2:8 จงระลึกถึงพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสืบเชื้อสายจากดาวิด ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตาย ตามข่าวประเสริฐที่ข้าพเจ้าประกาศนั้น
** ระลึก คือ จำ จดจำ remember คือเปาโลต้องการเตือนให้ยิวได้รู้ว่า ข่าวประเสริฐของพระเจ้าเป็นจริง คือพระเยซูมาจากเชื้อสายของกษัตริย์ดาวิดเป็นชาวยิว พระองค์ผู้นี้จะเป็นขึ้นมาจากความตาย
2:9 และเพราะเหตุข่าวประเสริฐนั้น ข้าพเจ้าจึงทนทุกข์ ถูกล่ามโซ่ดังผู้ร้าย แต่พระวจนะของพระเจ้านั้นไม่มีผู้ใดเอาโซ่ล่ามไว้ได้
** ในข่าวประเสริฐของพระเจ้า ทำให้มนุษย์มีความหวัง เปาโลจนต้องยอมถูกกักขังทนทุกข์ทรมาน ทั้งนี้ทั้งนั้น ไม่มีสิ่งใดที่จะขัดขวางหรือมีอำนาจเหนือข่าวประเสริฐได้
2:10 เหตุฉะนั้นข้าพเจ้าจึงยอมทนทุกอย่าง เพราะเห็นแก่ผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้นั้น เพื่อเขาจะได้รับความรอดด้วย ซึ่งมีอยู่ในพระเยซูคริสต์ พร้อมทั้งสง่าราศีนิรันดร์
** คนยิวและต่างชาติที่จะรอด คือผู้ที่พระเจ้าเลือกเอาไว้แล้ว คือพระเจ้ามองที่จิตใต้สำนึกของมนุษย์ทั้งที่เขายังไม่ได้กำเนิด และตั้งแต่โลกนี้ยังไม่ได้ถูกสร้างขึ้น สรุปก็คือ พระเจ้าทรงทราบล่วงหน้าว่าใครจะรอดหรือไม่รอด และใครจะได้เข้าไปในอาณาจักรหรือไม่ได้เข้า อย่างไรก็ดี เราที่เป็นสาวกของพระเยซู ต้องประกาศข่าวประเสริฐของพระเจ้าอย่างครบถ้วนเพื่อทุกคนจะได้ยินได้ฟัง
2:11 คำนี้เป็นคำสัตย์จริง คือถ้าเราตายกับพระองค์ เราก็จะมีชีวิตอยู่กับพระองค์เช่นกัน
** เราตายแล้วกับพระเยซู เราถูกตรึงร่วมกับพระองค์ในพระองค์เมื่อสองพันปีก่อน นี่คือสิ่งที่เราจะต้องเชื่อ ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นแล้ว และนับทุกวันเพื่อเราจะเจริญขึ้นในการตายดังกล่าว (มีประสบการณ์การตายต่ออาดัม ร่างกายแห่งความบาปจะอ่อนแอจนตัวบาปบังคับให้ทำบาปไม่ได้อีก ในที่สุด ตัวบาปก็จะไม่มีที่อาศัยในเรา เมื่อเราตายกับพระเยซู และสามวันต่อมาพระองค์ถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายเราก็จะเป็นขึ้นและมีชีวิตร่วมกับพระองค์เช่นกัน เพราะฉนั้น การเชื่อและนับว่าเราเป็นคนใหม่แล้วทุกวัน พระวิญญาณจะทำให้เราเจริฐขึ้นในการมีชีวิตใหม่ในพระคริสต์เช่นกัน (โรม 6:3-8)
2:12 ถ้าเราทนความทุกข์ทรมาน เราก็จะได้ครองร่วมกับพระองค์ด้วย ถ้าเราปฏิเสธพระองค์ พระองค์ก็จะปฏิเสธเราเช่นเดียวกัน
** พระเยซูทรงทนทุกข์ ลำบาก ถูกข่มเหงฉันใด เราที่เป็นบุตรที่รักที่ได้รับการเปิดตา เราถูกเลือกให้เข้ามามีส่วนร่วมครอบครองกับพระองค์ชั่วนิรันดร์ทั้งในยุคหน้าและแผ่นดินโลกใหม่ และผู้ที่จะปฏิเสธข่าวประเสริฐและพระคำแห่งความจริงทั้งหมดก็จะถูกปฏิเสธเช่นเดียวกัน
2:13 ถ้าเราไม่เชื่อ พระองค์ก็ยังทรงไว้ซึ่งความสัตย์ซื่อ เพราะพระองค์จะปฏิเสธพระองค์เองไม่ได้
** พระเจ้าเป็นองค์สัตย์ซื่อ เที่ยงธรรมและยุติธรรม ทุกสิ่งที่มนุษย์และคริสเตียนกระทำก็จะได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอนทั้งในชีวิตนี้และยุคหน้า
พี่น้องสามารถแบ่งปัน ...
- ความรู้ความเข้าใจเรื่องการตายและเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู และประสบการณ์จริงที่ได้รับเมื่อนำมาฝึกในชีวิตประจำวัน
- วิธีการฝึกของพี่น้องที่เกิดผล และข้อบกพร่องที่ทำให้ไม่เห็นผล
เจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู
และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระองค์
Likeness / form / resemblance
Let us create man according to our likeness
การดำเนินชีวิตคริสเตียนไม่ใช่พยายามทำดีและเลิกทำบาปให้ได้ ไม่ใช่พยายามถวายสิบลดอย่างสัตย์ซื่อให้ได้ ไม่ใช่พยายามนำคนมาเชื่อให้ได้มากที่สุด หรือสร้างโบสถ์หลายหลัง แต่คือการสนิท บอกรัก สร้างความผูกพันกับพระเยซู เพื่อให้ชีวิต เจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระองค์
เจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู we have become in the likeness of His death
เมื่อเราเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระองค์ ตัวเก่าและตัวบาปก็ไม่มีพลัง ที่จะบังคับชีวิตของเราให้ไปทำบาปอีกต่อไปหรือทำได้น้อยลง สิ่งที่เราต้องทำก็คือเชื่อ ยอมรับในความจริงของพระเจ้าว่าเราตายแล้วเมื่อพระเยซูถูกตรึงตายที่กางเขน เราต้องทำให้ความจริงของพระเจ้ากลายเป็นความความจริงของเรา การอ่านและขอการเปิดตาเรื่องตายกับพระเยซูจึงสำคัญมาก เราต้องเห็นด้วยตาฝ่ายวิญญาณต่อพระคำพระเจ้าดังต่อไปนี้
1.) 2 คร 5:14 ถ้าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง ดังนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว
2.) คส 3:3 เพราะว่าพวกท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของพวกท่านถูกซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า
3.) คส 3:9 อย่าพูดมุสาต่อกันและกัน เมื่อพวกท่านได้ถอดทิ้งมนุษย์คนเก่ากับการกระทำต่าง ๆ ของมนุษย์นั้นเสียแล้ว
4.) คส 2:20 ดังนั้น ถ้าพวกท่านตายกับพระคริสต์พ้นจากหลักการต่างๆ ของโลกแล้ว เหตุไฉนราวกับว่าพวกท่านยังอยู่ฝ่ายโลก พวกท่านจึงยอมอยู่ใต้บังคับกฎต่างๆ 2:21 (“อย่าแตะต้อง” “อย่าชิม” “อย่าจับเอาไว้” 2:22 ซึ่งทั้งหมดนี้จะพินาศไปพร้อมกับการใช้งาน) ตามบรรดาบทบัญญัติและหลักคำสอนต่างๆ ของมนุษย์ 2:23 แน่ทีเดียว สิ่งเหล่านี้ดูท่าทีมีสติปัญญาในการเต็มใจนมัสการ และการถ่อมตัวลง และการละเลยร่างกาย ไม่ให้เกียรติอันใดเลยต่อการสนองความต้องการของเนื้อหนัง
5.) โรม 6:3 พวกท่านไม่ทราบหรือว่า พวกเราหลายคนที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมาเข้าในความตายของพระองค์
6.) โรม 6:6 โดยทราบสิ่งนี้แล้วว่า มนุษย์เก่าของพวกเรานั้นถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อร่างกายแห่งบาปนั้นจะถูกทำลายเสีย เพื่อต่อจากนี้ไปพวกเราจะไม่รับใช้บาป 6:7 เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็เป็นอิสระจากบาป
7.) กท 6:14 โดยพระองค์นั้นโลกถูกตรึงไว้แล้วแก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงไว้แล้วแก่โลก
8.) กท 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป
9.) กท 5:24 และคนทั้งหลายที่เป็นของพระคริสต์ได้ตรึงเนื้อหนังไว้ที่กางเขนเสียแล้ว พร้อมกับความอยากต่างๆ และบรรดาตัณหา
10.) 2 คร 5:16 เหตุฉะนั้นพวกเราจึงไม่รู้จักผู้ใดตามเนื้อหนังอีกต่อไป
11.) โรม 6:11 ในทำนองเดียวกัน พวกท่านจงนับว่า พวกท่านเองได้ตายต่อบาปอย่างแท้จริง
เจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู we have become in the likeness of His resurrection
เมื่อเราเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นกับพระเยซู ชีวิตและนิสัยของพระเยซู ก็จะปรากฏมากขึ้นในแต่ละวัน สรุปก็คือ หลักการการดำเนินชีวิตคริสเตียนประจำวัน คือการเจริญขึ้นในการตายและเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู
1.) คส 3:10 และได้สวมมนุษย์ใหม่ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ในความรู้ ตามแบบพระฉายของพระองค์ ผู้ได้ทรงสร้างมนุษย์ใหม่นั้นขึ้น
2.) โรม 6:13 และอย่ายอมให้บรรดาอวัยวะของพวกท่านเป็นเครื่องใช้ทั้งหลายแห่งการอธรรมต่อบาป แต่จงถวายตัวพวกท่านเองแด่พระเจ้า เหมือนคนเหล่านั้นที่มีชีวิตโดยเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงยอมให้บรรดาอวัยวะของพวกท่านเป็นเครื่องใช้ทั้งหลายแห่งความชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
3.) กท 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำรงอยู่ในเนื้อหนังขณะนี้ ข้าพเจ้าก็ดำรงอยู่โดยความเชื่อของพระบุตรของพระเจ้า
4.) ฟป 1:21 เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์
5.) โรม 6:8 บัดนี้ ถ้าพวกเราตายแล้วกับพระคริสต์ พวกเราก็เชื่อว่าพวกเราจะดำรงชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วย
6.) ยอห์น 14:19 พระเยซูตรัสว่า แต่อีกหน่อยหนึ่ง และโลกก็มองไม่เห็นเราอีกต่อไปแล้ว แต่ท่านทั้งหลายเห็นเรา เพราะว่าเรามีชีวิต ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตด้วย
7.) ยอห์น 6:57 ผู้ที่กินเรา ผู้นั้นก็จะมีชีวิตโดยทางเราฉันนั้น
8.) กท 5:25 ถ้าพวกเราดำรงชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ ก็ให้พวกเราดำเนินในพระวิญญาณด้วย (ข้อนี้สำคัญมาก live and walk in the Spirit คืออะไร)
What to do
รู้ เชื่อในสิ่งที่ได้รู้
นับ ตายและเป็นคนใหม่
ถวายคนใหม่คนนี้ให้พระเยซูเป็นผู้ดำเนินชีวิตผ่านเราในเรา
สนิท-บอกรัก สร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูทุกวัน
สะสมพระคำแห่งความจริงเพื่อกินและเติบโตสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู
เราขอบพระคุณพระเจ้าเป็นพิเศษ สำหรับเรื่องความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการตายกับพระเยซู และการมีส่วนร่วมในการเป็นขึ้นกับพระเยซู
และวันนี้เรามาถึงสิ่งที่ลึกซึ้งมากกว่านั้น ก็คือการที่เราจะได้เจริญมีความคล้ายเหมือนมีประสบการณ์ที่ใกล้เข้ามาถึงการตายต่อชีวิตเก่าร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และเราเข้าถึงความรู้เกี่ยวกับเรื่องการเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระคริสต์
คือสิ่งนี้เป็นสิ่งที่เป็นความก้าวหน้าของการดำเนินชีวิตการฝึกในการเดินในฝ่ายวิญญาณ และเราขอบพระคุณพระเจ้า ถึงแม้ว่าบทเรียนเรื่องเกี่ยวกับการตายและเป็นขึ้นกับพระเยซู สมัยก่อนไม่มีใครรู้ใช่ไหมครับ
คริสเตียนศาสนาเราเคยอยู่ในโบสถ์เก่าไม่มีใครสอน และกาลาเทียบทที่ 2 ข้อที่ 20 แล้วก็พระคัมภีร์หลายๆ ข้อที่เราค้นพบเกี่ยวกับเรื่องการตายร่วมกับพระเยซูและการเป็นขึ้นมากับพระองค์ ก็คือเขาอาจจะตีความหมายว่านั่นคือชีวิตส่วนตัวของเปาโล คือข้าพเจ้าถูกตรึงกับพระเยซูแล้ว ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า คือเขาบอกว่านี่คือประสบการณ์ชีวิตของเปาโลไม่ได้เกี่ยวกับพวกเรา
แต่สุดท้ายเราพบว่ามีข้อพระคัมภีร์เต็มไปหมดที่เกี่ยวกับไม่ใช่เปาโลคนเดียว แต่เป็นผู้เชื่อทุกคน ผม คุณ ทุกคนอยู่ในที่นี้ เราขอบคุณพระเจ้าที่เรื่องการตายและการเป็นขึ้นมากับพระเยซูไม่ใช่ประสบการณ์ชีวิตของเปาโลคนเดียว แต่เป็นประสบการณ์ชีวิตเป็นหลักการ การดำเนินชีวิตของคริสเตียนทุกคน
แต่คนส่วนมากทุกวันนี้ไม่รู้ ไม่มาถึงความรู้ล้ำลึกนี้ ไม่มาถึงความลับที่พระเจ้าปิดปกปิดไว้ซ่อนไว้ และขอบคุณพระเยซูที่วันนี้พระองค์เปิดเผย ที่พระองค์ได้นำเรามาถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งถึงการตายและการเป็นขึ้นมากับพระเยซู ยังไม่พอ เราจะต้องมาถึงการได้เจริญขึ้นในการตายด้วย ไม่ใช่ได้รู้ ได้เข้าใจ เรื่องการตาย แต่ต้องเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู
การเจริญขึ้น คือการเข้าสู่ประสบการณ์ความอ่อนแอของเนื้อหนังการตายของเนื้อหนังการตายของชีวิตเก่าอาดัม ซึ่งมีตัวบาปเกาะติดสิงสถิตอยู่ในตัวเก่านั้น และขอบคุณพระเยซู พระเจ้าประหารชีวิตเก่าของเราพร้อมกับพระเยซูในพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อนที่กางเขน เราจึงตายแล้ว ขอบคุณพระเยซูเราตายแล้ว ผมตายแล้ว คุณตายแล้ว พี่น้องทุกคนตายแล้ว เอเมนเราตายแล้ว
เราเชื่อตายใจ เราเชื่ออย่างตายใจว่าพระคำพระเจ้า เป็นความจริง และเรายอมรับสิ่งที่พระเจ้าได้กระทำกับชีวิตของเราคือประหารชีวิตเก่าของเราที่กางเขนเพราะว่าชีวิตเก่ามันไม่มีอะไรดีมันใช้ไม่ได้ ถวายเกียรติแด่พระเจ้าไม่ได้ มันตกต่ำเสื่อมทรามเสื่อมโทรมถูกสาปแช่งไปแล้ว อ่อนแอทำอะไรเพื่อพระเจ้าไม่ได้ ถ้าจะทำได้ก็คือต้องดิ้นรนต้องใช้กำลังมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพระเจ้าก็ไม่รับ เนื่องจากว่าพระเจ้ารับเฉพาะชีวิตใหม่ ชีวิตที่เป็นขึ้นมาจากความตายร่วมกับพระเยซู
เราขอบคุณพระเจ้านะครับ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะพูดถึงเรื่องเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู
คำว่า เจริญขึ้น นะครับ ภาษากรีกและภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษใช้คำว่า Likeness / form คือฟอร์มตัวนะครับ Likeness ก็คือคล้ายคือ คล้ายเหมือน
และ resemblance ในปฐมกาลบทที่ 1 ข้อที่ 26 พระเจ้าตรัสว่า ให้เราสร้างมนุษย์ตามแบบอย่างฉายาของเรา คล้ายเหมือนเรา มีความคล้ายเหมือนเรา
ในที่นี่โรมบทที่ 6:5 ก็คือเราจะเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู คำนี้นะครับเป็นคำเดียวกันกับคล้ายเหมือนในปฐมกาลบทที่ 1 ข้อที่ 26 ก็คือให้เรานะครับมาถึงความคล้ายเหมือน เหมือน หรือเป็นอันเดียวกันกับสิ่งที่พระเยซูได้รับก็คือ ตายที่กางเขน
พระเยซูตายที่กางเขนพระองค์ตายจริงๆ พระองค์สิ้นใจสิ้นลมหายใจ ร่างกายเก่าของพระเยซูถูกทำลายไป เรานะครับวันนี้ ให้เรามาถึงการเปิดตา ขอการชำระ ขอการเปิดเผย ให้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ให้ตาวิญญาณตาฝ่ายวิญญาณของเราถูกเปิด ให้เห็นนะครับว่าเรามาถึงความคล้ายเหมือนกับการตายร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อนที่กางเขน
และเรานะครับบอกว่า “พระบิดาขอประทานความเข้าใจให้ข้าพระองค์มากยิ่งขึ้น และพระบิดาข้าพระองค์เชื่อว่าข้าพระองค์ได้ตายร่วมกับพระองค์ และข้าพระองค์ได้เจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซูแล้ว” เมื่อเราเชื่อแบบนี้ พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำประสบการณ์ชีวิตที่ตายแล้วมาสู่เรา ก็คือความอ่อนแอของชีวิตเก่า ความอ่อนแอของเนื้อหนัง ความอ่อนแอของตัวเก่า และที่ที่ตัวบาปจะอาศัยอยู่มันก็ถูกทำลายไป ก็คือร่างกายชีวิตเก่าของเรานี่แหละที่ถูกทำลายไป โดยทางความเชื่อและในพระคริสต์
ซึ่งเราอาจจะเป็นอยู่ทุกวันนี้ เราเห็นอวัยวะทุกส่วนใช่ไหมครับ และเราก็คิดว่านี่คือชีวิตชีวิตเก่าร่างกายเก่าตัวเก่า ไม่ใช่นะครับไม่ใช่ครับ
แท้ที่จริงแล้ว ชีวิตของคุณทุกวันนี้ ร่างกายที่คุณมีอยู่ทุกวันนี้ อวัยวะทุกส่วนที่คุณมีอยู่ทุกวันนี้นะครับ ก็คือร่างกายใหม่ เป็นสิ่งใหม่ๆ ทั้งนั้น
ซึ่งความเป็นจริง ร่างกายเก่า ชีวิตเก่า จิตเก่า ทุกอย่างที่เป็นของเก่า สิ่งที่เก่า ก็คือมันจบที่กางเขนแล้ว มันจบแล้ว 2 โครินธ์ 5:17 บุคคลผู้ใดที่อยู่ในพระคริสต์ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่ สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงไป ดูเถิด ดูเถิด มีแต่สิ่งใหม่ๆ ทั้งนั้น เอเมนขอบคุณพระเยซู
เราอย่าคิดนะครับว่าเราทุกวันนี้เป็นสิ่งเก่า แต่ให้เราเชื่ออย่างตายใจนะครับว่าเราเป็นสิ่งใหม่ เป็นคนใหม่ เป็นมนุษย์ใหม่ เป็นมนุษย์วิญญาณ อยู่ในพระคริสต์แล้ว และเราจะเห็นการเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นกับพระเยซูก็จะมีมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้น ประสบการณ์ชีวิตที่เราจะมีนิสัย คุณสมบัติ การพูดจา บุคลิกลักษณะ อาการท่าทีต่างๆ ของพระเยซูก็จะมีมากขึ้นในเรา
- จะเป็นพระเยซูที่จะสำแดงพระองค์
- จะเป็นพระเยซูที่จะพูด
- จะเป็นพระเยซูที่จะฟัง
- จะเป็นพระเยซูที่จะถ่อมใจ
- จะเป็นพระเยซูที่จะต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ
- และจะเป็นพระเยซูที่จะรักเพื่อนบ้าน รักศัตรู รักทุกคน และรักพระเจ้าจนหมดหัวใจ
สรรเสริญพระเจ้า ให้เรามาถึงความเข้าใจในเรื่องการเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซูและเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นกับพระเยซู
สำหรับพี่น้องที่เข้ามาใหม่นะครับ ยังไม่มาถึงความรู้อย่างลึกซึ้งนะครับ เรานำข้อพระคัมภีร์เหล่านี้กลับไป แล้วก็อ่าน อธิษฐาน ขอความเข้าใจ ขอประทานตาฝ่ายวิญญาณให้ถูกเปิด 2 โครินธ์ 5:14 “ถ้าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง ดังนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว” เพื่อที่เราจะได้เข้าสู่การเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู
ข้อที่ 1. ก็คือ 2 โครินธ์ 5:14 “เราต้องนำมาอ่านและขอการเปิดเผย” ถ้าผู้หนึ่งได้ตายเพื่อคนทั้งปวง ดังนั้นคนทั้งปวงจึงตายแล้ว
ข้อที่ 2 ก็คือ โคโลสี 3:3 เพราะว่าพวกท่านได้ตายแล้ว และชีวิตของพวกท่านถูกซ่อนไว้กับพระคริสต์ในพระเจ้า “นี่คือชีวิตใหม่”
ข้อที่ 3 ก็คือ โคโลสี 3:9 อย่าพูดมุสาต่อกันและกัน เมื่อพวกท่านได้ถอดทิ้งมนุษย์คนเก่า “ขอบคุณพระเยซูเราได้ถอดทิ้งมนุษย์คนเก่า ก็คือเราตายจากชีวิตเก่าไปแล้ว” กับการกระทำต่างๆ ของมนุษย์เก่านั้นเสียแล้ว
ข้อที่ 4 ก็คือ โคโลสี 2:20 ดังนั้นถ้าพวกท่านตายกลับพระคริสต์ พ้นจากหลักการต่างๆ ของโลกแล้ว เหตุไฉนราวกับว่าพวกท่านยังอยู่ฝ่ายโลก พวกท่านจึงยอมอยู่ใต้บังคับกฎต่างๆ
2:21 (“อย่าแตะต้อง” “อย่าชิม” “อย่าจับเอาไว้”
2:22 ซึ่งทั้งหมดนี้จะพินาศไปพร้อมกับการใช้งาน) ตามบรรดาบทบัญญัติและหลักคำสอนต่างๆ ของมนุษย์
2:23 แน่ทีเดียว สิ่งเหล่านี้ดูท่าทีมีสติปัญญาในการเต็มใจนมัสการ และการถ่อมตัวลง และการละเลยร่างกาย ไม่ให้เกียรติอันใดเลยต่อการสนองความต้องการของเนื้อหนัง
** เราขอบพระคุณพระเจ้า ทุกวันนี้เราถอดทิ้งตัวเก่า และสวมใส่คนใหม่ ก็คือมนุษย์วิญญาณ ตัวเก่าของเราตายไปแล้ว เราถอดทิ้งมันไปแล้ว ไม่สวมใส่ ไม่คิดถึง และเราจะไม่ใส่ใจเรื่องกฎเกณฑ์ ข้อบังคับต่างๆ ต้องเคร่งครัด ต้องทำอะไรโดยที่เราพยายาม ทำให้ได้ทั้งๆ ที่เราทำไม่ได้ ขอบคุณพระเยซู
ข้อที่ 5 ก็คือ โรม 6:3 “ซึ่งเราจะต้องเรียนรู้ ขอการเปิดเผยให้เข้าใจถึงตาฝ่ายวิญญาณของเรา” ก็คือโรมบทที่ 6 ข้อที่ 3 พวกท่านไม่ทราบหรือว่า พวกเราหลายคนที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับบัพติศมาเข้าในความตายของพระองค์
** เราตายแล้วผ่านการรับบัพติศมาเข้าในพระเยซู เอเมน เมื่อเราเชื่อต้อนรับพระเยซูว่าเป็นพระผู้ช่วยให้รอดเป็นพระเจ้าของเรา พระเยซูก็จะเสด็จมา และบัพติศมาเราเข้าไปอยู่ในพระเยซูคริสต์ เพราะฉะนั้นเราก็ได้ตายแล้ว
ข้อที่ 6 ก็คือ โรม 6:6 โดยทราบสิ่งนี้แล้วว่า มนุษย์เก่าของพวกเรานั้นถูกตรึงไว้กับพระองค์แล้ว เพื่อร่างกายแห่งบาปนั้นจะถูกทำลายเสีย เพื่อต่อจากนี้ไปพวกเราจะไม่รับใช้บาป 6:7 เพราะว่าผู้ที่ตายแล้วก็เป็นอิสระจากบาป ขอบคุณพระเยซู
ข้อที่ 7 ก็คือ กาลาเทีย 6:14 โดยพระองค์นั้นโลกถูกตรึงไว้แล้วแก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ถูกตรึงไว้แล้วแก่โลก
** ขอบคุณพระเยซู โลก ทุกสิ่งที่เป็นของโลกถูกตรึงไว้แล้วจากเรา และเราก็ถูกตรึงไว้แล้วแก่โลกนี้ เราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับโลกนี้ และทุกสิ่งที่เป็นของโลกนี้ แต่เราเป็นของฝ่ายพระคริสต์
ข้อที่ 8 ก็คือ กาลาเทีย 2:20 ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป
** มนุษย์คนเก่า อาดัม ตัวเก่า ชีวิตเก่า จิตเก่า วิญญาณเก่า ร่างกายเก่า ทุกสิ่งทุกตรึงไว้ที่กางเขนกับพระเยซูคริสต์แล้ว เราจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป เอเมนพระเยซู
ข้อที่ 9 ก็คือ กาลาเทีย 5:24 และคนทั้งหลายที่เป็นของพระคริสต์ได้ตรึงเนื้อหนังไว้ที่กางเขนเสียแล้ว
** อีกครั้งนะครับคนทั้งหลายที่เป็นของพระคริสต์ ได้ตรึงเนื้อหนังไว้ที่กางเขนเสียแล้ว พร้อมกับความอยากต่างๆ และบรรดาตัณหา
ข้อที่ 10 ก็คือ 2 โครินธ์ 5:16 เหตุฉะนั้นพวกเราจึงไม่รู้จักผู้ใดตามเนื้อหนังอีกต่อไป
** นี่นะครับพระเจ้าห้ามเราแล้วนะครับ เมื่อเราจบชีวิตของเราที่กางเขน พระเยซูประหารชีวิตเรา นำเราเข้าไปมีส่วนในการตายกับพระองค์ที่กางเขน พระเจ้าก็ไม่ให้เรามองพี่น้องว่าเป็นคนเก่า เป็นคนบาป เป็นคนไม่ดี เป็นคนมีปัญหาไม่ชอบเขา ไม่นะครับ เราจะมองทุกคนเป็นคนใหม่ในพระคริสต์ เอเมน
ข้อสุดท้ายเกี่ยวกับเรื่องการเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู ก็คือโรม 6:11 ในทำนองเดียวกัน พวกท่านจงนับว่า พวกท่านเองได้ตายต่อบาปอย่างแท้จริง
** อีกครั้ง โรม 6:11 ในทำนองเดียวกัน พวกท่านจงนับว่า พวกท่านเองได้ตายต่อบาปอย่างแท้จริง
ขอบคุณพระเยซู เราได้ตายต่อบาปอย่างแท้จริง ไม่ใช่เรื่องความคิด ไม่ใช่นิยาย ไม่ใช่สมมุติ ไม่ใช่การเปรียบเทียบ แต่เป็นการตายอย่างแท้จริง เป็นความจริงที่พระเจ้าทำจริงๆ และเราจะต้องนำความจริงนี้มาสู่ชีวิตของเรา และยอมรับว่ามันเป็นความจริงของเราด้วย เอเมน
...
และสิ่งต่อไปที่เราขาดไม่ได้นะครับ เมื่อเราเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู โดยศึกษาเรียนรู้ขอการเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์เหล่านี้
ต่อไปก็คือเป็นเรื่องของการเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู ภาษาอังกฤษ we have become in the likeness of His resurrection
become in the likeness of His resurrection ก็คือ ทำให้การเป็นขึ้นของเรา คล้ายเหมือน เป็นเหมือน เป็นอันเดียวกัน กับสิ่งที่พระเยซูได้รับเมื่อสองพันปีก่อน ก็คือพระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย
เพราะฉะนั้นสิ่งนี้จะต้องให้มันเกิดขึ้นกับชีวิตของเราอย่างแท้จริง เราจะเข้าสู่การเป็นขึ้นกับพระเยซูอย่างแท้จริงได้ ก็ต่อเมื่อเราขอการเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ ให้เราเห็นนะครับ คือตาฝ่ายวิญญาณเราจะต้องถูกเปิด
เราอ่านโคโลสีบทที่ 3 ข้อที่ 10 และได้สวมมนุษย์ใหม่ซึ่งถูกสร้างขึ้นใหม่ในความรู้ ตามแบบพระฉายของพระองค์ ผู้ได้ทรงสร้างมนุษย์ใหม่นั้นขึ้น
** ขอบคุณพระเจ้า เราตอนนี้ได้สวมมนุษย์ใหม่แล้ว เอเมนพระเยซู เราสวมมนุษย์ใหม่แล้ว เราบอกตัวเราเองนะครับ และเราบอกพระเยซู เราบอกใครก็ได้ เราสวมมนุษย์คนใหม่แล้ว เพื่อเราจะเข้าสู่การเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู และมีประสบการณ์ชีวิตนิสัยของพระเยซูเกิดขึ้น
ต่อมาก็คือโรมบทที่ 6 ข้อที่ 13 และอย่ายอมให้บรรดาอวัยวะของพวกท่านเป็นเครื่องใช้ทั้งหลายแห่งการอธรรมต่อบาป แต่จงถวายตัวพวกท่านเองแด่พระเจ้า เหมือนคนเหล่านั้นที่มีชีวิตโดยเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว และจงยอมให้บรรดาอวัยวะของพวกท่านเป็นเครื่องใช้ทั้งหลายแห่งความชอบธรรมถวายแด่พระเจ้า
** เมื่อเราเชื่อนะครับยอมรับความจริงว่าเราเป็นขึ้นจากตายแล้วร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน เราจึงรู้ว่าตอนนี้เราได้สวมมนุษย์คนใหม่ และมนุษย์คนใหม่คนนี้นะครับ เราต้องถวายแด่พระเจ้า เพื่อให้พระคริสต์ใช้เพื่อสำแดงพระองค์ผ่านเรา
ขอบคุณพระเยซู วันนี้พวกเราขอถวายอวัยวะของพวกเรา เหมือนคนที่มีชีวิตเป็นขึ้นมาจากความตายแล้ว พระเยซูขอพระองค์ทรงใช้ ขอพระองค์ทรงกระทำ ขอพระองค์ทรงฟัง ขอพระองค์ทรงพูด ขอพระองค์ทรงมอง ขอพระองค์ทรงกระทำทุกสิ่ง ดำเนินชีวิตแทนพวกเรา เอเมน
และกาลาเทียบทที่ 2 ข้อที่ 20 นี่คือหลักการ การดำเนินชีวิตคริสเตียนในแต่ละวันก็คือ ข้าพเจ้าถูกตรึงไว้กับพระคริสต์แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไป แต่พระคริสต์ต่างหากที่มีชีวิตอยู่ในข้าพเจ้า และชีวิตซึ่งข้าพเจ้าดำรงอยู่ในเนื้อหนังขณะนี้ ข้าพเจ้าก็ดำรงอยู่โดยความเชื่อของพระบุตรของพระเจ้า
** เรามีชีวิตอยู่นะครับตอนนี้ก็คือให้พระเยซูเป็นคนเชื่อแทนเรา เราไม่เพียงแต่ใช้ชีวิตและให้พระเยซูกระทำแทนทุกสิ่ง แม้แต่ความเชื่อนะครับเราก็ยังให้พระเยซูเป็นคนเชื่อแทนเรา เอเมน
ต่อมาฟีลิปปีบทที่ 1 ข้อที่ 21 เพราะว่าสำหรับข้าพเจ้านั้น การมีชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์
** ขอบคุณพระเจ้า ทุกวันนี้ข้าพเจ้าไม่มีชีวิตอยู่ แต่การมีชีวิตอยู่แท้ที่จริงก็คือพระคริสต์เป็นผู้มีชีวิตอยู่
และโรมบทที่ 6 ข้อที่ 8 บัดนี้ ถ้าพวกเราตายแล้วกับพระคริสต์ พวกเราก็เชื่อว่าพวกเราจะดำรงชีวิตอยู่กับพระองค์ด้วย เอเมน
ต่อมาก็คือยอห์นบทที่ 14 ข้อที่ 19 พระเยซูตรัสว่า แต่อีกหน่อยหนึ่ง และโลกก็มองไม่เห็นเราอีกต่อไปแล้ว แต่ท่านทั้งหลายเห็นเรา เพราะว่าเรามีชีวิต ท่านทั้งหลายก็จะมีชีวิตด้วย
** วันนี้ พระเยซูมีชีวิตอยู่ในเรา และเราทั้งหลายก็มีชีวิตร่วมกับพระองค์ด้วย สรรเสริญพระเจ้าเอเมน
ข้อต่อมาอีกสองข้อสุดท้ายก็คือยอห์นบทที่ 6 ข้อที่ 57 พระเยซูตรัสว่า ผู้ที่กินเรา ผู้นั้นก็จะมีชีวิตอยู่โดยทางเราฉันนั้น
** โดยเรานะครับ ก็คือ ใครที่กินพระเยซู พระเยซูจะเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อคนที่กินพระองค์ ขอบคุณพระเจ้า วันนี้เรากินพระองค์แล้ว เรารับพระองค์ พระคำของพระเจ้าเป็นอาหารฝ่ายวิญญาณเป็นอาหารที่มาจากสวรรค์ และเป็นพระเยซูนั่นเอง และพระเยซูก็จะดำเนินชีวิตอยู่ในเราแทนเราและเพื่อเรา สรรเสริญพระเยซู
ข้อสุดท้ายก็คือ เมื่อเรารู้แล้วว่าเราตายร่วมกับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และเรารู้ว่าเราเป็นขึ้นมากับพระเยซูเมื่อสองพันปีก่อน และเราขอการชำระ ขอการนำชีวิตของเราเข้าสู่การเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นกับพระเยซู
ต่อไปนี้นะครับก็คือ กาลาเทียบทที่ 5 ข้อที่ 25 ถ้าหากพวกเราดำรงชีวิตอยู่ในพระวิญญาณ ก็ให้พวกเราดำเนินในพระวิญญาณด้วย
** ก็คือ live and walk in the Spirit
live ก็คือการดำรงชีวิต Walk ก็คือเดินในแต่ละก้าว
คริสเตียนทุกวันนี้นะครับก็คือดำรงชีวิตในพระคริสต์ ในศาสนาคริสต์ ในพระเจ้า แต่เขาไม่มาถึงการดำรงชีวิตในพระวิญญาณ และยังไม่พอ พระเจ้ายังต้องการอีกสิ่งหนึ่ง ก็คือ Walk / Walk ก็คือเดินแต่ละก้าว ความหมายก็คือ ทุกย่างก้าวของเรา ทุกนาทีของเรามีค่า เพื่อเราจะสนิท บอกรัก สนทนา พูดคุย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเรากับพระเยซู เพื่อพระเยซูจะใช้ชีวิตของเราได้ เพื่อพระเยซูจะทำให้เราเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระองค์ และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระองค์ เอเมน
สุดท้ายเราจะมาถึงการเป็นผู้ใหญ่ สุดท้ายเราจะมาถึงชีวิตผู้ชนะอย่างแท้จริง และมีส่วนครอบครองร่วมกับพระเยซูในยุคพันปีและฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่ สรรเสริญพระเยซู
และทำอย่างไร? มาถึงจุดที่สำคัญนะครับ ทำอย่างไรเราจะเข้าสู่การเจริญขึ้นในความตายกับพระเยซูและเจริญขึ้นในการเป็นขึ้นร่วมกับพระเยซู เมื่อเราเข้าใจพระคำล้ำลึก เมื่อเราเข้าใจข้อพระคัมภีร์ต่างๆ ที่พูดถึงเรื่องการตายและการเป็นขึ้น
ต่อมาก็คือ เมื่อเราได้อ่าน ได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้...
ข้อแรกสิ่งแรกที่เราทำก็คือ เมื่อเรารู้นะครับก็คือ เชื่อ ในทุกสิ่งที่เราได้อ่านได้เรียนรู้
สองก็คือ นับ เรานับว่าเราตาย และเรานับว่าเราเป็นคนใหม่
สามก็คือ เราถวายคนใหม่คนนี้ ให้พระเยซูเป็นผู้ดำเนินชีวิตผ่านเราในเรา
สี่ก็คือ เราสนิท เราบอกรัก เราสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูทุกวันในแต่ละวัน
ข้อที่ห้าสุดท้าย เราสะสมพระคำแห่งความจริง ก็คือมานาที่ซ่อนไว้ เพื่อกินและเติบโตสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู
...
ถ้าจะคิดดีๆ นะครับเราคิดย้อนหลังถึงชีวิตคริสเตียนในสมัยก่อน เราเห็นไหมครับว่าเป้าหมายของชีวิตมันแตกต่างกันมาก เมื่อเราไม่รู้ว่าเราตายกับพระเยซูและเป็นขึ้นมากับพระเยซู และเราไม่เจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระองค์และเป็นขึ้นร่วมกับพระองค์ ชีวิตของเราก็คือแบกภาระหนัก แอกหนัก กางเขนหนัก ไม่ได้เข้าสู่สันติสุขทุกวันเวลา ชีวิตสุขทุกข์ดีบาป ขึ้นลงไปจนตาย
แต่วันนี้เราสรรเสริญพระเจ้า พระเจ้านำเรามา เลือกเราให้มาถึงพระคำแห่งความจริงโดยพระวิญญาณแห่งความจริง เพื่อเข้าสู่ชีวิตที่ได้พักสงบ เป็นพระคุณอันล้นเหลือสำหรับพวกเรา ซึ่งไม่มีอะไรที่จะตอบแทนพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้
แต่สิ่งที่พระเจ้าต้องการ ไม่ใช่ค่าตอบแทนสิ่งตอบแทนหรือให้เราทำอะไรเพื่อพระเจ้า สิ่งเดียวที่พระเจ้าต้องการและเป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากด้วย ก็คือพระเจ้าอยากได้ “ความรัก” จากเรา
- วันนี้เรามีความรักให้พระเจ้าหรือไม่
- วันนี้เราบอกรักพระเยซูหรือยัง
- วันนี้เราสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูหรือไม่
- วันนี้เรานับหรือยังว่าตายแล้วต่อตัวเก่าและเป็นคนใหม่
- วันนี้เราถวายคนใหม่คนนี้ให้พระเยซูเป็นผู้ดำเนินชีวิตผ่านเราในเราหรือยัง ถ้ายัง หรือเรามักจะลืม ก็คือทำอะไรก็ได้เพื่อเราจะฝึกเดินในพระวิญญาณ และดำรงชีวิตในพระวิญญาณ และอยู่ในการสร้างความผูกพันที่ดีกับพระเยซูในแต่ละวัน เพื่อเราจะมาถึงชีวิตผู้ชนะอย่างแท้จริง และเป็นคริสเตียนที่ปกติ เป็นคริสเตียนตามน้ำพระทัยของพระบิดา เอเมน
ถาม.
เวลาเราอ่อนแอ เหมือนกับอ่อนแอนะคะ เหมือนกับร่างกายเราอ่อนแอ เราจะนึกถึงไม้กางเขน พระองค์ทรงตายแทนเราได้ไหมคะ เพราะว่าเวลาอ่อนแอทีไรจะนึกถึงแต่ภาพนี้ตลอดเลยค่ะ เพราะว่าเวลาอ่อนแอทีไรจะนึกถึงแต่ภาพนี้ตลอดเลยค่ะ อย่างนี้มันถูกต้องไหมคะ
ตอบ.
เมื่อเราเป็นทุกข์ เป็นทุกข์ เราบอกว่า เอเมน นี่คือสิ่งไม่จริง นี่คือความไม่จริง พระเยซูข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์ไม่มีความเป็นทุกข์อยู่
และเมื่อเราอ่อนแอ เราบอกว่า ความอ่อนแออยู่ในอาดัม อยู่ในชีวิตเก่า แต่ข้าพระองค์เป็นคนใหม่แล้ว และข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์แล้ว ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์ประทานความเข้มแข็งและพระองค์เป็นความเข้มแข็งอยู่ในข้าพระองค์
ทั้งๆ ที่เรายังไม่เห็นนะครับ เรารู้สึกอ่อนแอนะครับ แต่เราบอกว่า “ข้าพระองค์เชื่อ และข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็งเอเมน” แล้วเรายิ้มนะครับ คือการยืนยันถึงความเชื่อ คือความมั่นใจ เชื่ออย่างตายใจของเรา
และเราทำแบบนี้อยู่เป็นประจำ ทำบ่อยๆ ครั้งแรก ครั้งที่สอง ครั้งที่สาม ที่สี่ ที่ห้า อาจจะยังไม่เห็นก็เป็นได้ แต่ครั้งต่อๆ ไปนะครับเราจะเห็นความเข้มแข็งเข้ามาแทนที่ความอ่อนแอได้
...
ถาม.
ถึงว่าตอนเช้าลุกขึ้นมาก็บอกกับพระองค์ว่า ลูกเป็นตัวใหม่ ลูกต้องเข้มแข็ง
ตอบ.
เราจะไม่ใช้คำว่า ต้องเข้มแข็ง ไม่ใช้ครับ คือเราเชื่อว่าเราอยู่ในพระคริสต์ เราตื่นนอนตอนเช้าเนี่ยเราอ่อนแอ เราง่วงเหงาหาวนอน เรารู้สึกเมื่อย แต่เรานะครับบอกว่า “พระเยซู เอเมน” เรายิ้มเลย “เอเมน ขอบคุณพระเยซูที่ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์มีแต่สันติสุข ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง” คือเอาอันนี้นะครับ
พี่น้องหลายคนก็ฝึกมาแล้วใช่ไหมครับ แล้วก็เราได้เข้าสู่ประสบการณ์ที่จากความอ่อนแอ คือจะพลิกสถานการณ์กลับกลายเป็นความเข้มแข็งทันที มีพลัง มีกำลัง รู้สึกว่ากระปรี้กระเปร่า ความอ่อนแอไม่รู้ว่าหายไปไหน เพราะว่าเราเดินด้วยความเชื่อไง
เราอ่อนแอ แต่เรายังไม่เห็นความเข้มแข็ง แต่เราบอกว่า “พระเยซูข้าพระองค์เชื่อ ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็ง เอเมน”
เมื่อเราพูดแบบนี้ก็คือ “เราเชื่อ” คริสเตียนผู้เชื่อนะครับดำเนินชีวิตอยู่โดยความเชื่อ เริ่มต้นด้วยความเชื่อจบลงด้วยความเชื่อ (รม 1:17) เราเชื่อเอาในความจริงของพระเจ้า และพระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำความจริงของพระเจ้ามาสู่ชีวิตของเราเพื่อให้เราเข้าสู่ประสบการณ์แห่งความจริงนั้น เข้าใจหรือยังครับ
ขอบคุณพระเยซูพี่น้องหลายคนพี่น้องหลายท่าน ได้มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ใช่ไหม
อีกครั้งนะครับขณะที่เราเป็นทุกข์ เราไม่มีความสุข เรารู้สึกว่าอาจจะไม่ยิ้มได้ตื่นนอนตอนเช้าเรารู้สึกมันเป็นอาการของเนื้อหนังของตัวเก่า แต่เราบอกว่า “เอเมนพระเยซู” เอเมนเลยนะครับคำเดียว “เอเมนพระเยซู ข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ วันนี้ข้าพระองค์ตายต่อตัวเก่าแล้ว และข้าพระองค์เป็นคนใหม่ และข้าพระองค์อยู่ในพระคริสต์ ในพระคริสต์มีแต่สันติสุขเอเมน ในพระคริสต์มีแต่ความเข้มแข็งเอเมน” แล้วยิ้มนะครับ หลังจากนั้นเราก็จะเห็น ประสบการณ์แห่งสันติสุข และประสบการณ์แห่ง ความเข้มแข็งเข้ามา
ขอบพระคุณพระเยซูโดยพระคุณความรักของพระองค์ พวกเราจึงมีวันนี้ ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เปิดตา รักษาตา นำยาหยอดตา เพื่อทำให้พวกเราเห็นความสว่างในพระคริสต์ ความสว่างในพระเจ้า และความสว่างในการฝ่ายวิญญาณ
ขอบพระคุณพระบิดาที่เราเมื่อก่อนไม่เคยรู้เรื่องตายต่อตัวเก่า และตายร่วมกับพระเยซู และเราก็ไม่เคยรู้ว่าเราเป็นขึ้นมาจากความตาย เพียงแต่ว่าเราพยายามเป็นคริสเตียนที่ดี เป็นสามีที่ดี ภรรยาที่ดี เป็นสมาชิกโบสถ์ที่ดี หรือเป็นผู้นำที่ดี
แต่ตอนนี้ เรารู้แล้วว่าสิ่งที่สำคัญที่พระเจ้าต้องการในการดำเนินชีวิตคริสเตียน ก็คือ “รัก” รักพระเจ้าหมดหัวใจ รักพี่น้อง รักเพื่อนบ้าน และรักศัตรู ให้ความรักเป็นหลัก ให้ความรักเป็นใหญ่
และก่อนที่จะใช้ชีวิตโดยเอาความรักเป็นหลักนี้ได้ ก็คือเจริญขึ้นในการตายร่วมกับพระองค์ และเจริญขึ้นในการเป็นขึ้น