ถาม.
มีคนที่เชื่อในพระเจ้าแล้ว แต่ไม่ยอมประกาศกับใคร ไม่ยอมบอกใคร คือเชื่อแบบเงียบๆ เก็บไว้คนเดียวอย่างเงี้ยค่ะ เพราะว่าในพระคัมภีร์บอกว่า ถ้าเราไม่ยอมรับพระเยซูต่อหน้ามนุษย์ พระเยซูก็จะไม่รับเราต่อหน้าพระบิดาเหมือนกัน ขออาจารย์ช่วยตอบหน่อยค่ะเอเมน
ตอบ.
สำหรับคริสเตียนบางคนพอเชื่อปุ๊บเนี่ยคือไม่อยากไปประกาศ อาจจะเป็นคนที่ไม่กล้าพูด อาจจะเป็นคนขี้อาย หรือมีเหตุผลบางอย่างนะครับ พระเยซูตรัสว่าคนที่รับเราต่อหน้าผู้อื่น เราก็จะรับเขาต่อหน้าพระบิดา ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องไปประกาศไปบอกทุกคนว่าเราเป็นคริสเตียน ไม่ใช่ไม่ใช่แล้วนะครับ
คือการดำเนินชีวิตของเรา ให้เขาเห็นว่าเราเป็นคริสเตียน เรารัก เราช่วยเหลือ เราอภัย เรายกโทษ เรารักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง การกระทำของเรามันฟ้องแล้วว่าเรายอมรับเขาต่อหน้าทุกคน แล้วพระเยซูก็จะรับเราต่อหน้าพระบิดานะครับ
และเมื่อมีคนถามนะครับไม่ใช่ว่าเราจะบอกเขาว่าผมเป็นมุสลิม หรือผมเป็นอย่างอื่น ผมไม่ใช่คริสเตียน อันนี้ผิดครับ
คือเราบอกได้ แต่เราบอกในลักษณะที่ไม่อวด หรือไม่ข่มใครนะครับ ไม่ด้อยค่าใคร "ใช่ ผมเชื่อพระเยซูผมไม่ใช่ศาสนาคริสต์ แต่ผมเชื่อพระเยซู" เท่านั้นครับ ไม่จำเป็นต้องบอกใครนะครับ ความหมายก็คือเมื่อมีโอกาส เมื่อมีโอกาสมีคนถามเรา เราตอบนะครับ
ยกตัวอย่าง: เมื่อมีใครบางคนที่ถูกจับ แล้วก็ข่มเหงนะครับแล้วบอกว่า เลิกเชื่อพระเยซู ถ้าไม่อย่างนั้นก็คือจะฆ่าทิ้งทั้งครอบครัว คืออันนี้เราอาจจะจำเป็น จำเป็นที่จะบอกว่า โอเคไม่เอาก็ได้ ไม่เอาก็ได้ แต่หลังจากนั้นนะครับก็คือครอบครัวเราทั้งครอบครัว รอดเพราะเห็นแก่คำตอบของเรา จากนั้นเราก็สารภาพบาป ขอพระเยซูยกโทษให้เรา เราก็ไม่สูญเสียความรอดนะครับ แต่เราทำเนี่ยมันเป็นการทำที่เราจะถูกตีสอน หรือพระเจ้าอาจจะเอาชีวิตของเราไปในโลกนี้เท่านั้นครับ
ถามว่าทำไมมานาฯ สอนแบบนี้ ปฏิเสธพระเยซูแล้วจะรอดเหรอ ก็ดูสิดูเปโตรสิ เปโตปฏิเสธพระเยซูกี่ครั้ง 3 ครั้ง ท่านรอดไหม (รอด) อย่าลืมว่ามนุษย์อ่อนแอนะครับ เปโตรเป็นคนที่ก้าวร้าว เป็นคนที่เข้มแข็งในความเชื่อ เดินกับพระเยซูมาตลอด แต่พอถึงเวลาที่คับขัน ก็คือเขากลัวมาก ความกลัวมันเข้าตา ท่านจึงปฏิเสธพระเยซูไปถึง 3 ครั้ง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พระเจ้าเป็นความรัก อย่าลืมน่ะ และท่านกลับใจ กลับมาหาพระเยซู พระเยซูก็รับแล้วก็ให้เป็นอัครสาวกเหมือนเดิม ไม่ทอดทิ้ง ไม่ปลด ไม่ให้ปลดตำแหน่งก็คือตำแหน่งเดิมนะครับ แล้วพระเจ้าก็ใช้เขาให้เกิดผล เห็นไหมครับความรักของพระเจ้ายิ่งใหญ่มาก
ซึ่งทำให้คริสเตียนมากมายทุกวันนี้เข้าใจว่า คนที่ปฏิเสธพระเยซูต่อหน้าผู้อื่น ก็คือพระเยซูจะปฏิเสธเขา ไม่นะครับ ดูเปโตรเป็นตัวอย่าง ถ้าหากเราปฏิเสธต่อหน้าเนื่องจากว่าความจำเป็นเห็นแก่ครอบครัวเราที่จะต้องถูกข่มเหงถูกฆ่า เราปฏิเสธแล้วเราสารภาพบาป แล้วกลับใจมาหาพระเยซูอีกรอบหนึ่งนะครับ พระเจ้าก็จะรับเราและไม่ทอดทิ้งเรา เราจะไม่สูญเสียความรอดเป็นอันขาด เอเมน แต่การตีสอนมีนะครับมีการตีสอนครับ
...
ถาม.
แล้วในกรณีที่เขาเชื่อพระเยซูแล้ว แต่เขายังไปร่วมพิธีกับญาติพี่น้องคนคนเดิม อย่างพี่สาวเขาเชื่อพระเจ้าก็จริงแต่ว่า เขาก็ยังไปกราบไหว้รูปเคารพ ทำเหมือนเดิมอ่ะค่ะ เพื่อที่แบบว่าจะไม่ได้ถูกปฏิเสธจากคนอื่น ไม่ถูกคนอื่นเขารังแกอะไรอย่างนี้ค่ะ เขาก็ยังทำมาแบบนี้เดิมๆ ทั้งที่บอกว่าเชื่อพระเยซูแล้ว แต่เขาก็ยังกราบไหว้รูปเคารพ ไปทำพิธีเหมือนเดิมอะไรอย่างนี้ค่ะ ก็เลยมีคำถามค่ะ
ตอบ.
ถ้าเขาทำด้วยความเต็มใจ ด้วยความเต็มใจและด้วยเข้าใจดีว่าพระเจ้าจะตีสอน เขาไปทำนะครับ ก็คือเขาจะถูกตีสอนโดยพระเจ้า
แต่เขาทำโดยที่ความเชื่อยังเด็กอยู่ และโดยที่ความไม่เข้าใจนะครับ โดยที่ความไม่เข้าใจ ก็จะถูกตีสอนน้อย การตีสอนจะมีแน่นอนนะครับ คนที่รับพระเยซูเป็นพระเจ้าและเป็นพระผู้ช่วยให้รอด มีพระเจ้าเป็นพระบิดาของเขา เมื่อไปกราบไหว้พระอื่นก็คือเรียกว่าการเล่นชู้ เล่นชู้ฝ่ายวิญญาณ เพราะฉะนั้นการตีสอนจะมีไม่มากก็น้อย แน่นอนครับต้องมี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเขาจะรอด เมื่อเขาไม่ทอดทิ้งพระเยซู เมื่อเขาไม่ปฏิเสธพระเยซู บอกว่า วันนี้ข้าพเจ้าชื่อนู้นนนี่นั่น แล้วบอกว่าวันนี้จะไม่รับพระเยซูอีกแล้ว ตัดพระเยซูไม่รับพระเยซู ไม่เอาศาสนาคริสต์ไม่เอาพระเยซูเป็นพระเจ้าของเขา อันนั้นคือเขาไม่ได้บังเกิดใหม่ ไม่เคยบังเกิดใหม่เลย และเขาก็จะไม่รอดครับ
สำหรับพี่สาวความรอดเป็นของเขาแน่นอนแล้วนะครับ แต่การตีสอนจะมีเมื่อเขาไปเล่นชู้กับพระเจ้า ก็คือกราบไหว้พระอื่น นอกใจพระเจ้าครับ
เราจะไปวัด เราจะไปสุเหร่า ไปที่ไหนก็ตาม ที่มัสยิด ที่ไหนก็ตามที่เป็นที่ของศาสนาอื่นเขาอยู่กันเขาทำกันเขาไปทำพิธีกรรม เราไปได้เราเข้าไปได้ ขอเพียงแต่ว่า “เราไม่กราบไหว้และกินสิ่งที่เขากราบไหว้พระของเขาเท่านั้นเอง”
อีกครั้งนะครับเปาโลบอกว่า โดยพระวิญญาณนะครับ ข้าพเจ้ายอมเป็นยิวเพื่อให้ได้ชนะใจเขา ข้าพเจ้ายอมเป็นคนต่างชาติเพื่อให้ได้ชนะใจคนต่างชาติ เพื่อจะนำเขามาสู่พระเยซูคริสต์ให้เขาได้รับความรอด ได้มีความสุขในการดำเนินชีวิตในโลกนี้ (1 โครินธ์ 9:19-23 )