การเผาการฝัง การเอากระดูกไปทำนู่นนี่นั่น ไม่มีผลอะไรเลยกับความรอด

ถาม.

คริสเตียนนะคะ คริสเตียนที่แบบว่าถ้าเสียชีวิตแล้วใช่ไหมค่ะ ถ้าอย่างศาสนาอื่นทั่วไป พอเขาเผาศพแล้วใช่ไหมค่ะ กระดูกที่เหลือเขาก็อาจจะเก็บไว้ส่วนหนึ่ง เอาไปไว้ที่บ้าน แล้วอีกส่วนหนึ่งก็อาจจะเอาไปลอยอังคาร แต่พวกเราเป็นแบบว่าเป็นมนุษย์วิญญาณ ร่างกายเราตายไปแล้ว แล้วก็ทำพิธีเผาศพ กระดูกส่วนที่เหลือเราสามารถเอาไปทำอะไรได้บ้างค่ะ เอเมนค่ะ

ตอบ.

คืออยู่ที่ญาติของเรานะครับ อยู่ที่ญาติของเราเขาอยากจะทำอะไรมีความต้องการทำอะไร 

แต่จะทำอะไรก็ตามนะครับ มันไม่มีผลเรื่องความรอดของเราเรื่องชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราความเชื่อของเรา 

เมื่อเราตายไปนะครับ เราก็อยู่กับพระเยซู พระเยซูก็อยู่กับเรา และรอวันพิพากษาที่จะมา แล้วหลังจากนั้นก็จะอยู่กับพระเจ้าชั่วนิจนิรันดร์

การเผาการฝังการเอากระดูกไปทำนู่นนี่นั่น ไม่มีผลอะไรเลย อยู่ที่ความต้องการความประสงค์ของญาติที่เขายังมีชีวิตอยู่ครับผม

...

ถาม.

อันนี้พี่น้องเขาฝากมาถามว่าเขาเป็นคนที่แบบว่า อย่างสมมุติว่าเขาเป็นลูกคนโต แล้วเขาเป็นคริสเตียน แล้วครอบครัวก็เป็นคริสเตียนกันทั้งหมดเลย แต่ว่าไม่รู้ว่าจะจัดการกับกระดูกส่วนที่เหลืออย่างเงี้ยค่ะ ต้องจัดการแบบไหน ต้องเอาไปลอยน้ำไหม หรือว่าเอาฝังดินไหม เขาก็ยังสงสัยค่ะ ก็เลยฝากมาถามค่ะ

ตอบ.

ถ้าสะดวกถ้ามีที่ฝังดินก็ฝังดิน พอฝังดินนะครับก็เอเมน แล้วก็จบนะครับ

ปกติสำหรับคนเราทุกวันนี้ใช่ไหม คือมักจะไปที่ป่าช้าหรือไปฝังเพื่อนานๆ ทีก็จะมาเยี่ยม เอาดอกไม้มาวาง แล้วก็คิดถึง อยากจะทำแบบนั้นก็ไม่ผิดครับก็ทำได้ครับ

แต่ถ้าไม่อยากยุ่งยาก ถ้าเรามีความรู้ที่มาถึงขั้นระดับเป็นผู้ใหญ่ คือกระดูกจะทิ้งจะทำอะไรก็แล้วแต่ มันไม่ได้มีความสำคัญอีกต่อไปแล้ว 

คือถ้าเราคิดถึงคนนั้น เราก็อธิษฐานเผื่อเขา ก็คิดถึงความดีก็คิดถึงความรักที่เคยมีต่อกันเคยใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน เท่านั้นนะครับ

ซึ่งการเอากระดูกไปฝังหรือไปเผาหรือไปทิ้ง อันนี้เป็นเพียงสิ่งที่เป็นสิ่งนอกกาย เป็นสิ่งที่ไม่ได้สำคัญเท่าไหร่

แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่าคือเราอยากเอามาทำเพื่อเป็นความทรงจำ เพื่อจะได้ไปเยี่ยม ไปนั่งคุยด้วย ไปบางครั้ง เป็นความรู้สึกความต้องการทางฝ่ายเนื้อหนังของชีวิตฝ่ายร่างกาย ก็ทำนะครับ ไม่ได้เดือดร้อนไม่ได้ผิดอะไรนะครับ

ขออย่างหนึ่งขอเพียงแต่ว่าอย่าทำพิธี อย่าเอาไปทำพิธี อย่าเอาไปเป็นคือพิธีฝังศพ พิธีอะไรก็แล้วแต่ เราจะฝังก็คือเราเอเมนขอบคุณพระเจ้า เเล้วก็ก็ฝังนะครับ

สำหรับคริสเตียนเราไม่มีพิธีอะไรทั้งหลาย ไม่มีนะครับ

เมื่อพระเยซูถูกตรึง สิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นก็คือเขาก็ทิ้งศพตรงนั้น แต่มีสาวกคนหนึ่งที่รักพระเยซู แล้วก็ขอพระศพของพระเยซูแล้วก็เอาไปฝัง ไม่ได้มีพิธีรีตอง ไม่มีอะไรเลยนะครับ ก็แค่เอาไปฝัง แล้วหลังจากนั้นก็เอาหินกลิ้งปิดอุโมงค์เท่านั้นเอง

สำหรับเราที่เป็นคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เราเห็นความสำคัญตรงนี้นะครับ ก็คือตอนที่มีชีวิตอยู่ เราฝึกในการเดินในฝ่ายวิญญาณ เดินในพระวิญญาณ อยู่ในพระวิญญาณ อยู่ในทางนั้นตลอดเวลา เรารักพระเจ้า เราสะสมบำเหน็จในสวรรค์เพื่อที่จะมีส่วนครอบครองร่วมกับพระเยซูในอาณาจักรของพระองค์ในยุคหน้าและช่วยนิดนิรันดร์ มีตำแหน่งสูงส่ง

ส่วนเรื่องการตายชีวิตฝ่ายร่างกายของเราเมื่อตายไปเนี่ย ญาติของเราอยากทำอะไรอยู่ที่ความพอใจของเขา ให้เขาทำ มันไม่ได้กระทบกระเทือนถึงความรอดของเรา หรือการที่จะเข้าอาณาจักรของเรา เอเมน

พูดง่ายๆ สรุปสิ่งที่ผมพูดมานะครับ ก็คือเราอย่าเห็นความสำคัญของพิธี อย่าเห็นความสำคัญของว่าต้องเอาไปฝังหรือต้องเผาดี ต้องคิด คิดหนัก หรือคิดยาก ให้มันยากนะครับ

สำหรับเรานะครับการดำเนินชีวิตขณะที่มีชีวิตอยู่ มันสำคัญกว่า ทำดีต่อกันสำคัญกว่า รักกันรักกันสำคัญกว่า ใช่ไหมครับ

...

ถาม.

อีกหนึ่งคำถามค่ะ แล้วเป็นคริสเตียนแต่ว่าไม่ได้กราบไหว้รูปเคารพพ่อแม่ เพราะว่าพ่อแม่จากไปแล้ว แต่ว่าเขาใส่กรอบไว้แล้วก็ตั้งไว้ข้างฝา แขวนไว้ข้างฝาอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ว่าเพื่อเอาไว้ให้ดูให้ลูกให้หลานดูว่าปู่ย่าตายายหน้าตาเป็นแบบนี้นะ แบบนี้ผิดไหมค่ะ

ตอบ.

ตราบใดที่เราไม่คุกเข่าตราบใดที่เราไม่กราบนะครับ เมื่อเราเห็นรูปเราเกิดมีความทรงจำ เรามองรูปนะครับด้วยความรัก ด้วยความผูกพัน ด้วยความคิดถึง อันนั้นไม่ผิดครับ เอาไว้เพื่อดูต่างหน้า ก็ไม่ผิดนะครับ

เพียงแต่ว่าตราบใดที่เราไม่กราบไหว้ ไม่กราบไหว้ อันนั้นผิดครับ

...

ถาม.

อยากถามอาจารย์ค่ะ ว่าเวลาตายเขาทำพิธีพุทธอ่ะ เราเป็นคริสต์ เราไม่ไปนั่งร่วมพิธี ใช่ไหมค่ะ ได้ไหมค่ะ หรือว่ายังไง ต้องนั่งร่วมไหว้กับเขาไหมค่ะ

ตอบ.

ถ้าเป็นได้นะครับ ถ้าเป็นไปได้ เป็นสิ่งที่เราควรจะหลีกเลี่ยง เมื่อเขาทำพิธีศาสนา ทางศาสนา เกี่ยวกับเรื่องพิธีศพอะไรก็แล้วแต่นะครับ จะมีการกราบไหว้มีการไหว้มีการนั่งฟังพระเขาพูดอะไร อันนี้ถ้าหลีกเลี่ยงได้ขอให้หลีกเลี่ยงนะครับ สำหรับพระเจ้านะครับ เป็นความผิดที่ใหญ่มาก เรียกว่าเล่นชู้กับพระเจ้า 

ความผิดฝ่ายเนื้อหนังฝ่ายร่างกาย อาจจะทำไม่ดีต่อมนุษย์ต่อเพื่อนบ้านต่อคนอื่น ก็ผิดอยู่

แต่สำหรับการกระทำผิดที่หนักมากสำหรับพระเจ้า ก็คือการทำผิดฝ่ายวิญญาณ ก็คือไปกราบไหว้พระอื่น ซึ่งเรียกว่าเป็นการเล่นชู้ฝ่ายวิญญาณครับผม

ถ้าหากเราขอสติปัญญา ขอการช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เมื่อพี่น้องญาติเราพี่น้องเรา ขอให้เราเนี่ยมีส่วนร่วมในพิธีกรรม ในพิธีทางศาสนา ให้ร่วมกราบไหว้คุกเข่า อะไรก็แล้วแต่นะครับทำพิธีเนี่ย 

คือเมื่อเราพึ่งพระเจ้าจริงๆ ขอทางออกจากพระเจ้าจริงๆ แน่นอนที่สุดพระเจ้าจะช่วยเหลือเรา ไม่ให้เราคิดหนักหรือกังวลหรือกระวนกระวาย ว่าต้องทำยังไง โอ๊ย ต้องไปเข้าร่วมพิธี โอ๊ย ตายแล้วแบบคือหลีกเลี่ยงไม่ได้กลัวเขาจะไม่พอใจหรือเกลียดเรา อันนี้ไม่ต้องห่วงครับ

เรามีพระเยซู และพระเยซูอยู่เคียงข้างเราเสมอ พระวิญญาณบริสุทธิ์พร้อมที่จะช่วยเราและหาทางออกให้เรา เอเมน

อ่านต่อ:

• พิธีศพไม่ได้มีผลอะไรเกี่ยวกับ "ความรอด" 

• พิธีศพเกี่ยวอะไรกับความรอดของเราหรือไม่ 

• งานศพเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เราไม่ถือว่าเป็นกฎ เป็นหลักการเป็นพิธีอะไร