ถาม.
พี่น้องอยากทราบว่า "บาปภายนอกกับบาปภายใน" มันแตกต่างกันอย่างไร แล้วก็มันรุนแรงกว่ากันแค่ไหน หมายถึงว่าการลงโทษอะไรแบบนี้ค่ะ ถ้าทำบาปภายในกับบาปภายนอก แตกต่างกันอย่างไรและมีบทลงโทษจากพระเจ้าหนักเบาแค่ไหนคะเอเมนค่ะ
ตอบ.
บาปภายนอกมีอะไรบ้าง บาปภายในมีอะไรบ้างครับ หรือยกตัวอย่างสักเรื่องนึงก็ได้
ถาม.
ตามที่เราเข้าใจใช่มั้ยค่ะ บาปภายในก็คือความโกรธความหยิ่งความโลภความคิดในด้านลบอ่ะค่ะที่ไม่ดี บาปภายนอกก็คือไปโกงคนไปด่าคนแล้วก็ไปเอารัดเอาเปรียบคน อะไรแบบเนี้ยค่ะ
ตอบ.
โอเค นี่คือความเข้าใจของพวกเราใช่ไหม ที่บอกว่าบาปภายในมันคือความคิดกิเลสตัณหาโลภโกรธหลงที่คิดอยู่ที่ยังไม่ได้ทำ แล้วบาปภายนอกก็คือสิ่งที่เราไปทำแล้ว ถูกไหมครับ
ถาม.
ใช่ค่ะ
ตอบ.
โอเค สำหรับกฎหมายใหม่ของพระเยซู พระบัญญัติใหม่นะครับ การที่เรายังไม่ได้ทำไม่ได้เรียกว่าบาปภายในหรือบาปภายนอกอะไรทั้งหลาย สำหรับพระเจ้านะครับแค่คิดก็เหมือนทำแล้วก็ได้ทำแล้ว โทษเท่ากัน
เราจำกันได้ไหมในหนังสือมัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 บทที่ 7 คนที่มองผู้หญิงด้วยใจกำหนัดคนที่มองผู้ชายด้วยใจกำหนัดก็ได้เล่นชู้กับคนนั้นแล้ว ถูกไหมครับ
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเราจะคิดและยังไม่ได้ทำ อย่าคิดว่ามันเบาหรือไม่บาปหรืออะไรนะครับ แต่สำหรับพระเจ้ากฎหมายใหม่ของพระเยซู แม้แต่เราคิดก็ถูกนับว่าได้กระทำแล้วถูกตัดสินว่าได้ทำแล้ว เป็นบาปที่เท่ากัน เพียงแค่เรายังไม่ได้กระทำออกมาแต่เราคิดอยู่ แล้วเราไม่หยุดความคิดไม่ห้ามความคิดของเรา เราให้มันดำเนินไปต่อเรื่อยๆ แล้วเชื่อเถอะครับเมื่อมีโอกาสอาจจะทำ หรืออาจจะไม่กล้าทำอยู่ แต่ก็ยังคิดอยู่ กระหึมกระหึมอยู่ในหัวใจเราอยู่ อยู่ในหัวเรา
สำหรับพระเจ้า พระคัมภีร์ใหม่กฎหมายใหม่ถูกเรียกว่า พระเจ้าตัดสินว่าเป็นการที่ได้กระทำผิดแล้ว มีโทษเท่ากับการทำหรือยังไม่ได้ทำ ก็มีโทษเท่ากัน เอเมน
และเมื่อผู้ชายหรือผู้หญิง มองผู้หญิงผู้ชายด้วยใจกำหนัดเนี่ย อย่าให้ถึง 7 ก้าว อย่าให้ถึง 7 วินาที เมื่อเราคิดอยู่เรามองอยู่แล้วปรากฏว่าเราบอกว่า “เนี่ยนะเรากำลังจะทำผิดต่อพระบัญญัติของพระเจ้า เราเอเมนพระเยซู เข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เดินในพระวิญญาณ สนิทบอกรักพระเยซูทันที” แล้วพระเจ้าก็หยุดเราให้เลิกคิดนะครับ ความผิดของเราก็ยังไม่ได้ถูกตัดสินโดยพระเจ้า โดยความรู้สึกผิดชอบที่อยู่ในเรามันจะตัดสินเรา แล้วคำตัดสินนี้จะถูกบันทึกไว้โดยพระเจ้าโดยทูตสวรรค์
แต่เมื่อเราคิดอยู่ แล้วเราห้ามใจไม่ได้ เราสนิทยังไม่พอ กระบวนการการเปลี่ยนแปลงยังไม่มา เรายังมีกิเลสตัณหา แล้วเราก็คิดต่อไป มันก็ถูกนับถูกตัดสินโดยพระเจ้าว่าผิดแล้วจากความรู้สึกผิดชอบของเราแล้วทูตสวรรค์ก็บันทึกไว้ การตีสอนก็จะมา แต่เมื่อเราสารภาพบาปเราขอความเมตตาจากพระเจ้า เราบอกว่า..
“พระองค์ชำระข้าเถิด เมื่อไหร่จะชำระข้าพระองค์ ข้าพระองค์จะได้ไม่มีกิเลสตัณหาอีกต่อไป ขอเมตตาเถิด ข้าพระองค์เป็นบุตรพระเจ้าไม่อยากทำบาป อยากทำแต่สิ่งที่ดีๆ ให้กับพระเจ้า”
เราก็เข้าไปอยู่ในกระบวนการการเปลี่ยนแปลง แล้วไม่นานต่อมาอาจจะเป็นเดือนเป็นปีไปนะครับ สุดท้ายพระเจ้าก็ทำให้เรายกเลิกความคิดที่เป็นกิเลสตัณหาได้ เมื่อเรามองผู้หญิงผู้ชายด้วยใจกำหนัด มองปุ๊บเนี่ย 7 วินาทีผ่านไปเราบอกว่าหยุด “เอเมนรักพระเยซู” เรารู้เคล็ดลับเรารู้ความจริงเรามีกฎแห่งพระวิญญาณที่มีพลังเหมือนระเบิดไดนาไมท์อยู่ในเรา เราหยุดมันได้ทันที
แต่ตอนนี้ถ้าใครยังหยุดไม่ได้ ยังคิดอยู่ แล้วก็ได้ทำผิดต่อพระเจ้า ขอการชำระนะครับ ทุกครั้งที่เราต้องการจะเปลี่ยนแปลง รับการชำระให้เราเลิกทำบาปได้ ทุกครั้งที่เราสารภาพต้องมีการขอการชำระตามมา อย่าลืมนะครับ เมื่อเราขอพระเจ้ายกโทษให้เรา สิ่งที่ตามมาเราต้องขอพระเจ้าให้ชำระ คือ “พระบิดายกโทษให้ข้าพระองค์เถิดเมื่อกี้ข้าพระองค์มองผู้หญิงด้วยใจกำหนัด แล้วก็สำเร็จไปเรียบร้อย ทำผิดต่อพระองค์เรียบร้อยไปแล้ว” ยังไม่ได้ทำอะไรนะแต่ความคิดมันไปมันเลยเกิน 7 ก้าว มันก็ได้ทำผิดไปแล้ว ทูตสวรรค์บันทึกไปแล้ว
เราขอการยกโทษบาปกับพระเจ้า แล้วยังไม่พอ “พระเยซูขอบคุณที่พระองค์ยกโทษให้ข้าพระองค์ แต่สิ่งหนึ่งที่ข้าพระองค์ต้องการ ก็คือ อยากจะเลิกทำ ไม่อยากทำมันอีกต่อไป ไม่อยากมองผู้หญิงด้วยใจกำหนัด มองผู้ชายด้วยใจกำหนัด ขอพระองค์ชำระข้าพระองค์ให้ข้าพระองค์เลิกทำบาปได้” ในที่สุดพระองค์ก็ช่วยนะครับ นำเราเข้าสู่มานาที่ซ่อนไว้ นำเราเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลง
หน้าที่ของเราสิ่งเดียวก็คือสนิทในพระเยซู หน้าที่ของพระเจ้าก็คือนำการเปลี่ยนแปลงมาสู่เรา เอเมน
อีกครั้งนะครับไม่มีบาปภายนอกไม่มีบาปภายใน มีแต่บาปเดียว ถ้าเราคิดก็ถูกนับว่าเป็นการที่ได้กระทำไปแล้ว ความรู้สึกผิดชอบของเรามันตัดสิน แล้วทูตสวรรค์ก็ได้จดบันทึกเอาไว้ แต่การตีสอนจะมีน้อยเมื่อเราสารภาพและขอการชำระ
• บาปที่นำไปสู่ความตาย ก็คือ หมิ่นประมาทพระวิญญาณบริสุทธิ์ในด้านของการทำในสิ่งที่เลวร้าย กราบไหว้รูปเคารพ มีส่วนในพิธีกรรมต่างๆ ของศาสนาอื่น ซึ่งเป็นเรื่องของการนอกใจพระเจ้า เล่นชู้กับพระเจ้าในฝ่ายวิญญาณ สิ่งนี้เป็นอันตรายมากสำหรับคริสเตียน การกินของไหว้การเข้าไปมีส่วนในพิธีกรรมพิธีการต่างๆ ที่ศาสนาอื่นเขาทำกันอยู่ เขาเรียกผีเขามา เรียกพระเขามา แต่ผีมาซาตานมา แล้วเราไปพนมมือไปกราบไหว้ไปมีส่วนร่วมกับสิ่งเหล่านั้น เป็นการผิดที่ยิ่งใหญ่สำหรับพระเจ้า อาจจะนำไปถึงเป็นเรื่องของความบาปที่นำไปสู่ความตายนะครับ
• แต่ความบาปที่ไม่นำไปสู่ความตาย ก็คือ การโกหก การเล่นชู้ การทำอะไรผิดต่อบ้านเมือง ผิดต่อมนุษย์ ผิดต่อกันและกัน อันนี้เป็นเรื่องของการผิดต่อมนุษย์นะครับ ไม่ได้ผิดต่อพระเจ้า
แต่ความผิดที่ตรงโดยตรงเป็นสายตรง direct ไปสู่พระเจ้า ก็คือ การเล่นชู้เรื่องฝ่ายวิญญาณ การกราบไหว้พระอื่น การกินของไหว้
บางคนอาจจะถามว่าถ้ากินโดยที่ไม่รู้ล่ะว่ามันเป็นของไหว้หรือเปล่า ถ้าเขาไม่บอกเรานะครับว่าเป็นของไหว้ เขาไหว้มาแล้ว แล้วเอามาให้เรากินเพราะว่าเราไปเยี่ยมบ้านเขา ไม่ผิดนะครับ เรากินเถิดกินด้วยการขอบพระคุณ
แต่ถ้าเขาบอกเอาอาหารมาแล้วบอกว่า เนี่ยของไหว้นะ แล้วเราไปดื้อกินนะครับ ก็ทำให้เขา 1. ทำให้เขาเองสะดุดคนที่เอามาให้เนี่ยสะดุด 2. ก็คือทำให้พระเจ้าตีสอนเรา