2:20 แต่ว่าในบ้านใหญ่หลังหนึ่งๆ มิได้มีแต่ภาชนะทองและเงินเท่านั้น แต่มีภาชนะไม้และภาชนะดินด้วย บ้างก็มีเกียรติ และบ้างก็ไร้เกียรติ
** บ้านใหญ่หลังหนึ่งๆ ในที่นี้ เล็งถึงผู้เชื่อทุกคนและทุกกลุ่ม หรือทุกคริสตจักรไม่ว่าจะเป็นคริสตจักรผู้ชนะหรือคริสตจักรศาสนา
** ภาชนะทองและเงิน คือ "ทอง" เล็งถึงชีวิตแห่งธรรมชาติอันบริสุทธิ์ของพระเจ้าที่เราได้รับเมื่อเราได้รับการไถ่และบังเกิดใหม่แล้ว ส่วน "เงิน" เล็งถึงชีวิตพระคริสต์ที่ดำเนินชีวิตแทนเรา เมื่อเราได้รับการเปิดตาเกี่ยวกับเรื่องภาชนะทองและเงิน เราก็จะถูกเรียกว่าภาชนะทองและเงินที่มีเกียรตินั่นเอง
** ภาชนะไม้และภาชนะดิน คือ "ไม้" เล็งถึงชีวิตแห่งธรรมชาติที่ตกต่ำเสื่อมทรามและถูกสาปแช่งแล้ว ที่เรียกว่ามนุษย์ดินหรืออาดัมนั่นเอง ส่วน "ภาชนะดิน" เล็งถึงกำลังเรี่ยวแรงความสามารถที่มาจากตัวเก่าชีวิตเก่าที่ไม่ได้ผ่านการตายที่กางเขนร่วมกับพระเยซู ซึ่งก็คือคนดีทั้งหลายที่ไม่เชื่อพระเยซู และคริสเตียนศาสนาที่ไร้เกียรตินั่นเอง
2:21 เหตุฉะนั้นถ้าผู้ใดชำระตัวให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ เขาก็จะเป็นภาชนะที่มีเกียรติ ซึ่งคัดไว้แล้ว เหมาะที่นายจะใช้ให้เป็นประโยชน์ และถูกเตรียมไว้พร้อมสำหรับการดีทุกอย่าง
** ชำระตัวให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ คือการดำเนินชีวิตในพระคริสต์ที่เลิกทำบาปได้มากแล้ว โดยการฝึกเดินในพระวิญญาณ สนิท สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซู จนพร้อมแล้วสำหรับการงานของพระเจ้าที่จะเกิดผลถวายเกียรติแด่พระองค์
2:22 จงหลีกหนีเสียจากราคะตัณหาของคนหนุ่ม แต่จงใฝ่ในความชอบธรรม ในความเชื่อ ความรัก และสันติสุข ร่วมกับผู้ที่ออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์
** ราคะตัณหาของคนหนุ่ม คือความต้องการในฝ่ายเนื้อหนังและฝ่ายร่างกาย (เรื่องความไคร่)
** ใฝ่ในความชอบธรรม ในความเชื่อ ความรัก และสันติสุข
** ใฝ่ คือ ไล่ตามวิ่งตาม ตามไป ไขว่คว้า มาเป็นของเราให้ได้
- ความชอบธรรม คือความชอบธรรมของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- ความเชื่อ คือความเชื่อของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- ความรัก คือความรักของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- สันติสุข คือสันติสุขของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
2:23 จงหลีกเลี่ยงจากปัญหาอันโง่เขลาและไม่เป็นสาระ ด้วยรู้แล้วว่าปัญหาเหล่านั้นก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทกัน
** ปัญหาอันโง่เขลา หรือคำถาม การถาม และ การตอบอันโง่เขลา คือการถามตอบ โต้เถียง ถกเถียง โต้วาที เพื่อที่จะเอาชนะอีกฝ่าย ผลที่จะตามมาก็คือการทะเลาะวิวาทกันโดยไม่มีที่สิ้นสุด
2:24 ฝ่ายผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าต้องไม่เป็นคนที่ชอบการทะเลาะวิวาท แต่ต้องมีใจสุภาพต่อคนทั้งปวง เหมาะที่จะเป็นครูและมีความอดทน
** เราหลีกเลี่ยงเรื่องการทะเลาะวิวาท โต้เถียง โต้ วาที เราไม่ต้องการเอาชนะใครถึงแม้ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกและเป็นผู้รู้ก็ตาม แต่เราถ่อมใจ สุภาพ สุขุม อ่อนโยน สร้างสันติ และมีความอดทน นี่คือครูที่มาจากองค์พระผู้เป็นเจ้า
2:25 ด้วยความอ่อนสุภาพจงสอนคนเหล่านั้นที่ต่อสู้กับตัวเอง ถ้าพระเจ้าอาจจะทรงโปรดให้เขากลับใจเสียใหม่มารับความจริง
** เมื่อเราสั่งสอนด้วยความอ่อนสุภาพ สำหรับคนที่เปิดใจและถ่อมใจรับฟังจากที่เคยต่อสู้ต่อต้านพระคำแห่งความจริง พระเจ้าจะให้เขากลับใจและนำเขามาสู่ความจริงอันครบถ้วน (มานาที่ซ่อนไว้)
2:26 และเขาอาจหลุดพ้นบ่วงของพญามาร ผู้ซึ่งดักจับเขาไว้ให้ทำตามความประสงค์ของมัน
** ผู้เชื่อที่เป็นคริสเตียนศาสนาและมาไม่ถึงมานาที่ซ่อนไว้ย่อมถูกมารครอบครองจิตใจ ถูกบ่วงของมารดักจับเอาไว้ เขาจึงตาบอดและเดินอยู่ในทางแห่งความมืด เมื่อคริสเตียนศาสนาคนใดเปิดใจถ่อมใจยอมรับฟังความจริง พระเจ้าก็จะช่วยเขาให้ได้หลุดพ้นบ่วงของมารและการใช้ชีวิตรับใช้พระเจ้าในทางที่ไม่ได้ถวายเกียรติแด่พระองค์ สำหรับผู้ที่ได้รับพระคำล้ำลึกก็ได้หลุดพ้นจากบ่วงหรือกับดักของมารแล้ว เราจึงเป็นไทอย่างแท้จริงและเดินทางความสว่างของพระเยซู เอเมน
ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระคำแห่งความจริง เราจึงได้พบว่า คริสเตียนมีสองสายคือศาสนาและฝ่ายวิญญาณ พระเจ้ายอมให้เราอยู่ในฝ่ายศาสนาเพื่อเรียนรู้ว่าเราอ่อนแอและต้องยอมแพ้หันมาพึ่งพาพระคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าในทุกเรื่อง
1. บ้านหลังใหญ่
- เราถูกสอนว่า บ้านหลังใหญ่คือโลกนี้ กับคนที่เชื่อและไม่เชื่อ แต่สำหรับพระเจ้า บ้านของพระองค์จะไม่นับคนที่ไม่เชื่อ และเราพบว่าคริสเตียนมีสองประเภทคือคริสเตียนฝ่ายวิญญาณและฝ่ายเนื้อหนังหรือคริสเตียนหลงทางนั่นเอง
2. ภาชนะทองและเงิน ชีวิตการรับใช้ นมัสการที่มีเกียรติ ภาชนะไม้และดินชีวิตการรับใช้ นมัสการที่ไม่มีเกียรติ
** ใฝ่ (1) ในความชอบธรรม (2) ในความเชื่อ (3) ความรัก และ (4) สันติสุข
** ใฝ่ คือ ไล่ตามวิ่งตาม ตามไป ไขว่ค้วา มาเป็นของเราให้ได้
- ความชอบธรรม คือความชอบธรรมของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- ความเชื่อ คือความเชื่อของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- ความรัก คือความรักของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
- สันติสุข คือสันติสุขของพระเจ้า ไม่ใช่ของเรา
3. ปัญหา/คำถามคำตอบอันโง่เขลา ซึ่งคริสตียนฝ่ายวิญญาณต้องหลีกเลี่ยง
4. คริสเตียนศาสนาติดบ่วงกับดักของซาตานจึงหลงทางเดินในความมืด คริสเตียนฝ่ายวิญญาณได้รับการเปิดตาก็พ้นจากบ่วงและกับดักจึงเดินในทางแห่งความจริงคือความสว่างของพระเจ้า
5. การแบ่งปันที่อ่อนสุภาพจะช่วยให้พระวิญญาณทำงานกับผู้ฟังได้มากกว่า ทำให้คริสเตียนศาสนากลับใจมารับความจริงอย่างครบถ้วนได้
ก็คือมี 4 สิ่ง ความชอบธรรม ความเชื่อ ความรัก และสันติสุข
สำหรับพระเจ้า พระองค์ไถ่เรา เราได้คืนดีกับพระเจ้า และเรากลายเป็นบุตรของพระเจ้า ได้บังเกิดใหม่ วิญญาณของเราสื่อสารกับพระเจ้า และได้เข้าไปอยู่ในฝ่ายวิญญาณ ก็คือมิติ อีกมิติหนึ่ง ซึ่งทุกสิ่งดีหมด ใหม่หมด มีสันติสุขเต็มล้นอยู่ในนั้น และมีพลังที่ยิ่งใหญ่ที่ทำให้เราก้าวไปในการดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้ในมิติเก่านี้ โดยที่เราเรียกชีวิตนี้ว่า “สวรรค์บนดิน”
ถ้า ไม่อยากรอให้ถึงยุคพันปี และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ เราก็ยังสามารถที่จะใช้ชีวิตที่เรียกว่า “สวรรค์บนดิน” อยู่ในโลกนี้ได้ และนี่คือเป้าหมายพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้ผู้เชื่อทุกคนเข้าสู่สันติสุข
วันนี้ถ้าหากใครยังไม่มี ยังไม่ได้วิ่งตามสันติสุขในลักษณะของแม่น้ำแห่งชีวิตที่ทำกิจทำงานในเราตลอดเวลา มีสันติสุขทุกวันเวลาตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทุกวันเวลา หรือแม้แต่ขณะที่เราหลุดเผลอไปทำบาป แล้วสารภาพกลับเข้ามาใหม่ สันติสุขก็จะทำงานอยู่เหมือนเดิม อันนี้เรียกว่าชีวิต “สวรรค์บนดิน” ขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้
แล้วก็ขอบคุณสำหรับพี่น้องที่ได้รับการเปิดตาเพิ่งเข้ามา
...
เราสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์เลือกเรามาให้เป็นคนพิเศษ เราไม่ใช่คนธรรมดา เราถูกเรียกถูกเลือก และให้เกียรติเรา และทรงเรียกเราว่าเป็นบุตรที่รัก เป็นบุตรที่พิเศษ เพราะว่าเราได้กลายมาเป็นภาชนะทองและเงิน ใน 2 ทิโมธี ในบทนี้ สรรเสริญพระเจ้า
เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับพระคำแห่งความจริง เราจึงได้พบว่าคริสเตียนมี 2 สาย ก็คือสายศาสนา และสายฝ่ายวิญญาณ พระเจ้ายอมให้เราอยู่ในฝ่ายศาสนานานหลายปีเพื่อเรียนรู้ ว่าเราอ่อนแอ และต้องรับ ยอมแพ้ หันมาพึ่งพาพระคริสต์พระบุตรองค์เดียวของพระเจ้าในทุกเรื่อง
ขอสรุปสั้นๆ สำหรับบทนี้ ก็คือบ้านหลังใหญ่ ก็คือคริสตจักร
บ้านสำหรับพระเจ้าเรียกว่าทุกคนที่อยู่ในบ้าน ก็คือลูกของพระเจ้า แต่คนที่ไม่เชื่อไม่ใช่ลูกของพระเจ้า พระเจ้าไม่นับ เพราะฉะนั้นคำสอนในคริสตจักรต่างๆ ก็คือเขาอาจจะไม่เข้าใจ เขาไม่รู้
แต่ความจริงก็คือบ้านหลังใหญ่ ก็คือคริสตจักรของพระเจ้า ที่มีผู้เชื่อทั้งมีเกียรติและไม่มีเกียรติ
ผู้เชื่อที่มีเกียรติ ก็คือผู้เชื่อที่กลายเป็นทอง ภาชนะทองและภาชนะเงิน คือเข้าสู่การได้รับการเปิดตาว่าเราเป็นคนบริสุทธิ์ ชอบธรรมเท่าเทียมกับพระเจ้า เพราะว่าพระเจ้าเป็นความชอบธรรมของเรา โดยพระคริสต์ไม่ใช่เราเอง โดยพระคริสต์เราทุกวันนี้จึงถูกมองว่าเป็นคนบริสุทธิ์และชอบธรรมเป็นทองคำแท้ เอเมนสรรเสริญพระเยซู
การที่เราจะเป็นภาชนะเงิน ก็คือเรามีพระคริสต์เป็นคนดำเนินชีวิตแทนเรา คิดแทนเรา เชื่อแทนเรา ทำทุกสิ่งแทนเรา รักเพื่อนบ้าน รักศัตรู อภัย เป็นคนที่มีบุคลิกลักษณะ ท่าที อาการ คำพูด อ่อนโยน สุภาพ สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูจริงๆ ให้โลกได้เห็น เราถูกเรียกว่าเป็นภาชนะเงิน สรรเสริญพระเจ้าเมื่อเรากลายเป็น 2 ภาชนะนี้ พระเจ้าเรียกเราว่าเป็นบุตรที่มีเกียรติ
แล้วก็น่าเสียดาย น่าเสียดายที่มีผู้เชื่ออีกจำนวนหนึ่งที่ยังเป็นคริสเตียนศาสนาเหมือนเดิม ยังไม่ไปถึงไหน ยังไม่ได้รับการเปิดตา เนื่องจากว่าเขาคิดว่าเขาดีแล้ว เขาพอแล้ว เขาครบแล้ว เขามาถึงความรู้ที่ถูกต้องแล้ว คือการที่ไม่ยอมยากจนในฝ่ายวิญญาณ เขาเต็มหมดแล้วน่ะ คือน้ำเต็มแก้ว เขาไม่ยอมรับความรู้ใหม่ๆ ไม่ยอมรับอะไร มีคนไปบอกว่าได้รับการเปิดตาแล้ว อยากให้อาจารย์อยากให้ผู้นำช่วยลองฟังพิจารณา เขาก็จะบอกว่าไม่ถูก อันนี้ไม่ใช่ อันนี้ปลอม อันนี้เทียมเท็จ เนื่องจากว่าเขายึดในสิ่งที่เขาเรียนรู้มา ผมก็เคยเป็นหนึ่งในนั้น แล้วก็พี่น้องหลายคนก็เคยเป็น
แต่เราสรรเสริญพระเจ้าที่พระองค์ทำงานหนักมากเพื่อช่วยเรา ให้กลายมาเป็นบุตรที่พิเศษ เข้าสู่ภาชนะทอง และภาชนะเงิน ได้จนถึงทุกวันนี้ แล้วเราอธิษฐานเผื่อสำหรับพี่น้องที่ยังเป็นภาชนะไม้ และเป็นภาชนะดิน
ไม้และดินเป็นสิ่งที่เป็นฝ่ายเนื้อหนัง ไม้และดิน ดินก็คือเนื้อหนัง ก็คือมนุษย์ดิน ซึ่งใช้ความรอบรู้สติปัญญาความสามารถกำลังเท่าที่เขามี ซึ่งชีวิตของดิน หรือชีวิตของไม้ เป็นสิ่งที่ตกต่ำเสื่อมทรามเสื่อมโทรมถูกสาปแช่งและถูกพิพากษาแล้ว จะมีเกียรติไม่ได้ มานั่งโต๊ะร่วมกับพระเยซูไม่ได้ ร่วมงานในฝ่ายวิญญาณในพระคริสต์ไม่ได้ พระเจ้าไม่อนุญาต และพระเจ้าไม่ให้มันผ่านกางเขนและความตายของพระเยซู มันจบที่กางเขนและความตายของพระเยซูแล้ว
เพราะฉะนั้น ใครที่จะเป็นภาชนะทอง และภาชนะเงิน ก็จะต้องผ่านการตายที่กางเขน ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปิดเผย ซึ่งคริสตจักรมากมายไม่เปิดเผย คริสตจักรมากมายไม่สอน ว่าเราได้ตายแล้วร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และไม่เพียงแต่เท่านั้น เรายังเป็นขึ้นมากับพระองค์เมื่อพระองค์ฟื้นคืนพระชนม์ เราจึงเป็นคนใหม่ได้บังเกิดใหม่มีชีวิตใหม่และอยู่ในพระคริสต์ ทุกสิ่งใหม่หมด มีสันติสุขทุกวันทุกเวลาได้ อยู่ในสวรรค์บนดินจนถึงทุกวันนี้ เอเมน
ประการที่ 2 สำหรับบทนี้ ก็คือ เรื่องของการใฝ่หาในความชอบธรรม ใฝ่ในความเชื่อ ใฝ่ในความรัก และสันติสุข ใฝ่ ภาษาอังกฤษเรียกว่า Pursue วิ่งตาม ไล่ตาม ตามไป ไขว่คว้า เอามาเป็นของเราให้ได้
ทุกวันนี้เรามีหรือยัง...
1. ความชอบธรรม (พระคริสต์เป็นเสื้อที่ดีที่สุดให้เราสวมใส่)
สรรเสริญพระเจ้า พระองค์ให้เราเป็นคนชอบธรรมทันทีที่เราเชื่อ (ต่อหน้าพระเจ้า) พระเจ้ามองเราว่าเป็นคนชอบธรรม เพราะว่าพระคริสต์ปกปิดชีวิตของเรา พระคริสต์เป็นเสื้อที่ดีที่สุดให้เราสวมใส่ วันนี้เราจึงชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้าแล้ว
แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ก็คือการที่จะเป็นคนชอบธรรม ต่อหน้ามนุษย์ ให้มนุษย์ได้เห็นความชอบธรรมของเรา ให้มนุษย์ได้เห็นความดี ความรัก การช่วย ความเมตตา การยกโทษ การไม่ถือสา สิ่งเหล่านี้เขาได้เห็นจากชีวิตของเราหรือยัง
ถ้ายัง ให้เราวิ่งตาม ตามหา ไขว่คว้า มาเป็นของเราให้ได้ ก็คือพระเยซู..
“พระองค์ดำเนินชีวิตแทนข้า พระเยซูพระองค์พูดกับเขาแทนข้า พระเยซูยกโทษให้เขาแทนข้า เพราะว่าข้าพระองค์ยอมแพ้ ข้าพระองค์อ่อนแอ ข้าพระองค์ยอมจำนน ให้พระองค์เป็นคนยึดชีวิตของข้าพระองค์ และใช้ชีวิตนี้ให้เป็นประโยชน์ และเพื่อให้มนุษย์เห็นความชอบธรรมของพระองค์ผ่านข้า เอเมน”
และอีกไม่นาน เราจะเห็นว่าความชอบธรรมของพระเยซูจะเริ่มเกิดผลในชีวิตของเราผ่านชีวิตของเรา
2. ใฝ่หา แสวงหา วิ่งตาม ในความเชื่อ
และสิ่งที่ 2 ที่เราจะต้อง ใฝ่หา แสวงหา วิ่งตาม ก็คือในความเชื่อ ให้ความเชื่อของเรายึดมั่นในความจริงของพระเจ้า ให้ความเชื่อของเราเป็นหลักเป็นฐาน เป็นสิ่งที่เราจะต้องมีในทุกสิ่ง เราเชื่อและเราเชื่อเอา เชื่อในความจริงของพระเจ้า เชื่อในฤทธิ์เดชของพระเจ้า เชื่อในความรักของพระเจ้า เชื่อในพระคุณของพระเจ้า เชื่อในความจริงของพระเจ้า เราจึงจะเข้าสู่การเป็นภาชนะทองและภาชนะเงินได้
ทุกวันนี้คริสเตียนอาศัยการดำเนินชีวิตด้วยการมองด้วยสายตาด้วยอารมณ์ความรู้สึก ถ้าเห็นก็เชื่อ ถ้าไม่เห็นก็ไม่เชื่อ ถ้าเห็นว่าดีก็เอา ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็ไม่เอา
ซึ่งสำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณพวกเรา ทุกสิ่งที่อยู่ในพระคริสต์ดีหมด ทุกสิ่งที่อยู่ในพระคริสต์ได้หมด ทุกสิ่งที่อยู่ในพระคริสต์จะเกิดขึ้นเมื่อเราเชื่อในความจริงนั้น เอเมน
3. ความรัก (ความรักเป็นเรื่องใหญ่)
สิ่งต่อมา ก็คือความรัก สำหรับความรักเป็นเรื่องใหญ่ เป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการ เพราะว่าพระเจ้าเป็น “ความรัก” พระองค์คือรัก ถ้าเราจะมองพระเจ้า สิ่งแรกที่มนุษย์ฝ่ายวิญญาณพวกเราได้รับการเปิดตาปุ๊บ เราจะเห็นว่า พระเจ้าชื่อว่ารัก พระเจ้าเป็นรัก ตัวตนของพระเจ้าก็คือ เป็นรัก ภาษาอังกฤษก็คือ Love - l o v e พระเจ้าเป็นนี่แหละเป็นสิ่งนี้ ก็คือ เป็นรัก ก็คือชีวิตของพระเจ้า
เพราะฉันเมื่อเราไม่มีความรัก เราก็ไม่ใช่บุตรของพระเจ้าที่แท้จริง เพราะฉะนั้นการกระทำทุกสิ่ง เริ่มต้นตั้งแต่เช้าจนค่ำ ตั้งแต่ข้างนอกจนถึงข้างใน การพูด การคิด การกระทำ ทุกสิ่งให้มีคำว่า “รัก” ติดไปด้วยตามติดไปด้วยอยู่ด้วย
เรามีหรือยัง ถ้ายังไม่มี ใฝ่หา คว้ามันมาเป็นของเราให้ได้ ทำยังไง..
“พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์ พระเยซูข้าพระองค์รักพระองค์”
บอกรักพระเยซู สนิทในพระองค์ แล้วความรักของพระเจ้า จะเคลื่อนจะทำกิจจะทำงานและแพร่กระจาย และขยายใหญ่ขึ้นในชีวิตของเรา เราจึงถูกเรียกว่าเป็นนักรัก ใครมองเห็นเราจะเห็นว่า อ้อ คนนี้นักรัก มาแล้ว นี่คือการประสบความสำเร็จในชีวิตฝ่ายวิญญาณ
4. สันติสุข (เราต้องแสวงหาสันติสุขทุกวันทุกเวลา)
สิ่งสุดท้าย ก็คือสันติสุข เราที่เป็นคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ ยังมีความทุกข์อยู่ ยังกังวล ยังกลุ้มใจ ยังมีความคิดในลักษณะเป็นแง่ลบ เราไม่สบายใจ เรียกว่าเราละเมิดสะบาโตของพระเยซู เพราะฉะนั้นเราต้องแสวงหาสันติสุขทุกวันทุกเวลา ทำยังไง..
อันแรก ก็คือเรียนรู้บทเรียน 9 ประการ บทเรียน 9 บท เลิกกลัวพระเจ้า เลิกกลัวว่าจะไม่รอด และสนิทในพระเยซูคริสต์ ให้พระองค์ทำทุกสิ่งแทนเรา ให้พระองค์เป็นคนชำระเรา ให้เวลาเป็นสิ่งที่พระองค์จะก่อเราขึ้น รอเวลาของพระเจ้า และในที่สุดอีกไม่นาน เราจะกลายเป็นผู้ชนะ และชีวิตของเราจะเต็มด้วยสันติสุข เราจะเดินในสวรรค์บนดิน ขณะที่มนุษย์โลกนี้เดินอยู่ในนรกบนดินแล้ว
แล้วเราอย่าแปลกใจว่าคริสเตียนฝ่ายศาสนมากมายทุกวันนี้ เขาไม่ได้อยู่ในสวรรค์บนดิน เขาอยู่ในนรก เขายังเป็นทุกข์ ชีวิตดีขึ้นดีบาปดีบาปขึ้นลงสุขทุกข์ดีบาปไปจนตาย
สรุปข้อที่ 3 ก็คือ ปัญหาคำถามคำตอบอันโง่เขลา สำหรับพระเจ้า พระเจ้าเรียกว่าปัญหาคำถามตอบอันโง่เขลา ก็คือการไปถกเถียงไม่มีที่สิ้นสุด ไปถกเถียงไปโต้เถียงไปโต้วาทีเพื่อที่จะเอาชนะอีกฝ่ายหนึ่ง โดยที่ไม่ยอมเสียเปรียบโดยที่ไม่ยอมคิดพิจารณาว่าสิ่งที่เขาพูดถูกไหม สิ่งที่เขาพูดมันดีไหม สิ่งที่เขาพูดเราเอามาใช้ได้ไหม เราเอามาอธิษฐานถามพระบิดาก่อน นี่เเหละคือสิ่งที่คริสเตียนฝ่ายวิญญาณเราทำ เราหลีกเลี่ยง คือการที่จะเข้าสู่ปัญหาคำถามคำตอบการโต้วาทีอันโง่เขลา
ข้อที่ 5 คริสเตียนศาสนาติดบ่วงกับดักของซาตาน อันนี้เราเห็นนะว่าพระเจ้าเปิดเผยในบทนี้ ก็คือสำหรับคริสเตียนที่มาไม่ถึงการเปิดตา มาไม่ถึงการเป็นภาชนะทองและเงิน เรียกว่าเขาติดบ่วงกับดักของซาตานอยู่ เขาหลงทางและเดินในความมืด
ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเจ้ายิ่งใหญ่ และขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์รักเรามาก เลือกเราเป็นคนพิเศษ เพื่อเปิดตาเข้าสู่การหลุดพ้นจากบ่วงกับดัก และเดินในทางแห่งความจริง คือความสว่างของพระเจ้า วันนี้ตาเราได้เห็นแล้วหายบอดแล้ว สรรเสริญพระเยซู เอเมน
และเป็นสิ่งที่แน่นอนสิ่งสุดท้าย พระเจ้าเตือนเราผ่านเปาโล ก็คือการที่จะแบ่งปันให้ผู้อื่น โดยเอามานาฯ ไปแบ่งปัน หลายคนประสบความล้มเหลวใช่ไหม เพราะว่าเราขาดสิ่งนี้ การแบ่งปันโดยที่ไม่ต้องโต้เถียง โดยที่ไม่ต้องถกเถียงเอาชนะ โดยที่ไม่ต้องพยายามไปให้เขารับสิ่งที่เราได้เห็นได้รับการเปิดตา แต่เราแบ่งปันด้วยอ่อนโยนอ่อนสุภาพถ่อมใจ เขารับก็เอเมน เขาไม่รับเราก็ยังเป็นเพื่อนกับเขา และเอเมนกับเขา
พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะทำงาน จะช่วยให้เขาที่เคยดูถูกดูหมิ่นเคยกล่าวหาว่า พระคำล้ำลึก มานาซ่อนไว้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์จะช่วยเขาให้กลับใจ และรับการเปิดเผยเข้าสู่พระคำแห่งความจริง อย่างครบถ้วนได้ สรรเสริญพระบิดาเอเมน