ถาม.
จริงๆ แล้วพวกเราที่รับมานาที่ซ่อนไว้ เรารู้ว่าเราเป็นปุโรหิตหลวงและคนต้นเรือนของพระเจ้าใช่ไหมคะ
ตอบ.
ทุกคนที่เชื่อนะครับ ทุกคนที่เชื่อ พระเจ้าตั้งให้ตำแหน่งให้หน้าที่กับพวกเรา แน่นอนเราจะเลือกหรือไม่เลือกก็แล้วแต่ เขาจะทำหรือไม่ทำ แต่สำหรับพระเจ้านะครับ
1. ทุกคนเป็นสาวกของพระเยซู เอเมน
2. ก็คือทุกคนเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า เราต้องแสวงหาต้องค้นหาของประทาน ความสามารถที่พระเจ้าให้เรา และนำมาใช้ให้เกิดผล เราต้องทำนะครับ เพราะว่าวันที่พระเยซูเสด็จมาพระองค์จะนำบำเหน็จ หรือนำการตีสอน มาสู่เรานะครับ
เพราะฉะนั้น ค้นหาของประทาน ค้นหาความสามารถพิเศษ ที่พระเจ้าประทานให้เรา แล้วนำมาใช้ให้เกิดผล อย่าลืมนะครับเราทุกคน ทุกคน คุณทุกคนเป็นสาวกของพระเยซูแน่นอน และเป็นปุโรหิตหลวงของพระเจ้า
เพราะฉะนั้น ถ้าหากเรายังไม่กล้าพูดอะไร ก็ขอพระองค์ชำระ และให้พระองค์นำเราในการที่จะพูด ได้ดีขึ้นได้มากขึ้น แล้วมีส่วนในการที่จะเอเมนกับพี่น้อง มีส่วนในการที่จะเผยพระวจนะ หรือถามเผื่อพี่น้องถ้าหากพระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเรา ทำอะไรบางอย่างนะครับเพื่อเราจะไม่ขาดบำเหน็จ
และสิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่สำคัญ ก็คือหน้าที่หลักของเรา ก็คือเอาความรักมาสู่พี่น้อง นำความรักมาให้พี่น้อง อันนี้สำคัญมาก
จำได้ไหมเปาโลบอกว่า ถ้าหากท่านถวายทุกสิ่งแด่พระเจ้า ประกาศข่าวประเสริฐ รับใช้ตั้งแต่เช้าจนค่ำ ทำทุกสิ่ง สละชีวิต สละสมบัติ แต่ไม่มีความรัก ก็ไม่มีค่าอะไร (1 คร 13:1-3)
ถาม.
มีพี่น้องท่านนึงที่รับมานาที่ซ่อนไว้มานานแล้ว เขาได้พูดว่า เขาไม่เข้าประชุมในห้องออนไลน์มานาที่ซ่อนไว้กันแล้ว เขาบอกว่ามันไม่สำคัญอะไรเลย ไม่ทราบว่าเราจะไปหนุนใจเขายังไงดีคะ
ตอบ.
สิ่งที่เราทำได้นะครับ
อันแรก ก็คืออธิษฐานเผื่อ
อันที่สอง ก็คือบอกเขาไปตรงๆ เลยนะครับว่า ไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้า ก่อตั้งกลุ่มไลน์ของพวกเรา และไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้านำเรามาสู่พระกาย เราขาดพี่น้องไม่ได้ และพี่น้องก็ขาดเราไม่ได้ อันนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
เราจะบอกว่า ไม่สำคัญอะไร อันนี้ผิดนะครับ คือสำคัญมากๆ ถ้าหากเราถ่อมใจ เราถ่อมถึงดิน เราเข้ามาสู่พี่น้อง และฟังพี่น้องนะครับ เราจะได้ยินเสียงของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ไม่ใช่เสียงของใคร และคนที่ลงบทความข้อความทั้งหลายนะครับพระเจ้าเป็นผู้นำพาและดลใจเขา ถ้าหากเราคิดได้ในลักษณะนี้ เราก็จะเข้าสู่การเติบโต และเข้าสู่สันติสุขทุกวันเวลาได้แน่นอน เอเมน
ซึ่งถ้าหากใครมีความคิดที่เป็นเนื้อหนัง ความคิดอาดัม คิดว่า เออ ไม่สำคัญหรอก ฉันไปร่วมกับที่อื่นก็ได้ ไปคริสตจักรอื่นก็ได้ หรือไม่ร่วมกับใครก็ได้
เราจะพบว่าพระเยซู มีข้อลึกลับอันหนึ่ง ที่หลายคนมาไม่ถึง ข้อลึกลับของพระเยซูคริสต์ ก็คือ คริสตจักร พระองค์รักคริสตจักรมาก พระองค์รักพระกายของพระองค์มาก ถ้าคุณคิดว่าพระกายไม่สำคัญ พลาดนะครับ พลาดอาณาจักรนะครับ
เราอ่านหนังสือเอเฟซัส และก็ขอการเปิดเผย ขอการเปิดตาให้มาก มากกว่าเดิม เพราะว่าหนังสือเอเฟซัสจะเปิดเผยว่า พระคริสต์รักคริสตจักรของพระองค์มาก มากเหมือนกับสามีรักภรรยา
แล้วพระเยซูเป็นผู้ก่อตั้งคริสตจักรของพระองค์ แล้วคริสตจักรรู้ไหมครับ ถ้าหากไม่มีคริสตจักร หัวหรือศีรษะที่เป็นพระคริสต์ จะไปเกาะที่ไหน ถ้าเรียกฝ่ายวิญญาณ ก็คือเป็นผีกระสือฝ่ายวิญญาณ ใช่ไหม ไม่มีตัวตนไม่มีร่างกายให้เกาะ เข้าใจกันไหมครับ
พระเยซูต้องการร่างกาย ก็คือพวกเรา อวัยวะทุกส่วน ก็คือพวกเรา เราคือพระกาย พระกายสำคัญมากสำหรับพระคริสต์ ถ้าหากพระคริสต์ไม่มีพระกาย พระองค์ก็ไม่มีร่างกายในโลกนี้
แล้วทุกวันนี้คริสตจักรทั้งหลายก็ล้มเหลวที่จะเป็นพระกายของพระเยซู คริสตจักรทุกวันนี้เป็นพระกายอาดัม เป็นพระกายคือเป็นโบสถ์ ไม่ใช่พระกายเที่ยงแท้ ไม่ใช่พระกายฝ่ายวิญญาณ เขาไปโบสถ์เขามองว่าเขาเป็นอาดัม เขามองว่าเขาเป็นคนบาป เขามองว่าเขายังไม่เพอร์เฟค ยังไม่มาถึงชีวิตที่ใหม่หมด
แต่สำหรับพวกเรา พวกเรามาถึงชีวิตที่ใหม่หมด บริสุทธิ์ ชอบธรรม โดยพระคริสต์ ไม่ใช่เรานะครับ โดยพระคริสต์และในพระคริสต์ เพราะฉะนั้นเราจึงเป็นพระกายเที่ยงแท้ เราจึงเป็นพระกายวิญญาณ เราจึงเป็นพระกายที่พระองค์สวมใส่ และให้ทุกคนเป็นอวัยวะของพระองค์แล้ว สรรเสริญพระเจ้า
พอจะเห็นภาพแล้วใช่ไหมครับว่า คริสตจักรสำคัญแค่ไหน
อ่านต่อเรื่อง: แสวงหาของประทาน และกระทำให้คริสตจักรจำเริญขึ้น (1 คร 14:12)