ถาม.
อยากขอถามว่าพี่น้องที่เปิดตามาแล้ว แต่ตอนนี้ตาก็ปิดอีกแล้ว คือมันเป็นเพราะว่าเป็นเชื้อยีสต์มาปิดตาใช่ไหมค่ะอาจารย์ เราไปกินของที่มีเชื้อยีสต์ แล้วเชื้อยีสต์ทำให้เราปิดตาอีกครั้งใช่ไหม เชื้อยีสต์ทำให้เราตาปิดใช่ไหมค่ะ เอเมน
ตอบ.
สำหรับเรื่องนี้นะครับ เรื่องการกลับไปสู่ความรู้เดิม ความเชื่อเดิม หลักคำสอนเดิม เมื่อได้มาชิมลิ้มรสแห่งพระคำแห่งความจริงแล้ว หรือพระคำล้ำลึกแล้ว เราต้องไปดูที่มัทธิวบทที่ 13 พระเยซูเป็นคนเปิดเผยว่าทำไมเขากลับไป
สิ่งแรกนะครับ ก็คือมีบางคนที่ได้ยินได้ฟัง แล้วก็ไม่รับเลย
แล้วสิ่งที่สอง บุคคลประเภทที่สอง ก็คือเข้ามารับนะครับ แต่เจอปัญหามากมาย เจอมรสุมชีวิต เขาก็เลยคิดว่าเราน่าจะเชื่อไม่ถูก คำสอนนี้น่าจะผิด จึงทำให้ชีวิตเจอแต่มรสุม เจอแต่ปัญหามากมาย ก็เลยกลับไปนะครับ
แล้วบางคนเนี่ยก็เข้ามานะครับ มีซาตานเป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง ก็คือพยายามชักชวนเราให้กลับไปอยู่ในคริสตจักรเดิม แล้วพยายามหลอกล่อเรานะครับ ว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ผิด คือเอาคำสอนที่มันดูดีมากดูเหมือนมาก มาให้เราอ่านให้เราเห็นให้เราฟังให้เราได้ยิน สุดท้ายนะครับเมื่อมีหลายคนหลายฝ่ายหลายสิ่ง พยายามดึง มนุษย์จะมีอะไรครับ? มนุษย์มีแต่ความอ่อนแอ มนุษย์ก็คือหวั่นไหวง่าย สุดท้ายก็ตกเป็นเหยื่อของซาตาน ซาตานก็ดึงกลับเข้าไปสู่หลักความเชื่อเดิมคำสอนเดิมได้ เราไม่แปลกใจนะครับ
เพราะฉะนั้นเราอย่าประมาทนะครับ แล้วเราอย่าพูดนะครับว่า "ข้าพเจ้าจะไปถึงมานาฯ ให้จนสิ้นสุด จนสุดๆ ข้าพเจ้าจะไม่หนีไปจากมานาฯ" อย่าพูดนะครับ เพราะว่านี้คือการที่พระเจ้าไม่ชอบพระทัย เราเหมือนจะอวดกำลังของเราเองนะครับ
แต่เราควรจะพูดว่า "พระเยซูขอรักษาข้าพระองค์ ให้อยู่ในความจริง ให้อยู่ในพระคำแห่งความจริงของพระองค์ ขอรักษาข้าพระองค์ไว้" เท่านี้ครับ พระเจ้าจะเป็นคนกระทำ แล้วไม่ให้มารซาตาน ไม่ให้ใครนะครับจะมาหลอกล่อมาล่อลวงมาดึงเราให้กลับไปสู่คำสอนเดิมความเชื่อเดิม สุดท้ายก็สูญเสียสันติสุข และสุดท้ายนะครับก็ไปหลอกลวงตัวเอง ไปหลอกลวงผู้อื่นด้วย ว่าเขาชนะบาปได้แล้ว
แล้วก็มีอีกกรณีหนึ่งนะครับที่ในมัทธิวบทที่ 13 มีบางคนมาแล้วนะครับต้องการหวังผลประโยชน์ อยากจะได้ผลประโยชน์ แต่พอไม่ได้รับผลประโยชน์ เจอแต่แสงแดดเนี่ย ก็คือไม่เห็นมีเงินเดือน ไม่เห็นมีค่าจ้างรางวัล รับใช้ก็ไม่ได้อะไร ไม่มีอะไรเป็นประโยชน์สำหรับฝ่ายร่างกาย เขาก็ถดถอยไป เขาก็กลับไปสู่ศาสนาเดิม ก็ไปหาสมัครนะครับที่โบสถ์ต่างๆ เป็นอาจารย์ เป็นศิษยาภิบาล เขาก็ได้รับนะครับเงินเดือน แต่สุดท้ายพระเจ้าก็ตีสอนเขา เขาก็ล้มเหลว อันนี้ผมเจอผมเห็นมาหลายคนนะครับไม่ใช่คนเดียว
คือต้องการผลประโยชน์เนี่ยเป็นการกระทำที่ผิดเป้าหมาย เมื่อเรามาแสวงหามานาฯ แสวงหาความจริง พระคำแห่งความจริงของพระเจ้า
อีกครั้งนะครับพระเยซูตรัสว่า คนที่พบมานาฯ ก็คือคนที่พบอาณาจักรของพระเจ้า แล้วเมื่อพบอาณาจักรของพระเจ้า ไม่ต้องห่วงครับ พระเจ้าจะประทานสิ่งที่เราขาดเหลือ สิ่งที่เราต้องการ สิ่งที่เราต้องใช้ต้องกินต้องอยู่ในชีวิตฝ่ายร่างกายนี้ ไม่ต้องห่วง พระเจ้าจะเป็นคนประทานให้
แต่ขอให้เราเนี่ย แสวงหาอาณาจักรของพระเจ้าให้ครบถ้วนก่อนนะครับ
และเมื่อท่านพบอุปสรรค พบปัญหา พบเจอมรสุมชีวิต อย่าหวั่นไหว สิ่งเหล่านี้พระเจ้าส่งมาเพื่อให้เป็นครู เพื่อสอนเรา และสุดท้ายก็คือเพื่อให้เราเข้มแข็ง ให้เราเติบโต และเห็นคุณค่าของพระเจ้า
มีกวางตัวหนึ่ง ยืนอยู่ที่ริมน้ำริมแม่น้ำ อยู่ในแม่น้ำนะครับมีจระเข้มากมายพร้อมที่จะกินกวางตัวนี้เป็นเหยื่อ เมื่อมันลงไปในน้ำ แล้วมีสิงโตนะครับที่อยู่ใกล้ๆ อยู่ในพุ่มไม้ ซ่อนอยู่เตรียมที่ตะครุบกวางตัวนี้
แล้วก็มีผู้ชายคนหนึ่งนะครับเป็นนักล่าสัตว์ ก็เข้าไปในป่า แล้วเห็นกวางตัวนี้นะครับ ก็เตรียมที่จะเอาธนูออกมาแล้วจะยิงมัน
กวางตัวนี้เมื่อเห็นว่า ในน้ำก็มีจระเข้ และอยู่ในพุ่มไม้ก็มีสิงโตที่เตรียมที่จะตะครุบมัน แล้วเห็นมนุษย์นะครับเห็นคนนี้ยืน แล้วเตรียมที่จะเอาธนูออกมาแล้วก็ยิงมัน
มันคิดว่าถ้าจะกระโดดลงน้ำก็คือตาย จะวิ่งก็คือโดนสิงโตตะครุบ แล้วถ้าจะทำอะไร จะตื่น จะตกใจ ก็คือไม่รอด ก็คือผู้ชายคนนี้มนุษย์เนี่ยจะยิงมันด้วยธนู
กวางตัวนี้คิดว่ายังไงก็จะต้องตายอยู่แล้ว ไม่มีทางออกไม่มีทางเลือก รอบข้างเจอแต่ปัญหา มันก็เลยสงบนิ่ง สงบใจ ก้มลงดื่มกินน้ำต่อไป ก็รู้ว่าจะตายแล้วเนี่ย คือไม่มีทางออกแล้ว
แล้วในที่สุดเมื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ก็คือมีเสียงฟ้าผ่า ดังแรงมาก ดังมาก แล้วทำให้มนุษย์เนี้ยตกใจ แล้วก็มือสั่น แล้วเห็นว่าเมื่อเป็นโอกาสที่ไม่ดี กลัวว่ากวางมันจะวิ่งหนี มนุษย์นะครับก็ยิงธนูใส่กวาง แต่พลาดนะครับ ด้วยความที่ว่ามือสั่น พลาด ธนูก็ยิงไปถูกสิงโตไปโดนสิงโต สิงโตเมื่อโดนธนูก็ตกใจก็วิ่งออกมาแล้วก็วิ่งหนีไป มนุษย์ก็วิ่งหนีน่ะ เห็นสิงโตก็วิ่งหนี
และเมื่อได้โอกาส กวางตัวนี้เห็นว่า สิงโตก็ไม่อยู่แล้ว มนุษย์ก็หนีไปแล้ว สุดท้ายมันก็วิ่งเข้าป่าไปปลอดภัย
เราก็ไม่ต่างไปจากกวางตัวนี้ ก็คือปัญหารอบข้าง มันมีมาทุกโอกาส มันมีมาได้ทุกเมื่อ และโลกนี้นะครับโลกนี้โหดร้ายสำหรับพวกเรา โลกนี้ไม่ได้เป็นมิตรกับพวกเรา โลกนี้มีแต่ให้สิ่งที่ไม่ดีกับเรา ให้สิ่งที่ไม่ยุติธรรม ให้ความเกลียดชัง ให้ความชั่วร้าย ให้น้ำตาแก่เรา ให้ความเจ็บปวดกับเรา ถูกไหมครับ
แต่ขณะที่เราเจอมรสุมต่างๆ ปัญหารอบข้าง เราสงบนิ่งสิครับ แล้วก็อธิษฐาน เรามีพระเยซู พระองค์จะส่งฟ้าผ่ามาให้เรา ก็คือการอัศจรรย์นั่นเอง เราจะรอดได้ทุกๆ โอกาส เพราะว่าพระเยซูเป็นกัปตันแห่งความรอดของเรา พระเยซูเป็นผู้ไถ่เรา ทุกวันทุกเวลาและทุกสถานการณ์ ฮาเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า