การเจิมและการวางมือตามน้ำพระทัย

(เจิมด้วยไฟ-รับไฟ ในพระคัมภีร์มีหรือไม่)

การเจิมและการวางมือตามน้ำพระทัย (เจิมด้วยไฟ-รับไฟ ในพระคัมภีร์มีหรือไม่)

ถาม: 

1 ทิโมธี 5:21 ข้อ 22 อย่าผลีผลามวางมือให้ใคร และอย่ามีส่วนร่วมในบาปของผู้อื่น จงรักษาตัวให้บริสุทธิ์ หมายความว่าอย่างไร

ตอบ: 

การวางมือ คือ

การรับรองจากพระเจ้า ในหน้าที่การรับใช้ตามของประทาน

เพื่อพระวิญญาณทรงให้ของประทานแก่เขา และทำงานผ่านเขาเมื่อถึงเวลาใช้ของประทานดังกล่าว

ผู้ที่เจิมจริงๆ คือพระเจ้าเป็นคนเจิม ไม่ใช่ผู้นำเจิม แต่ผู้นำ ผู้ปกครอง และพี่น้องวางมือเพื่อรับรองการเจิมของพระเจ้า (ฮบ 1:9; 1 ทธ 4:14; 2 คร 1:21)

อย่าด่วนวางมือใครเพื่อรับรองในหน้าที่ตำแหน่งของผู้เชื่อและผู้รับใช้ จนกว่าเราจะมั่นใจว่าเขาถูกเลือกจริงๆ พระเจ้าจะให้เราเข้าใจไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง แต่ปัญหาคือทุกวันนี้มีการวางมือกันเกลื่อนไปหมด พอจบจากมหาลัยก็คิดไปเองว่าพระเจ้าเลือก และคริสตจักรจะวางมือรับรองทันที แต่พระเจ้าไม่รู้เห็นอะไรด้วย ถามว่าคนนั้นจะเกิดผลไหม เกิดครับ แต่บำเหน็จของเขาคือทุกสิ่งที่เขาได้ในโลกนี้ ชื่อเสียง ตำแหน่ง หน้าตา หรือค่าจ้างที่ได้จากการรับใช้นั้น

ใน 1 ทธ 5:22 เน้นเรื่องการวางมือผู้ปกครอง (อ่าน 1 ทธ 4:14) คริสตจักรต้องมั่นใจเสียก่อนว่าพระเจ้าเลือกเขาจริงๆ และพี่น้องที่วางมือจะต้องรักษาชีวิตไม่ให้อยู่ในทางแห่งบาป และไม่มีส่วนร่วมกับความผิดบาปของใคร

การเจิมของพระเจ้ามีครั้งเดียวไม่มีหลายครั้ง และคำว่าเจิมด้วยไฟแห่งพระวิญญาณ (Anointed by Fire) ไม่มี แต่เป็นการเข้าใจผิดของผู้นำบางกลุ่ม

ผู้นำเหล่านั้นสอนว่า ถ้ามารับไฟประจำเขาจะเปลี่ยนแปลงชีวิตได้ เป็นความเข้าใจผิดครับ คือผู้เชื่อสัมผัสการเต็มล้นด้านนอก (พระวิญญาณสวมทับ) เขามีอาการร้องไห้ รักพระเจ้า รักพี่น้อง รักทุกคน ยกโทษ และเข้มแข็งได้ เขาจึงเป็นพยานกับทุกคนว่าพระเจ้าเปลี่ยนเขาแล้ว โตแล้ว แต่อาการนี้จะอยู่ได้ไม่นาน กิเลสตัณหาโลภโกรธหลงจะกำเริบ เมื่อบาปมายืนอยู่ต่อหน้าเขา เพราะไม่ใช่การเต็มล้นด้านใน ซึ่งเป็นการก่อร่างขึ้นของพระคริสต์ เพื่อการเติมโตและเลิกทำบาปได้อย่างไม่มีห่างหายไป (พี่น้องที่ไปรับไฟ ต่างก็รู้ดีแก่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนจริงๆ)

การเติบโตที่แท้จริงได้มาจากการชำระด้วยพระวิญญาณ (1 ปต 1:2) หลังจากที่รับการชำระด้วยพระคำพระเจ้า หรือถูกเปิดตาแล้ว (ยน 17:17, 19; โรม 12:2) ไม่ใช่การรับไฟแห่งพระวิญญาณ ไฟจากพระวิญญาณมีหน้าที่เผาไหม้วิญญาณและจิตใจผู้เชื่อ ให้หายจากอาการขี้เกียจ ให้ลุกไหม้จากการดับพระวิญญาณ และเกิดอาการร้อนรนขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อจะกระหายที่จะอ่าน อธิษฐาน และออกไปประกาศ (โรม 12:11) ไฟไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการเติบโตสู่ชีวิตพระคริสต์เลย เราจะไม่พบคำว่ารับไฟหรือเจิมด้วยไฟเลย ถึงผู้เชื่อบางกลุ่มจะอ้าง มัทธิวบทที่ 3:10–12 และกิจการบทที่ 2 ก็ตาม ทั้งนี้ทั้งนั้น มัทธิวบทที่ 3 เป็นเรื่องของการจุ่มพวกฟาริสีเข้าในบึงไฟโดยพระเยซูถ้าเขาไม่กลับใจ และจุ่มเขาเข้าในพระกายเพื่อได้รอดถ้าเขากลับใจ (มธ 3:7–12) ส่วนกิจการบทที่ 2 ไฟที่สาวกเห็นคือสัญลักษณ์เป็นเหมือนลิ้น เพื่อยืนยันว่าสาวกมีของประทานแห่งพระวิญญาณเรื่องพูดภาษาต่างๆ ได้ ไฟไม่ได้เข้าไปในเขาหรือสวมทับเขา แต่อยู่บนหัวเท่านั้น (กจ 2:1–13)

เจิมไว้แล้ว ภาษาอังกฤษคือ “Anointed” กรีกคือ χρίσας (ครี-โอ)

อ่าน: เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ผู้รับใช้คนไหนที่พระเจ้าเจิม กับที่อยากรับใช้เอง