คําว่า หล่นจากพระคุณ พี่น้องผู้เชื่อมากมายเข้าใจผิดคิดว่าคนที่หล่นจากพระคุณ คือคนที่ไม่รอด สําหรับผู้เชื่อ เมื่อเราเชื่อพระเจ้ารับพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา เราได้รับความรอดแน่นอน และเราจะไม่สูญเสียความรอดอีกเลย
เนื่องจากว่าพระคัมภีร์ ฮีรูบ 9:12 กล่าวว่าพระเยซูคริสต์ถวายพระโลหิตของพระองค์ครั้งเดียวเป็นการสิ้นสุด เราก็ได้รับความรอดนิรันดร์ เราได้รับการไถ่บาปนิรันดร์
และในหนังสือยอห์นบทที่ 10 กล่าวว่าพระเจ้าจะรักษาเรา เราเป็นแกะที่พระเจ้ารู้จักดี และแกะก็รู้จักพระเจ้าดีพระเจ้าจะคุ้มครองเรารักษาเราตลอดชั่วนิรันดร์
แล้วคําว่า หล่นจากพระคุณ ล่ะ คืออะไร?
คําว่า หล่นจากพระคุณ ก็คือการดําเนินชีวิตที่เชื่อพระเจ้ามีพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา แต่ยังใช้ตัวเก่าใช้ชีวิตของอาดัมเพื่อทําดีเพื่อเชื่อฟังพระเจ้าเพื่อรักษาพระบัญญัติ คริสเตียนส่วนมากไม่รู้ตัวว่าตอนนี้เรากําลังดําเนินชีวิตที่หล่นจากพระคุณ
หล่นจากพระคุณแท้ที่จริง ก็คือเราไม่มีพระเยซูคริสต์ทําแทนเรา เราไม่มีพระเยซูคริสต์เกิดผลแห่งพระวิญญาณในเรา
กาลาเทียบทที่ 2:20 กล่าวว่าข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า
กาลาเทียบทที่ 5:22-23 กล่าวว่าผลของพระวิญญาณ คือความรัก ความอดทนนาน การกระทําคุณให้ มีหลายประการใช่ไหม? พระคัมภีร์ข้อนี้เน้นคําว่า ผลของพระวิญญาณ ไม่ใช่ผลของเรา ไม่ใช่ผลของผม และผลของท่าน (แต่เป็นผลของพระวิญญาณ)
การดําเนินชีวิตที่มีผลของพระวิญญาณเกิดขึ้นในเรา พระเยซูทําแทนเรา พระเยซูดําเนินชีวิตอยู่แทนเรา เพื่อเรา อันนี้เรียกว่าการดําเนินชีวิตที่อยู่ใต้พระคุณที่แท้จริง
สําหรับคริสเตียนทั่วไปเรามักจะดําเนินชีวิตขอพระเจ้าเสริมกําลังให้เราเชื่อฟังพระเจ้าได้ รักษาพระบัญญัติได้ ดําเนินชีวิตที่อยู่ในความบริสุทธิ์ ในความชอบธรรมใช่ไหม?
แต่เราทุกคนทราบดีว่าความชอบธรรมของเรามันมีขีดจํากัดมาก และในพระคัมภีร์เรียกความชอบธรรมของเราว่าเป็นความชอบธรรมที่ตายแล้ว
พี่น้องทราบไหมว่าทุกวันนี้มีพี่น้องคริสเตียนหลายคนดําเนินชีวิตที่ใช้ความชอบธรรมที่ตายแล้วเพื่อถวายแด่พระเจ้า แต่เขาไม่รู้ตัว
พี่น้องคริสเตียนมักจะพูดว่าอะไรที่ดี ก็คงจะเป็นน้ำพระทัยพระเจ้า อะไรที่ดีก็ทําไปเถอะ และอะไรที่ทําไม่ได้ก็ขอพระเจ้าเสริมกําลังให้พระเจ้าช่วยเรา
มีผู้ชายคนหนึ่งรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา ไม่นานต่อมาเขาก็ไปโบสถ์ อ่านพระคัมภีร์ ผู้รับใช้ที่คริสตจักรก็บอกว่า เราจะต้องเชื่อฟังรักษาพระบัญญัติของพระเจ้าใช่ไหม?
ต่อมาไม่นานผู้ชายคนนี้ก็เริ่มปฏิบัติ เริ่มเชื่อฟัง เริ่มพยายามทําเท่าที่จะทําได้แล้ว ก็มีความหวังว่าในอนาคตวันหนึ่งเขาจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เขาจะเปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่
แต่เราก็รู้ดีว่าชีวิตคริสเตียนของเราส่วนมากใช่ไหม? คือเชื่อพระเจ้าแล้ว 5 ปีผ่านไป 10 ปีผ่านไป 20 ปีผ่านไป บางคนจนตาย ไม่เห็นชีวิตใหม่ ไม่เห็นจิตใจใหม่ ไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ภายใน เราเห็นเฉพาะการเปลี่ยนแปลงภายนอก ไม่สูบบุหรี่ เลิกเหล้า เลิกการพนัน การแต่งกายก็ดีขึ้น
อันนี้ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่พระเจ้าพอพระทัย พระเจ้าไม่ต้องการแค่เปลี่ยนแปลงภายนอก แต่พระเจ้าต้องการการเปลี่ยนแปลงภายในด้วย
ผู้ชายคนนี้หล่นจากพระคุณทั้งๆที่ไม่รู้ตัว การหล่นจากพระคุณก็คือทันทีที่เราพยายามดำเนินชีวิตเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า พยายามรักษาพระบัญญัติ นี่คือคำว่า "หล่นจากพระคุณ"
หล่นจากพระคุณ ก็คือเมื่อเราเชื่อพระเยซู เราอ่านพระคัมภีร์ เราพบคําสั่งสอนพระบัญญัติใหม่ของพระเยซู และเราพบพระบัญญัติ 10 ประการในพระคัมภีร์เดิมใช่ไหม? เมื่อเราอ่านพบแล้วและเราเริ่มพยายามเปลี่ยนแปลงเริ่มทําตาม นี่คือความหมายของคำว่า หล่นจากพระคุณ
หล่นจากพระคุณ ก็คือเราเริ่มที่จะเชื่อฟังพระเจ้า เราเริ่มใช้ชีวิตของเรา ใช้ตัวเก่าของเรา ตัวอาดัมนี้เพื่อดําเนินชีวิตที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า เพื่อรักษาพระบัญญัติของพระเยซู และรักษาพระบัญญัติ 10 ประการในพระคัมภีร์เดิม นี่คือความหมายนี่คือ การหล่นจากพระคุณ
ถามว่า: อยู่ใต้พระคุณล่ะ คืออะไร? แล้วทํายังไงเราจึงจะไม่หล่นจากพระคุณ?
คำตอบ: การที่จะไม่หล่นจากพระคุณ ก็คืออยู่ใต้พระคุณ การอยู่ใต้พระคุณก็คือการยอมให้พระเยซูคริสต์ที่เป็นพระวิญญาณทําแทนเรา เราไม่คู่ควรกับพระบัญญัติ พระบัญญัติใหม่ของพระเยซูยากขึ้นหนักขึ้น (แค่คิดก็ผิดแล้ว) เพราะฉะนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะรักษาพระบัญญัติใหม่ของพระเยซูได้และเรายิ่งพยายามทําเราก็ยิ่งล้มเหลว
เชื่อว่าพี่น้องส่วนมากมีประสบการณ์เหมือนอาจารย์เปาโล คือเมื่อเราจะทําดีพยายามเชื่อฟังพระบัญญัติเมื่อไหร่ เราก็ล้มเหลวทําบาปเมื่อนั้นใช่ไหม?
เพราะฉะนั้นการที่เราจะไม่หล่นจากพระคุณและอยู่ใต้พระคุณตลอดไป ก็คือเลิกเชื่อฟังพระเจ้าด้วยตัวเก่าของเรา ไม่ใช่เลิกเชื่อฟังพระเจ้าและไปทําบาปไม่ใช่..
การที่เราเลิกเชื่อฟังพระเจ้าด้วยตัวเก่าด้วยความชอบธรรมเก่าด้วยความชอบธรรมที่ตายแล้ว แล้วเราหันมายอมจํานนต่อพระเยซูคริสต์ ให้พระเยซูคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณที่อยู่ในเรา ทําดีแทนเรา เชื่อฟังพระเจ้าแทนเรา เกิดผลแห่งพระวิญญาณแทนเรา อันนี้เรียกว่า "อยู่ใต้พระคุณ"
ส่วนความดีที่ตายแล้วคืออะไร? ความดีที่ตายแล้วหรือความชอบธรรมที่ตายแล้ว ก็คือการใช้ความดีของเราเองที่ได้รับจากอาดัมที่ได้รับเมื่อเราเกิดมา มนุษย์ทุกคนก็พอจะมีความดีอยู่บ้างใช่ไหม? เพราะฉะนั้นเป็นสิ่งที่ผิด.. เนื่องจากเราไม่เข้าใจ..
การดำเนินชีวิตในพระคริสต์ที่แท้จริงก็คือ เมื่อเราเชื่อพระเจ้า มีพระเยซูคริสต์เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ขั้นตอนต่อมาก็คือ เราพระเยซูก่อร่างสร้างตัวของพระองค์ขึ้นอยู่ในเรา และเรายอมให้พระองค์เป็นผู้ดําเนินชีวิตแทนเราในเราทุกวัน
การที่พระเยซูจะก่อร่างสร้างตัวพระองค์ขึ้นและเติบโตขึ้นในชีวิตของเราและทําดีแทนเรา เป็นสิ่งที่จะต้องใช้เวลา
เนื่องจากว่าคริสเตียนไม่เข้าใจ เราเชื่อพระเจ้าปุ๊บไปโบสถ์ อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ พบคําสอนคําพบคําสั่งสอนมากมายของพระเยซูอ่านเจอพระบัญญัติ 10 ประการ เราก็พยายามรักษาพระบัญญัติให้ได้ อันนี้เป็นการดําเนินชีวิตคริสเตียนที่ผิด
เพราะฉะนั้นชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง คือเราจะต้องพึ่งพระเยซูคริสต์ที่เป็นพระวิญญาณที่มาอยู่กับเราอยู่ในเราและรอคอย วันหนึ่งเราจะยอมจํานนต่อพระเจ้า และเราจะไม่เชื่อฟังไม่ทําดีด้วยตัวเก่าของเรา และยกหน้าที่การงานนี้ให้เป็นของพระเยซูที่อยู่ในเราทําแทนเรา อันนี้คือความหมายที่แท้จริงของการอยู่ใต้พระคุณ
ใต้พระบัญญัติ ก็คือเราพยายามทําดี เชื่อฟังพระเจ้า เพื่อให้พระเจ้าพอพระทัย
ใต้พระคุณ ก็คือเรายอมจํานน ให้พระเยซูในสภาพของพระวิญญาณที่อยู่ในเราทําดีแทนเรา
law it do you for God
grace it Chris do for you
พระบัญญัติ เราทําเอง เพื่อพระเจ้าพอพระทัย
พระคุณ พระคริสต์ทําแทนเรา เพื่อพระเจ้าพอพระทัย
...
คำพยาน:
ผมเป็นคริสเตียนมาสี่สิบกว่าปีนะครับยังไม่เคยได้เข้าใจ ไม่รู้ พยายามทําดีเปลี่ยนแปลงชีวิต แต่ล้มเหลวมาตลอด จนกว่าพระเจ้าเปิดตาและให้ผมได้รู้ว่าชีวิตคริสเตียนที่แท้จริงไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัตินะครับ ชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง คือการสนิทกับพระเจ้า คือการสร้างความสัมพันธ์ คือการมีความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเยซูคริสต์กับพระเจ้า พระเยซูตรัสว่า ถ้าเจ้าสนิทในเรา เจ้าก็จะเกิดผล และจะเกิดผลมาก
...
ผู้เชื่อส่วนมากผ่านการดําเนินชีวิตที่ใช้ตัวเก่าใช้ความชอบธรรมเก่าความดีเก่า ซึ่งเป็นความชอบธรรมความดีที่ตายแล้วถวายแด่พระเจ้า
เราทำกันมาเรื่อยๆ จนกว่าวันหนึ่งพระเจ้าเปิดตาให้เรารู้และเข้าใจว่าผู้ที่ทำแทนเรา คือพระคริสต์ในสภาพของพระวิญญาณ เพราะว่าเราไม่คู่ควรกับพระบัญญัติ
แต่เรื่องที่น่าเศร้าก็คือผู้เชื่อมากมายทุกวันนี้ยังดำเนินชีวิตที่ใช้ตัวเก่าและความชอบธรรมความดีเก่าที่ตายแล้วทุกวัน เพื่อรับใช้พระเจ้า เพื่อดำเนินชีวิต เพื่อรักษาพระบัญญัติ เพื่อการเชื่อฟัง อันนี้คือ "การหล่นจากพระคุณ"