เนื่องจากว่าคริสเตียนไม่เข้าใจการเกี่ยวกับเรื่องการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน เเละด้านนอก พี่น้องกลุ่มเพนเทคอสเน้นเกี่ยวกับเรื่องการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ เเต่ไม่ค้นไม่เรียนรู้ถึงภาษากรีก ซึ่งเราจะเห็นว่ามีการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์สองแบบ คือใน เเละนอก
• "นอก" เพื่อคริสตจักร พระกายของพระคริสต์ขยายตัวเติบโตขึ้น
• "ใน" คือการที่ชีวิตของเราภายใน ชีวิตของพระคริสต์จะขยาย เเละเติบโตขึ้น
พี่น้องเห็นความเเตกต่างไหม คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายนอกมีไว้สำหรับการรับใช้ เป็นการสวมทับของพระวิญญาณที่อยู่ด้านนอก อยู่ภายนอกเพื่อใช้อวัยวะของเรา มือ ลิ้น เพื่อประกาศข่าวประเสริฐ เพื่อวางมือ รักษาโรค ไล่ผี อธิษฐานเผื่อพี่น้อง เลี้ยงดูคริสตจักร มีหลายหน้าที่ หลายตำแหน่ง หลายของประทานที่พระเจ้ามอบให้เรา อันนี้คือการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านนอก หรือภายนอก
แต่การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน เพื่อที่พระวิญญาณบริสุทธิ์จะขยายอาณาเขตของพระองค์ คือพระคริสต์จะขยายอาณาเขตจากวิญญาณเข้ามาสู่จิตใจ เพื่อครอบครองจิตใจทั้งสี่ส่วนของเรา ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่คริสเตียนทุกวันนี้ไม่สามารถเอาชนะได้ ต้องต่อสู้กับตัวบาปตลอดเวลา
• การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายนอก หรือด้านนอก เรียกว่าของประทานเเห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์
• แต่การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน เรียกว่าของประทานเเห่งพระคุณ
• ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็คือ (Gift of the Holy Spirit) /ของประทานแห่งพระคุณ ก็คือ (Gift of the Grace)
• Gift of the Holy Spirit ของประทานแห่งพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็คือเพื่อคริสตจักรเพื่อช่วยเหลือการงานการรับใช้ให้พระกายของพระคริสต์เติบโต
เเต่การเต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือของประทานเเห่งพระคุณ ก็คือเพื่อช่วยชีวิตของเราในการเติบโตไปสู่พระฉายาของพระบุตร สู่ชีวิตของพระคริสต์ ที่มีพระคริสต์ที่เป็นพระวิญญาณผลักดันเราให้ดำเนินชีวิตอยู่ในความชอบธรรมอยู่ภายใต้กฎหมายใหม่ของพระเยซู เพื่อเราจะพร้อมเป็นเจ้าสาวที่พร้อมเมื่อเจ้าบ่าวมารับ
เราไม่แปลกใจที่คริสตจักรมากมายทุกวันนี้ไม่ว่าโบสถ์ไหนก็ทำได้ รักษาโรคเราก็เห็นใช่ไหม ขับผีออกเราก็เห็นบ่อย และของประทานอื่นๆพระเจ้าให้ใช้ในคริสตจักรเราก็เห็นกันเยอะ นำคนมาเชื่อเราก็นำได้ เราทำหลายสิ่งได้เพื่อพระเจ้า
เเต่ปรากฎว่าชีวิตของเรายังมาไม่ถึงของประทานเเห่งพระคุณ ชีวิตของเรายังไม่ได้เต็มล้นด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้านใน หรือภายใน ซึ่งเป็นการขยายอาณาเขตจากวิญญาณของเราเข้ามาครอบครองจิตใจของเรา เพื่อพระคริสต์จะทำให้เราเลิกทำบาป เเละตัวบาปก็จะอ่อนกำลัง เราจะเห็นว่าถ้าหากว่าเราอยู่ภายใต้พระคุณยอมให้พระคริสต์ทำแทน ทุกสิ่งมันง่ายหมดเราไม่ต้องฝืนใจ
สมมุติว่า มีคนมาด่ามาว่าผม ผมโกรธไหม ไม่โกรธ ถามว่าทำไม ก็เพราะว่าผมปฏิเสธที่จะเชื่อฟัง เเละระงับความโกรธด้วยการบังคับตัวเองแบบว่าไม่ต้องโกรธเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งคริสเตียนพวกเราฝึกแบบนี้กันอยู่เเล้ว หรือว่าหาวิธีอื่นแบบว่า หลบหลีก หลีกหนีปัญหาต่างๆ ใช้ระบบวิธีการหลบหลีก เเต่วิธีการหลบหลีกยังไงก็ตามเเต่ ใจเรามันร้อนเเล้ว มันเผาไหม้เเล้ว มันโกรธเเล้ว
สำหรับเรื่องการดำเนินชีวิตในพระคริสต์ เน้นอยู่ที่ใจ ถ้าใจเราโกรธแล้ว หยิ่งผยองพองตัวแล้ว คือมันเกิดอยู่ภายในแล้ว แสดงว่าเราทำบาปแล้ว แต่การฝึกนี้ต้องใช้เวลา ต้องใช้เวลา ผมก็ล้มมาต้องนับครั้งไม่ได้ คือการที่จะมาเป็นผู้ชนะเราต้องเป็นผู้แพ้ ยับเยินก่อน
พระเจ้าต้องทำให้เราแตกหัก พระเจ้าต้องทำให้เรายอมจำนน คือยอมรับว่าเราไม่มีสภาพที่ดีเลย ยอมรับเลย แต่ถ้าหากเรายังคิดว่า เรายังมีส่วนนี้ดีอยู่ พระเจ้าใช้งานพระเจ้าทำงานไม่ได้ พระเจ้าแตะต้องเราไม่ได้ พระเจ้าต้องให้เรายอมแพ้ก่อน
การช่วยเหลือของพระเจ้าก็ไม่ต่างไปจากการที่ผู้ชายคนนึง ไปเห็นผู้ชายอีกคนหนึ่งตกน้ำและกำลังจะจมน้ำ ผู้ชายคนนั้นว่ายน้ำไม่เป็น แต่ปรากฏว่าผู้ชายคนที่เดินมาเห็น แล้วก็คิดจะช่วย ถอดรองเท้าถอดเสื้อและรออยู่ คนที่ยืนมองก็บอกว่าทำไมไม่กระโดดลงไป กระโดดลงไปสิเขาจะตายอยู่แล้ว
แต่ผู้ชายคนนี้ก็นิ่งเฉยไม่พูดอะไร ก็รอไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้ชายคนที่กำลังจะจมน้ำจมลงไป เมื่อเห็นว่าผู้ชายคนที่จมลงไปดิ้นหมดแรงไม่ไหวแล้วและจมลงไปแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็กระโดดลงไปช่วยดึงเขามา และเขาตอบคำถามของคนทั้งหลายว่า ถ้าหากว่าผมกระโดดลงไปตอนที่เขากำลังมีแรงเขาดิ้นอยู่ เขาจะดึงผมลงไปด้วยกันกับเขา ทั้งสองคนก็จะตาย
แต่ถ้าหากเขาหมดแรงแล้วจะตายแล้ว แล้วเราไปดึงไปช่วยเขา เขาก็จะทำอะไรไม่ได้ และวิธีนี้พระเจ้าใช้วิธีนี้เพื่อช่วยเรา เหมือนกันและถ้าหากเรายังคิดว่าเราเองก็ยังพอมีดีอยู่ จุดนี้ดีจุดนี้ยังดี ขอพระเจ้าช่วยแต่จุดนี้ พระเจ้าไม่เอาพระเจ้าต้องการการยอมจำนนร้อยเปอร์เซ็น (ภาษาอังกฤษ surrender all) ก็คือยอมจำนน (all ก็คือทั้งหมดเลยทั้งหมด)
และถ้าหากเรายอมจำนนทั้งหมดได้ พระเจ้าก็จะช่วยเรา เพราะว่าเพื่อที่จะไม่มีใครอวดได้ว่า ฉันก็ยังมีดีอยู่ ฉันก็ทำได้อยู่ ไม่... พระเจ้าต้องการให้เรายอมจริงๆ และเมื่อเรายอมจริงๆ ยอมทั้งหมด ยอมจำนนทั้งหมด (surrender all) พระเจ้าก็จะช่วยเรา
สำหรับเรื่องหญิงพรหมจารีสิบคน ประเพณีวัฒนธรรมของชาวยิว คือเจ้าของบ้านจะมอบหมายหน้าที่ให้หญิงพรมจารีที่เป็นคนใช้ คนรับใช้ของเขา คือหญิงพรมจารีอยู่ในบ้านสิบคนมา เเละให้ตะเกียงทุกคน เเละเอาน้ำมันใส่ให้เต็มทุกคน มีน้ำมันหมดทุกคน เเละหญิงสิบคนนี้ก็ออกมารับเจ้าบ่าว ถ้าหากว่าเจ้าบ่าวไม่มาช้า ถ้าหากเจ้าบ่าวมาตามกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างก็จะโอเคก็ไม่มีปัญหา
เเต่ปรากฎว่าเจ้าบ่าวมาช้า นี่คือปัญหา
เจ้าบ่าวมาช้า หญิงพรมจารีห้าคนที่ไม่ฉลาด ไม่เอาน้ำมันใส่ภาชนะมาเผื่อด้วย นี่คือปัญหา
เราจะเห็นว่าในมัทธิว 25 ข้อที่ 4 ไม่เหมือนข้อที่ 3 ข้อที่ 3 บอกว่าคนโง่ห้าคนเอาตะเกียงมา เเต่ไม่ได้เอาน้ำมันมา
"ถ้าเราจะเเปลให้ถูก ก็คือหญิงพรหมจารีห้าคนที่ไม่ฉลาดเอาตะเกียงมา เเละมีน้ำมันอยู่ด้วย เเต่ไม่ได้เอาใส่ภาชนะมาเผื่อด้วย"
ถ้าจะแปลให้คนเข้าใจเเต่เขาแปลตามกรีก คือการสื่อสารการใช้คำพูดของชาวยิวไม่เหมือการพูดหรือการสื่อสารเหมือนบ้านเรา ซึ่งทุกคนจะรู้ดีว่านี่เป็นประเพณีวัฒนธรรมของชาวยิว คือเจ้าของบ้านจะหาหญิงพรมจารีมา เเละให้ตะเกียงเขา เเละให้น้ำมันทุกคนเต็มหมดเเล้วก็ออกมา จุดตะเกียงออกมาด้วยซึ่งเป็นการใช้คำอุปมาที่เหมาะสมของพระเยซูคริสต์
สำหรับพระเจ้าในพระคัมภีร์เราจะเห็นตลอดว่า "ตะเกียง ก็คือวิญญาณ" เเละ "น้ำมัน ก็คือพระวิญญาณ" เพราะฉะนั้นเราเห็นว่าหลักการของพันธสัญญาใหม่ ก็คือทุกคนที่ได้บังเกิดใหม่เเล้ว วิญญาณของเขาก็จะมีพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาอยู่ เมื่อวิญญาณของเราได้ถูกชุบให้เป็นขึ้นมาใหม่ ให้บังเกิดใหม่เเล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะเข้ามาอยู่ครอบครองสร้างบ้านอยู่ในวิญญาณของเรา (นี่คือน้ำมันที่มีอยู่ในตะเกียง)
เเละขั้นตอนต่อมาพระวิญาณบริสุทธิ์ พระคริสต์ก็จะยืนอยู่ที่วิญญาณ เเละเคาะที่ประตูใจ ก็คือพระเจ้าต้องการขยายอาณาเขตวิญญาณของเราไปสู่จิตใจของเรา คือต้องการมีน้ำมันในตะเกียง เเละต้องการมีน้ำมันในภาชนะ เเละให้เรามีภาชนะเอามาเผื่อด้วย (ภาชนะ ก็คือ ใจ)
ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายไม่มีใจให้พระเจ้า มีเล็กน้อย มีเฉพาะวันอาทิตย์สองสามชั่วโมง เฉพราะตอนที่ไปโบสถ์ หรือไม่ก็แบบว่าอธิษฐานวันละสองสามครั้งมีใจให้นิดหน่อย หรือว่าอ่านพระคัมภีร์บางครั้งมีใจให้นิดหน่อย หรือว่าตอนกลางคืนอาจจะเป็นวันอังคาร หรือวันพุธที่เราเรียนพระคัมภีร์ตอนกลางคืน หรือกลุ่มเซลล์คือมีให้นิดหน่อย
เเต่ชีวิตของเราล่ะ มาถึงจุดแห่งการเปลี่ยนแปลงไหม เราสามารถเอาชนะสิ่งเหล่านี้ได้มาก และทำบาปเพียงแต่เล็กน้อย เรามาถึงจุดนี้ไหม เราจะเห็นว่าชีวิตของเรายังไม่มาถึงจุดนี้เลย แบบว่ายังห่างไกลมากๆ เลยนี่เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วง เเต่ก็ขอบพระคุณพระเจ้าที่พวกเราทุกคน หญิงพรมจารีสิบคนพวกเราทุกๆ คนได้รอดหมด
เเต่เนื่องจากว่าถ้าหากเราต้องการที่จะเข้าไปในราชอาณาจักร ซึ่งเป็นงานเลี้ยงเเต่งงานยิ่งใหญ่ที่พระบิดาจะจัดงานเลี้ยงนี้ให้พระบุตร เเละเจ้าสาว ก็คือเราทั้งหมดที่เป็นผู้ชนะ "ผู้ชนะเท่านั้น" จะได้มีโอกาสเข้าไปในงานเเต่งงานร่วมเฉลิมฉลองกับพระเยซูเป็นเวลาพันปี ไม่มีงานเเต่งงานไหนในโลกนี้ที่จะยืดเยื้อยืนยาวไปจนถึงพันปี เเต่มีงานเดียวเท่านั้น เเละโอกาสเดียวเท่านั้น ก็คือชีวิตนี้
- ถ้าหากเราเตรียมมีน้ำมันใส่ภาชนะมาเผื่อ คือมีพระเจ้าครองครองจิตใจเราเเล้ว เราก็จะมีโอกาสได้เข้าไปในราชอาณาจักร
หญิงพรมจารี ก็คือทุกคนที่เชื่อพระเจ้าทุกคนที่เชื่อ และตะเกียง ก็คือวิญญาณ วิญญาณของเราทุกคนมีหมด "ตะเกียง" (สภษ 20:27) วิญญาณก็คือตะเกียง เเละน้ำมันก็คือพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณบริสุทธิ์เล็งถึงน้ำมันอันนี้เรารู้ดี
ภาชนะนี้ ก็คือจิตใจ (soul) เเละจิตใจของเรา ถ้าหากผู้ชนะเท่านั้นที่เเสวงราชอาณาจักร เเละความชอบธรรมของพระองค์ ได้พบพระคริสต์ในเราซึ่งเป็นความหวังเเห่งสง่าราศี เราก็จะมีโอกาสที่พระคริสต์จะขยายอาณาเขตจากวิญญาณเข้ามาสู่จิตใจ เเละครอบครองจิตใจทุกส่วนของเรา
- จิตใจ หรือsoul ของมนุษย์มีสามส่วนด้วยกัน
1. ความคิด (mind)
2. ความปรารถนา (will / wish)
3. อารมณ์ / ความรู้สึก (emotion / feeling)
ทุกสิ่งที่เข้ามาในชีวิตของเราแต่ละวันเเต่ละครั้ง ความคิด (mind) ก็จะตึกตรอง พิจารณาคำนวณ เเละเมื่อคำนวณเสร็จ ก็จะส่งไปให้อารมณ์ความรู้สึก เเละส่งไปให้ความปรารถนา ความรู้สึกจะบอกว่าน้อยใจเหลือเกินมาอีกละ ค่าบ้านค่าเช่าบ้านเดือนนี้แพงขึ้นกลุ้มใจมาก เเละความคิดก็จะส่งไปที่ความปรารถนาบอกว่าย้ายไปหาที่พักที่อื่นดีไหมเพราะว่าที่นี่มันเเพง คือความปรารถนาจะบอกว่าตกลงไป
ถ้าหากความปรารถนาเเรงกล้าก็จะไป ถ้าหากความปรารถนา คือไม่อยากไปก็อยู่ต่อ หรือว่ามีคนมาชวนเราไปเที่ยว เเละความคิด (mind) ของเราก็จะบอกว่าไปดีไหม ขอคิดก่อนนะคำนวณคิดตึกตรองเเล้วส่งไปให้ทางอารมณ์ อารมณ์ดีใจจะได้ไปเที่ยว ความคิดก็จะส่งข้อมูลไปให้ความปรารถนาถ้าหากมีความปรารถนาที่เเรงกล้าก็จะบอกว่าโอเคตกลงไปต้องให้ได้ตัดสินใจไป นี่คือการทำงานร่วมกันของความคิด หรือว่า (mind) ของเรา
ซึ่งทุกวันนี้มนุษย์ (mind) ของเขาความคิดของเขาถูกครอบครองโดยตัวบาปโดยชีวิตเก่าของอาดัมซึ่งเขาจะดำเนินชีวิตตามใจชอบของเขา เเละตัวบาปมีอำนาจครอบครองเขาอยู่ เพราะฉะนั้นเเล้วเมื่อเขามาเป็นคริสเตียน ถ้าหากว่าเราต้องการที่จะทำดีเชื่อฟังพระบัญญัติของพระเจ้า เราทำไม่ได้
ตัวบาป และความคิดเก่า ความปรารถนาเดิม ความรู้สึกเดิมที่อยู่ในจิตใจเก่า มันจะร่วมมือกับตัวบาปเเละต่อสู้กับพระวิญญาณ เเละถ้าหากเราไม่ได้รับการช่วยเหลือจากพระวิญญาณจากพระคริสต์ที่อยู่ในเราที่ขยายอำนาจเข้ามา ตอนนี้พระวิญญาณกำลังต่อสู้นะ ต่อสู้กับตัวบาปที่อยู่ในจิตใจเก่าที่มีความคิด ความปรารถนา เเละอารมณ์ คือสามพักพวกเขาร่วมมือกัน เเละต่อสู้กับพระวิญญาณ เเต่ในที่สุด "ในที่สุด" ไม่วันใดก็วันหนึ่งไม่ช้าไม่นานเกินรอพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะชนะ
- การชนะของพระวิญญาณบริสุทธิ์ขึ้นอยู่กับเราได้ถูกเปิดตาก่อนว่าเรามีพระวิญญาณอยู่ข้างใน เรามีพระคริสต์อยู่ในเรา ว่าเรามีพระองค์เป็นความหวังแห่งสง่าราศี
เราเลิกที่จะเชื่อฟัง เลิกที่จะพยายามฝึกฝนฝืนใจบังคับใจให้ไปเชื่อฟังพระเจ้า ให้รักษาพระบัญญัติของพระเจ้า ไม่... ถ้าหากเราทำแบบนี้แสดงว่าเรายังไม่ถูกเปิดตา เเละพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่มีโอกาสที่จะขยายอำนาจ ขยายอาณาเขตจากวิญญาณของเรามาสู่จิตใจของเรา เเละพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็จะต่อสู้อยู่ เเต่จะทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากว่าวันนึงที่เราถูกเปิดตา เรายอมรับว่าเราไม่ไหวเเล้ว สู้ไม่ไหวล่ะเชื่อฟังไม่ได้ล่ะ เราก็ยอมจำนน
- พระเจ้าก็เปิดตาเรา เเละให้เราได้รู้ว่าการทำงานทุกสิ่งเป็นผลงานของพระวิญญาณ ไม่ใช่หน้าที่ของเราเเม้เเต่น้อย พระเจ้าจะเป็นคนทำทั้งหมด
ขอให้เรานิ่ง เฉย ไม่ต้องทำอะไร บอกว่าพระเจ้าทำเถิด พระเจ้าช่วยข้าเถิด พระเจ้าพระองค์มาเพื่อรักษาพระบัญญัติ พระองค์มาเพื่อดำเนินชีวิตเเทนข้า ข้าพระองค์ไม่เหมาะสมไม่คู่ควรที่จะรักษาพระบัญญัติ เพราะข้าพระองค์เป็นมนุษย์ที่ขายให้บาปแล้ว เเละพระบัญญัติของพระองค์มาจากพระวิญญาณเป็นของพระเจ้ายิ่งใหญ่สูงส่ง ข้าพระองค์ทำไม่ได้ข้าพระองค์ยอมเเล้วถ้าหากเรามาถึงจุดนี้ จุดแห่งการยอมจำนนอย่างเต็มที่ เเละพระเจ้าก็จะเริ่มทำงานของพระองต์
- เมื่อเราหยุด พระเจ้าจะเริ่ม
- เมื่อเราตาย พระเจ้าจะมีชีวิตอยู่
- เมื่อเราเล็กลง พระเจ้าจะโตขึ้น
- เมื่อเราต่ำลง พระเจ้าจะสูงขึ้น
- เมื่อเราพักผ่อนในพระคริสต์ พระเจ้าก็จะเป็นคนที่เริ่มทำงานในชีวิตของเรา เราพักผ่อนในพระคริสต์ พระเจ้าทำงานในชีวิตของเรา เอเมน