เทรด หลายท่านอาจจะเข้าสู่วงการเทรด เป็นนักเทรด

เทรด ซึ่งผมเชื่อว่ามีพี่น้องคริสเตียนหลายท่านอาจจะเข้าสู่วงการเทรด เป็นนักเทรด ก็เลยอยากจะพูดนิดนึง

เนื่องจากว่าผมเห็นว่าในแถบเอเชียของพวกเราตอนนี้ ก็คือมีธุรกิจการเทรดเข้ามาเยอะมาก แล้วก็มีพี่น้องคริสเตียน ทั้งศาสนาอาจจะมีทั้งฝ่ายวิญญาณด้วย ซึ่งเข้าสู่วงการการเทรด เป็นเทรดเดอร์ เป็นนักเทรด

สำหรับพี่น้องที่ไม่เข้าใจนะครับสำหรับพี่น้องที่ไม่รู้ เทรดคืออะไร คือการซื้อขายหุ้น แล้วถ้าพี่น้องอยากจะเข้าใจรายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปถามพี่น้องชายที่เทรดนะครับ ผมจะพูดสั้นๆ สรุปง่ายๆ สั้นๆ นะครับ 

สิ่งแรก 1. คือการซื้อขายหุ้นและเทรดมีสองระบบก็คือ ซื้อขายตามราคาขึ้นลงของตลาด และซื้อขายตามโปรแกรมที่โบรกเกอร์เขียนไว้แล้ว มันมีสองระบบ

สิ่งที่ 2. คริสเตียนเทรดได้ไหม เป็นคำถามที่น่าสนใจ สิ่งแรกผมอยากจะบอกพวกเรา การเทรดเรียกได้ว่าเป็นทั้งการพนันและเรียกได้ว่าเป็นการทำธุรกิจก็ได้ ที่ไม่ใช่การพนัน ขอให้เราเข้าใจนะครับ และขอให้เราแยกสองสิ่งนี้ออกจากกัน

เทรดที่เรียกว่าการพนัน ก็คือการเดา การคาดคิด การเดาสุ่ม หรือกะว่ากราฟจะขึ้น หรือจะลง เราก็ซื้อขายตามนั้น คริสเตียนไม่ควรเทรดในลักษณะนี้ คือการเดาการสุ่มการคาดคิดว่ามันจะขึ้นหรือลง แล้วเราก็ซื้อหรือขาย อันนี้เรียกว่าการพนันครับผม

สำหรับเทรดที่เรียกว่าการทำธุรกิจ ก็คือการได้เรียนรู้ การเข้าใจวิธีทำกำไร ซึ่งซับซ้อนและต้องใช้ความสามารถ สติปัญญา ทั้งความคิด ความพร้อมของอารมณ์ทางจิตใจ การควบคุมสติ การควบคุมอารมณ์ แล้วก็ความพร้อมของร่างกายด้วย ถึงแม้ว่าการเทรดจะทำกำไรได้ ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก มีความเสี่ยงอยู่มากมาย ซึ่งประมาทไม่ได้

ผมเองนะครับเมื่อก่อนไม่เคยสนใจไม่ค่อยสนใจเพราะคิดว่าเป็นการซื้อขายหุ้น 2-3 ปีที่แล้วก็ได้ตอบน้องชายบางคน บอกว่าขอให้ระมัดระวัง 1. พี่น้องสะดุดเรา 2. ก็คือเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่าเป็นการเทรดเป็นการพนัน ไม่ใช่การทำธุรกิจ สองสิ่งนี้เป็นสิ่งที่อันตราย และไม่ควรทำนะครับ

1. ก็คือระวังพี่น้องสะดุด ก็คือไม่บอกพี่น้องไม่บอกใคร เมื่อเราทำ

2. ก็คืออย่าเข้าสู่การเทรดในลักษณะของระบบเป็นการพนัน เพราะว่าเป็นสิ่งที่ผิดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้า

และสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะพูดอีกก็คือ ความจริงเรื่องการเทรด ประมาณ 95% 95 คนใน 100 คนจะมี 95 คน ที่เทรดเสีย เสียตลอดนะครับเสียตลอดไปไม่มีได้ ก็คือมีแต่เสียกับเสีย เจ๊ง หมดตัว ล้มเหลว คือหมดเลยนะครับไม่เหลืออะไร ขณะที่มีแค่ 5% เท่านั้นที่ทำกำไรได้ ที่ทำเป็นธุรกิจได้ และถ้าหากพระเจ้าอนุญาตให้คริสเตียนทำธุรกิจนี้ก็คือ เข้าสู่วงการเทรดเนี่ย 1.ก็ต้องไม่ให้พี่น้องรู้ เพราะว่าพี่น้องจะสะดุด 2. ก็ต้องเทรดด้วยการพึ่งพาพระเจ้าในเรา เพราะว่าแม้เราเป็นหนึ่งใน 5% ของนักเทรด โอกาสพลาดก็ยังมีเยอะอยู่

ถ้าหากเราต้องการที่จะเรียนรู้ ที่จะรู้ว่าพระเจ้าให้เราเป็นนักเทรดหรือไม่ เราอธิษฐานก่อน ลองเทรดด้วยบัญชี demo หรือใช้เงินที่เป็นเงินไม่จริง แล้วก็ขอสติปัญญาจากพระเจ้า ไม่ใช่พึ่งพาวิธีและสติปัญญาของมนุษย์ที่เต็มไปหมดใน Facebook ใน YouTube อันนั้นใช้ไม่ได้นะครับ เป็นการหลอกลวง เป็นหน้าม้า เป็นการหลอกล่อให้เราเข้าไปเสีย แทนที่จะเข้าไปได้

ขอยืนยันนะครับว่า การเทรดมันมี 2 ระบบ ก็คือ 

1. เรียกว่าการพนัน ถ้าหากเราเดา เราสุ่ม เราคาดคิด เรากะเดาว่ามันจะขึ้นหรือลงแล้วเราซื้อขายตามนั้น นี่คือการพนัน 

และสิ่งที่ 2. ก็คือ ระบบที่ทำเป็นธุรกิจ คือการวางแผนการบริหารเงิน บริหารวิธีการซื้อขาย เราทำถูกต้องตามวิธีที่เราเรียนรู้จากพระเจ้าเป็นคนเปิดให้ นี่คือการทำธุรกิจที่ทำกำไรได้ครับ

เหตุผลที่ผมนำเรื่องเทรดมาพูดกับพวกเรา ก็เพราะว่าผมเชื่อนะครับว่ามีพี่น้องคริสเตียนมากมายที่เทรดอยู่ แล้วก็ในท่ามกลางพี่น้องคริสเตียนฝ่ายวิญญาณพวกเราก็เหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับ ก็คือ 1.อย่าให้พี่น้องรู้ เพราะว่าพี่น้องที่มีความเชื่ออ่อนหรือมีความเข้าใจที่ปิดกั้นเกี่ยวกับเรื่องการเทรด เขาจะสะดุด เมื่อเขาสะดุดเราก็ผิดนะครับ แล้วสิ่งที่ 2. ก็คือ เทรดด้วยความระมัดระวัง เทรดด้วยสติปัญญาความสามารถ ความพร้อม การเรียนรู้ที่มาจากพระเจ้าเท่านั้น ซึ่งพระเจ้าจะนำเราเข้าสู่การเป็น 1 ใน 5% ของคนที่จะทำกำไรผ่านการเทรดได้ 

แล้วคนที่เป็น 1 ใน 5% มีน้อยมาก ถ้าเราอยากจะลอง อยากจะทำดูว่าเราถูกเลือกให้เข้าสู่ธุรกิจการเทรดไหม ก็คือโหลด Application ก็คือมาลองดู ด้วยการใช้เงิน demo คือใช้เงินปลอม ได้ก็ไม่ได้เสียก็ไม่เสีย ก็คือลองทำดู ถ้าไม่ใช่ทางเรา ก็ออก อย่าเข้ามาอีกเป็นอันขาดอย่าทำเป็นอันขาดเพราะว่าเราหมดตัวแน่นอนครับ

ถาม.

พอดีลูกชายนะคะเขาก็ทำเทรดอยู่ แต่ว่าเขาเทรดจากแอปของธนาคารกสิกร เทรดเกี่ยวกับทอง อันนี้วิธีการของเขาก็คือจะดูกราฟ ถ้าสมมุติว่า กราฟมันตกเขาก็จะซื้อ แล้วก็ถ้ากราฟมันขึ้นเขาก็จะขาย แบบนี้ค่ะ อันนี้จะอยู่ในประเภทไหนค่ะ 1 ใน 2 ประเภทที่อาจารย์แนะนำ

ตอบ.

ถ้าเฉพาะแต่การดูกราฟนะครับ ขึ้นลงซื้อขายตามการขึ้นลง ยังถูกเรียกว่าอยู่ในการพนันเหมือนกัน แต่ถ้าเราจะซื้อหรือขายโดยการที่ให้พระเยซูเป็นคนกดซื้อกดขายให้ แล้วขอสติปัญญาจากพระเยซู แล้วขอให้พระเยซูเป็นคนนำในการทำธุรกิจการเทรดนี้ อันนี้เรียกว่าไม่ใช่การพนันและอันนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และถ้าหากว่าลูกชายเป็นคริสเตียนเชื่อในพระเจ้า ก็อย่าบอกคนอื่น เพราะว่ากลัวว่าคนอื่นจะสะดุดนะครับ

ถาม.

เอเมนค่ะเป็นคริสเตียนค่ะ แต่ก็บอกเขาให้อธิษฐานกับพระเจ้าก่อน ก่อนที่จะกดซื้อหรือกดขาย

ตอบ.

ใช่ครับการกดซื้อกดขาย มือที่กดเป็นของพระเยซู แล้วเราจะประสบความสำเร็จมากกว่าล้มเหลว และสิ่งที่สำคัญประมาทไม่ได้นะครับ ความประมาทนำไปสู่ความล้มเหลวนะครับ คือมันเป็นการทำกำไรที่ง่ายใช่ไหม แต่อย่าลืมมันก็หมดตัวได้ง่ายเหมือนกัน เพราะว่าอัตราความเสี่ยงสูงมาก 

แล้วเงินที่ใช้นะครับเราหลีกเลี่ยงการใช้เงินร้อน ก็คือการใช้เงินเย็น การใช้เงินเย็นเราหลายคนน่าจะเข้าใจ ก็คือใช้เงินที่เรามีอยู่ ที่ไม่ได้เดือดร้อน ที่ไม่ได้นำมาใช้เพื่อเป็นค่าเช่าบ้าน ค่าใช้จ่ายทั้งหลายที่เราต้องใช้อยู่เป็นประจำนะครับ ก็คือเงินที่เหลืออยู่บ้างนิดๆ หน่อยๆ เอามาเทรดได้นะครับ อย่านำเงินร้อนของเรามาหรือไปยืม เพราะว่ามันจะเข้าสู่ภาวะการเดือดร้อน การหมดตัว แล้วเข้าสู่ความเดือดร้อนที่ยิ่งใหญ่

ถาม.

ก็เอาเป็นเงินเย็นค่ะเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ค่ะ เขาจะแบ่งเป็นส่วนๆ ส่วนไหนลงทุน ส่วนไหนไว้จับจ่ายใช้สอย ฉุกเฉินอะไรแบบนี้ค่ะ

ตอบ.

ถ้าเป็นในลักษณะนั้นก็เอเมนครับ

การเทรดจะมีทั้ง มิจฉาชีพและของแท้ก็มี อย่างที่ผมพูดนะครับ ถ้าเราเป็น 1 ใน 5% ของ 100% คือร้อยคนจะมีประมาณ 5 คนที่ทำกำไรจากเทรดได้ แล้วก็เข้าสู่ความจริงพบของจริง เจอของจริงได้ โบรกเกอร์ที่เขาให้จริงๆ ได้เนี่ยมี ถ้าหากเราเปิดใจเราก็เรียนรู้ค้นหา แต่อย่าลืมนะครับ ขอพระเยซูเป็นคนนำทางดีกว่า เอเมน

คือเตือนพวกเราอย่าเข้าสู่มิจฉาชีพ หรือกลุ่มที่เขาหลอกล่อหลอกลวงเอาเงินเราเท่านั้น ถ้าหากว่าเราอยากเข้าสู่กลุ่มที่มีสัญญาณดีกว่า ได้เงินเยอะกว่า ก็ต้องเพิ่มเงิน เพื่อเขาจะนำเราเข้ากลุ่ม VIP หรืออะไรประมาณนั้น ยกระดับนะครับ สูงขึ้นๆๆ สุดท้ายก็คือมีแต่เสีย ไม่มีได้ อันนี้ก็คือเจอของปลอมนะครับ

ส่วนของจริงมีครับ ผมยอมรับนะครับว่ามี แล้วก็ของจริงก็คืออย่าลืมนะครับ คริสเตียนเทรดได้ แต่ถ้าหากเราเป็น 1 ใน 5% เท่านั้น ถ้าหากเข้าไปแล้วมีแต่เสีย กับเสียกับเสียกับเสีย ก็คือเสียตลอด การทดลองมันก็ไม่ใช่ล่ะ พระเจ้าให้ปัญหาเข้ามาก่อนที่จะประสบความสำเร็จ มันก็ไม่น่าจะใช่แล้ว มันนานเกินไปแล้ว 2-3 ครั้ง ถ้าเราลองทำดูด้วยเงินจริงนะครับ ถ้ามันไม่ใช่ก็รีบออกมา รีบออกมาเลย แต่ถ้าใช่ก็ขอบคุณพระเยซู นี่นะครับมี 1 ใน 5% ของผู้เชื่อของคริสเตียนที่สามารถทำกำไรได้ ที่พบสูตรแห่งการวิธีการทำกำไร มันมีครับผม

เพียงแต่ว่าต้องฝึกฝน ต้องเรียนรู้ ต้องระมัดระวัง ต้องรอบคอบ ต้องไม่ประมาท อย่างที่ผมพูดนะครับการเทรดคือ การทำธุรกิจที่เสี่ยงมากๆ ใช่มันได้เงินง่าย แต่มันก็เสียง่ายเหมือนกัน

สรุปเรื่องเทรด ก็คือสำหรับพี่น้องที่ทำกำไรได้ ที่เข้าสู่วงการเทรดและทำกำไรได้ ก็คือเราเป็น 1 ใน 5% ของคนที่ทำธุรกิจนี้ได้ แต่สำหรับพี่น้องหรือใครก็ตาม ที่เข้ามาแล้ว แล้วก็เสียนะครับ เสียตลอด ไม่มีโอกาสที่จะได้ แสดงว่าเราไม่ควรทำต่อ เราไม่ใช่ 1 ใน 5% เราเป็น 95% 1 ใน 95% ของคนที่เข้ามาแล้ว มาเสีย

เทรดก็ไม่ต่างไปจากธุรกิจมากมายที่คนเราทำอยู่ทุกวันนี้ มันมีได้มีเสีย มีเสี่ยงก็มี ใช่ไหมครับ ทำมาค้าขายก็เหมือนกัน ถูกไหม มันก็มีได้มีเสียมีเจ๊งเหมือนกัน ถ้าเราทำไม่ถูกวิธี ถ้าเราทำไม่เป็น บริหารไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็นก็เจ๊งได้

เพราะฉะนั้นสำหรับพี่น้องที่เปิดใจ เรียนรู้ และถูกนับว่าเป็น 1 ใน 5% ก็ทำ แต่ด้วยความระมัดระวัง ด้วยความอดทน ด้วยความใจเย็น ด้วยความไม่โลภ และด้วยการที่มีวินัยสูงมาก เราก็จะเป็น 1 ใน 5% และประสบความสำเร็จ และทำสิ่งนี้เป็นการทำมาค้าขายทำธุรกิจทำรายได้เข้ามาสู่ครอบครัวเราได้

สำหรับพี่น้องที่อยู่ในกลุ่ม 1 ใน 95% ที่มีแต่เสีย ก็คืออย่าเพิ่ง อย่าเพิ่งตัดสินว่าเทรดคือสิ่งที่ไม่ดี ไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า อย่างที่ผมพูดนะครับเทรดมี 2 ระบบ ระบบแรกเรียกว่าการพนัน เหมือนกับที่เรา 95% ที่เข้าไปแล้วเสียๆๆๆ มันเดาว่ามันจะขึ้นหรือลงก็ซื้อก็ขาย แต่ถ้าหากเรามีแผนการ มีวินัย มีความอดทน มีความใจเย็น ไม่โลภ สงบนิ่ง มีวินัย สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะนำเราจะช่วยเราให้ประสบความสำเร็จได้ แล้วพระเจ้าจะเป็นคนเลือกเรานะครับเข้ามาสู่การเป็นนักเทรด ถ้าเราเลือกเองก็คือเจ๊ง หมดตัว เอเมน

อ่านต่อ: 

• คริสเตียนเทรดได้ไหม 

• การเทรดการทำธุรกิจหรืออะไรก็แล้วแต่ จะเรียกว่าบาปได้ (ถ้าเกิดมีความโลภ)