1:1 เปโตร อัครทูตของพระเยซูคริสต์ เรียน พวกที่กระจัดกระจายไปอยู่ในแคว้นปอนทัส แคว้นกาลาเทีย แคว้นคัปปาโดเซีย แคว้นเอเชีย และแคว้นบิธีเนีย
1:2 ซึ่งเป็นผู้ที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงเลือกและทรงกำหนดไว้แล้ว และพระวิญญาณได้ทรงชำระแล้ว เพื่อให้มีความนบนอบเชื่อฟังพระเยซูคริสต์ และให้ได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์ ขอพระคุณและสันติสุข (peace) จงบังเกิดทวีคูณแก่ท่านทั้งหลายด้วยเถิด
** "พวกที่กระจัดกระจาย" คือคริสเตียนชาวยิวที่อพยพย้ายที่พักอาศัยไปอยู่ในหลาย ๆ แคว้น
** "เป็นผู้ที่พระเจ้าพระบิดาได้ทรงเลือกและทรงกำหนดไว้แล้ว" ภาษากรีกคือ πρόγνωσις, εως, ἡ foreknowledge พระเจ้าพระบิดาทรงล่วงรู้ไว้ก่อนแล้ว
** "และพระวิญญาณได้ทรงชำระแล้ว" คือผู้เชื่อทุกคนที่ถูกเลือกให้รอดและได้รับการชำระด้วยพระโลหิตซึ่งก็คือการชำระครั้งที่หนึ่ง
** "เพื่อให้มีความนบนอบเชื่อฟังพระเยซูคริสต์" คือผู้ที่มาถึงการถูกเปิดตาเท่านั้นที่จะเข้าสู่กระบวนการการเปลี่ยนแปลงได้ คริสเตียนส่วนมากกลายพันธุ์กลายเป็นศาสนาคริสต์จึงเติบโตเข้าสู่การเชื่อฟังไม่ได้
** "ให้ได้รับการประพรมด้วยพระโลหิตของพระองค์" เป็นการกระทำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ต่อชีวิตผู้เชื่อเพื่อให้ได้รับการไถ่บาป
** "พระคุณและสันติสุขจงบังเกิดทวีคูณ" คือการได้รับพระคุณและสันติสุขอย่างมากมายที่ผู้ที่ถูกเปิดตาได้รับ เรียกว่าพระคุณซ้อนพระคุณและความสงบนิ่งของจิตใจที่ไม่ต้องกลัวพระเจ้าและไม่กลัวว่าจะไม่รอดอีกต่อไปเพราะว่าเรามั่นใจในพระคำที่เป็นความจริงที่มาจากพระวิญญาณแห่งความจริง
1:3 ขอถวายคำยกย่องสรรเสริญแด่พระเจ้าและพระบิดาแห่งพระเยซูคริสต์เจ้าของเรา ผู้ได้ทรงพระมหากรุณาแก่เรา ทรงโปรดให้เราบังเกิดใหม่ เข้าสู่ความหวังใจอันมีชีวิตอยู่ โดยการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์
** ขอถวายคำยกย่องสรรเสริญแด่พระเจ้าและพระบิดา เป็นคำที่แปลให้ถูกต้องจากภาษาไทยที่แปลผิด
** สาธุการ ภาษากรีกคือ εὐλογητός, ή, όν คือ well spoken / blessed ซึ่งมีความหมายว่า ยกย่องสรรเสริญ เป็นคำที่ใช้เฉพาะกับพระเจ้าเท่านั้น
** เมื่อเราถูกเลือก พระเจ้าจะนำเราเข้าสู่กระบวนการการชำระด้วยพระโลหิตคือการประพรมเราโดยพระวิญญาณเพื่อให้หลุดพ้นจากบาปทั้งสิ้นโดยการตายของหลั่งไหลพระโลหิตของพระเยซู และให้เราบังเกิดใหม่ในพระวิญญาณโดยการฟื้นคืนพระชนม์ของพระองค์
1:4 และเพื่อให้ได้รับมรดก ซึ่งไม่รู้เปื่อยเน่า ปราศจากมลทิน และไม่ร่วงโรยซึ่งได้เตรียมไว้ในสวรรค์เพื่อท่านทั้งหลาย
** มรดก ในที่นี้ ก็คือความรอด และตำแหน่งที่ผู้เชื่อจะได้มีส่วนครอบครองร่วมกับพระเยซูไปจนชั่วนิรันดร์นั่นเอง ซึ่งบางคนจะได้มากหรือได้น้อยอยู่ที่การดำเนินชีวิต และรับใช้ตามการกระทำแทนของพระคริสต์ มรดกดังกล่าวเป็นสัญญาที่พระเจ้าจะประทานให้แก่อับราฮัมและลูกหลาน (ฝ่ายวิญญาณ) ซึ่งผู้ที่นำมาถึงเราผู้เชื่อก็คือพระเยซู
1:5 ซึ่งเป็นผู้ที่ฤทธิ์เดชของพระเจ้าได้ทรงคุ้มครองไว้ด้วยความเชื่อให้ถึงความรอด ซึ่งพร้อมแล้วที่จะปรากฏในวาระสุดท้าย
** เมื่อผู้เชื่อต้อนรับพระเยซูเขาก็ได้บังเกิดใหม่และได้รับการรับรองจากพระบิดา เขาจึงไม่สูญเสียความรอดอีกเลยจนถึงวาระสุดท้าย
1:6 ในความรอดนั้นท่านทั้งหลายชื่นชมยินดี ถึงแม้ว่าเดี๋ยวนี้ จำเป็นที่ท่านจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วขณะหนึ่งในการถูกทดลองต่างๆ
** ความยากลำบากที่พระเจ้าอนุญาตให้เกิดกับเราในชีวิตนี้จะมีมากหรือน้อยก็ตาม แต่สำหรับพระเจ้ามันเป็นสิ่งชั่วคราว เราขอบพระคุณพระเจ้าที่รักษาเราไว้ให้ถึงความรอดในวาระสุดท้าย ขอให้เราอย่าหวั่นไหวหรือท้อแท้ เพราะว่าเราจะมาถึงความชื่นชมยินดีอย่างเต็มเปี่ยมเมื่อพระเยซูเสด็จกลับมา
1:7 เพื่อการลองดูความเชื่อของท่าน อันประเสริฐยิ่งกว่าทองคำ ซึ่งแม้เสียไปได้ก็ยังถูกลองด้วยไฟ จะได้เป็นเหตุให้เกิดความสรรเสริญ เกิดศักดิ์ศรีและเกียรติ ในเวลาที่พระเยซูคริสต์จะเสด็จมาปรากฏ
** ผู้เชื่อมากมายล้มเหลวที่จะมองเห็นว่าทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของพวกเขานั้นก็เพื่อลองดูความเชื่อ ซึ่งถ้าหากเรายังมั่นคงไม่หวั่นไหวไม่ทิ้ง และสาปแช่งพระเจ้า พระองค์เรียกว่าเป็นสิ่งที่ประเสริฐกว่าทองคำเสียอีก ขอพระบิดาเปิดตาเราเพื่อจะได้เห็นเพื่อเราจะเดินไปกับพระเจ้าอย่างมั่นคงเมื่อเราอยู่ในมรสุมที่เข้ามาเป็นครั้งคราวด้วยความยินดี และเต็มด้วยการสรรเสริญ และขอบพระคุณ
1:8 พระองค์ผู้ที่ท่านทั้งหลายยังไม่ได้เห็น แต่ท่านยังรักพระองค์อยู่แม้ว่าขณะนี้ท่านไม่เห็นพระองค์ แต่ท่านยังเชื่อและชื่นชม ด้วยความปีติยินดีเป็นล้นพ้นเหลือที่จะกล่าวได้
** สำหรับโลกต้องเห็นก่อนจึงจะเชื่อ แต่สำหรับคริสเตียนต้องเชื่อก่อนจึงจะได้เห็น เราไม่ใช้ตามองหาพระเจ้าและใช้หูเพื่อฟังพระสุรเสียงของพระเจ้า แต่เราเชื่อและรักพระเยซูด้วยใจทั้งที่ตา มองไม่เห็น และความเชื่อนี้จะนำประสบการณ์ชีวิตในพระเจ้ามาสู่เราอย่างแน่นอน
1:9 แล้ววิญญาณจิตของท่านทั้งหลายจึงได้รับความรอดเป็นผลแห่งความเชื่อ
** ภาษากรีกแปลว่า จิต (ไม่มีคำว่า วิญญาณ) ซึ่งความหมายก็คือ เราทุกคนถูกเลือกให้มารับการชำระ ประพรมด้วยพระโลหิต ทรงรักษาเราให้ถึงความรอดในวันสุดท้าย และให้บางคนมาถึงการเชื่อฟังอย่างครบ ซึ่งก็คือ ความรอดของจิต นั่นเอง
1:10 พวกศาสดาพยากรณ์ก็ได้อุตส่าห์สืบค้นหาในความรอดนั้น และได้พยากรณ์ถึงพระคุณซึ่งจะบังเกิดแก่ท่านทั้งหลาย
** เปโตรอ้างถึงผู้เผยพระวจนะในสมัยพระคัมภีร์เดิมเพื่อยืนยันต่อคริสเตียนชาวยิวว่ามีการทำนายถึงพระคริสต์ที่จะมา และนำความรอดมาสู่ชนชาติอิสราเอล เพื่อให้พวกเขามั่นใจว่าการเสด็จมาของพระเยซู ก็คือแผนการงานของพระเจ้าที่จัดเตรียมเอาไว้แล้ว เพียงแค่รอเวลากำหนดเท่านั้น
1:11 เขาได้สืบค้นหาสิ่งใดหรือลักษณะแห่งเวลาซึ่งพระวิญญาณของพระคริสต์ ผู้ทรงสถิตอยู่ในตัวเขา ได้ทรงบ่งไว้ เมื่อพระวิญญาณนั้นได้พยากรณ์ล่วงหน้าถึงความทุกข์ทรมานของพระคริสต์ และถึงสง่าราศีที่จะมาภายหลัง
** "พระวิญญาณของพระคริสต์" พระคัมภีร์ใหม่มีหลายฉบับซึ่งผู้นำในสมัยก่อนได้นำมารวบรวมเป็นฉบับเดียวให้พวกเราได้อ่านจนทุกวันนี้ และบางฉบับที่เชื่อถือได้ไม่มีคำว่า...ของพระคริสต์ ซึ่งความหมายก็คือ พระวิญญาณของพระเจ้า หรือพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นผู้สถิตในพวกเขาชั่วคราว และดลบันดาลให้พวกเขาเขียนคำทำนายเรื่องความรอดโดยการยอมทนทุกข์ทรมาน การตาย และเป็นขึ้นมาจากตายเพื่อได้รับสง่าราศีของพระเยซูไว้ในพระคัมภีร์เดิมนั่นเอง
1:12 ก็ทรงโปรดเผยให้พวกศาสดาพยากรณ์เหล่านั้นทราบว่า ที่เขาเหล่านั้นได้ปรนนิบัติในเหตุการณ์ทั้งปวงนั้น ไม่ใช่สำหรับเขาเอง แต่สำหรับเราทั้งหลาย บัดนี้คนเหล่านั้นที่ประกาศข่าวประเสริฐแก่ท่านทั้งหลาย ก็ได้กล่าวสิ่งเหล่านั้นแก่ท่านแล้วโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ที่ทรงโปรดประทานจากสวรรค์ เป็นสิ่งซึ่งพวกทูตสวรรค์ปรารถนาจะได้ดู
** คำทำนายทั้งหมดที่เขียนเอาไว้โดยผู้เผยพระวจนะในพระคัมภีร์เดิม ไม่ได้มีไว้เพื่อพวกเขา แต่เพื่อผู้เชื่อในยุคพระคุณ เนื่องจากว่าพวกเขาไม่ได้มีอายุยืนยาวมาถึงยุคพระคุณ
** ทูตสวรรค์ได้รู้เห็นและสนใจในสิ่งที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่มาจากสวรรค์ได้ทรงกระทำเรื่องเตรียมความรอดผ่านทางพระเยซูคริสต์มาสู่ชาวยิว และคนต่างชาติทั่วโลก เมื่อพวกเขาเห็นการประสูติของพระเยซูในรางหญ้าที่โรงแรมจึงยกย่องสรรเสริญพระเจ้าด้วยความปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างมาก
1:13 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงเตรียมตัวเตรียมใจของท่านไว้ให้ดี และจงข่มใจ ตั้งความหวังให้เต็มเปี่ยมในพระคุณซึ่งจะทรงโปรดประทานแก่ท่านเมื่อพระเยซูคริสต์จะทรงสำแดงพระองค์
** "ท่านทั้งหลาย" คือคริสเตียนชาวยิวที่กระจัดกระจายไปอาศัยอยู่ในแค้วนต่างๆ นั่นเอง
** "ข่มใจ" ภาษากรีกคือ νήφω (เน-โฟ) ไม่เมาเหล้าองุ่น / มีสติ-ตั้งสติ / ความคุมตนเอง เปโตรใช้คำนี้เพื่อหนุนใจ และเตือนผู้เชื่อชาวยิวให้ตั้งความหวัง และมั่นใจในความรอดที่มาทางพระเยซู เนื่องจากว่าชาวยิวอยู่ภายใต้พระบัญญัติเดิมและหลักการแห่งความรอดในยุคพระบัญญัติมานานแสนนาน
1:14 ดุจดังเป็นบุตรที่เชื่อฟัง ขออย่าได้ประพฤติตามราคะตัณหาอย่างที่เกิดจากความโง่เขลาของท่านในกาลก่อน
** "ดุจดังเป็นบุตรที่เชื่อฟัง" คือการยอมจำนนต่อข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูคริสต์ และไม่อยู่ภายใต้ความต้องการของชีวิตเก่าเนื้อหนัง เนื่องจากว่าผู้เชื่อถูกเลือกให้อาศัยอยู่ในโลกนี้เพียงชั่วคราว และความหวังของพวกเรา คือฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่
1:15 แต่พระองค์ผู้ได้ทรงเรียกท่านทั้งหลายนั้นบริสุทธิ์ฉันใด ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ในบรรดาการประพฤติทุกอย่างด้วยฉันนั้น
1:16 ดังที่มีคำเขียนไว้แล้วว่า ‘ท่านทั้งหลายจงเป็นคนบริสุทธิ์ เพราะเราเป็นผู้บริสุทธิ์’
** คำว่า "บริสุทธิ์" ในที่นี้ ภาษากรีกคือ ἅγιος, ία, ον (ฮา-กี-โอส) คือสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ถูกแยกออกจากทุกสิ่ง ตัวอย่างเช่นทองคำที่ไม่มีอะไรผสม เป็นทองคำแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์
** คำว่า "บริสุทธิ์ในบรรดาการประพฤติทุกอย่าง" ก็คือเลิกใช้ชีวิตเก่าอาดัมที่เป็นเนื้อหนังที่ทำบาป และดำเนินชีวิตด้วยตัวใหม่ที่ทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าในแต่ละวัน
** เมื่อเราเชื่อเราได้รับการชำระให้บริสุทธิ์โดยพระโลหิตของพระเยซู และต่อจากนั้น ก็คือการจัดการกับชีวิตฝ่ายเนื้อหนังที่ไม่บริสุทธิ์ของเรา เนื่องจากว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ พระองค์จึงประสงค์ให้บุตรทั้งหลายของพระองค์บริสุทธิ์เช่นกัน
1:17 และถ้าท่านอธิษฐานขอต่อพระบิดา ผู้ทรงพิพากษาทุกคนตามการกระทำของเขาโดยไม่เห็นแก่หน้าคนใดเลย จงประพฤติตนด้วยความยำเกรงตลอดเวลาที่ท่านอยู่ในโลกนี้
** ภาษากรีกแปลว่า ทูล/ทูลขอ
** เนื่องจากว่าพระเจ้าเป็นพระเจ้าผู้ทรงชอบธรรม พระองค์ทรงให้ความเป็นธรรม และยุติธรรมแก่ทุกคนที่กระทำความดีหรือชั่วโดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ไม่ว่าจะเป็นยิวหรือคนต่างชาติที่เชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม พระเจ้าจะให้ทูตสวรรค์หรือมารจัดการกับทุกคนที่กระทำบาปชั่วและตอบแทนทุกคนที่กระทำดี
- แต่การทำดีของคนที่ไม่เชื่อไม่อาจช่วยเขาให้รอดและเข้าอาณาจักรได้ เนื่องจากว่าหลักการแห่งความรอด คือเชื่อในพระเยซูเท่านั้น
- ส่วนการเข้าอาณาจักรนั้น คือการทำดีโดยพระคริสต์ที่อยู่ในผู้เชื่อเท่านั้น ซึ่งการดำเนินชีวิตของพระคริสต์แทนผู้เชื่อได้มาจากการสนิทในพระองค์ (ยน 15:5) คริสเตียนไม่อาจทำดีด้วยอาดัมเพื่อเข้าไปในอาณาจักรได้ ซึ่งการทำดีของผู้เชื่อจะได้รับผลตอบแทนเฉพาะในโลกนี้เท่านั้น แต่มันถูกเผาไหม้เมื่อพระเยซูกลับมาก่อตั้งอาณาจักรในยุคพันปี
** "จงประพฤติตนด้วยความยำเกรงตลอดเวลา" คือคำสั่งสำหรับผู้เชื่อฝ่ายวิญญาณที่โตแล้ว เนื่องจากว่าบุตร และเด็กเล็กๆ หรือคริสเตียนศาสนาที่เคร่งก็ยังทำตามน้ำพระทัยไม่ได้
1:18 ท่านรู้ว่า พระองค์ได้ทรงไถ่ท่านทั้งหลายออกจากการประพฤติอันหาสาระมิได้ ซึ่งท่านได้รับเป็นประเพณีต่อจากบรรพบุรุษของท่าน มิได้ไถ่ไว้ด้วยสิ่งที่เสื่อมสลายได้ เช่นเงินและทอง
** การใช้ชีวิต การทำมาหาเลี้ยงชีพที่ไม่มีพระเจ้า และการรับใช้ และการไม่สำแดงชีวิต และนิสัยของพระคริสต์ผ่านเราในแต่ละวันคือการใช้ชีวิตที่ไร้สาระสำหรับพระเจ้า
1:19 แต่ทรงไถ่ด้วยพระโลหิตอันมีราคามากของพระคริสต์ ดังเลือดลูกแกะที่ปราศจากตำหนิหรือจุดด่างพร้อย
** ความรอดมาจากทางเดียวเท่านั้น คือเชื่อวางใจในพระเยซู เนื่องจากว่าพระบิดายอมรับพระโลหิตของพระเยซูเป็นเครื่องบูชาไถ่บาปแล้ว เงินทองและความดีของมนุษย์ไม่อาจช่วยเขาให้รอดได้
1:20 แท้จริงพระเจ้าได้ทรงดำริพระคริสต์นั้นไว้ก่อนทรงสร้างโลก แต่ทรงให้พระคริสต์ปรากฏพระองค์ในวาระสุดท้ายนี้ เพื่อท่านทั้งหลาย
** ก่อนที่พระเจ้าจะสร้างโลก พระองค์ทรงทราบดีว่ามนุษย์จะไม่เชื่อฟัง และตกต่ำ เข้าสู่การบาปชั่ว เนื่องจากว่าพระองค์สร้างมนุษย์ให้มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกและตัดสินใจ พระองค์จึงเตรียมพระบุตรไว้เพื่อการไถ่บาปของมนุษย์
1:21 เพราะพระคริสต์ท่านจึงเชื่อในพระเจ้า ผู้ทรงบันดาลพระคริสต์ให้ฟื้นจากความตาย และทรงประทานสง่าราศีแก่พระองค์ เพื่อให้ความเชื่อและความหวังใจของท่านดำรงอยู่ในพระเจ้า
** สำหรับคริสเตียน การตายของพระเยซูคือเพื่อไถ่ความผิดบาปทั้งหลายให้หมดสิ้นไป ส่วนการฟื้นขึ้นมาจากความตายและการเข้าสู่สง่าราศรีของพระเยซูคือเพื่อให้ผู้เชื่อเกิดมีความหวังใจ และให้ความหวังใจดำรงอยู่ในพระเจ้า ถ้าหากพระเยซูไม่ฟื้นและเข้าสู่สง่าราศรีการดำเนินชีวิตของผู้เชื่อก็ขาดความหวังเหมือนศาสนาอื่นทั่วๆ ไป
1:22 ที่ท่านทั้งหลายได้ชำระจิตใจของท่านให้บริสุทธิ์แล้ว ด้วยการเชื่อฟังความจริงโดยพระวิญญาณ จนมีใจรักพวกพี่น้องอย่างจริงใจ ท่านทั้งหลายจงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง
** ผู้เชื่อได้รับการชำระให้มีจิตใจอันบริสุทธิ์โดยทางความเชื่อ จึงเริ่มมีใจรักพี่น้องและรักผู้อื่นได้มากกว่าสมัยที่ยังไม่เชื่อ แต่น้ำพระทัยของพระเจ้าคือให้รักมากกว่าเก่าซึ่งก็คือรักอากาเปนั่นเอง
1:23 ด้วยว่าท่านทั้งหลายได้บังเกิดใหม่ ไม่ใช่จากพืชที่จะเปื่อยเน่าเสีย แต่จากพืชอันไม่รู้เปื่อยเน่า คือด้วยพระวจนะของพระเจ้าอันทรงชีวิตและดำรงอยู่เป็นนิตย์
** พระคัมภีร์ที่เราอ่าน มีและเป็นถ้อยคำที่มีชีวิตและเป็นชีวิตของพระเจ้า และเมื่อเราต้อนรับเอาถ้อยคำเหล่านี้ สิ่งที่เราจะได้รับตามมา ก็คือการบังเกิดใหม่ การได้รับชีวิตพระเจ้าที่ไม่รู้เปื่อยเน่าและเป็นชีวิตที่จะเป็นอยู่กับพระเจ้าในฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ไปจนชั่วนิรันดร์
1:24 เพราะว่า ‘บรรดาเนื้อหนังก็เป็นเสมือนต้นหญ้า และบรรดาสง่าราศีของมนุษย์ก็เป็นเสมือนดอกหญ้า ต้นหญ้าเหี่ยวแห้งไป และดอกก็ร่วงโรยไป
** ชีวิตมนุษย์สั้นมาก ชั่วพริบตาก็ผ่านไปเป็นปีๆ และสุดท้ายก็ตายและรอเพื่อเข้าสู่การพิพากษา สำหรับผู้เชื่อที่มีสติปัญญาที่มาจากพระเจ้า ย่อมจะใช้ชีวิตในแต่ละวันให้มีคุณค่าคือดำเนินชีวิตและรับใช้ตามน้ำพระทัย เมื่อยุคสุดท้ายมาถึง บำเหน็จก็เป็นของเขา
1:25 แต่พระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้ายั่งยืนอยู่เป็นนิตย์’ พระวจนะนั้นคือข่าวประเสริฐที่ได้ประกาศให้ท่านทั้งหลายทราบแล้ว
** ความรอดที่ได้มาผ่านทางพระเยซู คือการประกาศพระเยซู เพื่อยกย่องสรรเสริญพระเยซู เนื่องจากว่า พระนามเยซู คือพระบุตรพระเจ้าที่ถูกเลือกให้เป็นผู้ไถ่โลกและทำให้โลกและจักรวาลกลับมาคืนดีกับพระเจ้า นี่คือถ้อยคำของพระเจ้าที่ไม่มีวันตาย อาเมน
สรุป 1 เปโตร บทที่ 1
พระเจ้าได้ทรงกระทำสามสิ่งที่สำคัญต่อผู้ที่เชื่อในพระเยซูคริสต์คือ
ให้เราบังเกิดใหม่
ทรงไถ่เราโดยพระบุตร
การชำระให้บริสุทธิ์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อให้ได้กลายเป็นประชากรของพระเจ้า และดำเนินชีวิตให้เหมาะสมกับการเป็นบุตรของพระเจ้า