ถาม.
เรื่องการอธิษฐาน คือแน่นอนว่าพระเจ้าเข้าใจ รู้ เข้าใจรู้สึกนึกคิดแล้วรู้ล่วงหน้าว่าเราจะพูดอะไร เราไม่จำเป็นต้องอธิษฐานเยอะ และในกรณีเราใช้ชีวิตในโลกนี้แบบอยู่ร่วมกันทั้งผู้เชื่อ และไม่เชื่อ และก็เชื่อแตกต่างกัน ในเวลาที่เราอธิษฐานเราก็บอกว่าขอพระเจ้าพิทักษ์รักษาเขา เราก็ไม่ได้ขอพระเจ้าเอาเขาไปจากโลกนี้ และขอให้พระเจ้าชำระเขาเพื่อให้เขาอยู่ในความจริงและก็ให้เป็นไปตามน้ำพระทัย
ตอบ.
สำหรับพระเจ้า พระเจ้ารู้แล้วว่าเราจะขออะไร เมื่อเราเดินไปเห็นบางคนมีปัญหาเห็นบางคนอยู่ในอุปสรรคมีมรสุมชีวิต เราจะพูดอะไรกับพระเจ้า พระเจ้ารู้แล้ว คนที่รู้ความจริงนี้ว่าพระเจ้ารู้แล้ว คือเราไม่ต้องพูดมาก พระเยซูบอกว่าอธิษฐานสั้นๆไม่ต้องพูดมากไม่ต้องพูดซ้ำซากพระเจ้ารู้แล้ว คือพูดง่ายๆ
"พระบิดาขอพระองค์เมตตาเขา" แค่นั้น คือคำอธิษฐานของคนที่ฉลาด คือพูดสั้น พูดง่าย
และคำอธิษฐานของคนที่ไม่ฉลาดน่ะครับ จะพูดยาว
"พระบิดาขอพระองค์เมตตาเขาขอพระองค์ช่วยเขาขอพระองค์นำพาเขา"
คือ สอนพระเจ้าแนะนำพระเจ้าเป็นผู้แนะนำเป็นผู้สอนพระเจ้าให้ทำตามที่เขาบอก เราไม่ทำแบบนั้นน่ะครับ พระเจ้ารู้แล้ว คุณแค่พูดว่าพระองค์ขอพระองค์เมตตาเขาคนนี้
...
ถาม.
ตอนไหนที่เราจำเป็นต้องอธิษฐานวิงวอนตอนไหนที่เราจำเป็นต้องแบบอ้อนวอน
ตอบ.
ตอนไหนที่เราเห็นใครเดือดร้อน ตอนไหนที่เราเห็นว่าต้องอธิษฐานต้องขอพระเจ้าตอนไหนก็ได้ แต่อธิษฐานบอกรักพูดคุยกับพระเจ้าเราทำทุกวันอยู่แล้ว
แล้วพอถึงเวลาที่ใครเดือดร้อนใครมีปัญหา เราเห็นเราก็พูดถึงเรานึกถึงเขาเราก็อธิษฐานถึงเขา ไม่ถามว่าตอนไหน คือตอนที่เรานึกถึงตอนที่เราจำได้
...
ถาม.
คืออย่างมีพี่น้องคนหนึ่งกำลังเจอปัญหาอะไรก็ตามแล้วเราในเวลาใช้ชีวิตอยู่ 24 ชั่วโมง 7 วันเราอ้อนวอนวิงวอนตลอดเวลาเพื่อพี่น้องคนนั้นได้ไหมคะ
ตอบ.
ไม่ต้องขนาดนั้น คือไม่ต้องซ้ำซาก ไม่ต้องทำแบบมากเกินไป คือครั้งเดียว 2 ครั้ง 3 ครั้งพระเจ้ารู้แล้ว
...
ถาม.
แล้วคำว่าเราหมั่นขอ หมั่นขอ
ตอบ.
คำว่า "หมั่นขอ" ที่จริงแล้วมันไม่มีในพระคัมภีร์ มัทธิวบทที่ 7:7 ภาษาลาวบอกว่าจงหมั่นขอจงขยันขอ แต่แท้ที่จริงไม่ใช่ พระเยซูบอกว่า "จงขอ" ไม่มีคำว่า "จงหมั่นขอ" แปลผิด
จงขอแล้วจะได้ ไม่ได้บอกว่าจงขอบ่อยๆแล้วจะได้ ไม่! ภาษาลาวแปลผิด
" จงขอแล้วจะได้ จงหาแล้วจะพบ จงเคาะแล้วจะเปิดให้แก่ท่าน" แค่นั้น คุณไม่ต้องไปหมั่นขอก็ได้ ขอครั้งเดียวเพราะเจ้าก็รู้แล้ว
...
ถาม.
การวิงวอน การอ้อนวอน หมายความว่ายังไง
ตอบ.
การวิงวอน การอ้อนวอน ความหมายก็คือ ขอ ก็คือพูดคุย ขอพระเจ้าให้เมตตาเขาก็แค่นั้น เราไม่จำเป็นต้องไปพูดถึงบ่อยๆ คือเช้าก็พูดบ่ายก็พูดเย็นก็พูด อันนั้นมันหมายถึงการไม่วางใจในพระเจ้า ถ้าคุณขอบ่อยๆ ก็คือคุณไม่วางใจในพระเจ้า ถ้าคุณขอครั้งเดียว ก็คือคุณวางใจ คุณรู้ว่าพระเจ้าจะทำ
คนที่ขอบ่อยๆ ก็คือคนที่ไม่มั่นใจกลัวพระเจ้าไม่ให้ก็เลยสูสีขอ
แต่คนที่ฉลาดคนที่ขอครั้งเดียวรู้ว่าพระเจ้าจะทำให้เขารู้ว่ายังไงก็ได้เขาขอครั้งเดียว
...
• สมมุติคนที่เป็นนาย สมมุติผมเป็นเจ้าของบริษัท แล้วพอถึงสิ้นเดือนผมจะต้องจ่ายเงินค่าแรงให้ทุกคน แล้ววันที่ 30 มีพนักงานคนหนึ่งมาหาผม แต่วันที่ 1 ผมต้องจ่ายเงินให้พนักงานอยู่แล้ว
พนักงานคนนั้นพูดว่า นายครับอย่าลืมนะพรุ่งนี้เงินเดือนผมจะออก แค่อยากให้นายจำเพราะว่าผมต้องใช้จ่าย เขาพูดครั้งเดียว
"แล้วผมก็บอกว่าโอเคเข้าใจไม่เป็นไร"
ที่นี้ก็มีพนักงานผู้หญิงคนหนึ่งมา ผู้หญิงคนนี้ก็เป็นเพื่อนร่วมงานกับพนักงานผู้ชายคนที่มาคนแรก แล้วผู้หญิงคนนี้ก็เดินมาหาผมที่ออฟฟิศ นายค่ะพรุ่งนี้หนูต้องใช้จ่าย หนูต้องซื้อของ แล้วพรุ่งนี้เป็นวันที่เงินเดือนออกอย่าลืมนะ
"ผมก็บอกว่าโอเคเข้าใจเดี๋ยวพรุ่งนี้จ่ายให้"
อีกชั่วโมงหนึ่งต่อมาผู้หญิงคนนี้ก็เดินมาอีก นายค่ะอย่าลืมนะ อีก 2 ชั่วโมงต่อมาก็นายค่ะ 3 ชั่วโมงต่อมาก็นายค่ะ)
คนที่เป็นนายเป็นเจ้าของบริษัทเขาจะคิดยังไง (เขาจะรำคาญ) ขอให้เปลี่ยนการขอแบบนี้น่ะครับ มาเป็นการบอกรัก ขอบคุณ
• สมมุติอีกครั้ง พนักงานคนเดิม นายค่ะหนูรักนายมากๆค่ะ นายเป็นเจ้านายที่ดีมากเลย
"ผมเจ้าของบริษัท ซึ่ง ขอบคุณมากน่ะ"
ชั่วโมงหนึ่งผ่านไปพนักงานคนเดิมเดินมา นายค่ะหนูรักมากเหลือเกินปลื้มใจทำงานก็มีกำลังใจนายดีมากเลย
" นายคิดในใจเตรียมโบนัสให้เลย"
...
เห็นภาพไหมครับ ถ้าเรายอชื่นชมนายเรา แทนที่จะมาบอกว่าเจ้านายขอเงินนะเงินเดือนอย่าลืมนะ อย่าลืมนะ มันแตกต่างน่ะครับ
พระเจ้าต้องการให้เรามาบอกรัก สนิท พูดคุย ไม่ใช่มาหรือเอาปัญหามาให้หรือว่ามาทวงอันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะน่ะครับ
คริสเตียนที่ฉลาดจะเลือกทำในสิ่งที่ดีกว่า อย่าลืมนะคริสเตียนศาสนาทำสิ่งที่ดีอยู่แล้ว แต่พวกเราทำสิ่งที่ดีกว่า
...
ถาม.
แล้วการอดอาหารล่ะค่ะ
ตอบ.
พอถึงเวลาที่เราอดอาหาร เราทำตัวสบายๆ เรายิ้ม ห้ามบอกใบ้ห้ามบอกใครว่าเราอดอาหาร เราช่วยเหลือใครเราถวายคริสตจักรห้ามไม่ให้ใครรู้เป็นอันขาด ถ้าเรามาคริสตจักรแล้วพี่น้องนั่งทานข้าวกันอยู่ แล้วเรารู้ว่ากล่องถวายอยู่ข้างใน เรามองดูถ้าไม่มีใครเห็น เราก็ใส่กล่อง คือทำอะไรก็ได้ไม่ให้ทุกคนรู้ว่าเราให้
...
ถาม.
คือในเวลาอดอาหารในเวลานั้นเราต้องพูดคุยกับพระเยซูตลอดเวลาไหม
ตอบ.
ทุกเวลาเราพูดคุยกับพระเจ้าทุกเวลา จงพูดคุยกับพระเจ้าอย่างสม่ำเสมอ คือเราเป็นคริสเตียนเราเชื่อพระเยซูหน้าที่ของเราอันหนึ่ง ก็คือตอนนี้เรามีเพื่อนที่สถิตอยู่ในเรา เราไปไหนขี่รถมอเตอร์ไซค์เราร้อนเราบอกว่าพระเยซูร้อนเหลือเกินขอเมฆมาหน่อยขอ 1 ก้อน พระเยซูลูกร้อนขอเมฆมาบังหน่อย คือขอเลยขออะไรก็ได้พูดอะไรก็ได้ คือคุยกับพระเยซู สร้างความสัมพันธ์ให้คุ้นเคยกันรักกัน อย่าลืมคนไหนที่พูดกับพระเยซูมากๆ พระเยซูจะเริ่มทำบางอย่างกับเรา แล้วเราจะรู้สึกว่าใกล้ชิดพระองค์ ในใจเราซาบซึ้ง แบบในใจเราได้หลุมรักใครบางคน
ชีวิตของคริสเตียนขอให้มีพระเยซู ขอให้ได้พูดคุยกับพระเยซูไปตลอดเวลาฝึกแบบนี้มันง่ายไหม มันไม่ได้ยากอะไร แล้วพระเยซูจะช่วยชีวิตของเรา เรื่องการค้าขาย เรื่องสุขภาพ เรื่องครอบครัว เรื่องความอบอุ่น ทุกเรื่องเลย พระเยซูจะช่วยเรา ขอแต่ว่าหน้าที่เราขอให้พูดคุยกับพระเยซู คุยไปกับพระเยซู
...
ถาม.
ในช่วงเวลาที่เราอดอาหารเราต้องทำยังไงอธิษฐานเท่านั้นหรือว่าทำอะไรอีก
ตอบ.
การอดอาหารมี 2 วิธี วิธีที่ 1 คือกักตัว คือกักตัวอยู่ในห้องไม่ออกไปไหนหรือว่าออกไปธุระหน่อยหนึ่งแล้วกลับเข้ามาใหม่ใช้เวลาอยู่ที่ห้องอาจจะครึ่งวันหรือจะกี่ชั่วโมงแล้วแต่ อันนี้เรียกว่าวิธีที่ 1
วิธีที่ 2 ก็คือว่าทำทุกอย่างเหมือนปกติประจำวันไปทำงาน ไปทำนู่นนี่นั่นยกเว้นแต่ว่าเราไม่กินข้าว แล้วก็อยู่ในคำอธิษฐานกับพระเจ้า แล้วแต่เราเลือก 6 ชั่วโมงหรือ 12 ชั่วโมงแล้วแต่
การอดอาหารอธิษฐานเป้าหมายก็คือ การที่อยากให้พระเจ้าช่วยบางสิ่งบางอย่าง
การอธิษฐานก็คือการที่ต้องการอยากให้พระเจ้าเปิดเผยว่าชีวิตเราจะทำยังไง
การอธิษฐานก็คือ ขอการตัดสินใจขอการช่วยเหลือของพระเจ้าให้แก้ไขสถานการณ์ท่วงทันท่วงที นี่คือเป้าหมายของการอดอาหาร
...
ถาม.
อาจารย์พูดว่าถ้าอดอาหารเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 6 ชั่วโมงเราจะอธิษฐานแต่เรื่องนั้นตลอดจนถึงครบเวลา
ตอบ.
ไม่ครับ ไม่ตลอด เวลาที่เราอดอาหารเผื่อแม่นันที่มีสุขภาพไม่ดี ที่เขาเจ็บป่วยมานานแล้วไปหาหมอก็แล้วเป็นเรื้อรังไม่หายสักที แล้วเรารู้ข่าวแล้วเราอดอาหารเวลาที่เราอดอาหารไม่ใช่ว่า " แม่นัน พระองค์ แม่นันๆๆๆ ทุกนาที" ผิดน่ะครับ เวลาที่เราอดอาหารก็คือ ยกย่อง สรรเสริญ อ่านพระคัมภีร์ ขอบพระคุณ สนิท บอกรัก คิดถึงแม่นันครั้งเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ว่าจะพูดถึงชื่อแม่นันตลอดๆ ไม่ครับ ภายในเวลาช่วงที่อดอาหารนั้นพูดถึงแม่นันคำเดียวครั้งเดียวเท่านั้น แต่ว่าสรรเสริญพระเจ้ามากๆ ยกย่องพระเจ้ามากๆ ขอบพระคุณมากๆ ถวายเกียรติให้พระเจ้ามากๆ คำเดียวที่ขอให้แม่นัน แล้วพระเจ้าแตะแม่นันพระเจ้าแตะนิ้วเดียวเท่านั้น แม่นันหาย
แล้วคนที่อดอาหารครั้นว่าสุขภาพไม่ดี ต้องการอยากกินน้ำก็กินน้ำได้ แต่ห้ามกินอะไรที่มันเป็นแป้ง ห้ามกินอะไรที่มันเป็นโปรตีน นมก็ไม่ได้กินแล้วมันมีแรง ยังงั้นก็ไม่เรียกว่าการอดอาหาร การอดอาหารนี้เราหลีกเลี่ยงการกินอะไรที่มันเสริมสร้างพลังงาน กินแล้วมีแรงไม่ให้กิน มันก็ไม่เรียกว่าการอดอาหาร
กินช่วยได้อย่างหนึ่งก็คือน้ำหรือน้ำส้มอันนี้กินได้ น้ำไม่มีโปรตีนมันช่วยทุเลา อะไรที่เป็นแป้งสาลี นม มีเต้าหู้ กาแฟก็ไม่ได้ กาแฟกินแล้วมันจะกระปรี้กระเปร่า หรือกระทิงพวกเอ็ม150 ประเภทนั้นกินไม่ได้ กินได้แต่น้ำเปล่าหรือน้ำส้ม
...
ถาม.
ในนั้นเราตั้งไว้ไหมว่า 3 วัน 5 วัน 1 อาทิตย์
ตอบ.
แล้วแต่เราๆ ไม่มีกฎตายตัวแล้วแต่เรา สมมุติว่าวันนี้อด 3 ชั่วโมง พรุ่งนี้อดกี่ชั่วโมงก็แล้วแต่เรา ทีนี้สมมุติว่าอดไม่ไหวอยากยกเลิกก็บอกพระเยซูลูกยกเลิกลูกขอ cancel ไม่ไหวแล้ว ก็จบ พระเจ้าเข้าใจ พระเจ้าเข้าใจเราไม่ใช่ว่าต้องอดให้ได้นะเคร่งนะก็ไม่ใช่แบบนั้น
...
ถาม.
เวลาเราอดอาหารเราต้องบอกจุดประสงค์ของเราต่อพระเจ้าไหม
ตอบ.
ไม่ต้องบอก พระเจ้ารู้แล้ว ถ้าถึงเวลาปุ๊บอดอาหารปั๊บ ถึงเวลานั่งร้องเพลง อธิษฐาน อ่านพระคัมภีร์ ขอบคุณพระเยซู คิดถึงแม่นันแค่นั้น
เอาง่ายๆ คริสเตียนทุกวันนี้ไม่รู้ว่าพระเจ้าฉลาด คริสเตียนทุกวันนี้อดอาหารปุ๊บ
"ก็พูดเลยต่อไปนี้ข้าพระเจ้าจะอดอาหารนะพระองค์ ข้าพเจ้าจะอดอาหารเผื่อแม่นัน แล้วก็ข้าพเจ้าจะอด 3 ชั่วโมง"
พระเจ้าจะว่ายังไง ? เจ้าคิดว่าเราโง่หรือลูก พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าที่ฉลาดสัพพัญญู เป็นพระเจ้าผู้อ่านความคิดของมนุษย์ได้ พระเจ้ารู้หมดความคิดของมนุษย์ไม่ต้องบอก
ถ้าสมมุติเราทำโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ขอบคุณพระเจ้าเมื่อเรามาพบมานาเมื่อเราเข้าสู่มานา อาจารย์มานาก็แนะนำเราก็ได้รู้แล้ว ที่นี้เข้ามาปุ๊บก็ทำตามนั้นพระเจ้าชอบมากๆ พระเจ้าชอบที่สุดคนที่ทำแบบคนที่เป็นผู้ใหญ่
...
ถาม.
แปลว่าการอดหารจำเป็นหรือไม่จำเป็น
ตอบ.
ถามว่าอดอาหารจำเป็นไหม โลกนี้มันไม่แน่นอน พี่น้องเราบางครั้งก็ไม่แน่นอน สภาพชีวิตของเราบางครั้งก็ไม่แน่นอน บางครั้งก็ตกอับ บางครั้งก็เจอมรสุม เพราะฉะนั้นการอดอาหารนี้มีไว้เพื่อสิ่งเหล่านี้
ไม่ใช่ว่าอยู่เฉยๆจะอดอาหารอยากไดเอทก็เลยอดอาหารอันนั้นไม่ถูก
การอดอาหารเพื่อสิ่งที่จำเป็น เพื่อภาวะฉุกเฉินระหว่างเรื่องของเราหรือจะเป็นบางคนที่ต้องการความช่วยเหลือ แล้วพระเจ้าจะช่วยแน่นอน เอเมน
พระเจ้าจะช่วยแน่นอนเวลาเราอดอาหารพระเจ้าช่วย แต่ว่าอดให้มันถูกวิธี บางคนอดไม่ถูกวิธีก็เสียไปเปล่าๆ เสียเวลาเปล่าๆเลย อดแล้วไปพยายามบอกคนอื่นว่าฉันอดอาหารอยู่แสดงว่ามือขวารู้การกระทำมือซ้ายแล้ว พระเจ้าไม่นับแล้วสำหรับพระเจ้ามันเป็นโมฆะไปแล้ว