เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับวันนี้ที่พระองค์อยู่ท่ามกลางพวกเราทั้งหลาย และขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์เป็นพี่ชายที่นำเราเข้าสู่การเข้าเฝ้า นมัสการ ยกย่อง สรรเสริญ ขอบพระคุณพระบิดา
เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับหนังสือ 1 โครินธ์ 6:9-11 ในวันนี้ที่เปิดเผยเรื่อง การได้เป็นคนชอบธรรม การได้ดำเนินชีวิตอยู่ในความชอบธรรม การแสวงหาอาณาจักรของพระเจ้า เราขอบพระคุณพระองค์ที่เราพบความจริงว่า การได้กลายเป็นคนชอบธรรมนี้ เราได้มาโดยทางความเชื่อเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องข้องเกี่ยวอะไรกับการรักษาพระบัญญัติ การรับบัพติศมา การประกาศข่าวประเสริฐ การรับใช้ การเลิกทำบาป แต่โดยทางความเชื่อเท่านั้น ความเชื่ออันเดียว ความเชื่ออย่างเดียว สิ่งเดียว ที่เราได้กลายเป็นคนชอบธรรม
ความชอบธรรมของเราตอนนี้ ขอบพระคุณพระบิดาที่พระเยซูเป็นคนกระทำ และทำให้เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมเท่าเทียมกับพระเยซู เพราะว่าความชอบธรรมที่แท้จริง ก็คือพระเยซู และเป็นของพระเยซูที่พระองค์ประทานให้พวกเรา ซึ่งเราไม่เหมาะสมไม่สมควรที่จะได้รับ แต่สรรเสริญพระเจ้า ที่พระองค์รักพวกเรามาก และให้เราได้มีโอกาสได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยพระเยซูเป็นคนทำ พระเยซูจ่ายหนี้บาปให้เราทั้งหลายโดยการตายและพระโลหิตของพระองค์ วันนี้เราจึงถูกนับถูกมองโดยพระบิดาว่าเป็นคนชอบธรรมเป็นคนดีแล้ว เอเมนสรรเสริญพระเยซู
สำหรับเรื่องความชอบธรรม เราจะมาคุยกันนิดนึง ความชอบธรรมโดยทางความเชื่อ ภาษาอังกฤษเรียกว่า justified by faith ก็คือความชอบธรรมโดยทางความเชื่อ และอันที่สอง ก็คือความชอบธรรมโดยการรักษาพระบัญญัติ ภาษาอังกฤษเรียกว่า justified by works ซึ่งความเชื่อ 2 แบบนี้ บางคนก็เชื่อว่าเราได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อเท่านั้น แต่อีกบางคนบางกลุ่มก็ยังเชื่อว่ามันไม่ใช่ คือเราต้องเลิกทำบาปต้องรักษาพระบัญญัติ เรียกว่าความชอบธรรมโดยการรักษาพระบัญญัติ หรือภาษาอังกฤษ justified by works
เป็นประเด็นใหญ่มากเป็นปัญหาที่ใหญ่มากท่ามกลางผู้เชื่อตั้งแต่แรกจนถึงทุกวันนี้ และก็จะมีต่อไปจนถึงในอนาคตจนสิ้นยุค คือต่างฝ่ายต่างก็มีข้อพระคัมภีร์สนับสนุนและอ้างว่าตนเชื่อถูก แต่มีสิ่งหนึ่งที่คริสเตียนพลาด เราขอบพระคุณพระเยซูที่เรามีบุญ ที่เราเป็นคนกลุ่มน้อยที่พระเจ้าเลือกมาเปิดตา เมื่อถูกเปิดตา ตาทั้งสอง ตาของเราถูกเปิดเราจะพบข้อลึกลับแห่งอาณาจักร ทันทีที่ความสว่างปรากฏเกี่ยวกับเรื่องอาณาจักร ขอบคุณพระเยซูเราจึงมั่นใจว่าเราได้กลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อ สรรเสริญพระเยซูข้อลึกลับแห่งอาณาจักรเป็นสิ่งเดียวเป็นกุญแจที่จะไขความข้องใจไขความขัดแย้งของคริสเตียนทั้ง 2 ฝ่ายทุกวันนี้
สำหรับเรื่องความชอบธรรมโดยทางความเชื่อ เราขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์ตายแทนที่เรา ซึ่งเราเองสมควรที่จะเป็นผู้ที่ต้องตายบนกางเขน สมควรที่จะต้องตาย ถูกพิพากษา 1 คร 15:3 พระเยซูตายแทนเรา ซึ่งเราน่ะสมควรที่จะเป็นคนตาย และความตายและพระโลหิตของพระเยซูเป็นสิ่งที่พระเจ้ายอมรับเป็นค่าจ่ายหนี้บาปของเราแล้ว อฟ 1:7 / ลนต 17:11 ขอบคุณพระเยซู
ทุกวันนี้ขอบพระคุณพระเจ้า พระบิดาตั้งพระโลหิตของพระเยซูเป็นค่าไถ่บาปนิรันดร์ ไม่ว่าคนที่อยู่ในสมัยเริ่มแรก จนถึงสมัยสุดท้าย ยุคสุดท้าย ก็จะได้รับสิ่งนี้ก็คือการที่พระโลหิตของพระเยซูจะเป็นสิ่งที่จ่ายหนี้บาปให้ทุกคนชั่วนิรันดร์ และพระเยซูเองจะเป็นทนายความ เป็น lawyer เพื่อเมื่อเรามีบาปและทำบาป และเมื่อเราสารภาพในพระเยซูโดยความเชื่อในพระเยซู การอภัยโทษก็เกิดขึ้นทันที (1 ยน 2:1)
และขอบพระคุณพระเจ้าสุดท้ายก็คือ พระบิดาทรงตั้งเราไว้ให้เป็นคนชอบธรรม เนื่องจากพระโลหิต ไม่ใช่เป็นเพราะเรา แต่โดยเนื่องจากพระโลหิตและการตายเพื่อไถ่บาปของพระบุตรพระเจ้า (โรม 5:1 / 2 คร 5:17)
เพราะฉะนั้นความชอบธรรมและการรักษาพระบัญญัติของพระเยซู ยกให้เป็นความชอบธรรมของเรา คือพระเยซูนั่นเองที่เป็นความชอบธรรมของเรา (1 คร 1:30) พระเจ้าพอใจในสิ่งที่พระบุตรกระทำ พระเจ้าพอใจมากสิ่งที่พระเยซูกระทำ พระองค์ทรงเป็นคนชอบธรรมดำเนินชีวิตในความชอบธรรมรักษาพระบัญญัติทั้งหมด และสุดท้ายก็ไปตายที่กางเขนเพื่อจ่ายหนี้บาปทั้งหลายของเรา ทำให้พระเจ้าพอใจมาก พระองค์ก็พอใจเราด้วย เมื่อเราเชื่อในพระบุตรของพระองค์ (อสย 53:10 / โรม 3:25)
และขอบคุณพระเจ้าเมื่อเราสวมเสื้อตัวที่หนึ่ง ก็คือส่วนพระคริสต์ พระบิดามองมาที่เราเมื่อไหร่ก็เห็นพระคริสต์เท่านั้น ไม่เห็นเราแล้ว เพราะว่าพระโลหิตและการตายเพื่อไถ่เราเป็นความพอใจของพระเจ้าแล้ว เราจึงถูกเรียกว่าชอบธรรมหรือเป็นคนชอบธรรมหรือเป็นคนดีเท่ากับพระเยซู เราจึงได้กลายเป็นบุตรพระเจ้าและได้รอดในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ รอดจากบึงไฟ (กท 3:27)
สรุปขอบคุณพระเจ้าทุกวันนี้ เราได้กลายเป็นคนชอบธรรมแล้ว เราถูกพระเจ้ามองว่าเป็นคนดีเป็นคนชอบธรรมเป็นคนบริสุทธิ์ต่อพระพักตร์พระองค์ ไม่มีใครจะมากล่าวหาใส่ร้าย พูดหรือประกาศว่าเราเป็นคนบาป ไม่มีแล้ว สำหรับพระเจ้ามองก็คือลูกชายของเราลูกหญิงของเราคนนี้ เป็นคนชอบธรรมเป็นบุตรของพระเจ้าองค์สูงสุด สรรเสริญพระเยซู
ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนและเชื่อนะครับว่าต้องเป็นคนชอบธรรมที่ได้มาโดยการรักษาพระบัญญัติ ไม่อย่างนั้นก็คือไม่รอด ถ้าไม่อย่างนั้นก็คือพระเจ้าจะไม่ยกโทษให้ และจุดจบของชีวิตก็คือจะไปอยู่ที่บึงไฟ อันนี้เป็นความเข้าใจผิดนะครับ ผมขอย้ำนะครับ ตอนที่พูดแรกๆ ก็คือเราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์เปิดตาเรา มันเป็นเรื่องของตา (มธ 13:11 ใครที่ถูกเปิดตาก็เป็นสุข ตาที่ได้เห็นและหูที่ได้ยินก็เป็นสุข ข้อความแห่งอาณาจักรข้อลึกลับแห่งอาณาจักรเปิดให้พวกท่านทั้งหลาย แต่ไม่เปิดให้พวกเขา)
วันนี้พวกเราได้ถูกเปิดตาพระองค์เปิดให้แล้ว ข้อลึกลับแห่งอาณาจักรเราได้พบแล้ว เราได้รู้ว่ารอดมี 2 รอด เราได้รู้ว่าความชอบธรรมมี 2 แบบ คือชอบธรรมต่อหน้าพระเจ้า พระเจ้าก็ให้รอด และชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ พระเจ้าก็ให้เข้าไปในอาณาจักร ร่วมครอบครองกับพระเยซูในยุคพันปี และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ สรรเสริญพระเจ้าพวกเรารักพระองค์เอเมน
เมื่อถูกเปิดตานะครับเราจะพบว่า หนังสือมัทธิวและอีกหลายๆ เล่มที่กล่าวถึงการได้เข้าไปในอาณาจักร ซึ่งจะต้องรักษาพระบัญญัติเชื่อฟังเลิกทำบาปนู่นนี่นั่น นี่คือความชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ ซึ่งวันนี้เราพบว่าเปาโลกล่าวถึง 3 สิ่งที่คริสเตียนได้รับเมื่อเชื่อในพระเยซูแล้ว 3 สิ่งเดี๋ยวเราจะพูดถึงนะครับ
สำหรับการที่หนังสือมัทธิวและอีกหลายๆ เล่มพูดถึงเรื่องการได้เข้าไปในอาณาจักร ซึ่งจะต้องรักษาพระบัญญัติเชื่อฟังเลิกทำบาป นี่คือความชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์นะครับ ที่พระเยซูสั่งให้เราแสวงหาในหนังสือมัทธิวบทที่ 6:33 นั่นเอง เป็นความชอบธรรมที่เหนือกว่าฟาริสีและธรรมอาจารย์ ซึ่งไม่มีใครทำได้หรือทำได้อย่างครบถ้วนเป็นอันขาด มนุษย์จึงเป็นคนชอบธรรมและดีคบต่อหน้ามนุษย์เองไม่ได้
เราจึงต้องพึ่งพระคริสต์ในเราและพระเจ้าก็ได้เตรียมพระบุตรเพื่อสิ่งนี้ พระคริสต์จึงเป็นผู้ชำระแยกเราเพื่อให้ได้ทำดี เลิกทำบาปได้ เรียกว่าอยู่ในการ sanctification ก็คือการแยกออก
- พระเจ้าแยกเราออกจากชีวิตเก่าอาดัม
- พระเจ้าแยกเราออกจากตัวบาป
- พระเจ้าแยกเราออกจากกฎแห่งความบาปและกฎแห่งความตาย
- พระเจ้าแยกออกจากสิ่งที่เราจะทำผิดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า แยกออกมา แยกออกมาเป็นของพระองค์ ไม่ให้ซาตานมีโอกาสได้แตะเรา ใช้เรา และเราไม่ได้เป็นทาสของมันอีกต่อไปแล้ว
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าที่ขั้นตอนต่อมาที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำ ในวันนี้เราพบว่า
1. ก็คือ ล้าง ล้างเรา washed
2. ก็คือ แยกออกมา แยกออกมาเลยไม่ให้ซาตานตัวบาปแตะต้อง
3. ก็คือ ตั้งเราไว้ให้ทำดีเท่านั้น เราเข้าใจความหมายคำนี้ไหมครับ ตั้งเราไว้ ตั้งเราไว้ ก็คือตั้งให้ทำแต่ความดี ไม่ให้ทำบาปอีกได้
ถ้าหากเราอยากมีชีวิตแบบนี้ ที่พระเจ้าแยกเราออกมาแล้ว ล้างเราแล้ว และตั้งเราไว้ให้ทำดีเท่านั้น ไม่ให้ทำบาปอีก ก็คือสนิทในพระเยซู สนิทในพระเยซู และสนิทในพระเยซู เราจะพบว่าเราจะเกิดผลของพระวิญญาณมากที่สุด เอเมน
คริสเตียนทุกวันนี้เขาไม่พบทางออกของการเลิกทำบาปได้ คริสเตียนทุกวันนี้วนอยู่ กับวนไปมากับเรื่องการทำดี ทำบาป ทำดี ทำบาป แต่ก็ใช้ชีวิตเก่านั่นแหละที่ทำ แต่ขอบพระคุณพระเจ้าเราหลุดจากสิ่งนี้ ก็คือการได้พบความจริงว่าพระคริสต์อยู่ในเรา พระคริสต์ทำแทนเรา พระคริสต์เป็นชีวิตของเรา เราไม่ได้ทำอะไร เราเป็นอวัยวะที่ยกให้พระเจ้าทำในแต่ละวัน ให้สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซู
หน้าที่ของเรา ไม่ใส่ใจไม่สนใจไม่เน้นที่การกระทำ ไม่เน้นที่การประกาศ ไม่เน้นที่การรับใช้ ไม่เน้นที่พยายามเลิกทำบาป แต่เน้นที่การสนิทในพระเยซู เพราะว่านี่คือเคล็ดลับของการดำเนินชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง
ตั้งแต่เราเชื่อนะครับผมรู้ว่าเราหลายคนน่าจะได้ยินคำนี้ ก็คือคริสเตียน ศาสนาคริสต์ ไม่ใช่ศาสนา แต่เป็นเรื่องของ relationship ภาษาอังกฤษ ภาษาไทยก็คือความผูกพัน ความสัมพันธ์ สำหรับคริสเตียนเนี่ยเราเกิดมา สำหรับคริสเตียนเราเข้ามาอยู่ในท่ามกลางผู้เชื่อทั้งหลาย มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องการนับถือศาสนา การรักษาพระบัญญัติ การพยายามทำดี ไม่เกี่ยวอะไรเลย มันเป็นเรื่องของความผูกพันความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า
เมื่อเรามาถึงความจริงนี้นะครับเราจะพบว่า ขอบพระคุณพระเยซู ที่พระเจ้าจัดเตรียมทุกอย่างโดยพระคริสต์เยซู ที่พระเจ้าทรงเตรียมพระเยซูให้เพื่อตายไถ่บาปแทนเราทั้งหลาย และเตรียมพระเยซูให้มาอยู่กับเราเพื่อหยุดเรา ไม่ให้ทำบาปอีกต่อไปได้
พระเยซูจึงเป็นคำตอบของเรา พระเยซูจึงเป็นความหวังของเรา เป็นความหวังแห่งสง่าราศี เป็นความหวังแห่งสันติสุข เป็นความหวังแห่งพลัง เป็นความหวังทุกสิ่ง ที่ทางตันไม่มีทางออก แต่พระองค์เปิดทางให้เราแล้ววันนี้ พระองค์เป็นความสว่างสำหรับพวกเราทั้งหลาย เอเมน
สรุปก็คือขอบพระคุณพระเยซู เรากลายเป็นคนชอบธรรมโดยทางความเชื่อ ไม่ใช่โดยการทำดี
และขอบพระคุณพระเยซู การทำดีถ้าไม่มีพระคริสต์เป็นคนทำในเราผ่านเรา เรียกว่าการทำดีที่ตายแล้ว การอธรรมทั้งหลาย การทำบาปทั้งหลาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่มีพระคริสต์ทำแทน เราจะทำดีแค่ไหนก็ตามพระเจ้ามองว่าเป็นการก่อขึ้นด้วยไม้ ฟาง และหญ้าแห้ง ใช่มีผลนะครับพระเจ้าตอบแทนในชีวิตนี้เท่านั้น แต่พระเจ้าไม่มีบำเหน็จให้เมื่อถึงเวลาที่พระเยซูเสด็จกลับมา
และอีกครั้งสรุปก็คือ หน้าที่ของเราเพื่อเข้าสู่การถูกล้าง แยกออก และตั้งไว้เพื่อสำแดงพระคริสต์ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ หน้าที่ของเราก็คือการสนิท สร้างความผูกพัน ฝึกเดินในฝ่ายวิญญาณ สะสมพระคำล้ำลึก ให้พระเจ้าเปิดตาให้เรามากยิ่งขึ้น
และส่วนหน้าที่ของพระเจ้าคืออะไร หน้าที่ของพระเจ้าหน้าที่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็คือพระองค์แยกเราออกมา ก็คือ sanctified แยกเราออกมาโดยสิ้นเชิง ไม่ให้ตัวบาปแตะเราได้ ไม่ให้ซาตานแตะเราได้ ไม่ให้กฎแห่งความบาปและความตายแตะเราอีกต่อไปได้ เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็หลุดพ้นจากตัวบาป (โรม 6:7) เอเมน
เพราะฉะนั้นขอบพระคุณพระเยซู ก่อนที่จะเข้ามาฝึกเดินในฝ่ายวิญญาณ เราไปตายก่อน พวกเราตายหรือยัง ถ้ายังไม่ตายเราไปตายด้วยกันเอเมน และขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์นำเราเข้าไปสู่ความตายที่กางเขนเรียบร้อยแล้ว 2,000 ปีก่อน ไม่ต้องไปตายนะครับ แต่เชื่อว่าเราตายแล้ว
และหลังจากนั้นทุกวันก็มองว่าเราเป็นคนใหม่ เดินด้วยตัวใหม่ และสนิทบอกรักพูดคุยกับพระเยซู เมื่อเราทำบาปวันนึง 10 ครั้ง 100 ครั้ง 1,000 ครั้ง 490 ครั้ง 70×7 ครั้ง เท่าไหร่ก็ตาม ขอบพระคุณพระเจ้าที่พระเยซูเป็นทนายความและมีพระโลหิตที่พระบิดาตั้งไว้ เพื่อเราจะเข้ามาทางพระโลหิต และเพื่อพระองค์จะยกโทษบาปเราทั้งหลายทันทีที่เราเอ่ยปากสารภาพต่อพระเจ้า
แล้วในที่สุดเราจะพบว่า กระบวนการการชำระ การแยกออกของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็จะมาถึงเรา
1. การล้าง washed
2. ก็คือการแยกออก sanctified
3. ก็คือพระองค์ตั้งไว้ ตั้งไว้เนี่ยก็คือ เมื่อไม่นานมานี้มีบางคนไปซื้อกล้องวงจรปิดเพราะว่าเขากลัวรถหาย และกล้องวงจรปิดก็คือ มันทำหน้าที่เพื่อสอดส่องว่าขโมยจะมาไหม ว่าจะมีอะไรมีใครมาใกล้รถเขาไหม แล้วหน้าที่ของกล้องคือทำอะไรครับ? เขาตั้งกล้องไว้เพื่อทำอะไร? เพื่อจับขโมยนะครับ มันมีหน้าที่เดียวนะครับ มันจะไปล้างรถได้ไหม มันไปทำงานอย่างอื่นได้ไหม ปัดกวาดบ้าน ถูบ้าน ทำความสะอาดได้ไหม ไม่ได้นะครับ หน้าที่ของมันที่ถูกตั้งไว้ กล้องวงจรถูกตั้งไว้เพื่อจับขโมยเท่านั้น
ขอบพระคุณพระเยซูในข้อนี้บทนี้ มีคำว่าพระเจ้าได้ทรงตั้งเราทั้งหลาย ไม่ใช่เป็นกล้องวงจรปิดจับขโมยนะครับ แต่เพื่อสำแดงชีวิตเป็นหน้าที่ของพระเจ้าไม่ใช่หน้าที่ของเรา เราเองสนิทในพระองค์มากเท่าไหร่ พระเจ้าก็จะตั้งเราไว้เพื่อการสำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซู เพื่อสะสมบำเหน็จ เพื่อเข้าสู่อาณาจักร เพื่อบำเหน็จของเรามงกุฎของเราจะไม่รู้ร่วงโรย เราจะมีส่วนครอบครองกับพระองค์ในยุคพันปีและชั่วนิรันดร์ เอเมน
วันนี้เราถูกตั้งไว้ให้ดำเนินชีวิตในพระคริสต์หรือยัง หรือว่ายังฝึกอยู่ ถ้ายังฝึกอยู่เราเดินไปด้วยกัน เราฝึกไปด้วยกัน เราล้างเท้าไปด้วยกัน
ในกรณีที่มีพี่น้องบางคนอาจจะเชื่อไหม บางคนอาจจะเชื่อนานแล้ว และบางคนอาจจะพบมานาฯ บางคนอาจจะพบนานแล้ว แต่ยังมีชีวิตที่เป็นลักษณะของการล่วงประเวณีในฝ่ายร่างกาย หรือล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณ คนที่อ่อนแอที่เป็นเหมือนกะเทย หรือเป็นคนในลักษณะที่เป็นรักร่วมเพศ เป็นขโมย เป็นคนโลภ เป็นคนขี้เมา เป็นคนปากร้าย เป็นคนที่ชอบฉ้อโกง ถ้าหากยังมีพี่น้องเรานี้ในคริสตจักรเราจะทำยังไง?
1. เราอธิษฐานเผื่อ สิ่งแรกเลยเราอธิษฐานเผื่อเขา
2. เราหนุนใจเสริมสร้าง แบ่งปัน เผยพระวจนะ เหมือนที่เราทำกับทุกคน อย่าไปมอง อย่าไปจ้อง อย่าไปจับผิด อย่าไปตัดสิน อย่าไปพูดประชดประชันเขา อย่าไปใส่ร้ายเขา อย่าไปพูดในถ้อยคำที่รุนแรง แต่เราใช้ถ้อยคำที่ละเอียดอ่อน ใช้ถ้อยคำที่อ่อนสุภาพ และเต็มไปด้วยความรักความเมตตา หน้าที่ของผู้ที่จะเปลี่ยนเขาก็คือพระเจ้า ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา หน้าที่ของเราก็คือรักเขาอธิษฐานเผื่อเขา เห็นใจกันและกัน เอเมน
มีบางคนบางคริสตจักรไม่ต้อนรับพี่น้องเหล่านี้ที่ผมพูดถึงนะครับ ตั้งแต่ล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณ ล่วงประเวณีฝ่ายร่างกาย อ่อนแอหรือเป็นคนที่แบบกระเทย หรือเป็นขโมย หรือเป็นคนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง สำหรับพวกเรานะครับเรายินดีต้อนรับ แต่การที่จะให้มีส่วนในการรับใช้ มีส่วนในการแบ่งปัน เราขอเขาไว้ก่อน ขอเขาให้เรียนรู้ ขอการชำระจากพระเจ้าไปก่อน ซึ่งเราพูดด้วยความรักให้เขาเข้าใจ เข้าใจกันและกัน ไม่ได้มีปัญหาอะไรที่จะเป็นสิ่งที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับพระกายของพระเยซู เราต้องการเขาเราไม่ต้องการให้เขาหนีไปไหน เพราะว่าพี่น้องเหล่านี้ถ้าออกจากคริสตจักรก็คือโดนซาตานเล่นงานหนักมาก ให้เขาอยู่ในคริสตจักรดีกว่าใช่ไหม
เพราะฉะนั้น อีกครั้งหน้าที่ของเรา ก็คือรักเขา เมตตาเขา ให้ความหวังให้โอกาสเขา และอธิษฐานเผื่อ แบ่งปันพระคำพระเจ้าเพื่อหล่อเลี้ยงเพื่อเสริมสร้างเพื่อก่อเขาขึ้นสู่ชีวิตใหม่ในพระคริสต์ คนที่เปลี่ยนเขาคนที่ทำให้เขากลับมาเป็นบุตรพระเจ้าที่เลิกทำบาปได้โดยสิ้นเชิง เข้าสู่การชำระ 3 สิ่ง 1. ล้าง 2. แยกออก 3. ตั้งไว้เพื่อทำการดีในพระคริสต์เท่านั้น ก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนทำ เอเมน
ถาม.
อาจารย์คะขอขยายความเรื่อง การล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณได้ไหมค่ะ อย่างสมมุติว่าเราคิดเรื่องทางโลก เป็นการทำผิดล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณหรือเปล่าค่ะ
ตอบ.
พอดีผมขอฉวยโอกาสนะครับล้างเท้าพี่น้องนิดนึง ที่บอกว่าการล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณก็คือ การนำเอาโลกหรือศาสนา ทำให้คริสเตียนกลายเป็นคริสเตียนศาสนา อันนี้ไม่ใช่นะครับ
การล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณ 1. ก็คือการไปกราบไหว้ด้วยความเต็มใจด้วยความพอใจ คือการไปกราบไหว้เลยนะครับพระอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า อันนี้เรียกว่าการล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณก็คือ เล่นชู้กับพระเจ้านั่นเอง ซึ่งความผิดนี้เป็นความผิดที่หนักกว่าการล่วงประเวณีฝ่ายร่างกาย
บางคนนะครับมีปัญหาเรื่องการเล่นชู้ มีปัญหาเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ก่อนแต่ง หรืออะไรก็แล้วแต่สำหรับที่ไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า อันนี้เป็นความผิดสำหรับฝ่ายร่างกาย ก็คือยังไม่หนักเท่าการล่วงประเวณีฝ่ายวิญญาณ ก็คือกราบไหว้พระอื่นด้วยและมีพระเจ้าด้วย อันนี้เป็นสิ่งที่พระเจ้าห้ามนะครับ
คริสเตียนเราไม่ควรทำเป็นอันขาด 1. การเข้าร่วมพิธีทางศาสนา 2. การพนมมือ การกราบไหว้พระอื่น การเคารพพระอื่นที่ไม่ใช่พระเจ้า
ถาม.
ขออนุญาตถามค่ะ ถ้าผู้ชายผู้หญิงยังไม่ได้เข้าพิธีแต่งงานกัน แล้วก็มาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อันนี้ก็เรียกว่าล่วงประเวณีเหมือนกัน แล้วจะแก้ไขได้ยังไงค่ะ เพราะว่าตัวดิฉันกับสามีอยู่กันมาก็เกือบ 8 ปีแล้วค่ะ แต่ว่าเราไม่ได้ทำพิธีแต่งงานอะไรเลยค่ะ ก็คือมาอยู่ด้วยกันอย่างเปิดเผยเป็นสามีภรรยาแล้วก็จดทะเบียนสมรสกันแบบนี้ค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
สำหรับมาตรฐานของพระเจ้า มาตรฐานของพระเจ้าก็คือ แต่งงานกัน เพื่อจะอยู่ด้วยกันและมีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา แต่ถ้าจะอยู่ด้วยกันแบบไม่มีความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยา ก็ถือว่าผิดนะครับ อันนี้ผมขอพูดถึงมาตรฐานของพระเจ้าก่อน ซึ่งอย่าลืมนะครับไม่ใช่แต่เฉพาะผู้ชายผู้หญิงที่รักกันแล้วก็มาอยู่ด้วยกันโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ทั้งนี้ทั้งนั้นเรารู้ว่าคริสเตียนก็ตามยังทำบาปอีกเยอะแยะมากมายหลายชนิดหลายบาปที่ทำกันอยู่ ใช่ไหมครับ
เพราะฉะนั้นวิธีแก้ อย่างที่ผมพูดนะครับก็คือ เราอธิษฐานเผื่อกันและกัน หน้าที่ของพระเจ้าคือพระองค์เป็นคนเปลี่ยนเรา พระวิญญาณบริสุทธิ์จะชำระเรา ล้างเรา และตั้งเราให้อยู่ในความชอบธรรมสำหรับพระเจ้า ตอนนี้นะครับก็คือเราอยู่ก็อยู่ต่อไป แต่ขอการชำระขอการช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
หน้าที่ของเราคืออะไร จำได้ไหม สนิทในพระเยซูใช่ไหม 2. ก็คือสนิท 3. ก็คือสนิท 4. ก็คือสนิท เมื่อเราสนิทมากเท่าไหร่ พระเจ้าจะเป็นคนที่เร้าใจเรา พระองค์จะรบกวนใจเราว่าให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง และต่อมาพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเปิดทาง และต่อมาอีกพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเป็นคนที่ทำให้เรามีกำลังมีพลังมีสติปัญญาในการหาทางแก้ไข มีทางออกสำหรับทุกสิ่ง เอเมน
ถ้าสามีเราเป็นคริสเตียน เรารู้สึกว่า เอ๊ะ นี่น่าจะเป็นการกระตุ้น การเร้าใจ การรบกวนที่ให้เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง เราก็ชวนเขานะครับว่าแต่งงานกันดีไหม ถ้าเขาไม่ตกลงเขาไม่เห็นด้วย เราก็อธิษฐานต่อไป ก็เอเมนต่อไป แต่อย่าลืมนะครับการตีสอนก็จะมี แต่เมื่อเราสำนึกผิดเรารู้ว่าผิด แต่เนื่องด้วยความจำเป็นที่เขาไม่ยอม แล้วเราเองก็อาจจะลำบากที่จะออกไปที่จะเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิต คือมันเป็นเรื่องของการเปลี่ยน ซึ่งอาจจะพบประสบความลำบากพอสมควร
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขอให้พระเจ้าขอให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นคนนำเราดีกว่า ถ้าพระเจ้านำเรา เราจะไปต่อหรือพอแค่นี้ ก็แล้วแต่พระวิญญาณบริสุทธิ์ แต่มาตรฐานของพระเจ้าก็คือผิดนะครับ แล้วการตีสอนก็มีครับ
...
ถาม.
แล้วในกรณีที่เขาก็เต็มใจอยู่กับเรา แต่ว่าเขาไม่ใช่ผู้เชื่อล่ะค่ะ ก็เคยคุยกันอยู่เหมือนกันค่ะเรื่องนี้แต่ว่ามันก็มีค่าใช้จ่ายอะไรอะไรหลายๆ อย่างมาด้วย แล้วก็ส่วนใหญ่ก็เห็นคนที่แต่งงานกันในโบสถ์ก็คือต่างคนต่างเป็นคริสเตียนนะคะ แต่ว่าสำหรับคนที่แต่งกับคนที่ไม่ใช่คริสเตียน เราก็ยังไม่เคยมีประสบการณ์นะคะว่าจะต้องทำอะไรยังไงค่ะ เพราะว่าจะให้เขามารับเชื่อ เขาก็ไม่รับนะคะ
ตอบ.
ถ้าสมมุติว่าเราชวนเคยชวนเขาไหมว่า มาให้พี่น้องที่คริสตจักรอธิษฐานเผื่อ ไม่ต้องมีพิธี ไม่ต้องทำอะไรมากมาย เพียงแต่ว่ามาที่คริสตจักร แล้วให้คริสจักรอธิษฐานเผื่อแค่นั้นเอง จบ.
เราจำกันได้ไหมครับว่าการแต่งงานมี 4 แบบ แล้วมีแค่แบบเดียวเท่านั้นที่พระเจ้าพอพระทัยแล้วพระเจ้ารับรู้ ก็คือการนำพี่น้องหญิงชาย หรือนำคนที่ไม่เชื่อที่เป็นสามีภรรยาเรามาที่คริสตจักร แล้วบอกว่านี่นะ คริสตจักรจะอธิษฐานเผื่อ เพื่อพระเจ้าจะรับรู้เพื่อพระเจ้าจะยอมรับ และเพื่อพระเจ้าจะอวยพรเราในฐานะของสามีภรรยา คนคนเดียวกันตั้งแต่นี้ต่อไป เป็นการแต่งงานที่ถูกแบบถูกวิธีครับผม
ถาม.
เอเมนค่ะอันนี้ยังไม่เคยชวนนะคะ ก็วันนี้เพิ่งได้รู้ความจริง ก็เดี๋ยวจะไปอธิษฐานก่อนนะคะ แล้วก็ฝากพี่น้องอธิษฐานเผื่อด้วยนะคะเรื่องนี้ ก็อยากทำให้ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเจ้านะคะ เอเมน
ตอบ.
ใช่ครับ สิ่งที่เราหลีกเลี่ยงเรื่องการตีสอน ก็คือทำในสิ่งที่เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดา แต่หน้าที่ของเราคือสนิท แล้วบอกพระองค์ ว่าขอชำระจุดนี้ ขอพระองค์ล้างตรงนี้ ล้างตรงนี้ ล้างตรงนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมที่จะล้างเรา จริงๆ แล้วเนี่ยก็คือพระองค์ล้างเราแล้ว washed เป็น past tense เป็นอดีตกาล และ sanctified แยกออกมาก็คือเป็นอดีตกาล และตั้งเราไว้ เพื่อการสำแดงเพื่อการดีทั้งหลาย สำแดงชีวิตและนิสัยของพระเยซู ก็คือสำเร็จแล้ว เพียงแต่เรารับการเปิดตา เพียงแต่เรายอมรับความจริง แล้วบอกพระองค์ว่า..
“ขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์จัดการแล้วเรื่องการแต่งงาน ขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์จัดการแล้วเรื่องความบาปที่ข้าพระองค์กำลังทำอยู่ในแต่ละวันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์จัดการกับตัวบาปแล้วเมื่อข้าพระองค์ตายกับพระเยซูเมื่อ 2,000 ปีก่อน ไม่ได้เป็นทาสของมันอีกแล้ว ขอบพระคุณพระเยซูสำหรับความจริงนี้ที่พระองค์เปิดเผยและข้าพระองค์ได้รู้ความจริงนี้ แล้วเดินในแต่ละวันด้วยความจริงนี้”
เท่านั้นแหละครับ ประสบการณ์ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่นำมาสู่เรา เราก็จะเห็นอย่างมากมาย เราจำกันได้ไหมว่าชีวิตคริสเตียนเป็นชีวิตที่สำเร็จแล้ว "it is done life" done life ก็คือ done ก็คือสำเร็จ จบ เรียบร้อย ผ่านไปแล้วจบแล้ว ไม่ใช่ doing life นะครับ doing ก็คือกระทำอยู่ กำลังทำอยู่ ไม่นะครับ ขอบพระคุณพระเยซูที่คริสเตียน ดำเนินชีวิตอยู่ใน done Life ซึ่งพระเยซูเป็นคน done ให้เรา พระเยซูเป็นคนกระทำสำเร็จแล้วให้เรา
ไม้กางเขนนะครับพระเยซูอยู่ตรงนั้น และเมื่อพระเยซูก่อนจะสิ้นใจ พระเยซูตรัสว่า "Is done" and "is finished" มันจบแล้วสำเร็จแล้ว เรามีหน้าที่เข้ามาใช้ รับพระพร อยู่ในสันติสุข อยู่ในชีวิตที่ใหม่ อยู่ในความสำเร็จของพระเจ้า คือเอาความสำเร็จของพระเยซูมาเป็นความสำเร็จของเรา
มันง่ายจะตายใช่ไหมการใช้ชีวิตคริสเตียน ขอบพระคุณพระเยซูไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องกระวนกระวาย ไม่ต้องกลุ้มใจว่า เอ๊ะจะทำยังไงดี เอ๊ะจะต้องไปไหนดี เอ๊ะจะต้องประกาศหรือไม่ เอ๊ะจะต้องแก้ไขยังไงตอนนี้ทำบาปอยู่ เลิกทำบาปไม่ได้ เอ๊ะจะทำยังไง ไม่ต้องเอ๊ะแล้วนะครับ แล้วก็ไม่ต้องถามอีกนะครับ หน้าที่ของคุณคือสนิทในพระเยซู หน้าที่ของคุณคือขอบพระคุณที่พระองค์ทำสำเร็จแล้ว is done มันจบแล้วมันสำเร็จแล้ว เอเมน
ถาม.
อยากให้อาจารย์อธิบายเรื่อง การไม่เทียมแอกกับคนไม่เชื่อค่ะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการทำธุรกิจนะครับ เรื่องการทำงาน มีส่วนกับคนที่ไม่เชื่อ เป็นพาร์ทเนอร์กัน
พวกเราต้องคุยกับเขา มีโอกาสได้คุยต้องคุย หรือไม่คุยก็ต้องให้เขาเข้าใจให้เขารู้ว่าเราเป็นคริสเตียนเราเป็นผู้ที่เชื่อในพระเยซู
1. เราจะไปกราบไหว้กับพวกคุณไม่ได้
2. เราจะนับถือศาสนาของคุณไม่ได้
3. เราจะทำร่วมพิธีต่างๆ ที่คุณทำในบริษัทไม่ได้
คือถ้าหากเราตกลงกันได้ในจุดนี้ เราก็เทียมแอกกัน แต่ปัญหาก็คือมันเป็นไปไม่ได้สำหรับคนที่นับถือศาสนาอื่นเขาต้องทำพิธีศาสนาของเขา เขาต้องอาศัยโชคลางความเชื่อจากเทวดาจากพระของเขา เพราะฉะนั้นการกราบไหว้การนำสิ่งของมาไหว้มาทำ ทำให้เป็นพิธีต่างๆ เพื่อขอพรจากพระของเขา เขาต้องทำนะครับ ถ้าเขาไม่ทำเขากลัวว่าจะเจ๊งจะล่มจมจะทำธุรกิจไม่ได้ไม่ขึ้น
เพราะฉะนั้นถ้าหากเราเห็นว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ เราไม่เทียมแอกเราไม่ร่วมดีกว่า และเราขอพระวิญญาณบริสุทธิ์นำเรา “ขอพระองค์อย่านำข้าพระองค์เข้าไปสู่การทดลอง ขอพระองค์อย่านำข้าพระองค์เข้าไปสู่สิ่งนี้ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระองค์” พระเจ้าเตือนเราใช่ไหมอย่าเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ เมื่อพระเจ้าเตือนเรา พระเจ้าห้ามเรา แน่นอนครับพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะช่วยเราไม่ให้เข้าไปมีส่วนในสิ่งนี้
สำหรับพระคำพระเจ้าในพระคัมภีร์ พระเจ้าเตือนเราอันไหน สิ่งไหน พระเจ้าก็จะช่วยเราไม่ให้เราเข้าไปสู่การทดลองในสิ่งนั้น เอเมน
เป็นเรื่องใหญ่นะครับสำหรับการเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ การทำธุรกิจร่วมกัน การทำงานร่วมกัน อยู่ในที่ทำงานที่มีคนที่ไม่เชื่อเต็มไปหมด และโดยเฉพาะนายจ้างที่เป็นนายที่ไม่เชื่อ ซึ่งมันจะมีเรื่องของการนับถือศาสนาอื่นเข้ามายุ่งเกี่ยว และการกระทำอันไม่ชอบธรรม การกระทำที่เป็นความบาป กิเลสตัณหาโลภโกรธหลง ฉ้อโกง ปากร้าย ขี้เมา โลภ ขโมย อะไรเต็มไปหมดนะครับ คุณรับได้ไหม แน่นอนครับ ถ้าเราเป็นบุตรพระเจ้าที่แสวงหาความชอบธรรมของพระเยซู เราจะอยู่ไม่ได้ มันจะอบอ้าวไม่ได้อบอุ่นแล้ว
เมื่อเป็นแบบนี้ เราขอพระเจ้าขอพระบิดา “อย่านำข้าพระองค์เข้าสู่การทดลองเรื่องเกี่ยวกับการเทียมแอกกับคนที่ไม่เชื่อ”
แต่ขออธิบายก่อนนะครับ สำหรับพี่น้องที่ทำเป็นพาร์ทเนอร์กับคนที่ไม่เชื่อตอนนี้ หรือทำงานอยู่ในบริษัทที่มีเจ้าของเป็น CEO เป็นคนที่ไม่เชื่อ หรือมีคนที่ไม่เชื่อเต็มไปหมดนะครับเราจะทำยังไง ตอนนี้เราก็อยู่ต่อ ตอนนี้เราก็ทำต่อ แต่ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้มีทางออกสำหรับเรา และสำแดงชีวิตพระคริสต์ท่ามกลางพวกเขา
ถ้าเขาจะเอาเปรียบเรานะครับ ถ้ายอมเสียเปรียบได้ พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจให้เรายอมเสียเปรียบ เรายอม พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจให้เราถอย เราถอย พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจให้เราไม่ถกเถียงไม่ตอบโต้ไม่ต่อสู้ ไม่ไปปากร้ายกับเขา ไม่ได้ไปร่วมวงเหล้ากับเขา ไม่ได้ไปร่วมโลภกับเขา เขาชวนให้โลภ ให้ทำอะไรที่มันแบบคือฉ้อโกง เราไม่เอานะครับเราไม่รับ เราบอกเราพูดด้วยความรักสุภาพอ่อนโยนไม่ไปตัดสินเขา เราแค่ถอยออกมาแค่นั้นเอง เอเมน
การฉ้อโกงครั้งหนึ่ง เท่ากับการถูกพระเจ้าตีสอนมากมาย อันนี้เป็นความจริงนะครับขอให้เราหลีกเลี่ยง
แล้วการปากร้าย สำหรับบุตรพระเจ้าถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้พูดในคำพูดที่อ่อนโยนอ่อนสุภาพด้วยความรัก เมื่อพูดเนี่ย คนที่ได้ยินได้ฟังเขาได้กำลังใจ เขาได้สันติสุข เขาได้รับพระวิญญาณ เขาได้รับแต่สิ่งดีๆ ไม่ใช่การตัดสิน ไม่ใช่การบ่นว่า ไม่ใช่การซุบซิบนินทา ไม่ใช่การต่อรอง หรือพูดคำพูดที่มันโหดร้าย พูดคำพูดที่มันทำให้เขาเจ็บหัวใจเจ็บใจ อันนี้เราหลีกเลี่ยงดีกว่า เอเมน
เมื่อพระเจ้าเร้าใจ เราเมื่อพระเจ้าเตือนเราผ่านพี่น้องผู้เผยพระวจนะ เรายอมรับความจริง เราไม่ต่อสู้ เราไม่ถกเถียง ยอมรับเราไม่เก่ง สำหรับคริสเตียนบุตรพระเจ้า ก็คือต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ เมื่อพี่น้องตำหนิเรานะครับบอกว่าเราเป็นคนที่ปากร้าย เราเป็นคนที่พูดไม่เพราะ เราชอบไปตัดสินผู้อื่น
เรากลับมานั่งถามพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ ว่าข้าพระองค์เป็นแบบนั้นจริงหรอ ที่ผ่านมาข้าพระองค์ก็ไม่ได้คิด ก็พูดแบบนี้ มันก็โอเคนี่น่า แต่เรามานึกดูอีกทีนะครับ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดเผย และเร้าใจเรา และเป็นคำตอบให้เรา พระองค์จะบอกว่า “ใช่แล้วลูก ลูกเป็นแบบนั้นจริงๆ” คือมันดูง่ายๆ ใช่ไหมการปากร้ายกับการไม่ปากร้าย การพูดที่ทำให้คนอื่นอบอ้าว ทำลายน้ำใจของเขา ทำให้เขาเสียใจ โดยที่เราอาจจะไม่ตั้งใจเราอาจจะใช้ข้ออ้างบอกว่าเปาโลก็ยังเป็น เปาโลก็พูดแรง ไม่นะครับ
เปาโลเนี่ยเป็นอัครสาวกเป็นอัครทูตของพระเจ้า เปาโลสร้างพี่น้องเหล่านั้น เปาโลประกาศกับพี่น้องเหล่านั้น เปาโลเป็นเหมือนพ่อของพวกเขา เปาโลจึงมีสิทธิ์ได้รับสิทธิจากพระเจ้าให้พูดแรง สาเหตุที่พระเจ้าต้องให้เปาโลพูดแรงกับพี่น้องบางคริสตจักร เพราะว่าเขาพูดค่อยไม่ได้ เราเข้าใจตรงนี้ไหม คือมีลูกบางคนมันหัวดื้อ พูดค่อยๆ เนี่ยไม่ได้นะ ต้องใช้คำพูดที่รุนแรง เพราะฉะนั้นเปาโลพูดกับบางคนบางคริสตจักรรุนแรงเพราะว่าความผิดบาปของเขาเนี่ยเขาเฉยเมย เขานิ่งเฉย เขาไม่สนใจ เขามองข้ามความชอบธรรมของพระเจ้า
แล้วเราเองสำหรับพวกเรา พระเจ้าไม่ได้ให้สิทธิเราในการที่จะพูดแรง หรือพูดในลักษณะของคนปากร้าย เราจึงต้องเป็นคนที่ปากค่อยๆ เบาๆ อ่อนโยนสุภาพ เอเมนไหมครับ
ถ้าอยู่ดีๆ วันหนึ่ง มีพี่น้องพูดกันเยอะมาก ใครก็พูดถึงพี่... น้อง... หรืออีกหลายคน บอกว่าคำพูดคนนี้เปลี่ยนไปนะ คำพูดคนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนนะ คำพูดของคนนี้ เอ่อ ตอนนี้อยากอยู่กับเขาอยากอยู่ในกลุ่มกับเขา อยากฟังเขามาก เพราะว่ามันมีบางสิ่งที่เปลี่ยนไป ได้ยินเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ผ่านเขา การพูดไม่เหมือนเมื่อก่อน
นี่คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ล้างแล้ว แยกออกมาแล้ว และตั้งไว้แล้วเพื่อเป็นกล้องวงจรปิดจับขโมย
ถาม.
แต่งงานค่ะ ก็คือคริสตจักรแต่งให้ ผู้นำแต่งให้ แล้วทีนี้ตอนนี้สามีอยู่โบสถ์ไฟ อยู่ใกล้บ้าน หนูอยากได้รับคำแนะนำนะคะว่าหนูจะต้องทำยังไง เพราะเมื่อก่อนอธิษฐานร่วมกันใช่ไหมคะตามศาสนา ตามที่เคยทำกันนะคะ แล้วตอนนี้ไม่ได้อธิษฐานแล้ว ไม่ได้อธิษฐานร่วมกันแล้ว แต่หนูก็พูดคุยกับพระเจ้าในทุกเวลา แต่ก็ส่งคลิปของคุณ...ไปให้สามีฟัง แล้วเขาก็รับเขาก็เข้าใจ แต่ในกรณีที่เขาจะต้องไปโบสถ์ทุกอาทิตย์ หนูไม่ได้ห้ามเขานะคะ แต่ก็ฝากไว้กับพระเยซูฝากทุกสิ่งทุกอย่างไว้ ขอพระเจ้าทรงให้ความเข้าใจแก่เขา แล้วทีนี้หนูต้องทำยังไงคะ หนูจะต้องบอกกับเขายังไง
แต่หนูส่งคลิปของคุณ...ไปหนูฟังแล้วหนูรู้สึกหนูเข้าใจ หนูก็จะส่งให้สามีฟังทุกครั้งนะคะ แล้วหนูก็จะถามว่าเป็นยังไงบ้างป๊า ฟังแล้วเป็นยังไงบ้าง เข้าใจไหม เขาก็บอกว่าเข้าใจ ก็ขอบคุณพระเจ้าที่ตั้งแต่หนูเข้ามาอยู่ในกลุ่มของมานา แล้วเข้าใจในการเดินในฝ่ายวิญญาณมากยิ่งขึ้น หนูเห็นการเปลี่ยนแปลง รักสามีมากขึ้น และเห็นความรักของพระเจ้าอยู่ในชีวิตของเรา ไม่เหมือนเมื่อก่อนค่ะ เราไปโบสถ์เรากลับมาก็ทะเลาะกัน
แต่มาตอนนี้เหมือนพระเจ้าให้หนูเข้าใจในการเดินกับพระวิญญาณจริงๆ ค่ะ หนูก็ขอบคุณพระเจ้าที่ให้หนูรู้สึกว่าหนูรักสามีมากขึ้น แล้วหนูก็อยากให้สามีหนูได้รับเหมือนที่หนูได้รับนะคะ หนูต้องบอกเขายังไงคะ อธิบายกับเขายังไงหรือว่าหนูจะส่งคลิปที่หนูเข้าใจแล้ว แล้วก็จะส่งให้เขานะคะ อะไรที่หนูเข้าใจหนูก็จะส่งให้เขา เพราะว่าเขาอ่านหนังสือไม่เป็นนะคะ ก็ขอคำแนะนำในเรื่องนี้ด้วยคะ
ตอบ.
ถ้าอ่านหนังสือไม่เป็นนะครับก็ฟังคลิปก็เอเมนนะครับ
แล้วผมอยากจะบอกพวกเรานะครับก็คือ การเปิดตาของพระเจ้า พระเจ้าไม่ได้เปิดตาทุกคนเท่ากัน เรื่องเดียวกัน เพราะฉะนั้นเรื่องอะไรก็ได้ส่งไปให้เขา เราอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่เราส่งไป ก็ส่งไปนะครับ คือพระเจ้าเปิดตาผมอาจจะไม่ได้เปิดตาคุณ พระเจ้าเปิดตาคุณสิ่งนี้อาจจะไม่ได้เปิดตาผมสิ่งนี้ พระเจ้าเลือกเปิดตาคนแต่ละเรื่องแต่ละเวลาที่ไม่เหมือนกัน เอเมนนะครับอันนี้คือสิ่งแรก
เราอย่าเข้าใจนะครับว่าพระเจ้าเปิดให้เราตอนนี้ โอ้ ได้เข้าใจซาบซึ้งมากดีใจมาก น่าจะเอาไปให้สามี แล้วสามีน่าจะเข้าใจด้วย อันนั้นไม่ครับผม คือพระวิญญาณบริสุทธิ์เลือกที่จะเปิดตาใคร เรื่องไหน ตอนไหน เวลาไหน เป็นเวลาของพระองค์เป็นการทำงานของพระองค์ครับ
ส่วนเรื่องที่สอง ก็คือเรื่องการแต่งงาน ชาวโลกแต่งงานนะครับพระเจ้าไม่ได้เห็นด้วย ไม่ยอมรับและไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้าที่ชาวโลกแต่งงาน มันคือการจับคู่ของซาตาน อันนี้คือความจริงนะครับ มันจะจับคู่ให้คนที่ไม่เหมาะกันมาแต่งงานกันเพื่อทะเลาะกัน เพื่อให้บ้านแตกสาแหรกขาด เพื่อให้เกิดความวุ่นวาย เพื่อให้เกิดไม่มีความสุขในครอบครัว เป็นการจัดคู่ของซาตาน เพราะว่าใครเป็นพ่อของโลกของมนุษย์ (ซาตาน)
เราเคยได้ยินกันไหมว่าพ่อแม่ส่วนมาก จะหาคู่หรือไปหาคู่ไปติดต่อผู้หญิงผู้ชายลูกหญิงลูกชายมาเป็นเขยเป็นสะใภ้ ไปติดต่อ เห็นคนนี้อยากได้เป็นสะใภ้ คนนี้อยากได้เป็นลูกเขย แล้วก็คุยกันพ่อแม่จะคุยกันกับพ่อแม่อีกฝ่าย นี่คือภาพที่เราควรจะมองเห็น สำหรับซาตานที่มันเป็นเจ้าของโลกนี้และซาตานเป็นพ่อของมนุษย์ทั้งหลาย พ่อของพวกเราเมื่อก่อนก็คือเป็นมาร แล้วมันจะเป็นคนจัดการชีวิตของมนุษย์ว่าจะอยู่ยังไงจะกินยังไงจะไปไหน จะแต่งงานกันเมื่อไหร่ จะแต่งกับใคร มันจะเตรียมไว้ทั้งหมด แล้วมันจะจับคู่อย่างที่ผมพูดนะครับก็คือ คู่ที่ไม่เหมาะกันไม่สมกันมาอยู่ด้วยกันเพื่อจะฆ่ากันทะเลาะกัน
ทีนี้เมื่อเป็นคริสเตียน ต้องหย่าไหม ไม่หย่าครับ เปาโลพูดโดยพระวิญญาณ ก็ขอให้อยู่ต่อ เป็นสามีภรรยาต่อ แต่พระเจ้ามีทางออกก็คือ ดำเนินชีวิตในพระคริสต์ เมื่อมาถึงจุดที่สามีภรรยาแต่งงานกันโดยที่ไม่ใช่น้ำพระทัยของพระเจ้า หรือเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าก็ตาม
สิ่งที่พระเจ้าต้องการทำกับผู้เชื่อ ถ้าสมมุติว่าเราเป็นคริสเตียนฝ่ายวิญญาณถูกเปิดตาแล้ว เหมือนกรณีของน้องสาวนะครับ แล้วสามีเนี่ยไปอยู่กลุ่มไฟ พระเจ้านะครับจะไม่ให้เราไปเอาชนะเขา พระเจ้านะครับจะไม่ให้เราทวงความยุติธรรมจากเขา หน้าที่ของคริสเตียนฝ่ายวิญญาณหน้าที่ของบุตรพระเจ้าทั้งหลาย ชีวิตของพวกเราก็คือ ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ ขอให้จำตรงนี้นะ ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ มันคือการใช้ชีวิตเพื่อที่จะเอาชนะคริสเตียนศาสนาได้ และเอาชนะคนที่เป็นฝ่ายโลกชาวโลกได้ คนที่ไม่เชื่อ
ถ้าคุณลองดู ว่าเขาอยากเอาเปรียบคุณ คุณยอมเสียเปรียบเขา คุณได้ชนะไหม คุณได้ชนะใจเขา คุณได้ชนะใจพระเจ้าด้วย แล้วเขาต้องการที่จะเป็นคนที่สูง เราจะสูงแข่งกับเขา สุดท้ายก็แตกนะครับ ก็คือทะเลาะกันตีกัน แต่ถ้าเราเป็นคนที่ยอมต่ำ เราชนะไหม เขาจะใจอ่อนนะครับ แล้วเราจะกลายเป็นผู้ชนะ แล้วเราจะเป็นผู้ชนะต่อพระเจ้าด้วย
ถ้าเขาต้องการเอาเปรียบเรา แล้วเราจะเอาเปรียบเขาคืน ทวงความยุติธรรม ใครชนะครับ เขาชนะ แต่ถ้าหากเรายอมเสียเปรียบ เราจะเป็นผู้ชนะ ชนะเขาด้วยและชนะใจพระเจ้าด้วย
เราก็รู้ว่าคริสเตียนฝ่ายวิญญาณอยู่เพื่อ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ที่มันไม่เหมือนชาวโลกและไม่เหมือนคริสเตียนศาสนาเขาทำกันทุกวันนี้ เมื่อเรามีชีวิตแบบนี้ เราต่ำตอนนี้ ในอาณาจักรเราจะสูงกว่าเขา เรายอมเสียเปรียบเขาตอนนี้ แต่ในอาณาจักรเราจะได้เปรียบ มงกุฎของเรามันจะไม่รู้ร่วงโรย และมงกุฎของเราจะเป็นสิ่งที่ยืนยันตำแหน่งอำนาจสิทธิที่เราจะครอบครองเขาทั้งหลายที่เคยเอาเปรียบเรา
เราไม่สู้นะครับ เราถ่อมใจ เราถ่อมจิตใจ เราถอย เราไม่โต้เถียง เราไม่ทะเลาะ เราไม่เอาเรื่องเขา เราถ่อม ขอบพระคุณพระเยซูคนนั้นจะเป็นคนที่นั่งใกล้พระเยซูมากที่สุด
อยากแลกไหมครับ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ตอนนี้ ซึ่งโลกนี้เป็นโลกที่ชั่วคราว และไม่นานเราก็จะจากไป ถ้าหากเราเลือก 3 สิ่งนี้ เพื่อแลกกับการเอาเปรียบ การเป็นคนสูงใหญ่ อวดตัว เป็นผู้ยิ่งใหญ่ และได้เปรียบผู้อื่น แต่สุดท้ายไปจบชีวิตที่เกเฮนา หรือไปจบชีวิตที่บึงไฟ มันจะคุ้มเหรอ ไม่คุ้มเลยนะครับ ขอบคุณพระเยซูตอนนี้เรามีเวลาเหลือแค่ไม่กี่ปีใช่ไหม แล้วเราใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ก็คือรับการล้างจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ แยกออกจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ และตั้งไว้เพื่อให้ต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบ ใช้ชีวิตอยู่โดยความรัก สุดท้ายมงกุฎที่ไม่รู้ร่วงโรยก็จะเป็นของเรา
สำหรับพี่น้องที่ยังมาไม่ถึงจุดนี้ เราขอการชำระจากพระองค์นะครับ และเราสนิทในพระเยซูให้มากกว่าเดิมในแต่ละวัน สุดท้ายประสบการณ์ชีวิตที่ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ประสบการณ์ชีวิตที่เต็มด้วยสันติสุขทุกวันเวลา ชีวิตในพระคริสต์นิสัยของพระเยซูจะสำแดงออกมา แล้วเราจะชนะคนทั้งหลายที่อยู่รอบข้างเรา สามีภรรยาที่เคยเกลียดเรา สุดท้ายก็จะรักเรา พี่น้องที่เคยเกลียดเรา ก็จะรักเรา แล้วเราจะเป็นบุตรที่รักของพระบิดา เอเมน
อย่าลืมนะครับสิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับพระเจ้าก็ไม่ใช่เรื่องยาก
ถาม.
พี่น้องฝากคำถามมาค่ะตอนนี้ทะเลาะกับสามีรุนแรงมาก แล้วก็สามีไล่ออกจากบ้าน ไม่ให้อยู่ด้วยแล้ว แล้วตอนนี้เขาก็กำลังเก็บเสื้อผ้ากำลังจะออกจากบ้านสามีไป ก็ยังไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนนะคะ เพราะว่ามีเงินติดตัวไม่เยอะ เพราะว่าก็ทนมานานแล้ว แต่ว่าสามีก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ชอบกินเหล้า เมามาแล้วก็อาละวาด บางครั้งก็ทุบตี แล้วก็ไล่ บางทีก็โยนเสื้อผ้าออกนอกบ้าน อันนี้เขาไม่อยากให้เราอยู่เราจะต้องฝืนใจอยู่ไหมค่ะหรือว่าเราต้องเป็นฝ่ายถอยค่ะ
ตอบ.
เป็นพี่น้องที่รับมานาฯ นานหรือยังครับ
...
ถาม.
ก็ 3-4 เดือนค่ะ
ตอบ.
ถ้า 3- 4 เดือน สำหรับพวกเราอธิษฐานเผื่อเขานะครับ ขอชื่อเขาด้วย และ 2 ก็คือเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เราไม่รู้ที่มาที่ไปในครอบครัวของเขา และเราไม่รู้ว่าเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นนานหรือยัง ที่สามีตีต่อยเขาก็คือมันนานหรือยัง อันนี้ต้องคุยกันยาวพอสมควรนะครับ เพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลรายละเอียดเพื่อที่จะตอบได้นะครับ
...
ถาม.
ที่เขาส่งข้อความมา บอกว่าสามีไม่ค่อยเข้าบ้านเท่าไหร่ แล้วก็มาเหมือนกับมาเหมือนใส่ร้ายว่า ภรรยาไปมีคนอื่น นอกใจ เพราะว่าเขาทำงานแม่บ้านก็เลิกประมาณทุ่มนึงแล้ว แล้วก็ต้องวิ่งไปดูแลแม่กับน้องชาย สามีก็เลยคิดว่านอกใจค่ะ เขาก็เลยไม่พอใจ ก็เลยอาละวาดนะคะ
ตอบ.
อย่างที่ผมพูดนะครับเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เราไม่รู้ที่มาที่ไปนะครับ เราไม่รู้ว่าทำไมเขาจึงสงสัย และกล่าวหาว่าภรรยานอกใจ แล้วเราเองก็ยังไม่รู้ใช่ไหมว่ามันจริงหรือไม่ อันนี้เป็นเรื่องของระหว่างเขาสองคน ตอนแรกตอนนี้ปัจจุบันนี้เราอธิษฐานเผื่อเขา พี่น้องพวกเรานะครับ และ 2 ก็คือถามเรื่องที่มาที่ไปของเขา พอที่จะเข้าใจว่ามันเป็นแบบไหนมันเป็นยังไง อันนี้คือเราได้ยินเฉพาะจากเขาฝ่ายเดียวนะครับ
สรุปก็คือ เราต้องรู้มากกว่านี้จึงจะตอบได้ ว่าต้องทำยังไง แล้วถ้าหากเขาจะไปเนี่ยคือมีที่ไปไหม มีญาติไหมที่จะไปอยู่ชั่วคราว หรือยังไง แล้วเคยตบตีเคยหนีจากบ้านหลายครั้งไหม หรือว่าครั้งนี้เป็นครั้งแรก
...
ถาม.
ครั้งที่แล้วก็เป็นแบบนี้ค่ะ ก่อนที่ยังไม่ได้รับมานาค่ะ ก็มีปัญหากันแล้วก็สามีโยนเสื้อผ้าออก ก็กลับไปอยู่กับแม่กับน้องที่บ้านเช่า
ตอบ.
สุดท้ายใครไปเรียกมา เขามาเองหรือว่าสามีเรียกกลับมา
...
ถาม.
สามีมาง้อค่ะ เพราะเขาอธิษฐานกับพระเจ้า
ตอบ.
แสดงว่ามันเคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนนะครับ แล้วก็การขับไล่ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งที่ 2 หรือที่ 3 แต่ยังไงก็ตามนะครับ ก็คือเขาก็ยังง้อกันอยู่ยังรักกันอยู่
ถามว่าจะทำยังไง อธิษฐานครับ อธิษฐานก่อน แล้วขอพระเจ้าเปิดทางว่าจะแก้ไขยังไงจะช่วยยังไง อีกอย่างก็คือเขารับมานาฯ มาไม่นาน ความอดทนก็ไม่มีหรอก ก็เป็นคริสเตียนศาสนาทั่วไปนั่นแหละ ยังใช้ชีวิตที่อาศัยอารมณ์ความรู้สึกอยู่ เราจะให้คำตอบที่เป็นลักษณะของคริสเตียนฝ่ายวิญญาณยังไม่ได้นะครับ ก็คือขอพระเจ้าช่วยเขา ขอพระเจ้าช่วยเขา
และเราจะคุยกันหลังไมค์ต่อก็ได้นะครับเพื่อจะได้รับรู้ว่ามันมีเหตุการณ์ยังไงเกิดขึ้นยังไง มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ นอกใจจริงไหม หรือเขาหาเรื่อง หรือยังไงนะครับ แล้วการไล่ครั้งนี้เนี่ย สำหรับผมนะครับสำหรับผมมองว่า จะต้องมีการง้อ เขาเป็นสามีภรรยาอยู่ด้วยกันมานานหลายปีใช่ไหม
...
ถาม.
ก็ประมาณ 7-8 ปีค่ะ
ตอบ.
7 -8 ปีก็นานพอสมควร แน่นอนครับจะต้องมีการงอครั้งที่ 2 ครั้งที่ 3 ต่อไป แต่ทางแก้สำหรับเรื่องการตีการตบตีการตีต่อยภรรยา อันนี้มันน่าจะยากแล้วล่ะ นอกเสียจากว่าเขาจะกลายมาเป็นคริสเตียน แล้วรับมานา แล้วเปลี่ยนแปลงชีวิต อันนี้เป็นเรื่องขบวนการที่นานหลายปี ไม่รู้ว่าเขาจะทนได้ไหม ซึ่งเขาเองก็รับมานามา 4-5 เดือนใช่ไหม ก็อธิษฐานเผื่อเขานะครับ ขอพระเจ้าช่วย ให้ทางออกกับเขาครับ บอกเขาให้กำลังใจเขาว่าพี่น้องพวกเราอธิษฐานเผื่อเขาอยู่ เอเมน
เอเมนพระเยซูขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในน้องสาวคนนี้ เอเมน
เราทั้งหลายเชื่อในฤทธิ์อำนาจของพระองค์ เราทั้งหลายเชื่อในคำสัตย์จริงของพระองค์ที่พระองค์ตรัสว่า พระองค์ทรงเป็นผู้เลี้ยงที่ดี และพระองค์ทรงเป็นกัปตันแห่งความเชื่อ และพระองค์ทรงเป็นทางออก เป็นประตู เป็นความหวัง เป็นทางที่พระองค์จะแก้ไขสถานการณ์ แก้ปัญหาทุกอย่าง ทุกสิ่งอยู่ที่พระหัตถ์ของพระเยซู เพราะฉะนั้นเราวางสิ่งนี้ไว้ที่พระหัตถ์ของพระองค์ และจะไม่แบกไว้ เราขอบคุณพระองค์ที่พระองค์จะกระทำทุกสิ่งให้พี่น้องแต่ละคนได้รับความเหมาะสมกับชีวิตของทุกๆ คน ทั้งนี้ทั้งนั้นพวกเราทั้งหลายรักพระองค์เอเมน แล้วก็เราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์ยื่นมือเข้ามา แล้วขอให้น้ำพระทัยของพระบิดาสำเร็จเอเมน
ถ้าเป็นไปได้พี่น้องที่เป็นห่วง หรือมีภาระใจ อยากจะอธิษฐานเผื่อ และอดอาหารเผื่อ ก็ได้ ซึ่งสำหรับพระคุณพระเจ้าพระองค์ก็จะทำตามแผนการงานของพระองค์ที่เตรียมไว้อยู่แล้ว แล้วสำหรับนอกเหนือจากนั้น ถ้าหากเราอยากเห็นพระเมตตา อยากเห็นความสงสาร เห็นพระเมตตาของพระเจ้า ก็คือการอดอาหาร ก็คือการทูลขอ ใส่ใจในเรื่องนี้ แล้วแน่นอนครับพระเจ้าเป็นพระเจ้าที่เต็มด้วยพระเมตตาสูงส่ง พระองค์ก็จะช่วยเรา
เมื่อเราอยู่ในสถานการณ์ที่คับขัน พระเยซูเป็นสันติสุขของเรา และขอบพระคุณพระเยซูที่พระองค์จะพูดแทนเรา เมื่อเราไม่รู้จะพูดจะคิดอะไร และขอบพระคุณที่พระองค์เป็นสติปัญญาของเรา เอเมน
เรื่องการแต่งงานของคริสเตียนที่ถูกต้องตามน้ำพระทัย ผมขอพูดย้ำนิดนึง คือพิธีแต่งงานของชาวโลกเนี่ย พระเจ้าไม่ได้พอพระทัย พระเจ้าไม่ได้รับรู้ ใครจะแต่งกันยังไง แล้วอันที่สอง ก็คือถึงแม้ว่าจะทำเป็นพิธีสวมชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาว สวมแหวน แต่ถ้าไม่มีพระเจ้าอยู่ด้วย ไม่เอ่ยพระนามพระเจ้า และไม่ทำที่คริสตจักร ไปทำที่ที่มันสวยหรูอะไรต่างๆ ก็คือพระเจ้าไม่ได้รับรู้
งานแต่งงานที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยที่พระเจ้ารับรู้ ก็คือแค่พี่น้องหญิงชายที่รักชอบกัน แล้วคุยกับผู้ปกครองผู้ดูแลคริสตจักร และผู้ปกครองผู้ดูแลก็นัดหมายว่าวันไหนจะมาร่วมที่คริสตจักร แล้วเราจะให้เวลาสัก 10 นาที 15 นาที เพื่อนำ 2 คนมาแล้วก็ประกาศต่อพระพักตร์พระบิดา ต่อหน้าพระเจ้า และต่อหน้าพี่น้องในคริสตจักร เพื่อพระเจ้าจะรับรู้และยอมรับและยอมรับเขาเป็นกายเดียวกันและอยู่ภายใต้การดูแลคุ้มครองช่วยเหลือเลี้ยงดูต่อไปของพระเจ้า
และเป็นการยอมรับของพี่น้องในพระกายว่า เอเมนเห็นด้วยว่าสองคนนี้ตั้งแต่นี้ต่อไปก็คือเป็นสามีภรรยา เป็นหนึ่งเดียวแล้วไม่ใช่ส่องแล้ว แค่นั้นเองนะครับไม่ต้องสวมแหวนไม่ต้องทำอะไรก็ได้ แต่ถ้าอยากสวมก็สวมก็ไม่มีปัญหา แต่สิ่งที่พระเจ้ารับรู้นะครับก็คือ การอธิษฐานของผู้ปกครอง ให้พระเจ้ารับ 2 คนนี้เป็นสามีภรรยาเป็นหนึ่งเดียวกันตั้งแต่วันนั้น
ถาม.
ส่วนใหญ่ชาวโลกเขาจะมีสินสอดทองหมั้นกัน ของคริสเตียนมีไหมค่ะ
ตอบ.
สำหรับคริสเตียนนะครับเมื่อเราเห็นว่าพระเจ้าไม่มีปัญหา คือจะทำยังไงก็แล้วแต่ ขอแค่ผู้ปกครองวางมือ ขอแค่ผู้ปกครองประกาศต่อหน้าคริสตจักรและต่อหน้าพระเจ้าว่า 2 คนนี้เป็นสามีภรรยากัน
แต่สำหรับมนุษย์ ทีนี้เรามาพูดถึงมนุษย์นะครับ ก็คือถ้าสมมุติว่าทางฝ่ายพ่อแม่เจ้าบ่าว และพ่อแม่เจ้าสาว คือสองฝ่ายเป็นคริสเตียนด้วยกัน ก็คุยกันว่าจะเอายังไงจะทำแบบไหน อันนั้นเป็นเรื่องการตกลงระหว่างพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายหรือญาติของทั้งสองฝ่าย อันนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน
แต่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าพอพระทัยแล้วก็คือ มอบสองคนนี้อยู่ต่อหน้าของพระเจ้า และต่อหน้าคริสตจักร แค่นั้นเอง พระเจ้าไม่ได้มากเรื่อง
แต่สำหรับมนุษย์ก็คือเราต้องตกลงกันว่า คุณต้องการแบบไหน เราต้องการแบบไหน ก็คือตกลงกันครับ เรื่องสินสอดหรือไม่สินสอด หรืออะไรที่มันมากมาย หรือเล็กน้อย หรือต้องการหรือไม่ต้องการ อันนั้นเป็นเรื่องของการไกล่เกลี่ย เป็นเรื่องของการคุยกันระหว่างพ่อแม่ของทั้งสองฝ่าย ถ้าหากตกลงถ้าหากพอใจอะไรก็แล้วแต่นะครับ
แต่สำหรับพระเจ้า แค่นั้นเองจบ ก็คือการอธิษฐานมอบสองคนอยู่ต่อหน้าพระเจ้าและต่อหน้าพระกาย คือแค่นั้นง่ายๆ
ถาม.
อยากถามเรื่องหนึ่งที่มันเกี่ยวกับบทเรียนในวันนี้นะครับ ก็คือถ้าหากว่าเราพบว่าพี่น้องมีการเล่นชู้กันในคริสตจักร แบบแอบเล่นชู้กันแล้วเราทราบอย่างเงี้ย เราจะเตือนเขายังไงดีครับ หมายถึงชู้ฝ่ายร่างกายนะครับ เราจะเตือนเขายังไงดีครับถ้าเกิดว่าเราพบว่าพี่น้องมีการแอบเล่นชู้กันแล้วพี่น้องทราบ แล้วเกิดความอึดอัดระหว่างกัน เราจะเตือนเขายังไงเพื่อที่จะถวายเกียรติแด่พระเจ้านะครับ
ตอบ.
กรณีแรกนะครับถ้าหากว่าสองคนนั้น 1 ใน 2 คนนั้นก็คือถ้าหากเรารู้จักเขาดี สนิทกับเขา หรือเป็นญาติเขา หรือรู้จักกันดีมากพอ เราอาจจะเตือนด้วยความรักด้วยความหวังดี และสองต่อสองนะครับ และไม่เอาเรื่องไปพูดกับคนนู้นคนนี้ไม่ไปบอกใครไม่ไปเปิดโปงพูดง่ายๆ ไม่เปิดโปง เราคุยกันนะครับว่ากลับใจไหม คือตอนนี้มันไม่ใช่แล้วนะ ไม่เหมาะแล้วนะ แล้วเราเป็นบุตรพระเจ้าเป็นคริสเตียน ก็คุยกันนะครับ
แต่ถ้าหากว่าเราไม่สนิทกับเขา ไม่รู้จักเขามากพอ ก็ไม่ต้องไปยุ่งนะครับ แต่เราไปแจ้งกับผู้ปกครองหรือผู้นำคริสตจักร ให้เขาเป็นผู้ที่อธิษฐานเผื่อและไปคุย
สำหรับพระเจ้าถ้าหากว่า พระองค์อนุญาตให้เราได้เห็น ได้รับรู้เรื่องการผิดประเวณีภายในคริสตจักร แล้วเราเองก็เป็นคนที่ใกล้ชิดเป็นคนสนิทกับคนใดคนหนึ่ง ซึ่งแน่นอนครับพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเร้าใจ ถ้าหากพระเจ้าต้องการที่จะใช้เราเพื่อไปช่วย ไปเตือน ไปบอก ให้เขากลับใจ แต่ถ้าหากพระเจ้าไม่เร้าใจเรา ไม่มีอะไรเกิดขึ้นนะครับ สิ่งที่เราเห็นเราก็ไปแจ้งกับทางผู้ปกครองครับ
เพราะว่าบางคนถ้าไปบอกเขา โดยที่พระเจ้าไม่บอกก็คือเดือดร้อน ใช่ไหม กล่าวหาว่าไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน ไปยุ่งเกี่ยวกับเขาทำไม แล้วเราหน้าที่ของเราก็คือไปบอกทางผู้ปกครองผู้นำคริสตจักรเพราะว่าเขาเป็นพี่น้องในพระกายนะครับ
เราจะกลับมาวกมาพูดถึงเรื่อง คนล่วงประเวณีฝ่ายร่างกาย คนที่อ่อนแอ หรือเป็นเหมือนกระเทย คนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง ทุกวันนี้นะครับคริสตจักรของพระเจ้าไม่ใช่ที่อยู่ของผู้บริสุทธิ์ ไม่ใช่ที่อยู่ของคนดีคนชอบธรรม คนที่ไม่มีนิสัยเหล่านี้
แต่ปรากฏว่าทุกวันนี้ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้วจนถึงทุกวันนี้ คริสตจักรเป็นที่อยู่ของคนขโมย คนโลภ คนขี้เมา คนปากร้าย คนฉ้อโกง ถ้าเขาไม่ทำต่อหน้าเราหรือไม่ทำอยู่ในคริสตจักร เขาก็ไปแอบทำอยู่ข้างนอก ก็มีเยอะเราก็เห็นกันอยู่ใช่ไหม หรือบางคนที่เขาเก่งเขาก็แอบไปทำโดยที่ไม่ให้ใครเห็น ซึ่งเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ
คริสตจักรไม่ใช่ที่อยู่ของนักบุญ ไม่ใช่ที่อยู่ของคนดีคนชอบธรรมทั้งหลาย แต่เป็นที่อยู่ของคนบาปคนที่กลับใจมาเป็นบุตรพระเจ้า แล้วเป็นที่อยู่ของคนที่ทำบาปอยู่ ซึ่งต้องการการช่วยเหลือการแก้ไข เปรียบเสมือนโรงพยาบาลนะครับที่จะช่วย เพื่อขัดเกลา เพื่อช่วยเหลือ เพื่อทำให้เราเลิกทำบาปได้
แล้วโรงพยาบาลนี้ก็คือมีพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่จะเป็นคนล้างเรา ยาเม็ดที่วิเศษมาก ก็คือเป็นยาที่ล้างเราได้ และแยกเราจากตัวบาปได้ และสุดท้ายก็ตั้งเราไว้ ให้เป็นผู้ชอบธรรมต่อหน้ามนุษย์ คือให้เราเลิกทำบาปได้โดยสิ้นเชิง ความหวังของเราอยู่ในคริสตจักรนี้ แต่อย่าลืมนะครับคริสตจักรนี้เต็มไปด้วยคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ ก็คือขโมย โลภ ขี้เมา ปากร้าย ฉ้อโกง ผิดประเวณีฝ่ายร่างกาย
ซึ่งเราเองนะครับอธิษฐานขอพระเจ้าชำระเรา เราอยู่ด้วยกันเราสำแดงชีวิตพระคริสต์เท่าที่เราทำได้ แล้วสุดท้ายพระเจ้าก็จะนำเราเข้าสู่ชีวิตผู้ชนะด้วยกัน เอเมน
อย่าไปมองนะครับว่าเข้ามาที่กลุ่มมานา อยากจะเห็นความสามัคคี อยากเห็นมีแต่คนมีแต่ความรักทั้งหมด คนปากร้ายไม่น่าจะมี คนโลภไม่น่าจะมี คนที่มาโกงเราชวนเราไปตกหลุมพวกมิจฉาชีพไม่น่าจะมี อย่าไปคิดแบบนั้นนะครับ คือมันก็เป็นกลุ่มทั่วไปที่มีคนที่มีปัญหา มีจุดบกพร่อง ที่ต้องการความหวังจากพระเยซูให้ชำระเรา นำเราสู่การ sanctification ก็คือแยกออกมา เพื่อสำแดงชีวิตพระคริสต์นั่นเอง
และพวกเราเป็นคริสตจักรที่มีความหวังมากกว่าที่อื่น เพราะว่ามันเป็นเรื่องของตา พระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดตา แล้วพระเจ้านำเราเข้าสู่ความจริงเรื่องข้อลึกลับแห่งอาณาจักร เราพบว่าเราเป็นคนชอบธรรม เราพบว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตในเรา เราพบว่าพระเยซูอยู่ในเราเป็นความหวังแห่งสง่าราศี เราพบว่าวิธีการเลิกทำบาปได้ก็คือการสนิทในพระเยซู เราพบว่าขอบคุณพระเจ้าชีวิตผู้ชนะเป็นชีวิตที่ done คือสำเร็จแล้วมันจบแล้ว เรามาอาศัยประสบการณ์ชีวิตในพระเยซูที่พระองค์ก็ทำสำเร็จแล้ว มาเป็นประสบการณ์ชีวิตของเรา ขอบพระคุณพระเจ้าวันนี้เราจึงเป็นผู้ชนะในพระคริสต์ เอเมน