ถาม:
อาจารย์ ชีวิตคนเกิดมาทำไมคะ มีความยากลำบาก มีชีวิตอยู่ทุกวันมีแต่ปัญหา
ตอบ:
ผีเสื้อตัวหนึ่ง พยายามอย่างมากมาย เพื่อจะให้ได้หลุดพ้นจากรังไหมที่หุ้มรอบตัวของมัน
หลายชั่วโมงผ่านไป ผู้ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า เขานึกสงสาร และอยากจะช่วยมัน เขาจึงเดินกลับบ้านไปเอากรรไกรมาตัดรังไหม เพื่อช่วยผีเสื้อตัวนั้นให้หลุดพ้นจากรังไหมดังกล่าว...
จากนั้นเขาก็นั่งรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผีเสื้อกลับเดินไปเดินมาไม่ยอมบินซักที เพราะว่าปีกของมันเล็กจึงบินไม่ได้
ผู้ชายคนนี้ไม่รู้ว่า เป็นปกติธรรมชาติที่พระเจ้าสร้างผีเสื้อให้ผ่านขั้นตอนที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ดิ้นรน และต่อสู้อยู่ในรังไหมตามกำหนด เพื่อให้ร่างกายส่งสารเหลวบางอย่างมาที่ปีกให้แข็งแรงและบินได้
น่าเสียดาย ที่ความเมตตาสงสารของผู้ชายคนนี้กลับเป็นเหตุให้มันพิการ และบินไม่ได้อีกเลยตลอดชีวิตของมัน
...
ผีเสื้อตัวนั้น ก็คือคริสเตียนที่ไม่โต ไม่มาถึงสันติสุขทุกวันเวลา และรับจิตใจใหม่
อยู่ในรังไหม คือขั้นตอนเพื่อให้เราเข้าสู่การเติบโตสู่พระลักษณะของพระเยซูคริสต์
การดิ้นรนต่อสู้ และทนทุกข์ทรมานในรังไหม คือปัญหาเลวร้ายต่างๆ รวมทั้งข่าวร้าย และความไม่ยุติธรรมที่ผู้อื่นทำกับเรา ฯลฯ
ผู้ชายคนนั้น ก็คือพี่น้องคริสเตียน ผู้นำ ผู้สอน และนักเทศน์ที่รัก เมตตา และหวังดีต่อเรา แต่ไม่รู้ตัวว่าเขาสอนผิด นำเราไปในทางที่ผิดต่อน้ำพระทัย สัญญาว่าชีวิตจะดีขึ้นในทุกด้าน ขอเพียงแต่เชื่อ เชื่อฟัง และถวายเยอะๆ แถมยังกล่าวหาว่า มานาที่ซ่อนอยู่หรือพระคำล้ำลึกนี้เป็นคำสอนเทียมเท็จ (เพราะเขาไม่รู้)
กรรไกรที่ตัดรังไหม ก็คือคำสอนเรื่องต้องเชื่อฟัง และต้องพยายามของยุคพระบัญญัติ และเรื่องชีวิตราบรื่นที่ได้มาจากการเชื่อฟัง ไม่มีการสอนที่เน้นเรื่องต้องผ่านความทุกข์ และถ้ามีปัญหาก็คือถูกพระเจ้าลงโทษ ซึ่งสอนกันแพร่หลายท่ามกลางสังคมคริสเตียนทุกวันนี้ เพราะว่าเขาไม่เข้าใจเรื่องความแตกต่างเกี่ยวกับยุคเก่ายุคใหม่ หรือยุคพระบัญญัติและยุคพระคุณนั่นเอง เขาจึงนำเอาคำสอนของยุคพระบัญญัติมาสอนในคริสตจักร อย่างเช่น:
1. การเชื่อฟังพระเจ้า รักษาพระบัญญัติสิบประการ รวมทั้งคำสอนของพระเยซู และซื่อสัตย์ในการถวาย (ด้วยอาดัมคนเก่า) พระเจ้าจะอวยพร ชีวิตจะราบรื่นไม่มีปัญหา การงานการเงินก็ดี สุขภาพดี ครอบครัวอบอุ่น ผัวเมียไม่ชกต่อย ตบตี หรือทะเลาะกัน ฯลฯ
2. เมื่อชีวิตไม่ราบรื่น ก็อธิษฐานขอพระเจ้าให้มันผ่านพ้นไป ไม่เคยคิดว่ายุคนี้เราอยู่เพื่อข่าวประเสริฐ และสำแดงชีวิตที่รัก ชอบธรรม ยกโทษ อดทนนาน และเมตตาต่อผู้อื่นเพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้า ยุคนี้เราต้องผ่านขั้นตอนแห่งความยากลำบากเพื่อการเติบโต พระเจ้าให้เรามีมากหรือมีน้อยเท่าไหร่เราขอบพระคุณ และไม่ดิ้นรนเป็นทุกข์ ยุคหน้าและสวรรค์ใหม่โลกใหม่คือเวลาแห่งการรับผลตอบแทน และสิ่งที่พระเจ้าประทานให้เราทุกวันก็คือสันติสุข กับการสถิตอยู่ด้วย จะมีซักกี่คนที่รู้ว่า แม้แต่เรื่องร้ายเล็กน้อยเรื่องเดียวก็ไม่อาจมาถึงเราได้ ถ้าพระเจ้าไม่อนุญาต…
ออกจากรังไหมก่อนกำหนด ก็คือชีวิตที่ไม่ครบบริบูรณ์ และพิการจนวันตาย เราไม่มีโอกาสรับจิตใจใหม่จากพระเจ้า ไม่มีสันติสุขทุกวันเวลา ท่ามกลางความทุกข์ยากลำบากที่ผ่านเข้ามาในแต่ละวัน ชีวิตยังต้องขึ้นลงๆ บาป เชื่อฟัง สุขบ้างทุกข์บ้าง และรัก ดี ถ่อม และอดทนนานแบบพระเจ้าไม่ได้
เราชอบบ่นน้อยใจว่า “ทำไมชีวิตของฉันต้องมาเจอแต่เรื่องร้ายๆ แบบนี้…ทำไม???”
ถ้าหากพี่น้องท่านใดสนใจ และต้องการการเติบโตสู่ชีวิตใหม่ที่แท้จริง ไม่ต้องสวมหน้ากากอีกต่อไป ทั้งยังมีสันติสุขได้ทุกเวลา ท่ามกลางปัญหา/ข่าวร้ายร้อยแปดพันประการได้ ติดต่อทีมงานของเราได้ทุกเวลา
ขอพระเจ้าช่วยเราให้หลุดพ้นจากคำสอนของยุคเดิม เพื่อเราจะได้พ้นจากการเป็นคริสเตียนพิการ ที่ไม่อาจบินขึ้นสู่ท้องฟ้า และหลุดพ้นจากแอกและภาระหนัก ที่เราแบกไปจนวันตาย!
มธ. 13:6 แต่เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นมันก็ถูกแผดเผา จึงเหี่ยวไปเพราะรากไม่มี
มธ. 7:24 เหตุฉะนั้น ผู้ใดที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่มีสติปัญญาสร้างเรือนของตนไว้บนศิลา
7:25 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลท่วม ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น แต่เรือนมิได้พังลง เพราะว่ารากตั้งอยู่บนศิลา
7:26 แต่ผู้ที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและไม่ประพฤติตาม เขาก็เปรียบเสมือนผู้ที่โง่เขลาสร้างเรือนของตนไว้บนทราย
7:27 ฝนก็ตกและน้ำก็ไหลท่วม ลมก็พัดปะทะเรือนนั้น เรือนนั้นก็พังทลายลง และการซึ่งพังทลายนั้นก็ใหญ่ยิ่งนัก”
บทความเพิ่มเติม : เราต้องเจอแสงแดด ปัญหา มรสุมชีวิต