คริสเตียนที่เป็นอุ่นๆ นั้นเป็นเรื่องของใจ ใจที่เป็นอุ่นๆ ไม่ใช่เรื่องของน้ำเย็นน้ำร้อน หรือแบบเล็งที่หลายคนตีความหมายผิด
ใจร้อน คือใจร้อนร้นกระตือรือล้น
ส่วนใจเย็นคือใจเฉื่อยชา ไม่อยากอ่าน ไม่อยากอธิษฐาน ไม่อยากนมัสการ ประกาศ เป็นพยาน ใช้ชีวิตเหมือนชาวโลกอยู่ อาจจะไปโบสถ์ในวันอาทิตย์แต่ไม่ได้เดินในพระวิญญาณ ไม่ติดสนิทบอกรักพระเยซู และสนทนากับพระองค์อย่างสม่ำเสมอเรียกว่าเย็น
ส่วนใจร้อนเป็นใจที่ตรงกันข้าม คือกระตือรือร้นร้อนรน อยากอ่าน อยากอธิษฐาน อยากเป็นพยาน อยากนมัสการ สามัคคีธรรมกับพี่น้อง
คริสเตียนที่เป็นอุ่นๆ นี้ พวกเขาคิดว่าพวกตนดีแล้วและชอบธรรมแล้ว แต่ใช้ชีวิตของอาดัมในการทำดี เขาไม่มีชีวิตธรรมชาติชีวิตของพระคริสต์เกิดผลของพระวิญญาณอยู่ในเขา เขาจึงไม่เป็นคนมั่งมีในความชอบธรรมของพระเจ้า
พวกเขาเป็นคนทุกข์ยากเข็ญใจเป็นคนน่าสังเวช น่าสงสาร เป็นคนตาบอดสำหรับพระเจ้าเพราะไม่ได้พบอาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์ พวกเขาเปลือยกายอยู่ ไม่ได้นุ่งห่มเสื้อตัวที่สองที่พระคริสต์ทำแทนในแต่ละวัน คำว่าซื้อทองคำที่หล่อหลอมให้บริสุทธิ์ในไฟแล้ว เเละเสื้อผ้าขาวเพื่อจะนุ่งห่มได้
ในพระคำภีร์วิวรณ์ในบทที่ 3 นั้น คือชีวิตและธรรมชาติ ทั้งพระนิสัยของพระเจ้าเพื่อที่จะมั่งมีในผลของพระวิญญาณ เป็นเสื้อตัวที่สองเพื่อเข้าไปอาณาจักร
คำว่า เอายาทาตา คือขอการเปิดตาจากพระเจ้าเพื่อจะให้ได้เห็นพระคำล้ำลึกที่ซ่อนไว้จากผู้เชื่อทั้งหลายที่ไม่ถ่อม ไม่ยอม และไม่เปิดใจ
สรุปคือคริสเตียนที่เป็นอุ่นๆ ไม่มีพระคริสต์ครอบครองจิตใจ เพราะพวกเขายังไม่ถูกเปิดตาให้เห็นข้อลึกลับใน (คส 1:27) นั่นเอง