มีผู้ชายคนหนึ่งเป็นคริสเตียนเดินทางด้วยรถไฟการเดินทางใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมายในรถไฟจะมีที่นั่งแบบว่าเก้าอี้หันหน้าเข้าหากัน แล้วก็มีโต๊ะอยู่ระหว่างกลาง มีสามคนที่นั่งอยู่กับเขา และขณะที่เดินทาง และเวลาก็ผ่านไป คือมันรู้สึกเซ็งยังไงก็ไม่ทราบมีคนหนึ่งก็บอกว่ามาเล่นไพ่กันเถอะ ถ้าเล่นไพ่ต้องมีสี่คนเล่นด้วยกันถ้าไม่ถึงสี่คนก็เล่นไม่ได้
แต่คนที่เป็นคริสเตียนตอบว่าขอโทษนะครับ วันนี้ผมไม่ได้เอามือมาด้วย คนที่ถามก็เลยทำเป็นงงแปลกใจว่าทำไมตอบแบบนี้ กวนหรือเปล่า แล้วมือนี้ล่ะอะไร แล้วคริสเตียนคนนี้ก็ตอบว่า มือทั้งสองข้างนี้เป็นของพระเจ้า พระเจ้าซื้อแล้วไม่ใช่ของผมอีกต่อไป
กาลาเทีย 2:20 เป็นหลักการการดำเนินชีวิตของคริสเตียน ซึ่งพี่น้องคริสเตียนส่วนมากไม่เข้าใจและไม่เห็นความสำคัญของพระคัมภีร์ของข้อนี้ พวกเรามักจะคิดว่าในพระคัมภีร์ กาลาเทีย 2:20 เป็นประสบการณ์ชีวิตของอาจารย์เปาโลเท่านั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว กาลาเทีย 2:20 เป็นหลักการของการดำเนินชีวิตของคริสเตียนในแต่ละวัน และในบทนี้ข้อนี้ มีบางอย่างที่ซ่อนเร้นอยู่ซึ่งผู้เชื่อมากมายไม่เข้าใจและค้นหาไม่เจอสิ่งที่ซ่อนเร้นอยู่ ก็คืออาจารย์เปาโลมีสองคน พระเยซูคริสต์มีสองคน
ข้าพเจ้า = เปาโลคนเดิม (มนุษย์คนเดิม โรม 6:6)
ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว = ข้าพเจ้าก็คืออาจารย์เปาโลคนเก่าคนเดิมคนที่เป็นมนุษย์อาดัมที่ได้รับชีวิตจากอาดัมเกิดมาจากอาดัม มาจากพ่อแม่ พ่อแม่มาจากปู่ย่าตายายไปจนถึงอาดัม
ข้าพเจ้า ก็คืออาดัมคนเก่าคนเดิมมนุษย์คนเก่าคนเดิมซึ่งปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์ (โรม 6:6)
ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ก็คือเมื่อ 2,000 ปีก่อนเมื่อพระเยซูทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน อาจารย์เปาโลก็ถูกตรึงด้วย ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว พระเยซูคริสต์ถูกตรึงบนไม้กางเขน อาจารย์เปาโลก็ถูกตรึงด้วย แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ เมื่อกี้นี้..... อาจารย์เปาโลบอกว่า ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว เพียงแค่ประโยคเดียวอาจารย์เปาโลบอกว่า แต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่แล้วคนที่มีชีวิตอยู่คนนี้คือใคร ก็คืออาจารย์เปาโลคนใหม่
ข้าพเจ้าถูกตรึงแล้วข้าพเจ้าคนเดิมกับพระคริสต์ พระคริสต์คนเดิมทั้ง 2 ตายบนไม้กางเขนด้วยกัน
ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ อันนี้คือข้าพเจ้า ก็คืออาจารย์เปาโลคนใหม่ไม่ใช่ข้าพเจ้าเองที่มีชีวิต
แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ในที่นี้ ก็คือบุคคลที่สองของอาจารย์เปาโลมาแล้ว
อาจารย์เปาโลที่เป็นคนใหม่ที่บังเกิดใหม่ที่บังเกิดในพระคริสต์บังเกิดในพระวิญญาณมาแล้ว
แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า อันนี้ คือพระคริสต์ผู้ใหม่ พระคริสต์ผู้ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตาย (ข้าพเจ้า = เปาโลคนใหม่) (มนุษย์คนใหม่ = โรม 6:4)
และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำเนินอยู่ในร่างกายนี้ และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าข้าพเจ้าคนนี้ ก็คืออาจารย์เปาโลคนใหม่
ข้าพเจ้าดำเนินชีวิตอยู่โดยความเชื่อของพระบุตรของพระเจ้า ก็คือพระเยซูคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา (ความเชื่อของพระเยซูจะมาแทนที่ความเชื่อของเรา) และความเชื่อทุกวันนี้เป็นความเชื่อของพระเยซูคริสต์ เมื่อเรามีความเชื่อ รับพระเยซู รับพระเจ้า ดำเนินชีวิตในความเชื่อของเรา ต่อมาเมื่อเราพบความจริงเรา พบเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน คือพระคริสต์ดำเนินชีวิตอยู่ในตัวใหม่ของเราและการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ก็คือการดำเนินชีวิตโดยความเชื่อของพระคริสต์ ไม่ใช่ของเรา ความเชื่อของเราจะถูกแทนที่ด้วยความเชื่อของพระเยซูคริสต์
ชีวิตเก่าของเราก็จะถูกแทนที่ด้วยชีวิตใหม่ และชีวิตใหม่ของเราไม่ใช่คนที่ดำเนินชีวิตอยู่ แต่ให้พระคริสต์ที่สถิตอยู่ในบุคคลผู้ใหม่นี้ดำเนินชีวิตแทนเราเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตในแต่ละวันของคริสเตียน คือพระคริสต์อยู่ในเราเเละพระคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเรา
พระคริสต์รักแทนเรา
พระคริสต์อดทนนานแทนเรา
พระคริสต์หันแก้มซ้ายให้เขาตบแทนเรา
พระคริสต์เดินไปอีกกิโลแทนเรา
พระคริสต์ถอดเสื้อคลุมให้ด้วยเมื่อเขาต้องการเสื้อในของเรา
เป็นการเกิดผลของพระวิญญาณในกาลาเทีย 5:22-23
ชีวิตคริสเตียนไม่เหมือนศาสนาอื่นๆ ทั่วไป คริสเตียนคือการดำเนินชีวิตอยู่ด้วยตัวใหม่ และตัวใหม่นี้ไม่ได้เป็นคนทำดีเชื่อฟังพระเจ้ารักษาพระบัญญัติ แต่....ตัวใหม่บุคคลผู้ใหม่นี้ที่บังเกิดใหม่มีพระคริสต์เป็นหนึ่งเดียวกับวิญญาณของเรา และเรากับพระคริสต์เดินไปร่วมกัน
เราเก็บเกี่ยวผลพระคริสต์เป็นคนทำ
เราเก็บเกี่ยวผลพระคริสต์เป็นคนรัก
เราเก็บเกี่ยวผลพระคริสต์เป็นความอดทนเป็นคนอดทนเป็นคนทำแทนเราทุกสิ่ง นี่คือความหมายของกาลาเทีย 2:20
เป็นหลักการที่สำคัญที่สุดของคริสเตียนที่จะดำเนินชีวิตในแต่ละวันด้วยตัวใหม่ และผู้ที่กระทำตามน้ำพระทัยพระเจ้าในแต่ละวันนั้นก็คือพระคริสต์ผู้สถิตอยู่ในเรานี่เอง
โคโลสี 1:27 กล่าวว่า (พระเจ้าทรงชอบพระทัยที่จะสำแดงให้คนต่างชาติรู้ว่า อะไรเป็นความมั่งคั่งของสง่าราศีแห่งข้อลึกลับนี้คือที่พระคริสต์ทรงสถิตในท่านอันเป็นที่หวังแห่งสง่าราศี)
เป็นความหวังของสง่าราศี ถ้าเราไม่มีพระคริสต์สถิตอยู่ในเราและดำเนินชีวิตแทนเรา รับรองเราไม่มีสง่าราศี สง่าราศี ก็คือผลแห่งชีวิตใหม่ผลของพระวิญญาณ
อีกครั้ง ข้าพเจ้าคนเดิมข้าพเจ้าคนเก่าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว พระคริสต์คนนี้ก็คือคนเก่าคนที่เป็นมนุษย์ที่ดำเนินชีวิตอยู่เมื่อ 2,000 ปีก่อน แล้วก็ข้าพเจ้าคนเดิมอาจารย์เปาโลคนเดิมแล้วก็กับพระคริสต์ก็คือพระเยซูคริสต์ที่เป็นมนุษย์ถูกตรึงตายด้วยกัน
จากนั้นแต่ข้าพเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ ก็คือคนใหม่ ข้าพเจ้าคืออาจารย์เปาโลผู้ที่บังเกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่ข้าพเจ้าเองที่มีชีวิตอยู่แต่พระคริสต์ต่างหากที่ทรงมีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า ข้าพเจ้าคนใหม่มีชีวิตอยู่แต่พระคริสต์เป็นผู้ดำเนินแทนเป็นผู้ทำแทน เป็นผู้ใช้ร่างกาย ใช้จิตใหม่วิญญาณใหม่ เพื่อปรากฏสำแดงชีวิตของพระองค์ออกมาผ่านเรา
ที่นี้เรามาพูดถึงเรานะ คือเราทุกคนถูกตรึงแล้วกับพระเยซูคริสต์บนไม้กางเขน 2,000 ปีก่อนเราตายแล้วนะ แล้วก็พวกเรายังมีชีวิตอยู่ และชีวิตที่เรามีอยู่ทุกวันนี้ ก็คือชีวิตใหม่ตัวใหม่บุคคลผู้ใหม่ที่ได้บังเกิดใหม่แล้ว ไม่ใช่เราที่มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตดำเนินชีวิตอยู่ในเรา เช่นพวกเราดำเนินในร่างกายนี้ขณะนี้ พวกเราดำเนินชีวิตโดยความเชื่อของพระบุตรของพระเจ้าก็คือโดยความเชื่อของพระคริสต์
เมื่อเราเชื่อนานเข้าๆ เราเข้าใจพระคัมภีร์กาลาเทีย 2:20 เรารู้ชัดเจนมากว่าพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเราในแต่ละวัน และความเชื่อของพระคริสต์จะมาแทนที่ความเชื่อของเรา เมื่อความเชื่อของพระคริสต์มาแทนที่ความเชื่อของเรา เราอธิษฐานขออะไร เราก็ขอในนามของพระเยซู เราก็ขอตามน้ำพระทัย เราจะไม่ขอในสิ่งที่เราชอบเราต้องการเราปรารถนาอีกต่อไป แต่เราชีวิตนี้ดำเนินอยู่เพื่อให้พระคริสต์เป็นผู้อยู่แทนเรา
ฟิลิปปี 1:21 กล่าวว่า (เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์ และการตายก็ได้กำไร)
สำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์ หมายความว่ายังไง ภาษาไทยภาษาลาวภาษาอื่นทั่วไปมักจะแปลว่าสำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ก็อยู่เพื่อพระคริสต์อันนี้แปลผิดภาษากรีกและภาษาอังกฤษแปลถูก
For to me, to live is Christ สำหรับข้าพเจ้าการดำเนินชีวิตอยู่ ก็คือพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินไม่ใช่ข้าพเจ้า For to me to drive is Christ
สำหรับข้าพเจ้าการขับรถ ก็คือพระคริสต์เป็นผู้ขับ พี่น้องคริสเตียนส่วนมากไม่เข้าใจและยังมาไม่ถึงจุดนี้ ก็คือเรารู้ว่าพระคริสต์อยู่ในเราอยู่ในฝ่ายวิญญาณไม่ได้อยู่ในฝ่ายเนื้อหนัง
เมื่อเราทำบาปฝ่ายเนื้อหนัง เราทำ จิตเราทำ จิตใจส่วนที่ยังไม่ได้รับการชำระยังทำอยู่ แต่พระคริสต์ครอบครองในวิญญาณของเราแล้ว และอยู่ในฝ่ายวิญญาณไม่ยุ่งเกี่ยวกับการทำบาปของเรา แต่พระองค์เสียพระทัย พระองค์ไม่ยอมออกไปไหน พระวิญญาณไม่ออกไปจากเรา แต่เสียพระทัย และทำงานทุกวันเพื่อที่จะเปิดตาเราให้เข้าใจให้ได้รับการชำระด้วยพระคำ และเมื่อเรารับการเปิดตาเปิดใจเข้าใจความหมายที่แท้จริง เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า คือพระคริสต์อยู่ในเราแทนเรา เราจะเห็นการทำงานของพระวิญญาณ พระเจ้าจะเริ่มดำเนินชีวิตอยู่ และทุกวันนี้ร่างกายจิตใจชีวิตนี้ของเรา เรามอบให้พระเจ้าใช้เป็นอวัยวะที่จะสำแดงพระองค์ออกมาผ่านเราสง่าราศีเกียรติเป็นของพระเจ้าแต่พรบำเหน็จรางวัลเป็นของเรา
กาลาเทีย 4:19 กล่าวว่า (ลูกน้อยของข้าพเจ้าเอ๋ย ข้าพเจ้าต้องเจ็บปวดเพราะท่านอีกจนกว่าพระคริสต์จะได้ทรงก่อร่างขึ้นในตัวท่าน)
หมายความว่ายังไงคืออาจารย์เปาโลเป็นทุกข์หนัก สำหรับพี่น้องผู้เชื่อมากมายที่เมื่อเชื่อพระเจ้ามีพระเยซูคริสต์แล้วยังไม่เข้าใจเรื่องการดำเนินชีวิตอยู่และพี่น้องเหล่านั้นไม่มีโอกาสที่จะให้พระคริสต์ก่อร่างสร้างตัวของพระองค์ขึ้นในตัวของพวกเราเพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชีวิตคริสเตียนก็คือการยอมให้พระคริสต์ก่อร่างสร้างตัวของพระองค์บุคคลของพระองค์จะเติบโตจะถูกก่อร่างสร้างมากขึ้นในชีวิตของเรา
เมื่อพี่น้องคริสเตียนคนในครอบครัวคนในที่ทำงานหรือทุกที่ที่เราไปมนุษย์จะเห็นพระเจ้าเห็นพระคริสต์มากขึ้นๆ ผ่านตัวเรา และเราก็จะเล็กลงการที่พระเจ้าจะเป็นใหญ่ขึ้นจะขยายการที่พระคริสต์ก่อร่างสร้างตัวมากขึ้นผ่านตัวเรา เราจะต้องยอมเล็กลง คริสเตียนทุกวันนี้เนื่องจากว่าไม่ยอมเล็กลงไม่ยอมต่ำลงพระเจ้าก็จะขยายใหญ่ขึ้นไม่ได้ และพระเจ้าจะสูงขึ้นไม่ได้ เพราะว่าเราครอบครองตำแหน่งการใหญ่การสูงอยู่
สำหรับเรื่องการเชื่อฟังพระเจ้าไม่ใช่หน้าที่ของเราขอย้ำอีกครั้งว่าการเชื่อฟังพระเจ้าไม่ใช่หน้าที่ของเรา หน้าที่ของเราก็คือการยอมให้พระเจ้าเติบโตขึ้นก่อร่างสร้างตัวขึ้นเราก็จะเล็กลงเราจะต้องตายไปให้พระเจ้าเป็นผู้ที่ดำเนินชีวิตของพระองค์ผ่านตัวใหม่ของเรา และให้พระเจ้ายิ่งใหญ่มากขึ้น และเรายอมต่ำลงเรายอมเล็กลง การเชื่อฟังพระเจ้าการดำเนินชีวิตของคริสเตียนคืออย่างนี้เรายอมให้พระเจ้าใช้ร่างกายของเราใช้ชีวิตของเรา
โรม 6:13 กล่าวว่า (อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า)
จงถวายตัวถวายร่างกายถวาย body นี้เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้วถ้าเราถวายตัวนี้เอาตัวตัวเก่านี้ให้พระเจ้าพระเจ้าไม่รับ
พี่น้องทราบไหม สำหรับผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ส่วนมากถวายตัวๆ โอ้.... ขอถวายตัวให้พระเจ้ามอบชีวิตนี้ให้พระเจ้าพระเจ้าไม่รับนะเพราะอะไร
เพราะว่าเราถวายตัวเก่า เราไม่รู้ว่าเราตอนนี้เป็นคนใหม่เกิดใหม่แล้ว ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อคือตาเราไม่เห็นว่าเราเป็นคนใหม่ แต่เราเชื่อเราดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อ เมื่อเราเชื่อว่าเราเป็นคนใหม่แล้ว เราก็บอกว่าขอถวาย body ร่างกายจิตใจวิญญาณทุกส่วนของข้าให้พระองค์ใช้ร่างกายนี้เป็นอวัยวะ เพื่อที่พระองค์จะปรากฏตัวของพระองค์ ความรัก คุณสมบัติ แสงสว่าง ความดีต่างๆ ผลของพระวิญญาณผ่านตัวนี้ร่างกายนี้ร่างกายใหม่นี้ ถ้าเราบอกว่าพระเจ้าพระองค์เจ้าค่ะ ข้าพระองค์ขอถวายตัวใหม่บุคคลผู้ใหม่บุคคลที่บังเกิดใหม่แล้วให้พระเจ้าใช้เป็นอวัยวะเพื่อที่พระองค์จะปรากฏตัวออกมา พระองค์ก็จะทำ
แต่ถ้าเราบอกว่าขอถวายตัวแด่พระเจ้าถวายตัวเราไม่รู้เลยว่าตัวเก่าหรือตัวใหม่ เราไม่รู้เมื่อเราไม่รู้พระเจ้าก็รับไม่ได้ เพราะว่าความเชื่อเกิดขึ้นจากความรู้ ความรู้คือการได้รู้ว่าเราบังเกิดใหม่แล้ว และพระเจ้าประทานจิตใจใหม่วิญญาณใหม่ชีวิตใหม่ให้เราแล้วประทานแล้ว (โรม 6:3)
ยอห์น 20:22 (ครั้นพระองค์ตรัสดังนั้นแล้วจึงทรงระบายลมหายใจออกเหนือเขา และตรัสกับเขาว่า “ท่านทั้งหลายจงรับพระวิญญาณบริสุทธิ์เถิด)
ที่พระเยซูประทานชีวิตใหม่ให้แก่ผู้เชื่อ และสาวกทุกคนจงรับพระวิญญาณเถิด และเราทุกวันนี้เมื่อเราเชื่อพระเยซูคริสต์เราได้รับชีวิตใหม่ วิญญาณของเราได้รับการบันดาลให้บังเกิดใหม่ และเมื่อเราบังเกิดใหม่ปีนี้ เราถวายตัว ตัวไหน?? ตัวใหม่สิครับ คริสเตียนส่วนมากบอกถวายตัวๆ แต่ไม่รู้ว่าเอาตัวไหนพระเจ้ารับไม่ได้
และทุกวันนี้คริสเตียนเกิดผลของไม้ฟางและหญ้าแห้ง (1 คร 3:12-15) ไม้ฟางและหญ้าแห้งคือตัวเก่าคือมนุษย์คนเก่ามนุษย์อาดัม
อีกครั้ง โรม 6:13 (อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า)
นี่คือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราถวายก่อนที่เราจะถวายตัวใหม่ เราต้องรู้ก่อนว่าตัวนี้เป็นตัวใหม่แล้ว แล้วจากนั้นก็ถวายให้พระเจ้าการดำเนินชีวิตคริสเตียน การเชื่อฟังพระเจ้าได้รักษาพระบัญญัติใหม่ครบทุกประการได้ ก็คือการยกชีวิตของเราให้พระเจ้าเป็นผู้ทำแทน
ในหนังสือมัทธิวพระเยซูประทานพระบัญญัติใหม่ให้เรา แต่ในหนังสือยอห์นพระเยซูประทานผู้ที่จะมาอยู่ในเรา เพื่อรักษาพระบัญญัติแทนเรา นี่คือข่าวดี นี่คือการดำเนินชีวิตที่เบาแอกก็เบาภาระก็เบากางเขนก็เบา
ชีวิตคริสเตียนไม่มีอะไรหนักไม่มีอะไรยากชีวิตคริสเตียนก็คือ
Done ก็คือ Finished ก็คือ จบ จบแล้ว ไม่มีอะไรที่เราต้องทำ ไม่ต้อง Do Do Do หรือว่า Doing Doing กำลังทำอยู่หรือว่าทำเรื่อยไปๆ ชีวิตคริสเตียนจบแล้ว พระเจ้าทำทุกสิ่งทุกอย่างในพระเยซูคริสต์ ผ่านพระเยซูคริสต์ เราอยู่ในพระคริสต์ เราเก็บเกี่ยวผลของพระวิญญาณ เราเก็บเกี่ยวบำเหน็จรางวัล เราเดินตามพระคริสต์ พระคริสต์เป็นคนทำ เราเป็นคนเก็บ เก็บพร เก็บรางวัล เก็บบำเหน็จ
โรม 6:13 (อย่ายกอวัยวะของท่านให้แก่บาป ให้เป็นเครื่องใช้ในการอธรรม แต่จงถวายตัวของท่านแด่พระเจ้า เหมือนหนึ่งคนที่เป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงให้อวัยวะของท่านเป็นเครื่องใช้ในการชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า)
พระคัมภีร์ข้อนี้บอกชัดเจนมากว่าการกระทำดี การเชื่อฟัง ไม่ใช่หน้าที่ของเรา แต่หน้าที่ของเรา คือการยกอวัยวะชีวิตร่างกาย body จิตใจทุกส่วนให้พระเจ้าใช้ ให้พระเจ้าเอาไปใช้ เหมือนกับพระเจ้าเป็นคนขับรถ เราเป็นรถ พระเจ้าเป็นคนขับ หน้าที่ของเรา คือปล่อยให้พระเจ้าขับไป จะเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา ไปข้างหน้าตรงไป ก็แล้วแต่พระเจ้า
ในพระคัมภีร์ยอห์น 15:4 (จงเข้าสนิทอยู่ในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในท่าน กิ่งจะออกผลเองไม่ได้นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายจะเกิดผลไม่ได้นอกจากท่านจะเข้าสนิทอยู่ในเราฉันนั้น) ( สนิท คุยสนทนา หรือสามัคคีธรรมกับพระคริสต์ )
จงเข้าสนิทในเรา และเราเข้าสนิทในท่าน เคล็ดลับก็คือการพี่จะเกิดผลถวายเกียรติแด่พระเจ้า หรือการที่จะเกิดผลของชีวิตใหม่ ก็คือการเข้าสนิทในพระคริสต์ก่อน เมื่อเราเข้าสนิทในพระคริสต์ พระคริสต์ก็จะสนิทในเรา เราขยับเข้าไปพระคริสต์ก็จะขยับเข้ามา เราขยับมากเท่าไหร่พระคริสต์ก็จะขยับมากเท่านั้นนี่คือเคล็ดลับ
จงเข้าสนิทในเรา และเราจะเข้าสนิทในท่าน กิ่งจะออกผลเองไม่ได้ นอกจากจะติดอยู่กับเถาฉันใด ท่านทั้งหลายจะเกิดผลเองไม่ได้ นอกจากจะเข้าสนิทในเราฉันนั้น ในที่นี้ การที่จะเกิดผลเกิดผลของชีวิตใหม่จิตใจใหม่ผลแห่งพระวิญญาณ เราจะต้องสนิทอยู่กับพระคริสต์ หน้าที่ของเรา คือสนิทอยู่ในพระคริสต์สนิทกับพระคริสต์ และให้ผู้ที่เกิดผล ก็คือพระเจ้า ก็คือพระคริสต์ (การสนิทคือเคล็ดลับแห่งการเกิดผลมาก)
ยอห์นข้อที่ 5 บอกว่าเราเป็นเถาองุ่น ท่านทั้งหลายเป็นกิ่ง ผู้ที่เข้าสนิทในเรา เราสนิทในเขา ผู้นั้นจะเกิดผลมาก
- "ผล" ในที่นี้ ไม่ใช่ผลงานนำคนมาเชื่อมากๆ การรับใช้ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่นะ อันนั้นเป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นเอง
- แต่ "ผล" ในที่นี้ หมายถึงผลของชีวิตใหม่ผลในกาลาเทีย 5:22-23 และผลของชีวิตใหม่ที่พระเยซูคริสต์ดำเนินชีวิตแทนเรา ทำแทนเราทุกอย่างในกาลาเทีย 2:20 แล้วก็ใน ฟิลิปปี 1:21 ที่กล่าวว่าสำหรับข้าพเจ้าการมีชีวิตอยู่ ก็คือพระคริสต์ ไม่ใช่ข้าพเจ้านะ เราเป็นเถาองุ่นท่านทั้งหลายเป็นกิ่ งผู้ที่เข้าสนิทในเรา และเราเข้าสนิทอยู่ในเขา ผู้นั้นจะเกิดผลมาก ถ้าหากพี่น้องต้องการอยากเกิดผลมากดำเนินชีวิตตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เชื่อฟังได้ รักษาพระบัญญัติใหม่ได้ อย่าทำนะ อย่าเชื่อฟังด้วยตัวเราเอง อย่าเชื่อฟังด้วยชีวิตของอาดัม เราเรียนรู้ว่าเราตายกับพระเยซูแล้วเมื่อ 2,000 ปีก่อน
(2 คร 5:14 เพราะว่าความรักของพระคริสต์ได้ครอบครองเราอยู่ เพราะเราคิดเห็นอย่างนี้ว่า ถ้าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง เหตุฉะนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว)
และเราเรียนรู้ว่าทุกวันนี้เราได้บังเกิดใหม่ และตัวนี้ คือตัวใหม่ เป็นคนใหม่แล้ว เมื่อเราทำบาปก็เรียกว่าผู้ชอบธรรมไปทำบาป ไม่ใช่คนบาปไปทำบาปอีกต่อไป
ขอพระเจ้าช่วยเราที่จะเข้าใจการดำเนินชีวิตที่แท้จริงของคริสเตียนหลักการดำเนินชีวิตของพวกเราอยู่ในกาลาเทีย 2:20 ก็คือข้าพเจ้าถูกตรึงแล้ว ก็คือคนเก่าถูกตรึงแล้วกับพระคริสต์ที่เป็นมนุษย์ และทุกวันนี้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ก็คือข้าพเจ้าคนใหม่ผู้ที่มีชีวิตอยู่ที่แท้จริง ก็คือพระคริสต์เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรา (กท 2:20 คนเก่าตาย คนใหม่มีชีวิตอยู่ และพระคริสต์เป็นผู้มีชีวิตอยู่ในคนใหม่นี้) และไม่นานต่อมาความเชื่อของพระเยซูจะแทนที่ความเชื่อของเรา เราสนิทในพระคริสต์ พระคริสต์ก็จะสนิทในเรา เราสนิทมากเท่าไหร่พระคริสต์จะสนิทมากเท่านั้น และเราจะเกิดผลมากอาเมน
อ่านเพิ่มเติม: พระคริสต์เป็นความหวังของเราทั้งชีวิตนี้และชีวิตหน้าด้วย