ที่ผ่านมาสองปีที่ผมมาสัมมนา เราคุยกันเรื่องชีวิต การดำเนินชีวิตเอาชนะบาป ตัวเก่าตัวใหม่ พระบัญญัติเดิมพระบัญญัติใหม่ แต่ตอนนี้เราจะเข้าสู่ความลึกลับ ข้อลึกลับ และพระคำที่ลึกกว่า
ก็คือชีวิตคริสตจักร เราจะต้องอยู่ร่วมกันกับพี่น้อง เราขาดพี่น้องไม่ได้ บางครั้งเราอ่อนแอ บางครั้งเรารู้สึกว่าจิตใจเราอยู่ห่างจากพระเจ้า และพอได้สามัคคีธรรมกับพี่น้อง เราก็เข้ามาอยู่ในวิญญาณทันที เพราะฉะนั้น คริสตจักรสำคัญมาก และพระเยซูก็รักคริสตจักรของพระองค์มาก
สิ่งสำคัญที่เราต้องเข้าใจ คือคริสตจักรคือข้อลึกลับของพระคริสต์ และข้อลึกลับของพระคริสต์ก็คือคริสตจักร แล้วคริสตจักรคืออะไรบ้าง มีมากกว่าที่เราเข้าใจนะครับ
คริสตจักรคือ:
a. คริสตจักรไม่ใช่องค์กร คณะนิกาย และศาสนา แต่เป็นอวัยวะ (Organic) เป็นชีวิตของพระเยซู
ความจริงที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ คือคริสตจักรกลายเป็นองค์กร คณะนิกาย และศาสนาไปแล้ว
คริสตจักรของพระคริสต์ คือกลุ่มคนที่ถูกเรียกออกมา ไม่ต้องมีชื่อ ไม่ต้องมีรูป ไม่ต้องเอาไม้กางเขนหรืออะไรมายืนยันว่าเราเป็นคริสตจักร คริสตจักรของพระคริสต์โชว์สิ่งเดียว คือชีวิตของพระเยซู และงานรองลงมาก็คือการประกาศข่าวประเสริฐ อยู่เพื่อรับใช้พระเจ้าร่วมกัน สรรเสริญพระเจ้า ยกย่องพระเจ้า แต่งานหลักของเรา หรือพระประสงค์หลักของพระเจ้า ก็คือให้คริสตจักรสำแดงชีวิตของพระคริสต์ ถ้าเราไม่ได้สำแดงชีวิตของพระคริสต์ เราล้มเหลวในการก่อตั้งคริสตจักร
คริสตจักรเป็น Organic หรือเป็นอวัยวะ ไม่ใช่องค์กรหรือคณะนิกาย เราไม่อยู่ใต้การบงการ หรือการบังคับบัญชาของใครที่อยู่ข้างบนที่ไม่ใช่พระเยซู แต่ทุกวันนี้คริสตจักรมากมายอยู่ภายใต้การควบคุม ดูแล หรือบังคับโดยองค์กรหรือคณะนิกายต่างๆ
แบ๊บติสต์ที่อเมริกาก็ควบคุมคริสตจักรทั่วโลก และเพนเทคอสต์ที่เริ่มต้นที่อเมริกาเดี๋ยวนี้ก็แพร่ขยายไปทั่วโลก แต่เค้าคือหัวหน้า หรือองค์กรที่เป็นใหญ่ เป็นหลัก หรือเป็น Center ทุกสิ่งทุกอย่างต้องรายงานไปที่เค้า เค้าก็ติดต่อมาหาเรา ต้องการบทเรียนไปสอนที่ไหน บทเรียนเรื่องอะไร เค้าก็ส่งมาให้เรา
แต่คริสตจักรพวกเรา หรือคริสตจักรที่เป็นฝ่ายวิญญาณ เราให้พระเยซูประจำท้องถิ่นนั้นๆ เป็นคนบงการ บังคับบัญชา และกำหนดว่าเราจะเรียนรู้พระคัมภีร์ข้อไหน หรือเผยพระวจนะเรื่องอะไร พระเยซูในคริสตจักรเราเป็นคนตัดสินใจ เอเมน
a. โลกนี้มีเพียงสองคนเท่านั้นสำหรับพระเจ้า อาดัมคือคนเก่าคนแรก และพระคริสต์เยซูคือคนใหม่คนที่สอง ที่มาแทนที่อาดัมที่เสื่อมและตกต่ำแล้ว ผู้เชื่อทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของพระคริสต์ที่เป็นคนใหม่คนนี้ เราจึงเป็นมนุษย์เผ่าพันธุ์ที่สองที่มาแทนที่เผ่าพันธุ์เดิม
b. จะมีสักกี่คนที่รู้และเข้าใจ และเดินด้วยคนใหม่ และมีส่วนในคนใหม่คนนี้
โลกนี้มีแค่สองคน ถึงแม้เราจะเห็นคนเป็นล้านๆ คน แต่พระเจ้ามองเห็นแค่สองคนเท่านั้น คือ อาดัม กับพระคริสต์ ทุกคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าก็เป็นอาดัม และทุกคนที่เชื่อพระเจ้าก็เป็นพระคริสต์
a. พระคริสต์ทรงเป็นกษัตริย์ และเราผู้เชื่อทุกคนเป็นประชากรแห่งอาณาจักร ที่กำลังฝึกชีวิตให้พร้อมสำหรับอาณาจักรพันปีที่จะมา เพื่อเราจะได้ร่วมครอบครองกับพระองค์ชั่วนิรันดร์
อาณาจักรสวรรค์อยู่ในยุคพระคุณ คือคริสตจักรที่เป็นอาณาจักรสวรรค์ และอาณาจักรสวรรค์อยู่ในยุคพันปี หลังจากยุคพันปีผ่านไปก็จบ พระเยซูมอบอำนาจให้พระบิดา และพระเยซูกับพระบิดาร่วมกันครอบครองฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ เรียกว่าอาณาจักรของพระเจ้า
ทุกวันนี้เราฝึกฝนชีวิตของเราให้พร้อม สำหรับการเข้าไปร่วมครอบครองกับพระเยซู ถ้าหากเราไม่เตรียมพร้อม และไม่มีชีวิตจิตใจใหม่ ก็ไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นผู้ปกครองครอบครองร่วมกับพระองค์ พระเยซูเป็นกษัตริย์ในอาณาจักรพันปี และคนที่จะร่วมครอบครองกับพระเยซูจะต้องมีชีวิตเหมือนพระเยซู จึงจะครอบครองได้
a. พระเจ้าต้องการมีความรักความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เชื่อทุกคน ทรงรับเราเป็นบุตร ให้บังเกิดใหม่ในวิญญาณ
คริสตจักร คือครอบครัวของพระเจ้า เราคิดถึงข้อนี้หรือไม่
ในคริสตจักร ผมว่าเรายังมีความสัมพันธ์หรือผูกพันที่ยังไม่ดีพอ คนหนึ่งนั่งอยู่แถวหน้า อีกคนหนึ่งแถวกลาง และอีกคนหนึ่งแถวหลัง และความสนิทชิดเชื้อ คุ้นเคย ผูกพัน และความสัมพันธ์ไม่ค่อยมีเท่าไหร่
เราเลือกที่จะคบคนที่เราคบ เราเลือกที่จะคุยสามัคคีธรรมกับคนที่เราสามัคคีธรรมด้วย แต่คนที่เราไม่ชอบ หรือไม่คุ้นเคยเราก็ปล่อยเค้า อันนั้นไม่ใช่ครอบครัว
ครอบครัว คือทุกคนต้องรัก และรู้จักกันดี
เพราะฉะนั้น คริสตจักรของเรา เราควรมีความคิดแบบนี้ คือคริสตจักรเป็นครอบครัวของพระเจ้า
ครอบครัวก็ต้องรักกัน และต้องรู้จักกันดี ใครที่ไม่รู้จักเรา เราก็ไปบอกเค้า “อยากรู้จักกับคุณ” “เป็นยังไงบ้าง” “ชีวิตเป็นยังไง” “อธิษฐานเผื่อไหม” “มีอะไรให้ช่วยเหลือไหม” ฯลฯ คือสร้างความสัมพันธ์ผูกพันระหว่างพี่น้องในพระกาย ในฐานะครอบครัว
เราทุกคนเป็นน้องๆ ของพระเยซูทั้งหมด แต่น้องๆ ของพระเยซูคนนี้ไม่รู้จักคนนี้ คนนั้นไม่รู้จักคนนั้น อันนั้นไม่ถูกครับ ทุกคนต้องรู้จักกันนะครับ
b. พระเจ้าคือพระบิดา พระเยซูคริสต์คือบุตรหัวปี เราทุกคนคือน้องๆ ของพระเยซู
c. เรานำตัวใหม่และพระเยซูมาถวายเป็นเครื่องบูชาอันหอมหวลแด่พระบิดา
a. ในสมัยสาวก ทุกคนมาร่วมประชุมหักขนมปังทุกวัน แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าพระเยซูจะไม่มาดังที่คาดหวังเอาไว้ จึงร่วมประชุมหักขนมปังสัปดาห์ละครั้ง เพื่อประกาศ เป็นพยาน และนมัสการพระเจ้า
b. คุณต้องการคริสตจักร และคริสตจักรก็ต้องการคุณ ทั้งสองมีความสำคัญ และขาดกันไม่ได้
c. พระเยซูรักคุณและรักคริสตจักร ทรงยอมตายเพื่อไถ่คุณ และเพื่อนำคุณเข้ามีส่วนในพระกายของพระองค์ คือคริสตจักร เพื่อเราจะได้มาอยู่ร่วมกันในฐานะพระกาย พี่น้องในพระคริสต์ และเหล่าบุตรของพระเจ้า
a. เจ้าสาวที่พร้อมสำหรับงานเลี้ยงแต่งงาน คือผู้เชื่อส่วนน้อยที่มีน้ำมันใส่ภาชนะมาเผื่อด้วย (มีพระคริสต์ครอบครองจิตใจทุกห้องแล้ว)
“เอเมน พระเยซู พวกเราเป็นเจ้าสาวของพระองค์ ขอบคุณพระเยซูที่ให้น้ำมันเต็มอยู่ในภาชนะของข้าพระองค์ทั้งหลาย คือจิตใจของพวกข้าพระองค์ถูกครอบครองแล้วโดยพระคริสต์ พวกเราจะฝึกฝนชีวิตให้เป็นเจ้าสาวที่น่ารักสำหรับพระเยซู เอเมน”
a. หน้าที่ของเรา คือต่อสู้กับกลอุบายของมารซาตานเป็นหลัก และต่อสู้กับอำนาจของซาตานเป็นรอง
b. ซาตานบุกโจมตีภายในคริสตจักร ด้วยการนำเชื้อยีสต์เข้ามาผ่านทางผู้นำ และทุกคนที่มีโอกาสเผยพระวจนะ
c. คริสเตียนจะโตไม่ได้ ถ้าหากเชื้อยีสต์ยังมีอยู่เต็มในคริสตจักร
d. หน้าที่ของผู้ปกครอง และผู้ดูแลคริสตจักร คือป้องกันเชื้อยีสต์ไม่ให้แพร่ขยายมากเท่าที่จะมากได้
เอาความจริงคาดเอวคืออะไร
เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงคืออะไร
เอาความเชื่อเป็นโล่คืออะไร
ข่าวประเสริฐแห่งสันติสุขเป็นรองเท้าคืออะไร
เอาความรอดเป็นหมวกเหล็กคืออะไร
พระแสงแห่งพระวิญญาณ (พระคำพระเจ้า) คืออะไร
อธิษฐานอ้อนวอนทุกเรื่องคืออะไร
ขอโดยพระวิญญาณทุกเวลาคืออะไร
เฝ้าระวังอยู่คืออะไร
พระเจ้าต้องการให้เรามีคริสตจักรที่อบอุ่น แต่ทุกวันนี้คริสตจักรอบอ้าวและอึดอัด อยู่ยาก อยากออกมา ไม่อยากอยู่ต่อ
เราอยู่ทุกวันนี้เพราะว่ากลัวไม่รอด หรือกลัวพระเจ้าลงโทษเพราะไม่มาโบสถ์ แต่แท้ที่จริง พระประสงค์ของพระเจ้า คืออยากให้เรามาคริสตจักร หรือมานมัสการด้วยความรัก และด้วยหัวใจ
ใครจะเป็นยังไง ใครจะทำยังไง ใครจะพูดผิดพูดถูก หรือพูดอะไรก็แล้วแต่ ช่างเค้า เราจดจ่อที่พระเจ้า ให้พระเยซูคริสต์เป็นหลัก และเป็นศูนย์กลาง แล้วทุกอย่างจะดีเอง
ขอบพระคุณพระเจ้าครับ เมื่อเรามีการประชุม เราแก้ความผิดกันได้ และคนที่ผิดก็ยอมรับผิด หรือถ้าไม่ผิดก็เอเมนไปก่อน ไม่มีอะไรเสียหาย
มันเป็นเรื่องของความสัมพันธ์ผูกพัน อย่าไปใส่ใจความผิดความถูก ถ้าเราใส่ใจในสิ่งที่ผิดถูกมากกว่าความผูกพัน เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ภายใต้ต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว
เราคิดถึงแต่อะไรก็ผิด อะไรก็ถูก อะไรก็ผิด อะไรก็ถูก เราเดินตามสิ่งนี้ คือการอยู่ภายใต้ต้นไม้แห่งความรู้ดีชั่ว แต่เราคริสเตียนฝ่ายวิญญาณ เราเดินอยู่ภายใต้ต้นไม้แห่งชีวิต ให้พระคริสต์นำ ให้พระวิญญาณนำ
ถ้าสมมติว่าเราเข้าใจไม่ถูก ยังเปิดตาไม่ชัดเจน เราก็ฟังคนอื่น ให้คนอื่นแก้เราก่อน เอเมนครับ