ถาม.
อาจารย์คะ ใจคืออยากพูดเรื่องพระเจ้าให้ในครอบครัวฟัง ใจอยากพูด แต่พูดแล้วในครอบครัวเขารำคาญเราเบื่อเราก็ฟังนิดหน่อยก็หนีไป แต่ใจนี่อยากพูดๆ มากเรื่องพระเจ้า คือเราไม่ได้ฝืนนะ แต่มันอยากพูดแต่ในครอบครัวคือรำคาญเบื่อแบบนี้ มันรู้สึกว่าบังคับเขาหรือเปล่าคะ
ตอบ.
สำหรับการประกาศถ้าหากเราเห็นว่าคนที่ฟังรู้สึกรำคาญ เบื่อ หรือมีอาการแสดงอาการไม่อยากฟัง ไม่สนใจหรือต่อต้านคัดค้าน ถกเถียงเรา อันนี้คือเราหยุดครับ เราหยุด ผมอยากจะบอกพวกเราหลายคนก็มีประสบการณ์ใช่ไหม การประกาศกับคนในครอบครัวเราไม่ใช้คำพูดครับ แต่เราใช้การกระทำการดำเนินชีวิต คือเราให้เขาเห็นการเปลี่ยนแปลงไม่มากก็น้อยครับ
เพราะว่าเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐจะไม่ได้ผลกับคนในครอบครัว เพราะว่าเขาเห็นชีวิตเรา เขาเห็นเขารู้ว่าเราเป็นแบบไหนเป็นอย่างไร
ถ้าเราบอกว่าเรามีสันติสุขมากนะ แต่เขาเห็นว่าเราไม่มี
เราบอกว่ามีการเปลี่ยนแปลงนะ เชื่อพระเยซูเป็นคนที่น่ารัก แต่ปรากฏว่าเขาเห็นเราไม่ได้ทำตัวเป็นคนน่ารักเลย
เราบอกเขาว่าเปลี่ยนแปลงได้มากมาย แต่เราก็เป็นคนขี้บ่นเหมือนเดิมใจร้อนเหมือนเดิม ชอบทำนู่นนี่นั่นทำให้เขาไม่พอใจก็เป็นเหมือนเดิม
อันนี้คือจุดอ่อนของคริสเตียนทุกวันนี้ ที่คนในครอบครัวยอมรับพระเยซูไม่ได้ เพราะว่าชีวิตของเราไม่สำแดงพระคริสต์
สรุป การประกาศกับคนในครอบครัว เราไม่ใช้คำพูดเพราะว่ามันใช้ไม่ได้ เขาดูที่การกระทำของเราครับ ส่วนเรื่องคนที่สำแดงชีวิตพระคริสต์ได้แล้ว มีการเปลี่ยนแปลงได้ มีญาติพ่อแม่พี่น้องคนในครอบครัวหลายคนเห็นการเปลี่ยนแปลง แต่เขาก็ยังไม่ยอมรับพระเยซูอันนั้น ก็คือ เป็นปัญหาของเขาเองไม่ใช่ของเราทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ได้หมายความว่า เมื่อเราเปลี่ยนแปลงชีวิตแล้วประกาศกับเขาแล้วเขาไม่รับคือเป็นความผิดของเราอันนั้นไม่เกี่ยวครับ
คือหลายคนจะดียังไงจะเป็นยังไง ก็เขาไม่รับพระเยซูอยู่ดี เพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่ถูกเลือก หรืออาจจะยังไม่ถึงเวลาครับ เพราะฉะนั้นถ้าหากเขารำคาญ เขามีแสดงอาการแบบนั้นได้ครับ
อีกกรณีหนึ่งมีกรณีพิเศษคือ บางคนพระเจ้าเร้าใจ พระเจ้าให้พูดไม่ยอมหยุด อันนี้ทำได้ครับ แต่เราถ้าหากรู้สึกว่าไม่ร้อนรนภายใน ไม่มีอาการที่ผิดปกติเราก็หยุดดีกว่า บางคนพระเจ้าใช้จริงๆ น่ะครับ คือให้ ตื้อให้พูดไม่ให้หยุด แล้วสุดท้ายคนนั้นก็กลับใจ อันนี้เป็นงานของพระวิญญาณและเป็นงานของพระเจ้าที่เลือกคนนั้นไว้และช่วยคนนั้นให้ได้ครับ