ยุคเก่า และยุคใหม่.
** เนื่องจากการแปลที่ผิดเพี้ยนของผู้แปลพระคัมภีร์ ภาษากรีก คำว่า “ยุค /ยุคนี้ / ยุคหน้า”
ถูกแทนที่ด้วยคำว่า “โลก / โลกนี้ / โลกหน้า” ผู้เชื่อส่วนมากจึงเชื่อกันว่ายุคนี้เป็นยุคสุดท้ายแล้ว
แต่แท้ที่จริง ยุคนี้เป็นยุคที่สาม สำหรับพระเจ้าโลกของเรามีสี่ยุคด้วยกัน อย่างเช่น :
1. ยุคบาป (ตั้งแต่อาดัม จนถึงโมเสส)
2. ยุคพระบัญญัติ (ตั้งแต่โมเสส จนถึงพระเยซูสิ้นพระชนม์)
3. ยุคพระคุณ (ตั้งแต่พระเยซูฟื้นคืนพระชนม์ จนถึงยุคสุดท้าย)
4. ยุคสุดท้าย ยุคพันปี หรือยุคราชอาณาจักร.
(กรุณาดูภาพ 001)
** ถ้าหากชนชาติยิวรับพระเยซู ที่เป็นกษัตริย์แห่งราชอาณาจักร ที่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะมาครอบครองประเทศอิสราเอล และทั่วโลก ก็คงไม่ต้องมียุคหน้า แต่เนื่องจากชนชาติยิวไม่รับกษัตริย์ของพวกเขา แผนการบริหารงานของพระเจ้า และทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่ “ฝ่ายวิญญาณ” จนหมดสิ้น
** ทุกวันนี้เราจึงอยู่ในยุคที่สาม และเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา ยุคสุดท้ายก็จะเริ่มขึ้น
** ข้อพระคัมภีร์ภาษากรีก ที่พูดถึง “ยุคนี้ ยุคอาณาจักร และยุคหน้า” แต่พระคัมภีร์ส่วนมากกลับแปลว่า “โลกนี้ / โลกหน้า” มีดังต่อไปนี้...
- มธ 12:32; 13:22, 39; 40, 49; 24:3; 28:20
- มก 4:19; 10:30
- ลก 13:28-29; 16:8; 18:30; 20:34-35; 22:18
- โรม 12:2
- 1 คร 1:20; 2:6, 8; 3:18-19
- 2 คร 4:4
- กท 1:4
- อฟ 1:21; 2:2
- 1 ทธ 6:17; 2 ทธ 4:10
- ทต 2:12
- ฮบ 6:5; 11:11
** เมื่อยุคนี้ผ่านพ้นไป พระเยซูจะกลับมาพร้อมกับบรรดาผู้เชื่อที่ตายแล้ว เพื่อรับการตัดสิน (พิพากษาคริสเตียนเท่านั้น โรม 14:10; 2 คร 5:10) เพื่อให้รางวัลผู้ชนะที่สุกงอม และตีสอนผู้เชื่อที่ไม่สุกงอม (มธ 7:21-27; 1 คร 3:12-15; วว บทที่ 2 และ 3)
** ในยุคหน้า พระเยซูในฐานะบุตรมนุษย์จะครอบครองโลกนี้เป็นเวลาพันปี และผู้ที่ได้ครอบครองร่วมกับพระองค์ ก็คือเราผู้เชื่อที่ได้รับจิตใจใหม่ ที่มีชีวิตอยู่เพื่อสำแดงพระเจ้าให้โลกเห็น แทนที่จะรักโลก และอยู่เพื่อความสุขสำราญใจของตัวเอง เขาเป็นหญิงพรมจารีห้าคนที่มีน้ำมัน (พระวิญญาณ) ติดตัวมาด้วย (พระเยซูครอบครองจิตใจได้แล้ว (มธ 25)
a. ยุคก่อน ซึ่งเป็นยุคพระบัญญัติ พระเจ้าทรงทำพระสัญญากับชนชาติอิสราเอล พระเจ้าจะครอบครองอิสราเอลในฐานะกษัตริย์ และอิสราเอลจะเป็นประชากรของพระเจ้า แต่น่าเสียดายที่พวกเขาต้องการกษัตริย์ที่เป็นมนุษย์ พระเจ้าจึงเลือกกษัตริย์ทั้งหลายเพื่อเป็นตัวแทนของพระองค์ แต่เมื่อกษัตริย์แต่ละองค์ขึ้นครองราชย์ ก็นำความล้มเหลวมาสู่การครอบครองในลักษณะรูปแบบที่พระเจ้าต้องการ
b. พระบัญัติเดิมเป็นกฏเกณฑ์ที่ชาวยิวต้องถือรักษา เพื่อรับผลประโยชน์ หรือพระพรจากพระเจ้า เหมือนกับการทำงานเพื่อรับค่าจ้างรางวัล ชนชาติยิวจึงอยู่ภายใต้กฏเกณฑ์แห่งการรอด และรับพระพรในชีวิตนี้ด้วยการรักษาพระบัญญัติของโมเสสจนครบ และถ้าพลาดก็ต้องนำเครื่องถวายบูชาไถ่บาปไปที่พระวิหารเพื่อทำพิธีไถ่บาป
c. พระบัญญัติเดิมอ่อนแอ ไม่สมบูรณ์แบบ และไม่ครบถ้วน
* พระเจ้าประทานพระบัญญัติเดิมให้ชนชาติอิสราเอลรักษาชั่วคราวเท่านั้น และเพื่อรอพระเยซูเสด็จมาเพื่อผู้เชื่อทุกคนจะได้รับความรอดทางความเชื่อ (กท 3:23-24)
* พระบัญญัติเดิมอยู่ในระดับมาตรฐานของมนุษย์ ที่ง่ายพอที่จะถือรักษาได้ (ฮบ 7:16) แต่เมื่อพระเยซูเสด็จมาแล้ว พระองค์ทรงดัดแปลงแก้ใข และทำให้ยากขึ้น จนถึงระดับมาตรฐานของพระเจ้า พระเยซูทรงเน้นคำว่า “ฝ่ายเรา เราบอกท่านทั้งหลายว่า …“ นั่นคือการยกระดับจากมาตรฐานของมนุษย์ขึ้นสู่มาตรฐานของพระเจ้า (มธ 5:39-44, มธ 5:22, 28, 32, 34)
d. ปัญหาของผู้เชื่อทุกวันนี้ก็คือ การรักษาพระบัญญัติเดิมในพันธสัญญาเดิมซึ่งพระเจ้าได้ทรงยกเลิกไปแล้ว พวกเขาตกอยู่ภายใต้การแช่งสาปของพระเจ้าโดยไม่รู้ตัว เพราะเมื่อเรายังรักษาพระบัญญัติเดิม เราก็ถูกสาปแช่ง (กท 3:10)
e. มีหลายสิ่งที่พระเยซูทรงดัดแปลงแก้ไขเพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ แต่ผู้เชื่อยังนำมาใช้กันอยู่ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องการถวายสิบลด และการเป็นผู้นำแบบนาย หรือหัวหน้าที่อยู่เหนือสมาชิกของคริสตจักร คริสตจักรมากมายไม่รู้ว่าสิบลดเป็นสิ่งที่ควบคู่กับพระวิหาร ชาวยิวทุกวันนี้ไม่ถวายสิบลดกันแล้ว เพราะเขารู้ดีกว่า คริสเตียนเสียอีก ว่าพระเจ้าอนุญาตให้ตระกูลเลวีเผ่าเดียวเท่านั้นที่รับสิบลดได้ และสิบลดก็ไม่ใช่เงิน และห้ามนำเงินมาถวายเป็นสิบลด
f. คริสเตียนทุกวันนี้ อยู่ใต้พระบัญญัติใหม่ ซึ่งพระเยซูให้เราเอาความรักเป็นใหญ่ (ยอห์น 13:34)
g. ผู้เชื่อทุกวันนี้ ตายจากพระบัญญัติเดิมเสียแล้ว (โรม 7:4)
h. พวกเราคริสเตียนไม่ต้องอยู่ใต้พระบัญญัติ แต่เราอยู่ใต้พระคุณ (โรม 6:14)
i. น่าเสียดายที่พี่น้องอีกมากมายที่ยังไม่รู้ และถือรักษาทั้งพระบัญญัติเดิม และใหม่ ซึ่งเป็นภาระที่หนักหน่วงมากมายเลยทีเดียว แทนที่จะได้รับการพักผ่อน และแอกที่เบา
j. พันธสัญญาอันเดิม และพระบัญญัติเดิมที่พระเจ้าทำกับชนชาติอิสราเอล มีจุดบกพร่อง และไม่สมบูรณ์ ไม่มีประโยชน์อะไร และต้องยกเลิกไป และพระเจ้าทรงกระทำพันธสัญญาใหม่กับเราแล้ว แต่ผู้เชื่อมากมายเหล่านั้นไม่เข้าใจ (ฮบ 7:18-19; 8:7-13 / ลก 22:20)
a. ยิวเก่า คือชนชาติอิสราเอลฝ่ายเนื้อหนัง ที่พระเจ้าทรงเลือกแต่ล้มเหลวต่อแผนงานของพระเจ้า
b. ยิวใหม่ คือผู้เชื่อทุกคนที่ได้บังเกิดใหม่แล้ว ที่เป็นมนุษย์วิญญาณ ที่พระเจ้าทรงเลือกให้มารับช่วงหรือแทนที่อิสราเอลฝ่ายเนื้อหนัง
c. ยิวเก่าเป็นลูกหลานอับราฮัมฝ่ายเนื้อหนัง แต่ยิวใหม่ (พวกเราผู้เชื่อ) เป็นลูกหลานอับราฮัมฝ่ายวิญญาณทางความเชื่อ (กท 3:7 เหตุฉะนั้นท่านจงรู้เถิดว่า คนที่เชื่อนั่นแหละก็เป็นบุตรของอับราฮัม กท 3:29 และถ้าท่านเป็นของพระคริสต์แล้ว ท่านก็เป็นเชื้อสายของอับราฮัม คือเป็นผู้รับมรดกตามพระสัญญา / ลก 19:9 พระเยซูตรัสกับเขาว่า "วันนี้ความรอดมาถึงครอบครัวนี้แล้ว เพราะคนนี้เป็นลูกของอับราฮัมด้วย / ยอห์น 8:39 เขาทั้งหลายจึงทูลตอบพระองค์ว่า "อับราฮัมเป็นบิดาของเรา" พระเยซูตรัสกับเขาทั้งหลายว่า "ถ้าท่านทั้งหลายเป็นบุตรของอับราฮัมแล้ว ท่านก็จะทำสิ่งที่อับราฮัมได้กระทำ)
d. ยิวเก่า คือลูกแห่งอาณาจักรที่พระเจ้าทิ้งไปแล้ว และถูกขับไล่ไสส่งให้ออกไปจากราชอาณาจักร เพราะพวกเขาขับไล่ไสส่งพระมหากษัตริย์ของพวกเขา ที่พระเจ้าทรงประทานให้เพื่อปลดปล่อยพวกเขา ส่วนพวกเรายิวใหม่จะได้นั่งเอนกายรับประทานอาหาร และดื่มร่วมฉลองกับพระเยซูที่เป็นพระมหากษัตริย์ในราชอาณาจักรที่จะมาถึงในเร็วๆนี้
(มธ 8:11-12 เราบอกท่านทั้งหลายว่า คนเป็นอันมากจะมาจากทิศตะวันออกและทิศตะวันตก จะมาเอนกายลงกันกับอับราฮัมและอิสอัคและยาโคบในอาณาจักรแห่งสวรรค์ แต่บรรดาลูกของอาณาจักรจะต้องถูกขับไล่ไสส่งออกไปในที่มืดภายนอก ที่นั่นจะมีเสียงร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน" / ลก 13:28 เมื่อท่านทั้งหลายจะเห็นอับราฮัม อิสอัค ยาโคบ
และบรรดาศาสดาพยากรณ์ในอาณาจักรของพระเจ้า แต่ตัวท่านเองถูกขับไล่ไสส่งออกไปภายนอก ที่นั่นจะมีการร้องไห้ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน)
e. ยิวเก่า ไม่เคยมีโอกาสบังเกิดใหม่ แต่ยิวใหม่ได้บังเกิดใหม่ทุกคนโดยความเชื่อ และบัพติศมาเข้าในพระเยซู (ยอห์น 3:3-5 / 1 คร 12:13)
f. ยิวเก่า ไม่เคยมีพระวิญญาณสถิตอยู่ภายในได้ทุกวันเวลา แต่ยิวใหม่มีพระวิญญาณสถิตภายในเราทุกวันเวลา ไม่เคยพรากจากเราไปไหนได้เลย (ยอห์น 14:16 และบทที่ 14 - 17)
g. ยิวเก่า ต้องเชื่อฟังเพื่อพระพรในชีวิตนี้ แต่ยิวใหม่ได้รับพระพรฝ่ายวิญญาณจนครบถ้วนมากมายแล้วในพระคริสต์ เพราะว่าพระเยซูได้รับเกียรติจากพระบิดา มรดกทุกส่วนของพระเยซูก็เป็นของเราเหมือนกัน (กท 3:29 / อฟ 1:18) ส่วนพระพรฝ่ายเนื้อหนังเราจะได้รับในยุคหน้า และโลกหน้า (มก 10:29-30)
h. เราผู้เชื่อ ในฐานะที่เป็นยิวใหม่ พวกเรามีวิญญาณที่บังเกิดใหม่แล้ว พระเจ้าทรงนับว่าเราเป็นคนชอบธรรมแล้ว ทรงประทานพระวิญญาณ และมรดกทุกประการในพระคริสต์แก่เราแล้ว ราชอาณาจักรกำลังรอเราอยู่ สิ่งที่เราต้องทำก็คือ วิ่งแข่งจนถึงเส้นชัย (ชีวิตใหม่ที่สุกงอม) เพื่อคว้ารางวัลให้ได้ พระเจ้าทรงทำงานหนัก และไม่เคยยอมเพ้ เพื่อให้เราได้เข้าในราชอาณาจักรที่จะมาในเร็วๆนี้
น่าเสียดายที่ผู้เชื่อผู้รับใช้มากมายที่ยังไม่ได้เข้าแข่งเพราะเขาเหล่านั้นคิดว่าเขาชอบธรรมแล้ว และพบทางแห่งความจริงแล้ว และเชื่อกันว่ายุคนี้คือยุคสุดท้าย จุดหมายปลายทางของเขาคือสวรรค์ชั้นฟ้า ขอพระเจ้าช่วยเราที่จะเป็นหนึ่งในผู้ชนะเพื่อรอรับเจ้าบ่าวของเรา เพื่อเราจะไม่ต้องทนทุกข์อยู่ข้างนอกเป็นเวลาพันปี เพราะขาดรสเค็มและแสงสว่าง (มธ 5:13-15)
ยิวเก่า อยู่เพื่อการทำมาหากินตั้งรากฐานในโลกนี้อย่างถาวรเมื่อเขาได้รับแผนดินคานาอันจากพระเจ้า แต่ยิวใหม่อยู่ในโลกนี้ชั่วคราว และอยู่เพื่อช่วยนำคนที่ไม่รู้จักพระเจ้าให้มาถึงความรอด และเลี้ยงดูเขาให้เติบโต บ้านเรือนที่มั่นคงถาวรของเราอยู่ที่สวรรค์สถานกับพระเจ้า ซึ่งอยู่ในฝ่ายวิญญาณของยุคนี้ และอยู่ในราชอาณาจักรของยุคหน้า ทั้งอยู่ในสวรรค์ใหม่ และแผ่นดินโลกใหม่นิรันดร์ (ฟีลิปปี 3:20 แต่บ้านเมืองของเรานั้นอยู่ที่สวรรค์เรารอคอยผู้ช่วยให้รอดซึ่งจะเสด็จมาจากสวรรค์ คือพระเยซูคริสตเจ้า 21 พระองค์จะทรงเปลี่ยนแปลงกายอันต่ำต้อยของเราให้เหมือนพระกายอันทรงพระสิริของพระองค์ด้วยฤทธานุภาพซึ่งทำให้พระองค์ปราบสิ่งสารพัดลงใต้อำนาจของพระองค์)