้วก็ผสมด้วยเชื้อยีสต์ จึงเป็นเหตุให้เราไม่สามารถรับได้ครับ คือเรารักพี่น้องเหล่านั้น เรารักอาจารย์ เรารักผู้นำ เรารักทุกคนที่พระเจ้าเลือกพระเจ้าใช้นะครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าคือเราเป็นศัตรูเป็นคนอีกฝ่ายหนึ่ง แต่คือเราร่วมอยู่กับเขาไม่ได้ เนื่องจากว่าความเชื่อการดำเนินชีวิตการฝึกการเดินการรับใช้ ทุกสิ่งมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว มันไม่เหมือนกันแล้ว
เราทุกวันนี้ ทำทุกสิ่ง เราใช้ชีวิตอยู่ ดำเนินชีวิตด้วยคนใหม่ รับใช้ด้วยคนใหม่ ผลงานที่เราก่อขึ้นเป็นทองคำ เงิน และเพชรพลอย
แต่เขาคือรับใช้ด้วยตัวเก่า ก่อทุกสิ่งขึ้นด้วย ไม้ ฟาง หญ้าแห้ง อันนี้เรารู้กันดี คืออันนี้ไม่ได้ดูถูกดูหมิ่นเราไม่ได้ยกเราเองขึ้น แต่ความเป็นจริงก็คือเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นเราอธิษฐานเผื่อพี่น้องเหล่านั้นครับ เราเชื่อว่าจะมีหลายคนแหละที่พระเจ้าเลือกให้มาพบพระคำล้ำลึก ไม่วันนี้ก็อาจจะเป็นวันข้างหน้าครับ อย่างที่เมื่อก่อนเราก็เป็นแบบนั้นอยู่ แต่ตอนนี้พระเจ้าไถ่เรามาแล้ว เอเมน
(สำหรับผู้นำบางคนอาจารย์บางท่าน เราขอบพระคุณพระเจ้าที่หลายคนซึ่งตอนแรกๆ รับไม่ได้พอได้ยินชื่อนะครับ แล้วก็มีข่าวลือไปถึงที่ไหน ก็บอกว่ามานาที่ซ่อนไว้ของปลอม แล้วก็เขาไม่รับเขาปฏิเสธแล้วก็เขายังชักชวนพี่น้องหลายคน บอกว่าอย่าไปฟังอย่าไปเชื่อ
แต่ขอบพระคุณพระบิดาสำหรับผู้นำบางคนที่ถ่อมใจ พอเราส่งอะไรไปให้ฟังดู ไปศึกษาไปค้นหาความผิดสิ่งที่ผิดพลาดปลอมมันอยู่ตรงไหน ปรากฏว่าไม่เพียงแต่อาจารย์ท่านนั้น มีหลายคนที่อยู่อเมริกาก็เป็นเหมือนกัน ซึ่งผมเองก็ได้เห็นและเขาเองก็ได้มาพูดกับผมเอง บอกว่าขอโทษนะครับ ตอนแรกคิดว่าคุณเนี่ยปลอม แต่พอมาฟัง คือเขามาฟัง คือมาเพื่อจับผิด พอจับผิดนานๆ เข้า ก็ได้สิ่งที่เป็นความจริงแทนที่จะเป็นสิ่งที่ผิด เราขอบพระคุณพระบิดา เอเมน
และมีอาจารย์ท่านหนึ่งมานั่งฟังผมสอน พอผมสอนนะครับ 2 ชั่วโมงผ่านไป เขายกมือนะครับเขาบอกว่าขอคุยด้วยได้ไหม ผมก็บอกเชิญครับ เขาบอกว่าที่มานั่งตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ ก็คือไม่ได้มานั่งฟังนะ แต่มาเพื่อจับผิด แต่ปรากฏว่า 2 ชั่วโมงเนี่ยความรู้เต็มมันเยอะมากไม่คิดว่าจะรู้เยอะขนาดนี้แค่ 2 ชั่วโมง จากนั้นนะครับเขาก็ขอเรียนด้วย เราก็ได้คุยกันทุกสัปดาห์ผ่านทางโทรศัพท์ก็โทรคุยกัน ก็สรรเสริญพระเจ้า)
อ่านเพิ่มเติ่ม: พระเยซูสอนเปาโลที่อาระเบียแบบไหน