ชีวิตคริสเตียนทุกวันนี้ ดำเนินชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์พระเยซูตรัสสอนแบบหนึ่ง แต่เรากลับดำเนินชีวิตอีกแบบหนึ่งเพราะเรายังใช้ตัวเก่าหรือใช้ตัวอาดัมของเราทำดีเพื่อพระเจ้า
--------
เราจะสังเกตุได้นะว่าชีวิตคริสเตียนทุกวันนี้ ดำเนินชีวิตที่ไม่สอดคล้องกับพระคัมภีร์เลย พระเยซูตรัสสอนแบบหนึ่งเราดำเนินชีวิตอีกแบบใช่ไหมครับ....คือ พระองค์ทรงตรัสว่าถ้ามีใครเกณฑ์เราให้เดินไปไมล์หนึ่งหรือหนึ่งกิโลหนึ่ง ให้เราเดินไปสองกิโล และถ้ามีใครตบแก้มข้างหนึ่งให้หันแก้มอีกข้างหนึ่งให้เขาตบ แล้วพระองค์ทรงกล่าวอีกว่าถ้าผู้ใดต้องการเสื้อนอกของเราก็ถอดเสื้อในให้เขาไปด้วยแต่ปรากฏว่าไม่มีใครทำอาจจะมีแต่น้อยส่วนมากจะไม่ยอมเสียเปรียบใคร ส่วนมากจะต้องเอาชนะหรือได้เปรียบหรือไม่งั้นก็ในลักษณะที่ยุติธรรมกันหน่อย
--------
เราทราบดีนะครับว่าการดำเนินชีวิตของคริสเตียนถ้าเราใช้ชีวิตของอาดามใช้ตัวเก่าของเราทำดีเพื่อพระเจ้ามันมีขอบเขตขีดจำกัดมาก..คือ.. เราจะทำไม่ได้ การเดินไปไมล์ที่สองการถอดเสื้อในการหันแก้มอีกข้างเป็นงานของพระวิญญาณไม่ใช่งานของเรา เพราะฉะนั้นเมื่อเราพบเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตเพื่อพระเจ้า เพราะฉะนั้นเมื่อเราพบเคล็ดลับในการดำเนินชีวิตในพระคริสต์...โดยมี... พระวิญญาณเป็นคนทำแทนเราทุกอย่าง เราจะสามารถเป็นผู้ชนะเราจะสามารถทำทุกสิ่งได้
--------
คำสอนของพระเยซูคริสต์ซึ่งเป็นพระบัญญัติใหม่ ในมัทธิวบทที่ 5 บทที่ 6 บทที่ 7 เป็นคำสอนที่เราทำเองไม่ได้ ในมัทธิวพระเยซูประทานพระบัญญัติให้แก่เรา ซึ่งเป็นพระบัญญัติใหม่ แต่ในหนังสือยอห์น พระเยซูประทานผู้ที่จะมาอยู่ในเรา และทำแทนเราไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะรักษาพระบัญญัติ เราเพียงแต่เดินตามพระเยซูคริสต์ และเก็บเกี่ยวผลที่พระเยซูคริสต์เป็นผู้ทำแทนเรา
--------
เมื่อไหร่ที่เราอ่านบุคคลผู้ใดมีใจอ่อนโยนเราเปลี่ยนให้ถูกตามความหมายที่แท้จริง ก็คือ บุคคลผู้ใดไม่ตอบโต้ใครไม่ต่อสู้ใครไม่ตอบแทนการร้ายด้วยการร้ายเหมือนกับยากจนในวิญญาณใช่ไหมคือไม่ใช่บกพร่องแต่เป็นการยากจนในวิญญาณคือในวิญญาณของเราไม่มีอะไรเลยเรายอมให้พระเจ้าขนทิ้งทั้งหมด ความรู้เก่าความคิดเก่า ความเข้าใจแบบเก่า ที่มันผิดคือ เราจะสามารถสังเกตได้ใช่ไหมว่า ถ้าหากเราให้สิบคนนั่งร่วมสามัคคีธรรม เรียนพระคัมภีร์ด้วยกัน แต่ละคนจะมีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกันเลยคนนี้ก็บอกว่า.... ดิฉันคิดว่า...คนนี้ก็บอกว่าผมเข้าใจว่า...คนนี้ก็บอกว่า อืม เราเชื่อว่านะจะต้องเป็นอย่างนี้... คำว่าคิดว่าเชื่อว่าเข้าใจว่านี้ มาจากจิตมาจากใจของมนุษย์ มาจากความรู้สติปัญญาของอดามที่ตายแล้วที่เสื่อมแล้ว
-------
เพราะฉะนั้นการเข้าใจพระคำของพระเจ้า เราจะต้องพึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเยซูคริสต์เป็นสติปัญญาของเรา 1 โครินธ์บทที่ 1 ข้อ 30 และพระเยซูเป็นผู้เปิดเป็นผู้ให้เข้าใจ เป็นผู้ที่ให้เราได้พบความรู้ที่ครบบริบูรณ์ เมื่อเราค้นพบเข้าใจ เรามีโอกาสเติบโตและเรามีโอกาสเป็นผู้ชนะ และในที่สุดเรามีโอกาสเข้าในราชอาณาจักรสวรรค์