ถาม.
บัพติศมา บางคนเคยรับมาแล้วแต่อยากรับอีก ที่นี้ในเคสไหนบ้างที่เคยรับบัพติศมามาแล้ว แล้วก็จะรับอีกครั้งหนึ่ง ให้รับได้ไหมครับ บางทีก็ไม่ใช่ของเล่นใช่ไหมครับ เราจึงไม่จำเป็นต้องทำเล่นๆ ถ้าจะรับทำไมต้องรับใหม่ ในเคสไหนที่ต้องรับใหม่ครับ
ตอบ.
สำหรับ การบัพติศมาในน้ำ นะครับ เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก และสำหรับการบัพติศมาในน้ำ คือควรทำครั้งเดียว แต่นะครับ มีแต่..
1. ถ้าหากเราไม่มั่นใจ ไม่มั่นใจ
2. ทำผิดวิธี เรารับใหม่ได้
เราไม่มั่นใจไม่สบายใจคิดว่าน่าจะไม่ถูกต้อง คือการรับบัพติศมาเนี่ยมีผลต่อชีวิตของเรา เพื่อเราจะได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร เพื่อพระเยซูจะย้ายเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เพราะฉะนั้นการรับบัพติศมาในน้ำเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก
และอีกอย่าง ก็คือการรับบัพติศมา คือการยอมรับความจริงว่าเราตายกับพระเยซูและเป็นขึ้นมากับพระเยซู
การจุ่มลงไปในน้ำ ก็คือการถูกฝัง
การขึ้นมาจากน้ำ ก็คือการเป็นขึ้นมาจากความตาย ถ้าหากเราไม่ยอมรับความจริงนี้ เราไม่ควรรับบัพติศมา
แต่ทุกวันนี้คริสเตียนมากมายรับบัพติศมาก่อนใช่ไหม แล้วค่อยมาเรียนรู้ทีหลังว่า อ๋อ การจุ่มก็คือการตาย การขึ้นมาจากน้ำก็คือการเป็นขึ้นมากับพระเยซู แต่เขาก็ไม่ได้ดำเนินชีวิตตามความจริงนี้ใช่ไหม
อีกครั้ง..
1. คนที่ไม่แน่ใจไม่มั่นใจว่าเขารับถูกหรือผิด
2. ก็คือรับไม่ถูก รับไม่ถูกก็คือรับบัพติศมาไม่รู้ว่าบัพติศมาแบบไหน คำพูดของอาจารย์ของผู้นำเขาพูดถูกหรือผิด เราไม่รู้ ซึ่งการรับผิดนะครับก็จะกลายเป็นบัพติศมาของยอห์น อย่าลืมนะครับ สำหรับคนที่พรมน้ำ หรืออาจารย์ หรือผู้นำ พูดที่ไม่ถูกต้องพระคัมภีร์นะครับ ก็คือบัพติศมาของยอห์น จะไม่มีผลอะไรต่อชีวิตของเรา
เพราะฉะนั้นการรับบัพติศมาที่ถูกต้อง ก็คือเรารับในพระนามของพระเยซู หรือจะรับในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ได้ อันเดียวกันนะครับ
อีกครั้ง.. การรับบัพติศมา เราจะพูดว่า.. เรารับบัพติศมาให้ท่านในพระนามของพระเยซูคริสต์ เอเมน อันนี้ก็ได้ เท่านี้ก็ได้ แต่ถ้าหากเราใช้วิธีที่หลายคนใช้นะครับ ก็คือเรารับ.. บัพติศมาให้ท่านในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ก็ได้ครับ อันเดียวกันเหมือนกันครับ
แล้วถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าไม่มั่นใจ หรือบัพติศมาเมื่อก่อนเราไม่แน่ใจว่ามันถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี ต้องการรับใหม่รับได้ครับผม รับได้ครับ แต่ถ้าหากรับครั้งนี้ ต้องมั่นใจ ต้องเข้าใจ ต้องรู้นะครับว่าการรับบัพติศมา คือการยอมรับความจริงว่าเราตายกับพระเยซูและเป็นขึ้นมากับพระเยซูแล้ว การจุ่มลงไปในน้ำเล็งถึงการตายและถูกฝัง รับใหม่ได้ครับผม
แต่อย่ารอดูนะครับ อย่ารอดูว่า เออ รับแล้วเห็นฤทธิ์เดชของพระเจ้า เห็นการสัมผัสของพระเจ้าหรือไม่ อันนี้สำหรับพระเจ้านะครับคนที่โตแล้ว ที่รู้พระคำล้ำลึก รู้มานาที่ซ่อนไว้ ดำเนินชีวิตในฝ่ายวิญญาณ เขาจะไม่สนใจเรื่องฤทธิ์เดช เรื่องการสัมผัสของพระวิญญาณ เรื่องอะไรที่เกิดขึ้น การอัศจรรย์ เราไม่สนใจสิ่งเหล่านี้
แล้วก็พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ไม่สำแดงสิ่งเหล่านี้นะครับ แต่เราจะเห็นบ่อย คือเราไม่สนใจพระวิญญาณไม่สำแดง แต่มันเกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้วนะครับ ซึ่งไม่ต้องรอดูนะครับว่า เออ มารับบัพติศมากับพี่น้องมานาฯ กับอาจารย์... หรือใคร ก็จะเกิดมีปรากฏการณ์ปาฏิหาริย์เกิดขึ้น เราอย่าไปคิดแบบนั้นนะครับ แต่เรารับให้ถูกต้องก็พอครับ
และสำหรับพี่น้องที่รับครั้งแรกรับใหม่ๆ วันนี้นะครับก็คือขอให้เชื่อว่า เราจะมีส่วนในอาณาจักรของพระเจ้า พระองค์จะนำเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ อยู่ในพระเจ้า อยู่ในอาณาจักรของพระองค์ พระเจ้าจะปกป้องคุ้มครองดูแลเลี้ยงดูรักษาชีวิตของเรา เราเป็นของพระเจ้าแล้ว แล้วก็ขอให้เราคิดถึงนะครับว่าการบัพติศมา ก็คือเล็งถึงการจุ่ม เล็งถึงการถูกฝังเราตายกับพระเยซู ลุกขึ้นมาจากน้ำก็คือเราเป็นคนใหม่มีชีวิตใหม่แล้ว เราก็รับครับ
และเราควรรับด้วยนะครับ การรับบัพติศมาเป็นสิ่งที่ควรรับเพื่อเราจะเข้าไปอยู่ในพระเจ้า และเพื่อการดูแลปกปักรักษา การรักษาโรค การคุ้มครองจากผีมารซาตาน จะมีมากกว่าที่ไม่รับบัพติศมานะครับ และสิ่งสำคัญก็คือได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักรครับ
ถาม.
มีคนรู้จักเสียชีวิตไปแล้ว แต่ตอนที่คนนั้นรับบัพติศมา คือรับด้วยการพรม เขารอดไหมครับ
ตอบ.
สำหรับเรื่องความรอดในวันสุดท้าย เราจะบัพติศมาแบบไหน หรือไม่ได้บัพติศมา และตายนะครับ ก็คือรอด
คนเราทุกคนที่เกิดมาแล้วก็มีชีวิตอยู่แล้วก็อยู่ๆ ได้ยินข่าวประเสริฐ เขายอมรับเขาต้อนรับพระเยซูเป็นพระเจ้าและต้อนรับพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของเขา เดี๋ยวนั้นนะครับเขาได้รอดเขาได้บังเกิดใหม่ ในพระคัมภีร์อาจจะพูดใช่ไหมว่าจงกลับใจเชื่อและรับบัพติศมาท่านจะรอด ความหมายก็คือ เชื่อก่อน หลังจากนั้นมีโอกาสก็ไปรับบัพติศมา เป็นขั้นตอนต่อไป ไม่ได้หมายความว่าคนที่จะรอดเนี่ย ก็ต้องเชื่อและรับบัพติศมา อันนั้นไม่ใช่นะครับ
ความรอดอยู่ที่ความเชื่อ อยู่ที่การต้อนรับพระเยซู ยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระเจ้า และพระผู้ช่วยให้รอดของเขา ไม่ใช่เชื่อและบัพติศมา เชื่อแล้วรักษาพระบัญญัติ เชื่อและเชื่อฟัง เชื่อและถวายสิบลด ไม่ใช่นะครับ คือเชื่ออย่างเดียวเชื่อเท่านั้นก็พอ เอเมน
ถาม.
เริ่มแรกที่บัพติศมาหนูก็มั่นใจค่ะว่าได้รับถูกต้องแล้ว แม้ว่าจะเพิ่งได้รับการเปิดตาทีหลัง หลังจากบัพติศมาไปหลายปี แต่ว่าหนูได้มีโอกาสรับใหม่ รับใหม่กับอาจารย์มิชชั่นคนเกาหลีค่ะ ก็คือหนูก็ยืนยันไปแล้วว่าหนูรับบัพติศมาแล้ว บัพติศมาในน้ำแล้ว พูดง่ายๆ ก็คือเขาอยากให้บัพติศมา หนูก็บัพติศมาใหม่ แล้วก็ที่เพิ่มเข้ามาอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เรื่องของการที่เราได้รับการชโลมน้ำมันแล้ว กลับไม่มีสันติสุขค่ะ ก็เลยอยากทราบว่ามันจะมีผลอะไรกับเราในฝ่ายวิญญาณไหมโดยที่หนูไม่รู้น่ะค่ะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องการชโลมน้ำมันนะครับในพระคัมภีร์มีใช่ไหม โดยผู้นำผู้ปกครองที่ชโลมน้ำมันให้เรา แล้วพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานไหม? ทำครับ ถ้าหากเราทำในสิ่งที่ถูกต้องและสิ่งที่พระคัมภีร์สั่งให้ทำ เราไปทำนะครับแล้วเกิดผล ก็คือมาจากพระเจ้าครับ ทำได้ครับ
แต่อย่าลืมนะครับสิ่งที่สำคัญ พระเจ้าต้องการให้เราเติบโตในชีวิตฝ่ายวิญญาณที่แท้จริง ก็คือให้เราสนิทในพระเยซู ก็คือให้เราเติบโตสู่ชีวิตและนิสัยของพระเยซู ไม่ใช่ชโลมน้ำมันอยู่เป็นประจำ การชโลมน้ำมันก็ดีนะครับก็ได้รับการเต็มล้นด้วยพระวิญญาณ พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็ทำงาน แต่สิ่งที่เราต้องการมากกว่านั้น ก็คือเต็มล้นภายใน มีชีวิตพระเยซูเต็มล้นด้วยการสนิท บอกรัก พูดคุย สนทนา อ่าน อธิษฐาน หายใจเข้าออก ทุกสิ่งเราเชื่อว่าเรารับชีวิตพระคริสต์เข้ามา อันนี้จะมีค่ามากกว่าการเต็มล้นภายนอกนะครับ
ถาม.
ขอถามเกี่ยวกับเรื่องรับบัพติศมานะคะ ในส่วนตัวก็เชื่อแล้วก็มั่นใจว่าบังเกิดใหม่แล้วค่ะ แล้วก็ได้รับการเปิดตาในฝ่ายวิญญาณ แต่ตอนหลังมาเข้าใจในเรื่องของการรับบัพติศมาว่าเราได้มีส่วนในการตายและเป็นขึ้นกับพระเยซู เราจำเป็นจะต้องรับบัพติศมาใหม่อีกไหมคะหรือยังไง
ตอบ.
ถ้าหากการรับบัพติศมาของเราถูกต้องนะครับ และเป็นบัพติศมาของพระเยซูก็เอเมนครับ ไม่เป็นไรครับ
สิ่งที่สำคัญนะครับเราเน้นที่ความหมายที่อยู่เบื้องหลังของการบัพติศมา คือการยอมรับว่าเราตายและเป็นขึ้นมากับพระเยซู เราดำเนินชีวิตในลักษณะนี้นะครับ พี่น้องจำได้ไหมโรมบทที่ 6 เปาโลบอกว่า ท่านทั้งหลายไม่รู้หรือว่าท่านทั้งหลายบัพติศมา ก็คือบัพติศมาเข้าไปมีส่วนในการตายกับพระเยซู
"โรม 6:3-4 ท่านไม่รู้หรือว่าเราทั้งหลายที่ได้รับบัพติศมาเข้าในพระเยซูคริสต์ก็ได้รับบัพติศมานั้นเข้าในความตายของพระองค์ เหตุฉะนั้นเราจึงถูกฝังไว้กับพระองค์แล้วโดยการรับบัพติศมาเข้าส่วนในความตายนั้นเหมือนกับที่พระคริสต์ได้ทรงถูกชุบให้เป็นขึ้นมาจากความตายโดยเดชพระรัศมีของพระบิดาอย่างไร เราก็จะได้ดำเนินตามชีวิตใหม่ด้วยอย่างนั้น"
จริงๆ แล้วคริสเตียนหลายคนในสมัยนั้นเขาบัพติศมาในพระนามพระเยซู แต่เขาไม่เข้าใจเรื่องการถูกฝังและการเป็นขึ้นมากับพระเยซู เขาไม่เข้าใจ เปาโลจึงบอกว่า เนี่ยไม่รู้เหรอว่าที่พวกท่านบัพติศมา ก็คือการได้จุ่มเข้าไปมีส่วนในการตายกับพระเยซู เปาโลเตือนความทรงจำนะครับ แล้วก็เตือนแล้วก็สอนว่า นี่เป็นการเล็งถึงการที่ได้ตายและเป็นขึ้นกับพระองค์ และพวกเขาเหล่านั้นก็ตื่นนะครับ ตื่น แล้วก็ยอมรับความจริง
คือเรานะครับเมื่อก่อนเราบัพติศมา คืออย่าให้พิธีบัพติศมาเป็นเรื่องที่ต้องเป็นประเด็น แต่ประเด็นสำคัญนะครับก็คือเบื้องหลังหรือความหมายของการบัพติศมา การบัพติศมา ก็คือการยอมรับว่าเราตายแล้วและเป็นขึ้นมาแล้วกับพระเยซู เป็นคนใหม่แล้ว
และถามว่าคนที่เชื่อและไม่รับบัพติศมาจะรอดไหม รอดครับ เรารอดโดยพระคุณทางความเชื่อ ไม่เกี่ยวอะไรกับบัพติศมา แต่ มีแต่นะครับ การรับบัพติศมาในน้ำจะมีผลถึงการได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร คือการดำเนินชีวิตอยู่ในโลกนี้เราฝึกเป็นผู้ชนะ เราฝึกที่จะเดินเพื่อจะเป็นราษฎรแห่งอาณาจักรของพระเจ้าในยุคพันปี ถ้าหากเราไม่บัพติศมาในน้ำ การทำงานของพระเจ้าก็จะไม่มากพอไม่ดีมากเท่าที่จะเป็นได้ และพระองค์ต้องการให้เราบัพติศมาในน้ำ พระเยซูเป็นคนพูดเอง
"ยอห์น 3:3-5 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า เราบอกความจริงแก่ท่านว่าถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดใหม่ ผู้นั้นจะเห็นอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้ นิโคเดมัสทูลพระองค์ว่า คนชราแล้วจะบังเกิดใหม่อย่างไรได้จะเข้าในครรภ์มารดาครั้งที่สองและบังเกิดใหม่ได้หรือ พระเยซูตรัสตอบว่า เราบอกความจริงแก่ท่านว่าถ้าผู้ใดไม่ได้บังเกิดจากน้ำและพระวิญญาณผู้นั้นจะเข้าในอาณาจักรของพระเจ้าไม่ได้"
ถ้าหากผู้ใดไม่บังเกิดใหม่ในน้ำและในพระวิญญาณก็จะไม่ได้เห็นและไม่ได้เข้าไปในอาณาจักร อันนี้มันเป็นเรื่องของอาณาจักรครับ
การเชื่อเพื่อให้ได้รอดเป็นเรื่องของฟ้าสวรรค์ใหม่แผ่นดินโลกใหม่
แต่การรับบัพติศมาในน้ำและในพระวิญญาณ ในน้ำก่อน การรับบัพติศมาในน้ำ ก็คือการตายและเป็นขึ้นกับพระเยซู เพื่อฝึกเดินเพื่อเดินด้วยตัวใหม่เพื่อเข้าไปในอาณาจักร
สรุป..
เชื่อได้รอดเข้าไปในฟ้าสวรรค์ในแผ่นดินโลกใหม่
เชื่อและรับบัพติศมาจะได้เห็นและได้เข้าไปในอาณาจักร ต่างกันนะครับ
ถาม.
มีบางกลุ่มสอนว่าผู้หญิงไปให้บัพติศมาไม่ได้ เป็นผู้ให้ไม่ได้ ผู้หญิงให้ได้หรือไม่ครับ
ตอบ.
ถ้าหากว่าไม่มีพี่น้องชายอยู่ในคริสตจักรอยู่ในกลุ่มนั้นๆ มีแต่พี่น้องหญิงนะครับ ก็ให้พี่น้องหญิงรับได้ ไม่ผิดครับ ถ้าหากไม่มีพี่น้องชายอย่าลืมนะครับ แต่ถ้าหากมีพี่น้องชายอยู่ให้เขาเป็นคนรับให้
1. แต่คนที่รับให้นะครับจะต้องเป็นผู้ที่ประกาศข่าวประเสริฐกับเขานำเขามาถึงความรอด
2. ก็คือเป็นครูที่สอนเรื่องความเชื่อ หลักความเชื่อให้เขา
คือสองคนนี้รับได้ เราก็มีผู้ปกครอง ผู้ดูแล ศิษยาภิบาลรับได้ ผู้นำรับได้ครับ
ถ้าสมมุติว่าไม่มีจริงๆ ไม่มีพี่น้องชายจริงๆ แล้วมีแต่พี่น้องหญิงอยู่ในคริสตจักรนั้น แล้วเขาเป็นคนที่สอนพระคัมภีร์ด้วยความถ่อมใจ เป็นผู้รับใช้ที่ถ่อมใจ เขาสามารถรับบัพติศมาให้พี่น้องได้ครับ
ในพระคัมภีร์ไม่มีสั่งห้ามใช่ไหมว่าไม่ให้ผู้หญิงพี่น้องหญิงเป็นคนรับบัพติศมา ไม่มีใช่ไหมครับ
ถาม.
ในพระคัมภีร์ก็ไม่มีให้ผู้หญิงให้บัพติศมาได้เหมือนกันครับ ไม่ได้ห้ามแล้วก็ไม่ได้บอกให้มีด้วยครับ ก็เลยไม่แน่ใจ
ตอบ.
กรณีนี้นะครับอย่างที่ผมพูด ก็คือถ้าหากไม่มีพี่น้องชาย ก็ให้พี่น้องหญิงเป็นคนทำนะครับ
พี่น้องหญิงอาจจะน้อยใจนะครับสำหรับเรื่องของการให้บัพติศมาพี่น้อง หรือเป็นผู้เผยพระวจนะ หรือเป็นครูสอน หรือเป็นอาจารย์ผู้หญิง สำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณนะครับเราทำทุกสิ่งตามพระคัมภีร์ตามคำสอนของเปาโลโดยพระวิญญาณ ก็คือถ้าหากมีพี่น้องชายเป็นผู้ปกครอง ผู้ดูแล ผู้รับใช้ ผู้เผยพระวจนะ พี่น้องหญิงก็ไม่เป็นไร
หรือถ้าหากพี่น้องหญิงบังเอิญนะครับมีของประทานที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทานให้ ให้เขาเผยพระวจนะ และพี่น้องได้รับชีวิตจากเขา ก็ขอให้ขึ้นมาแล้วสอนแบ่งปัน แต่คำพูด ท่าที ลักษณะ บุคลิก ต้องไม่ทำตัวเหมือนเป็นอาจารย์ หรือเป็นผู้รู้ ต้องสอนด้วยความถ่อมใจ
สอนด้วยความถ่อมใจทำแบบไหน ด้วยความที่เป็นอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ทำแบบไหน อันนี้ผมไม่ต้องยกตัวอย่างมาเราน่าจะคิดออกนะครับ
เอาคนหนึ่งก็ได้ผมเห็น จอยซ์ไมเออร์ ซึ่งถ้าหากเราไม่รู้จักเขาไม่ได้อยู่อเมริกา ก็คือน่าจะนับถือเขานะครับ แต่สำหรับผมที่เคยอยู่อเมริกาอยู่ใกล้เขารู้จักเขาดีนะครับ คือเขาจะเรียกว่าเป็นธุรกิจของเขา แล้วคนที่มาร่วมมาช่วยเขา เขาบอกว่าถ้าใครเต็มใจก็มาไม่เต็มใจมาก็ไม่ต้องมา ถ้าใครจะช่วยฉันก็ช่วยถ้าไม่ช่วยก็ไม่ต้องช่วย ฉันจะประกาศข่าวประเสริฐนี่คือธุรกิจของฉัน เขาพูดแบบนี้เลยน่ะ แล้วพี่น้องหลายคนคริสเตียนหลายคนสะดุดก็ไม่มาช่วยเขานะครับ งานฟื้นฟูที่เขาจัดเนี่ยเขาทำยิ่งใหญ่มากแล้วก็ทำตัวเป็นอาจารย์
สรุปก็คือ ในพระคัมภีร์ไม่อนุญาตให้พี่น้องหญิงเป็น ศิษยาภิบาล เป็นผู้นำ เป็นผู้เผยพระวจนะ แต่ถ้าจำเป็นจริงๆ ไม่มีผู้ชายนะครับ พี่น้องหญิงก็ทำได้แต่ทำในฐานะของผู้รับใช้คนหนึ่ง เป็นผู้เล็กน้อยคนหนึ่ง ไม่ใช่อาจารย์ ไม่ใช่ผู้นำ ไม่ใช่ผู้ปกครอง ไม่ใช่ครับ ด้วยความถ่อมใจ ( 1 ทธ 2:11-12, 1 คร 14:34, ทต 2:5 )
สำหรับคริสเตียนนะครับถ้าหากเราทำอะไรโดยที่ไม่เข้าใจ หรือถูกบังคับ หรือความรอบรู้ไม่มีพอ เราทำใหม่ได้ไม่ผิดครับผม และสำหรับพี่น้องที่รับบัพติศมาแล้วและรู้ว่าผู้นำรับให้เราในพระนามพระบิดา และพระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์นะครับ เพียงแต่เราทบทวนเราก็ทำความเข้าใจคำว่า บัพติศมาคือการบัพติศมาครั้งนั้น ก็คือเราถูกฝังเราตายกับพระเยซู และฟื้นขึ้นมาจากความตายเป็นขึ้นมานะครับกับพระเยซู แค่นั้นเอง
สิ่งที่สำคัญนะครับคือพระเยซูจะเป็นคนรับให้เรา เอเมนนะครับ ผู้นำ หรือพี่น้องบางคน หรือใครก็ตามที่นำเราเข้าสู่การจุ่ม แล้วก็พูดชวนเราทำให้เรา แต่สำคัญที่สุดนะครับก็คือตอนนั้นเดี๋ยวนั้นพระเยซูจะมาแล้วก็เป็นคนจุ่มเรา เราก็นับเราเข้าไปอยู่ในพระคริสต์ เอเมน
ถาม.
เด็กอายุ 9 ขวบ รับบัพติศมาได้ไหมในกรณีที่เขาเข้าใจ
ตอบ.
อายุไม่สำคัญนะครับ สำคัญที่ว่าเขารู้จักแยกแยะความดีความชั่ว รู้จักแยกแยะความดีชั่ว และเข้าใจเรื่องพระเยซูเป็นพระเจ้า เข้าใจยอมรับว่าพระเยซูเป็นพระผู้ช่วยให้รอด ตายไถ่บาปของมนุษย์ แค่นั้นนะครับรับได้
อ่านเพิ่มเติม: บัพติสมาในน้ำ