ถาม.
ถ้ามีเพื่อนงอนเรา โดยที่เราไม่ทราบสาเหตุ ในส่วนของเราต้องทำยังไงอ่ะคะ
ตอบ.
สำหรับคริสเตียน สำหรับคริสเตียนไม่ควรจะใช้คำว่างอน ไม่ควรจะมีการงอนกันและกัน เราต่างก็เข้ามาสู่มานาฯ เรารับมานาพระคำล้ำลึกของพระเจ้า เราเป็นผู้ใหญ่ในฝ่ายวิญญาณ เราแสวงหาความรัก ดูแลกันและกัน ใส่ใจกันและกัน ไม่มีเวลามางอนกัน อยู่ที่นี่ ก็คือเรามีอะไรก็พูดกันตรงๆ ใช้วิธีการของฝรั่งดีไหม คือภาษาอังกฤษไม่มีคำว่างอนนะ ถ้าเราไปหาดูหรือว่าใครค้นหาเจอ คำว่างอนเนี่ย หรือภาษาลาวเขาเรียกกันว่าเครียดๆ
จริงๆ แล้วในพจนานุกรมภาษาลาวภาษาไทยโดยเฉพาะภาษาอังกฤษเนี่ยมันไม่มีเลย ก็คือถ้าไม่พอใจ ไม่แฮปปี้ ถ้าคุณไม่แฮปปี้คุณก็พูดกับผม มาคุยกัน ไม่ใช่ว่าไปคิดเอาเองว่าเราทำอะไรผิด คิดเอาโตแล้ว อันนั้นไม่ใช่นะครับมันเหมือนเด็กมากกว่า
เราเป็นผู้ใหญ่เราเป็นคริสเตียนเราเป็นบุตรพระเจ้าขอให้ยกเลิกคำว่า งอน เอามันออกไป ถ้าคุณไม่พอใจอะไรใคร เพื่อนของคุณทำผิดอะไรต่อคุณ คุณก็ไปพูดกับเขา เนี่ยนะตรงนี้รู้สึกว่ามันจะไม่ค่อยดีเท่าไร ตรงนี้เราไม่ชอบนะ เราคุยกันได้ไหม อะไรประมาณนี้นะครับ
ถ้าสมมุติว่าคนนั้นยังมาไม่ถึงความรู้นี้ แล้วเขายังงอนอยู่ เราจะทำยังไง?
เราที่มาถึงมานาที่ซ่อนไว้แล้ว เราที่มาถึงความจริงแล้ว เราก็เป็นคนไปง้อเขาไปพูดดีกับเขาไปพูดคุยกับเขา "มีอะไรมั้ย ไม่สบายใจไม่ชอบอะไร เราทำผิดอะไร ถ้าเราทำผิดก็ขอโทษนะ มีอะไรก็บอกมา ถ้าไม่ดีก็จะแก้ไข ถ้าดีก็คุยกัน" เอเมนไหมครับ
ถาม.
เพื่อนไม่ได้เป็นคริสเตียนค่ะ
ตอบ.
ก็ใช้วิธีนี้แหละครับวิธีที่ 2 ที่ผมพูด ก็คือเราไปถามเขา เราทำอะไรผิดกับเธอมั้ย มีอะไรคุยกัน ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ก็คือถ้าเราทำอะไรผิดเราก็ขอโทษ ถึงแม้ว่าบางครั้งเราอาจจะไม่ได้ทำผิดแต่เราขอโทษด้วยความถ่อมใจก็ทำได้ ถ้าเราทำก็ดีนะครับ
ซึ่งคำ “ขอโทษ” มันไม่ได้เสียหายอะไรมาก เพียงแต่ว่ามันจะทำลายเกียรติของเราศักดิ์ศรีของเรา แต่เราเป็นบุตรพระเจ้าเราไม่มีตัวตนใช่ไหม เพราะฉะนั้นคำ “ขอโทษ” เราใช้มันเถอะ ใช้มันให้เปลืองไปเลย เป็นคำที่ดีมาก เป็นคำที่นำมิตรภาพกลับมาคืนดีกันได้ เป็นคำที่ทำให้ทุกสิ่งจากร้ายกลายเป็นดีได้ หนักเป็นเบา ยากเป็นง่าย เพียงแค่คำ “ขอโทษ” ไม่เสียหายนะครับ สำหรับผมใช้เปลืองมากไม่ได้ทำผิดเราก็ขอโทษ เพื่อรักษามิตรภาพ เพื่อนำสิ่งที่เสียหายไปกลับคืนมา
เราเป็นคริสเตียนเราควรจะทำเพราะว่าเราเป็นลูกพระเจ้า เขาไม่ใช่คริสเตียน ทำไปเลยขอโทษเขา ไปคุยกับเขาไปง้อเขาก่อนไปหาเขาก่อน เอเมน
ถ้าเราเป็นคริสเตียนเรายังบอกว่าข้ามีศักดิ์ศรี ข้ายังมีเกียรติอยู่ ข้าสูงส่ง ข้าจะไปแคร์ทำไม จะไปสนใจทำไม เขาต่ำต้อย เขาไม่มีฐานะอะไร อันนั้นคือเราไม่ใช่คริสเตียนแล้ว
แต่คริสเตียน คริสเตียนที่แท้จริงก็คือเป็นคนที่ยากจนในฝ่ายวิญญาณ แล้วก็ไม่ถือตัว ไม่ยิ่งใหญ่ เราถ่อมใจเราถ่อมถึงดิน ขอให้จำตรงนี้คริสเตียนแท้จะถ่อมถึงดิน
ถ่อมถึงดินคืออะไร? ดินมันมีค่าไหม ดินมันเป็นสิ่งที่ผู้คนเหยียบย่ำเดินไปมา เราเปรียบเสมือนดิน เราถ่อมถึงดิน ไม่มีตัวตน ไม่มีค่าอะไร แล้วพี่น้องทราบไหมครับถ้าเราทำได้พระเจ้าจะยกเราขึ้นเราจะมีที่นั่งที่สูงส่งในอาณาจักรสวรรค์และฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่
ถ้าใครยังทำไม่ได้ถ่อมถึงดินไม่ได้ ขอพระเยซูชำระนะครับ “พระเยซูชำระพวกเราทั้งหลายเถิด ให้มาถึงจิตใจที่ถ่อมเหมือนพระองค์ ถึงดินเหมือนพระองค์ เพราะว่าพระองค์เป็นอะไรเราก็ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะว่าผู้ชนะก็คือชีวิตของพระเยซู เอเมน”
วันนี้เป็นวันที่ 2 นะครับที่ผมได้สอนลูกชาย ก็คือลูกชายจริงๆ ลูกชายที่เป็นลูกของผมจริงๆ ที่อยู่อเมริกา เป็นวันที่ 2 เป็นครั้งที่ 2 ที่ได้สอนเขาเรื่องพระคำพระเจ้า สมัยก่อนเขายังเด็กอยู่ก็ไม่มีโอกาสได้คุยกัน แต่ตอนนี้ก็คือเขาอายุ 30 กว่าแล้วนะครับ พอดีมีโอกาสได้คุยกัน แล้วครั้งแรกผมก็ได้คุยกับเขาเรื่องความเชื่อ การเดินในพระวิญญาณเป็นแบบไหนทำยังไง ความรอดเนี่ยมันมีกี่รอด พอดีเขาก็เริ่มเข้าใจ ซึ่งเมื่อก่อนเขายังเด็กเขารับไม่ได้ แต่ตอนนี้เขาโตแล้ว
แล้ววันนี้ผมก็มีโอกาสได้พูดกับเขาเรื่อง “คุณค่าที่ครบถ้วนของพระโลหิต” ซึ่งเขาบอกว่าขอบคุณพระเยซูที่พ่อเอาสิ่งนี้มาให้วันนี้ เพราะว่าเมื่อก่อนคือรู้สึกฟ้องผิดมาก
อีกครั้งนะครับคุณค่าของพระโลหิต อย่างที่ 1. ก็คือ พระเจ้าทรงยกโทษบาปเราทั้งหลาย พระองค์ยกโทษแล้วพระองค์ลืมมันไปไม่จำไม่จดจำ และสิ่งที่ 2. ก็คือ เรามาทางพระโลหิต เราจะเป็นคนดีแค่ไหนพระเจ้าก็ไม่ต้อนรับ เราจะเป็นคนชั่วแค่ไหนมาหาพระเจ้า พระเจ้าก็ไม่ต้อนรับ แต่ถ้าหากเราบอกว่า “พระเยซูวันนี้ พระบิดาวันนี้ข้าพระองค์มาทางพระโลหิต” พระเจ้าจะตอบรับและต้อนรับทันที ใครที่อยากอ่านพระคัมภีร์อธิษฐานไปนมัสการพระเจ้าไปโบสถ์แล้วบอกว่าพระองค์ข้าพระองค์มาทางพระโลหิต พระเจ้าจะต้อนรับเราทันที ขณะที่เราโกรธอยู่ก็ตามเราบอกว่ามาทางพระโลหิต พระเจ้าก็จะต้อนรับ
สิ่งนี้ลูกชายผมบอกว่าขอบคุณพระเจ้าอย่างมาก ซึ่งบางครั้งอาจจะหงุดหงิดอาจจะไม่ดีใจไม่พอใจอาจจะมีปัญหาเรื่องจิตใจแล้วก็ไม่กล้าเข้าใกล้พระเจ้า แต่ขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ปลดปล่อยเขา และสิ่งที่ 3. ก็คือ อย่าฟ้องผิด คำว่าฟ้องผิดหรือรู้สึกผิด ภาษาอังกฤษคือ guilt หรือว่า guilty
แต่เมื่อเราเป็นคริสเตียนเป็นบุตรพระเจ้า พระโลหิตของพระเยซูคริสต์กำจัดความรู้สึกผิดอาการฟ้องผิดทั้งหมด คนไหนจะจดจำความผิดของเรา ใครจะบอกเราสามีภรรยาที่เคยโกรธแค้น เพื่อนที่เป็นศัตรูที่เขาโกรธแค้น บางคนที่เป็นศิษยาภิบาลในคริสตจักรที่เขาเกลียดชังเขาโกรธแค้นเพราะว่าเขาเห็นเรามีชีวิตที่เลวทรามชั่วช้าอะไรก็แล้วแต่ หรือทำผิดอะไรมากมายที่เข้ามาร่วมคริสตจักร แล้วปรากฏว่ามีหลายคนไม่พอใจ ศิษยาภิบาลก็ไม่พอใจ ไปเทศนาไปใช้คำพูดที่เป็นด้านลบ แช่งด่าเขา ขับไล่เขา หรือไม่พอใจที่เขามาร่วมโบสถ์ไม่ต้อนรับเขา
แต่อย่าลืมนะครับขอบคุณพระเจ้า พระโลหิตของพระเยซูกำจัดอาการฟ้องผิดทั้งหมด ใครจะพูดอะไรกับเรา เราไม่ guilty ใครจะว่ายังไงเราก็ตามเราบาปชั่ว แต่เรานะครับเป็นผู้บริสุทธิ์และชอบธรรมต่อสายพระเนตรของพระเจ้า เพราะว่าเราสวมเสื้อที่ดีที่สุด (ลก 15:22 / 2 คร 5:16-17) เสื้อก็คือพระเยซูคริสต์ครอบคลุมชีวิตของเรา เราซ่อนอยู่ในพระคริสต์แล้ว ไม่มีพระบิดาที่จะมองเราเห็นเราตรงไหนไม่มีเลย พระเจ้าเมื่อมองเราจะเห็นแต่พระเยซูคริสต์เท่านั้นเอเมน และอาการฟ้องผิดจะไม่มีนะครับ
เพราะฉะนั้นอย่าหวั่นไหวอย่าใส่ใจคำพูดของคนที่บอกว่า คุณเคยเป็นคนชั่ว คุณจะไม่รอดหรอก คุณจะไม่ได้เข้าอาณาจักรหรอก คุณจะไม่ดีหรอก คุณไม่ควรไปโบสถ์ คำพูดเหล่านี้สิ่งเหล่านี้จากสามีภรรยาจากใครก็ตามที่มาใส่ร้ายเราพูดในสิ่งที่เป็นลบเหยียบเราลง แต่สำหรับพระเจ้า พระเจ้าไม่เคยมองเราว่าเป็นคนผิด ฉะนั้นเราอย่าฟ้องผิดในใจของเรา เราเป็นผู้ชอบธรรมเราเป็นผู้บริสุทธิ์เท่ากับพระเจ้าเพราะว่าเราอยู่ในพระคริสต์และชีวิตของเราซ่อนอยู่ในพระองค์ ฮาเลลูยา
และอาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ผมจะมีเวลาสามัคคีธรรมกับลูกชายอีก อาจจะเป็นเรื่องต่อไปก็คือ (sin person) ก็คือตัวบาปที่อยู่ในเรา ทำยังไงถึงจะให้เราทำบาปน้อยลงๆๆ แล้วสุดท้ายก็ดำเนินชีวิตผู้ชนะไปกับพระเจ้า ก็ขอพี่น้องอธิษฐานเผื่อนะครับแล้วก็ขอทุกสิ่งเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์
ถาม.
ระหว่างพี่น้องที่กำลังฝึกเดินในวิญญาณนะคะ มันจะมีสัญญาณการคืนดีมั้ยคะ
ตอบ.
พี่น้องที่เป็นเด็กฝ่ายวิญญาณ แล้วเราที่โตในฝ่ายวิญญาณ มีสัญญาณการคืนดีไหม สัญญาณแบบไหนครับ
ถาม.
เช่นพระเจ้าจะให้โอกาสให้คนๆ นั้นมาอยู่ในรัศมีของเรา คือในที่ๆ เราเห็น และที่เราได้ยินอย่างเงี้ยค่ะ หมายถึงพระเจ้าให้โอกาสเราใช่มั้ยคะ
ตอบ.
คือเป็นน้ำพระทัยของพระเจ้าที่อยากให้เราทุกคนนะครับไม่ว่าจะเด็กในฝ่ายวิญญาณหรือผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณที่มาอยู่ร่วมกัน พระเจ้าต้องการให้เราทุกคนได้มีโอกาสได้คืนดีกันแน่นอน พระเจ้าต้องการให้เราทุกคนมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและกันแน่นอน พระเจ้าจะนำเขามาตลอดเวลามารบกวนเรา แล้วมาให้เราทำการบ้าน มาเพื่อให้เราฝึก ถ้าใครที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายวิญญาณควรจะเป็นคนที่เข้าไปหาเด็กฝ่ายวิญญาณก่อน วิธีไหนก็ตามนะครับที่พระเจ้าให้เราใช้เพื่อคืนดีกับเขาได้เนี่ยรีบทำ
การคืนดีกับใครคนใดคนหนึ่งในพระกาย ถ้าหากเราเป็นคนที่ทำก่อน พระพรบำเหน็จจะมีมากมายมาสู่เรา เพราะว่าอะไรครับ? ผู้ที่สร้างสันติก็คือบุตรที่รักของพระเจ้า พระองค์ต้องการ Peacemaker (มธ 5:9) ใครในพวกเราที่เป็น Peacemaker ที่เป็นคนไปคืนดีกับเขาก่อน ไปยอมก่อน ไปถ่อมใจขอโทษเขาก่อน เป็นผู้ชนะที่แท้จริงแล้วก็เป็นผู้ที่ได้รับบำเหน็จรางวัลมากมายจากพระบิดา
อย่าคิดนะครับว่าเขามาหาเราเองหรือเราไปหาเจอเขาเองโดยบังเอิญ พระเจ้าพยายามทำให้เราคืนดีกัน แล้วเมื่อเราคืนดีไม่ได้ ตอนนี้เรารู้สึกหงุดหงิดอยู่ อยู่ยาก อบอ้าว ไม่สบายใจอยู่กับเขามันทนไม่ไหว คุณสมบัติของเขาอาการกิริยาของเขาเรารับไม่ได้ เมื่อเราคิดแบบนี้แสดงว่าเรายังต้องทำการบ้านอีกเยอะ จนกว่าวันหนึ่งเราไปเจอเขาเราจะบอกว่าเอเมน สบายๆ เลย เขาพูดอะไรมาเราก็สบายๆ รับได้ไม่มีปัญหา คำพูดที่มันทิ่มแทงเรามันเป็นคำพูดที่แบบมันหอมหวานสำหรับหูของเรา สำหรับวิญญาณของเรา เมื่อเรารู้สึกแบบนี้นะครับการทำการบ้านของเราก็สำเร็จแล้วกับเขา
อีกครั้ง อย่าลืมพระเจ้าจะไม่ทำทุกสิ่งให้ราบรื่น สิ่งที่อยู่รอบข้างเราให้มันดีไปหมด แล้วให้เราดีใจ ไม่นะครับ ชีวิตผู้ชนะพระเจ้าจะเป็นคนทำให้เรานี่แหละดีเอง เมื่อจิตใจเราดีทุกสิ่งมันก็ดีไปหมด เอเมน. เรานี่แหละ คุณคือปัญหา ไม่ใช่คนอื่น
แล้วเราถ้าหากเป็นผู้ใหญ่กว่าเขาโตกว่าเขา เขาเป็นคริสเตียนเด็ก เราต้องเป็นคนที่ยอมไปง้อไปขอคืนดีไปขอโทษไปทำทุกสิ่งเพื่อเอาใจเขาเอาชนะใจเขา แล้วก็กลับมาเป็นพี่เป็นน้องกันเหมือนเดิม รู้ไหมครับว่า 2 คนที่คืนดีกันทูตสวรรค์ทั้งสวรรค์ปรบมือแล้วก็ชื่นชมยินดี อ๋อ เขาคืนดีกันแล้วฮาเลลูยาสรรเสริญพระบิดา นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
สำหรับสัญญาณที่พระเจ้าให้เพื่อการคืนดีนะครับ เราจะได้ยินชื่อเขาบ่อยๆ คิดถึงเขาบ่อยๆ อาจจะคิดเกลียดชังหรือคิดอะไรก็แล้วแต่ มันจะมีชื่อเขา Pop Up ขึ้นมาอยู่ในความคิดของเรา หรืออาจจะเห็นชื่อเขาในกลุ่มไลน์ในเฟซบุ๊กหรือที่ไหนก็ตาม หรือว่าไปเจอกันจริงๆ โดยที่ไม่ได้อยากเจอ คือแบบเหมือนคล้ายๆ จะบังเอิญ แต่จริงๆ แล้วน่ะก็คือพระเจ้าเป็นคนนำเราให้เข้ามาเจอกัน มันเป็นสัญญาณที่มาจากพระเจ้าทุกสิ่งไม่ใช่บังเอิญครับ อย่าไปรอแค่สัญญาณที่บอกว่าพระเจ้าพูดให้กลับคืนดี หรืออ่านพระคำตรงกันให้คืนดี ไม่นะครับ
อีกครั้ง ถ้าเราเรียนรู้เรื่องการตรัสของพระเจ้าการสื่อสารของพระเจ้ากับเรา เรียนรู้อย่างครบถ้วนเราจะเห็นว่าพระเจ้าให้สัญญาณตั้งแต่นานแล้ว ตั้งแต่เขาโกรธกันนู่น แต่เราไม่รู้ใช่ไหม เพราะฉะนั้นนะครับเรียนรู้การสื่อสารของพระเจ้าว่าพระองค์สื่อสารกับเราทางไหนบ้าง ไม่ใช่แค่เปิดพระคัมภีร์หรือรอคำอธิษฐานแล้วพระเจ้าพูด ไปเถอะไปหาเขาสิ อันนี้ไม่ใช่นะครับไม่ใช่
ถาม.
เอเมนค่ะ ขออนุญาตเสริมข้อพระคัมภีร์ อฟ 4:26 ในพระคำของพระเจ้าบอกว่าจะโกรธก็โกรธได้แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกแล้วยังโกรธอยู่ อย่าให้โอกาสแก่มาร อันเนี้ยคริสเตียนส่วนใหญ่ก็รู้ข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ใช่มั้ยค่ะพี่น้อง แต่ไม่มีใครทำได้เลยนะคะ คือคนที่ทำได้ก็คือส่วนน้อยมาก ส่วนใหญ่จะไม่มีใครหรอกค่ะที่โกรธแล้วแบบว่าให้ดวงตะวันตกดินแล้วก็เลิกโกรธใช่มั้ยค่ะ ส่วนใหญ่ก็จะโกรธกันข้ามวันข้ามคืนข้ามเดือนข้ามปีไปแบบนั้น แต่เรารู้ตามพระคำของพระเจ้าแล้ว
ตอบ.
ขอล้างเท้าน้องสาวก่อนนะครับ สำหรับคำว่า โกรธจนถึงตะวันตกดิน อย่าเข้าใจว่าเป็นการโกรธแล้วรอแล้วดูที่ตะวันว่าเมื่อไหร่จะตกดิน ตะวันนี้นะครับไม่ใช่ตะวันที่เราเห็นอยู่ที่เป็นตะวันที่เป็นบนฟ้านี้ ไม่ใช่นะครับ ตะวันนี้ก็คือความสว่าง ตะวันนี้ก็คือตะวันของเราเอง คริสเตียนทุกคนอยู่ในความสว่างหรือมีดวงตะวันมีตะวันของใครของมัน เพื่อที่เราจะไม่สับสนนะครับผมจะขยายความ
คริสเตียนพวกเราอยู่ในความสว่างของพระเจ้าเรียกว่ากลางวันที่มีตะวันเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยู่ในความสว่างก็คือกลางวันก็คือความสว่าง แล้วเมื่อเราโกรธ เราโกรธเนี่ย พอความโกรธของเรามันมีมากขึ้นมากขึ้นมากขึ้นจิตใจของเราก็มืดดำเรากลับกลายเข้าไปสู่ความมืดอยู่ในความมืด ตะวันตกแล้ว ความสว่างมันหมดไปแล้ว เข้าใจนะครับ
และเมื่อความสว่างมันหมดไป เราอยู่ในความมืดซาตานก็ครอบคลุมชีวิตของเราซาตานก็จะเล่นงานเรา แล้วซาตานก็จะเป็นคนชักนำเราให้ไปทำบาป เพราะว่าเราอยู่ในความมืด เราอยู่ในเนื้อหนัง ตัวบาปก็จะมีอำนาจมีพลัง ซาตานจะเป็นคนที่ครอบคลุมชีวิตเราไว้ได้ สุดท้ายจากความโกรธที่ยิ่งใหญ่ที่มีมากมายเต็มที่ เราในที่สุดเราก็จะไปทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ ก็คือ อาจจะล้างแค้น หรืออาจจะมีความโกรธแค้นที่ฝังใจเราไปจนตาย
อีกครั้งนะครับ อย่าให้โกรธถึงตะวันตกดิน ก็คือ ตะวันก็คือความสว่างที่อยู่ในเรา อย่าให้มันหมดไป แล้วสุดท้ายเราไปอยู่ในความมืด
คือตอนนี้กี่โมงแล้วครับ (ตอนเที่ยง) เที่ยงกว่าๆ เราเห็นตะวันนะครับ แต่ถ้าสมมุติว่ามีใครบางคนอยู่ในท่ามกลางพวกเราโกรธ แล้วโกรธมากๆ ด้วย โกรธจนไม่ไหวแล้ว โกรธคือโกรธแค้นมากเกลียดชังมากอยากจะฆ่าใครบางคนที่เขาทำให้เราโกรธ แล้วสุดท้ายความสว่างตะวันของเขาก็จะตก ความมืดก็เข้ามา ทั้งๆ ที่ว่าตอนนี้มันเป็นตอนเที่ยงใช่ไหม แต่ตะวันตกแล้วสำหรับเขาคนนั้น เข้าใจไหมครับ
แต่คริสเตียนทุกวันนี้ไม่เข้าใจความจริงนี้ คริสเตียนทุกวันนี้คิดว่าตอนนี้เป็นตอนเที่ยงยังโกรธได้ แล้วตอนถึงบ่ายโมงก็ยังโกรธได้อยู่ สี่โมงก็ยังมีตะวันอยู่ก็ยังโกรธได้ ไม่เป็นไรข้าโกรธต่อไป แต่พอตอนหกโมงเย็นเนี่ยโอเคน่าจะเลิกควรจะเลิกโกรธได้แล้วเพราะว่าผิดต่อพระคำพระเจ้าเขาก็เลยเลิกโกรธ อันนี้เป็นคริสเตียนดีนะครับ คริสเตียนคนดีที่เขาอยากจะทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าอยากกระทำตามน้ำพระทัยพระเจ้า เมื่อถึงหกโมงเย็นตะวันตกดินเขาจะเลิกโกรธทันที แต่อันนี้เป็นความเชื่อที่ผิดนะครับ
ความเชื่อที่ถูกต้องในพระคำพระเจ้าก็คือ เมื่อเราโกรธขณะตอนนี้ยังเป็นตอนเที่ยงอยู่ แล้วก็บ่ายโมงบ่ายสองบ่ายสาม แล้วปรากฏว่าตะวันมันก็ยังมีอยู่ เมื่อเราโกรธมากๆ โกรธแค้นโกรธจนไม่ไหวแล้ว โกรธจนไม่อยากจะอยู่ในพระคริสต์ ไม่อธิษฐาน ไม่สามัคคีธรรม ไม่สนิทในพระเยซู ไม่บอกรัก ไม่ได้พูดถึง ไม่ได้ร้องเพลงพระเจ้า ไม่ได้อะไรเกี่ยวกับฝ่ายวิญญาณแล้ว แสดงว่าตอนนั้นก็คือเขาตะวันตกดินแล้ว เข้าใจนะครับเอเมน
เอเฟซัส 4:25 เหตุฉะนั้นท่านจงเลิกพูดมุสาเสีย และ ‘จงต่างคนต่างพูดความจริงกับเพื่อนบ้าน’ เพราะว่าเราต่างก็เป็นอวัยวะของกันและกัน
เอเฟซัส 4:26 โกรธก็โกรธเถิด แต่อย่าทำบาป อย่าให้ถึงตะวันตกท่านยังโกรธอยู่
** ตะวันตกดิน คือตะวันฝ่ายวิญญาณ ไม่ใช่ตอนหกโมงเย็น แต่เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ตะวันตกดิน คือเริ่มสำแดงชีวิตอาดัมฝ่ายเนื้อหนัง และออกจากกลางวัน คือการอยู่ในพระคริสต์ (ยน 11:9-10)
** พระวิญญาณตัดผ่านเปาโลเพื่อเตือนผู้เชื่อที่ยังเป็นเด็กและหนุ่ม ที่ยังโกรธได้ และเมื่อเกิดอารมณ์โกรธ เขามีเวลาเล็กน้อยเพื่อที่จะไม่ปล่อยตัวไปทำบาปต่อไปซึ่งเรียกว่าตะวันตกดินแล้วและออกจากพระคริสต์ไปแล้ว
เอเฟซัส 4:27 และอย่าให้โอกาสแก่พญามาร
** คือการตอบสนองต่อความคิดทางลบ และออกจากพระคริสต์เข้าไปอยู่ในเนื้อหนังและทำบาป
** เมื่อเรายอมหลุดออกไปจากพระคริสต์ มารมีโอกาสที่จะชักนำเราให้ไปทำบาปมากกว่าเก่า และออกห่างจากพระเจ้าไปไกล จนเรารู้สึกฟ้องผิดน้อยใจและไม่อยากเดินในวิญญาณ อย่าให้ความคิดที่ทำให้เราน้อยใจและห่างไปจากพระเจ้า เราจะจมอยู่ในความมืดสนิท คือ ชีวิตเริ่มไม่มีพระเจ้าไปแล้ว
อ่าน: เอเฟซัส บทที่ 4