ในยอห์นบทที่ 17 เป็นคำทูลขอของพระเยซูต่อพระบิดา จะใช้คำว่า "ทูลขอ" คำพูดที่พระองค์ตรัสทูลต่อพระบิดา เพื่อมอบสาวกเพื่อฝากผู้เชื่อทุกคนไว้ให้อยู่ภายใต้การดูแลของพระบิดา และสิ่งที่พระเยซูทูลขอมากกว่าสิ่งอื่นใด ก็คือให้พวกเขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
เราจะเห็นในอีกต่อมาไม่นาน คำพูดของพระเยซูในข้อที่ 16-17 พระองค์ตรัสว่า ขอพระองค์รักษาเขา และให้เขาเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และมีอีกสิ่งหนึ่งที่พระองค์ขอ ก็คือขอพระองค์ชำระพวกเขาด้วยพระคำของพระองค์
ขอให้เราผู้เชื่อได้รับการชำระด้วยพระคำ เพื่ออะไร ก็คือเพื่อเราจะถูกเปิดตา เพื่อเราจะเห็นถ้อยคำแห่งความจริงของพระเจ้า เมื่อเราเห็นถ้อยคำแห่งความจริงของพระเจ้า เรารู้ว่าจะต้องอยู่ด้วยกันด้วยนิสัยของพระเจ้าที่ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ถ้าไม่อย่างงั้นถ้าหากไม่มีคุณสมบัติที่จะต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ เราจะอยู่ร่วมกันเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันไม่ได้เป็นอันขาด
ตั้งแต่ประวัติศาสตร์ ตั้งแต่สมัยสาวกจนถึงทุกวันนี้ ไม่เคยมีใครที่ทำได้ นอกจากคริสตจักรพระกายกลุ่มเล็กๆ ที่ได้รับการชำระด้วยพระคำ และสามารถเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ เนื่องจากว่าเขามีนิสัยที่ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ
ก็คือเราไม่ถกเถียง เราไม่โต้แย้ง เราไม่ขัดแย้ง คืออะไรที่เราพูดคุยกันได้ เราเอามาคุยกัน เรามานั่งคุยกัน สามัคคีธรรมร่วมกัน ถ้าหากตกลงกันไม่ได้ เราก็รอคำตอบจากพระเจ้า แน่นอนว่าไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากฤทธิ์อำนาจของพระเจ้าที่ทำไม่ได้ กำลังของพระเจ้ายิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นพระเจ้าจะแก้ไข พระเจ้าจะตอบปัญหา พระเจ้าจะทำให้หายข้องใจได้ไม่ช้าก็เร็ว เราไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องใจร้อน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คือเรา ต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ ไม่ถกเถียง ไม่ต่อสู้ ไม่ขัดแย้ง ไม่โต้แย้ง เรายอมกัน แล้วก็รอคอยคำตอบที่เป็นความจริงที่มาจากพระวิญญาณบริสุทธิ์
อย่าลืมว่าเรามีพระวิญญาณแห่งความจริง ซึ่งคริสเตียนมากมายไม่เข้าใจ และเราเองถ้าหากไม่ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ ลองนึกดูคริสตจักรที่เราเคยอยู่ และเราเคยเป็นคริสเตียนมานานหลายปีที่เป็นคริสเตียนศาสนา เรายอมใครไหม เราไม่ค่อยจะยอม แล้วความรู้ใครก็อวดใคร ต่างคนก็ต่างอวดว่าฉลาด เรียนรู้เก่ง เอาความรู้มาอวดกัน แล้วก็ไม่ชอบฟังใคร ชอบพูดไม่ชอบฟัง ชอบสอนไม่ชอบรับคำสอนจากผู้อื่น นี่คือนิสัยของมนุษย์อาดัม เพราะฉะนั้นพระเจ้าต้องการให้เราทิ้งสิ่งนี้ และรับการชำระด้วยพระคำ เพื่อถูกเปิดตา เมื่อถูกเปิดตาปุ๊บเรารู้ว่า อ๋อ โลกนี้แสวงหาความเป็นใหญ่
เราใช้ชีวิตที่ตรงข้าม ก็คือเป็นคนเล็กๆ เป็นผู้เล็กน้อย แล้วก็ถ่อม เราไม่หยิ่งผยองพองตัว แต่เราถ่อมใจ ไม่อวดรู้ อวดดี อวดฉลาด อวดเก่ง ไม่อวดอะไรทั้งนั้น แต่อวดพระเยซู ย่อมเสียเปรียบ เขาพูดอะไรมาเราก็ยอม คนที่ยอมเสียเปรียบสำหรับโลกก็คือผู้แพ้ แต่คุณรู้ไหมสำหรับพระเจ้าคือผู้ชนะ
ขอบคุณพระเยซูที่วันนี้พระองค์สอนพวกเราให้เป็นผู้ชนะที่แท้จริง คือมีนิสัยของพระองค์ ก็คือต่ำ ถ่อม และยอมเสียเปรียบ เพื่อสิ่งที่เป็นน้ำพระทัยของพระบิดาจะเกิดขึ้นในคริสตจักรในพระกายเที่ยงแท้ของพระองค์ ก็คือให้พวกเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันได้ คือเครื่องถวายบูชาที่พิเศษที่สุดที่มีค่าที่สุดสำหรับพระบิดา เอเมนวันนี้เรานำเครื่องถวายบูชา ก็คือการเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันเพื่อถวายแด่พระองค์ สรรเสริญพระเยซู
เราขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับยอห์นบทที่ 17 บทนี้ ซึ่งเป็นคำทูลขอของพระเยซูต่อพระบิดา อย่าลืมว่าที่ผ่านมาเราจะเห็นว่าพระเยซูสอนนู่นนี่นั่น แล้วก็หนังสือยอห์นเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ก็คือเรื่องพระเจ้าจะเข้ามาอยู่ในมนุษย์ พระเจ้าจะประทานชีวิตหนึ่งซึ่งเป็นชีวิตของพระเจ้าที่เรียกว่า (โซเอ้-Zoe)
และสิ่งที่ตามมา ก็คือชีวิตของพระเจ้า จะเป็นชีวิตที่เป็นอมตะ เป็นชีวิตที่ยืนยาว ที่ตายไม่ได้ ตายไม่เป็น ภาษากรีกก็คือ (อา-ฮี-โอ-นี-อส)
ส่วนชีวิตของพระเจ้า ก็คือ (โซเอ้-Zoe) พระเยซูตรัสในข้อที่ 3 และนี่แหละ คือชีวิตนิรันดร์ ภาษาไทยแปลว่า ชีวิตนิรันดร์ แต่ความเป็นจริงแล้ว ก็คือ ชีวิต ก็คือ (โซเอ้-Zoe) แล้วก็คำว่า นิรันดร์ ในที่นี้ ภาษากรีกใช้คำว่า (อา-ฮี-โอ-นี-อส) ซึ่งแปลตรงๆ ก็คือเป็นอมตะ เป็นสิ่งที่ยืนยาว เป็นสิ่งที่ตายไม่ได้ ตายไม่เป็น
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่วันนี้ผู้เชื่อทุกคนได้รับ แต่คริสเตียนศาสนาเขาไม่รู้ว่าเขาได้รับ เขาก็ยังใช้ชีวิตอาดัมเหมือนเดิม ใช้มนุษย์คนเก่าเพื่อทำ เพื่อคิด เพื่อรับใช้ เพื่อประกาศ เพื่อกระทำทุกสิ่งเพื่อพระเจ้า เขาไม่รู้ว่ามันเป็นไม้ ฟาง หญ้าแห้ง
แต่เราวันนี้ขอบพระคุณพระเยซูที่ให้พระคริสต์ทำแทนทุกสิ่ง คิดแทนทุกสิ่ง เพื่อการกระทำเหล่านี้เรียกว่าการดี เรียกว่าการกระทำการดี ซึ่งให้พระคริสต์ทำแทน คิดแทน เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการ และเมื่อเราเชื่อทุกวัน เราก็จะเห็นการทำแทนคิดแทนของพระเยซูมากขึ้น มากขึ้นๆๆ ในแต่ละวัน
เมื่อพระเยซูทำหน้าที่เสด็จมาเพื่อตายไถ่บาปโลก พระองค์เชื่อฟังพระบิดาจนถึงที่สุด และแผนการงานของพระเจ้าก็สำเร็จผ่านพระเยซู พระเยซูพระบุตรจึงได้รับเกียรติจากพระบิดา และพระองค์ก็ได้รับสิทธิอำนาจจากพระบิดาในการประทานชีวิต (โซเอ้-Zoe) อมตะ ชีวิตที่ยืนยาว คือเป็นของพระเจ้า ให้แก่ผู้เชื่อทุกๆ คน
เราเองเป็นกายดินที่ไม่มีค่าอะไร แต่วันนี้เรามีค่าสูงสุด ก็คือเราได้รับสิทธิอำนาจให้กลายเป็นบุตรของพระเจ้า และมีชีวิตของพระเจ้า พระเจ้ามีอะไรเราก็มีอันนั้น
เพราะฉะนั้นคุณอย่าลืมว่า ชีวิตพระเจ้าอยู่ในเรา มันเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดา ขอบอกเลยว่าวันนี้เรามีสิ่งที่ไม่ธรรมดาอยู่ในเรา กำลัง ฤทธิ์เดช อำนาจ รุนแรงมากมายเหนือกว่าไดนาไมต์ ระเบิดไดนาไมต์ยังไม่เท่า และสันติสุขก็ไม่ใช่สันติสุขธรรมดาธรรมดา ที่เราต้องซื้อต้องไปเที่ยวเพื่อหาสันติสุขนี้มา แต่เป็นสันติสุขที่เต็มล้นที่ไม่กระหายอีกเลย ที่พระเจ้าให้เราฟรีๆ เป็นสันติสุขที่ไม่ธรรมดา ขอบพระคุณพระเยซู
และพระเยซูตรัสในข้อที่ 2 บอกว่า พระองค์มีอำนาจเหนือเนื้อหนังแล้ว
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์มีอำนาจเหนือเนื้อหนัง มันคืออะไร ก็คือเมื่อพระองค์มีอำนาจเหนือเนื้อหนัง เราอยู่ในพระคริสต์เราก็มีอำนาจเหนือเนื้อหนังเหล่านี้เช่นกัน
อันแรก ที่เรามีอำนาจเหนือมัน ก็คือวิญญาณเก่า วิญญาณเก่าพระเยซูชนะแล้ว พระเยซูประหารมันทิ้งให้มันตายที่กางเขน และทุกวันนี้พระองค์ประทานวิญญาณใหม่ให้แก่เรา เราได้บังเกิดใหม่ พระวิญญาณบริสุทธิ์ชุบชีวิตของเราวิญญาณของเราให้ฟื้นขึ้นมาใหม่เป็นคนใหม่ สรรเสริญพระเยซู
อันที่สอง และพระเยซูมีอำนาจเหนือเนื้อหนัง ก็คือจิตเก่า จิตเก่าซึ่งมีส่วนอยู่ในเนื้อหนัง ทุกวันนี้ขอบพระคุณพระเยซูที่มันตายพร้อมกับวิญญาณที่กางเขนแล้ว เพราะฉะนั้นเมื่อเราเชื่อทุกวันว่าจิตตาย ตัวเก่าตาย จิตตายๆ เราจะเห็นอาการการตายของมันมีมากขึ้น เราจะเห็นในโรมบทที่ 6 ที่เปาโลพูดว่า เราจำเริญขึ้นในการตายร่วมกับพระเยซู
ก็คือตายมากขึ้น ก็คือรสชาติชีวิตความต้องการของเนื้อหนังมันน้อยลงน้อยลง มันเป็นเอง เพียงแต่เราเชื่อ
ขอบพระคุณพระเยซูวันนี้เนื้อหนังของข้าพระองค์ จิตข้าพระองค์ตายไปแล้ว มันตายแล้ว เอเมน
- ตอนเช้าก็ตาย
- ตอนสายก็ตาย
- ตอนบ่ายก็ตาย
- ตอนเย็นก็ตาย
เราจะเห็นการตายนี้จำเริญขึ้น เมื่อมันจำเริญขึ้น
ขอบพระคุณพระเจ้าความต้องการของเนื้อหนังเราก็ลดน้อยถอยลง มันไม่มีความต้องการของเนื้อหนังอีกต่อไป
เนื่องจากว่ามันจำเริญขึ้นแล้ว มันตายไปแล้วมันมากขึ้นแล้ว ขอบคุณพระเจ้า
และเนื้อหนังต่อมาที่พระเยซูมีอำนาจเหนือมัน ก็คือร่างกายแห่งความบาป เราจะเห็นว่าร่างกายของเรามันรวดเร็วในการตอบโต้ตอบสนองของตัณหาของเนื้อหนังของความบาป เมื่อมีสิ่งล่อลวงเข้ามาร่างกายแห่งความบาปมันจะลุกขึ้น มันจะวิ่งไปหาทันที มันจะตอบสนองตอบโต้ทันที
ขอบคุณพระเจ้าที่วันนี้พระเยซูมีอำนาจเหนือเนื้อหนัง ก็คือเรามีอำนาจเหนือร่างกายแห่งความบาปแล้ว และ
ขอบคุณพระเยซูที่ทุกวันนี้คุณมีวิญญาณใหม่ คุณมีจิตใหม่ เพียงแต่เราเชื่อเอา วิญญาณใหม่จิตใหม่ก็จะจำเริญขึ้น
ขอบคุณพระเจ้าวิญญาณของเราจำเริญขึ้นเติบโต 100% แล้ว รอดแล้ว เกิดใหม่ 100% แล้ว
แต่จิตเก่ามันจะค่อยๆ สูญหายไป เพียงแต่เราเชื่อมากเท่าไหร่มันก็น้อยลงเท่านั้น เชื่อมากเท่าไหร่มันก็ลดน้อยลงตายไปมากเท่านั้น และจิตเราทุกวันนี้ เราเชื่อว่าเป็นจิตใหม่ เมื่อเรามีจิตใหม่ ขอบคุณพระเจ้าจิตเก่ามันก็หายไป ความต้องการเรื่องฝ่ายวิญญาณก็มีมากขึ้น
และร่างกายแห่งความบาปอะไรจะเข้ามาแทนที่ ขอบพระคุณพระเจ้าเป็นร่างกายแห่งความชอบธรรมเข้ามาแทนที่ สรรเสริญพระเยซู
และต่อมาพระเยซูมีอำนาจเหนือเนื้อหนัง ก็คือมีอำนาจเหนือร่างกายแห่งความตาย
เพราะฉะนั้นเมื่อเราได้ยินพระคำพระเจ้าเมื่อมีคนมาชวน ว่าไปโบสถ์ มีคนชวนอธิษฐาน สิ่งเหล่านี้ คือร่างกายแห่งความตายมันจะต่อสู้ มันจะทำให้เราง่วงเหงาซึมเซา ง่วงเหงาหาวนอน อ่อนแอ ไม่อยากทำอะไรเพื่อพระเจ้า
แต่ขอบคุณพระเยซูวันนี้พระเยซูมีอำนาจเหนือเนื้อหนัง ก็คือมีชัยชนะต่อร่างกายแห่งความตายแล้ว และเดี๋ยวนี้ตอนนี้คุณทุกคนมีร่างกายแห่งชีวิต คืออะไร คือมีอาการกระตือรือร้น ร้อนรน กระปรี้กระเปร่า เมื่อเราจะอ่านพระคัมภีร์ เราอ่านได้ทั้งวัน อ่านได้ไม่หยุด เราฟังคลิป เราฟังคำเทศนา แต่ต้องเป็นคำเทศนาที่มีชีวิต ก็คือเป็นถ้อยคำพระวจนะที่มาจากพระเจ้าจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราจะกิน กินๆๆๆ ไม่ยอมหยุด นี่คือร่างกายแห่งชีวิตที่ตอบสนองต่อสิ่งที่มาจากฝ่ายวิญญาณ
และสิ่งต่อมาพระเยซูมีอำนาจเหนือเนื้อหนัง ก็คือพระเยซูมีอำนาจเหนือตัวบาปแล้ว
เพราะฉะนั้นขอบคุณพระเจ้าเมื่อร่างกายของเราถูกตรึงที่กางเขนร่วมกับพระเยซู เมื่อจิตเก่าของเราถูกตรึง เนื้อหนังของเรามันตายแล้ว เพราะฉะนั้นทุกวันนี้เราเป็นคนใหม่ ตัวบาปมันไม่มีที่ที่จะเกาะ ไม่มีที่ที่จะอาศัยอยู่ มันจึงอ่อนกำลัง และถูกทำลายไปในที่สุด สรรเสริญพระเยซู
วันนี้ร่างกายแห่งความตาย ร่างกายแห่งความบาป จิตเก่าของเรามันตายไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นไม่มีที่ที่ให้ตัวบาปอยู่ สรรเสริญพระเจ้า แต่เรามีที่ให้ตัวชอบธรรม คนที่ชอบธรรม ผู้ที่ชอบธรรม ก็คือพระเยซูคริสต์ที่สถิตอยู่ภายในเรา สรรเสริญพระเจ้า
ขอให้เชื่อ จิตเก่ามันตายแล้ว
ขอให้เชื่อ ร่างกายแห่งความบาปมันตายไปแล้ว
ขอให้เชื่อ ว่าร่างกายแห่งความตายมันตายไปแล้ว
และขอให้เชื่อ ว่าตัวบาปมันถูกทำลายไปแล้ว
และกฎแห่งความบาปก็ถูกทำลาย กฎแห่งความตายก็ถูกทำลาย เพียงแต่เราเชื่อ สิ่งเหล่านี้มันก็จะตายไป
กฎแห่งชีวิต กฎแห่งพระวิญญาณ ผู้ชอบธรรม คือพระคริสต์ก็จะเข้ามาแทนที่สิ่งที่เป็นเนื้อหนัง สรรเสริญพระเจ้า
ชีวิตเราก็จะเต็มล้นด้วยชัยชนะ เราทำอะไรก็ได้เพราะว่าพระคริสต์เป็นผู้เสริมกำลังของเรา เอเมน
ขอบคุณพระเจ้าที่เราได้รู้ว่าอาดัม และลูกหลานในสมัยก่อน ก่อนที่พระเยซูจะเสด็จมา พวกเขาไม่เคยได้รับชีวิตพระเจ้า ไม่เคยมีชีวิตที่ครบบริบูรณ์
เพราะฉะนั้นในยอห์นบทที่ 10:10 พระเยซูเสด็จมาพระองค์ตรัสว่า เรานี่แหละที่จะนำชีวิตมาให้พวกท่าน และชีวิตนี้เป็นชีวิตที่ครบบริบูรณ์ ก็คือเรามีลมหายใจ เรามีชีวิต แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด เรามีวิญญาณที่มาจากพระเจ้า และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดมากกว่านั้นอีก ก็คือเรามีชีวิตพระเจ้าที่ยืนยงคงกระพัน ที่เป็นอมตะ ที่ตายไม่เป็นเข้ามาอยู่ในเรา ขอบคุณพระเยซูเราได้รับชีวิตที่ครบแล้วตอนนี้
เมื่อก่อนเราไม่เต็ม มนุษย์ไม่เต็ม อาดัมไม่เต็ม แต่ตอนนี้เราเต็มล้น เต็มแล้วครบบริบูรณ์แล้วในชีวิตของพระเจ้า เอเมน
สำหรับพี่น้องที่เข้ามาใหม่ หรือรับมานาฯ ใหม่ๆ
พระเยซูผู้ชายชื่อเยซู ซึ่งเป็นพระบุตร พระเจ้าพระบุตร ตอนนี้ประทับที่ข้างขวาของพระบิดา
ส่วนพระคริสต์ ก็คือวิญญาณของพระเยซูที่สถิตอยู่ภายในเราทุกคน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับเราแล้วในวิญญาณของเรา
เพราะฉะนั้นพระเยซู ผู้ชายชื่อเยซูอยู่ที่สวรรค์ อยู่ที่ที่ประทับ อยู่ใกล้พระบิดา อยู่กับพระบิดา และอยู่ในพระบิดา
ส่วนวิญญาณของพระเยซูทุกวันนี้ ก็คืออยู่ในเราทุกๆ คนที่เชื่อพระองค์ เอเมน