ยอห์น บทที่ 2 ข้อ 23-25
2:23 เมื่อพระองค์ประทับ ณ กรุงเยรูซาเล็มในวันเลี้ยงเทศกาลปัสกานั้น มีคนเป็นอันมากได้เชื่อในพระนามของพระองค์ เมื่อเขาได้เห็นการอัศจรรย์ที่พระองค์ได้ทรงกระทำ
2:24 แต่พระเยซูมิได้ทรงวางพระทัยในคนเหล่านั้น เพราะพระองค์ทรงรู้จักมนุษย์ทุกคน
2:25 และไม่มีความจำเป็นที่จะมีพยานในเรื่องมนุษย์ ด้วยพระองค์เองทรงทราบว่าอะไรมีอยู่ในมนุษย์
** ในเวลาต่อมาพระองค์รักษาโรค และคนมากมายเชื่อในพระองค์ แต่พระเยซูมิได้ทรงวางใจคนเหล่านั้น สำหรับพระเจ้า พระองค์ทรงทราบดีว่ามนุษย์เปลี่ยนไปมาได้ง่าย และไม่มีอะไรดีอยู่ในมนุษย์เลย พอถึงบทที่หก ผู้คนที่ติดตามพระเยซูห้าพันคน (ยังไม่นับผู้หญิงและเด็ก) วันนั้นพระองค์ตรัสว่า ถ้าหากท่านกินเราและดื่มเรา ท่านจะมีชีวิตอยู่โดยเรา พวกเขาจึงคิดไปว่าคือลัทธิกินเลือดกินเนื้อกัน จึงพากันหนีไป
เราผู้เชื่อควรที่จะเรียนรู้และเข้าใจในข้อนี้ คืออย่าไว้ใจใคร มนุษย์เมื่อการชำระขั้นสูงยังมาไม่ถึงเขา เขาเปลี่ยนแปลงได้ วันนี้บอกว่ารักเรามากแต่วันหนึ่งก็เกลียดเรามาก เพราะฉะนั้นอย่าไว้ใจมนุษย์ เราทำใจ เผื่อใจไว้ เพื่อเราจะไม่เสียใจเมื่อเขาเปลี่ยนไป...คำว่า "ความรักก็เชื่อและวางใจในทุกสิ่ง" ก็คือเชื่อและวางใจในพระคริสต์ และพระคริสต์นำเราให้เชื่อและวางใจสิ่งใดเราก็วางใจในสิ่งนั้น
ผมขอบพระคุณพระเยซูที่ถูกชำระมาถึงจุดที่ไม่เสียใจ น้อยใจ และโกรธเคืองใคร เมื่อถูกกล่าวหาหรือใส่ร้าย ใครพูดผิด ผมไม่ใส่ใจเพียงแต่ชวนคุยและถ้าหากไม่เกิดผลดีผมก็ถอยออกมา และถ้าหากใครพูดถูก ผมก็ถ่อมใจยอมรับและแก้ไข ส่วนเรื่องใครจะอยู่หรือใครจะไปผมก็เอเมน ใครจะว่าพระคำล้ำลึกสอนผิดผมก็เอเมน ใครว่านำมาใช้เกิดผลในชีวิตอย่างมากมายผมก็เอเมน เพราะว่าผมรู้แล้วว่า พระเจ้าเป็นคนเลือกว่าใครจะเป็นอย่างไรในตอนจบ ชีวิตในพระคริสต์จึงเบาสบายมาก เป้าหมายของผมคือไม่มองไปที่คำพูดหรือหัวใจของมนุษย์ แต่ผมเฝ้ารอชีวิตที่เป็นภาชนะดินให้กลายเป็นภาชนะทองคำเพื่อถวายแด่พระเจ้า เพื่อให้ได้อยู่ใกล้พระเยซูในยุคหน้าและนิรันดร์ สรรเสริฐพระเยซู