ถาม.
ของประทานเป้าหมายของหลักๆของ ของประทานพระเจ้าให้มีเพื่ออะไร
ตอบ.
เป้าหมายหลักของประทานพระเจ้ามีไว้เพื่อสร้างคริสตจักร เพื่อเสริมสร้างคริสตจักร เพื่อช่วยเหลือคริสตจักร เพื่อคริสตจักร
...
ถาม.
เพราะฉะนั้นการที่เราจะค้นหาหรือพบของประทานของเรา เราก็ต้องมีส่วนในคริสตจักรด้วยใช่ไหมครับ
ตอบ.
เราไม่มีส่วนในคริสตจักร เราก็ค้นหาที่บ้านเราก็ได้ อธิษฐานถามพระเจ้าว่าพระองค์ให้ของประทานอะไรแก่เรา บางคนไม่มีคริสตจักร ไม่ได้ไปร่วมกับคริสตจักร แต่พระเจ้าให้ของประทานน่ะ คือออกไปประกาศข่าวประเสริฐมีคนเชื่อเยอะมากก็เป็นไปได้
...
ถาม.
ถ้าเรามีของประทาน สมมุติว่าเรามีของประทานในการรักษาโรค แต่ว่าเราอยากได้ของประทานเรื่องความเชื่อเพิ่ม เราขอได้ไหม
ตอบ.
เรามีของประทานอย่างหนึ่ง แล้วเราอยากได้ของประทานที่เราชอบอันอื่นขอได้ไหม สมมุติว่าอยากไล่ผี ขอไม่ได้ครับ
ในพระคัมภีร์บอกว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์จะเป็นคนให้ตามน้ำพระทัยของพระองค์ตามใจพระเจ้า เราเลือกไม่ได้ หน้าที่ของเราก็คือถามพระเจ้าว่าพระองค์ให้อะไร แต่เราจะขอไม่ได้
...
ถาม.
สมมุติว่าเราถูกลิบของประทาน เราก็ไม่มีของประทานเลย เพราะว่าเรามีแค่อย่างเดียวแล้วพระเจ้าลิบไป พระเจ้าจะให้อันใหม่มาแทนที่ไหมครับ อย่างเช่นว่ามีของประทานในการไล่ผีแต่เราไม่ได้ใช้พระเจ้าก็เลยลิบไป
ตอบ.
พระเจ้าให้ของประทานอื่นก็ได้ก็มี ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าให้ของประทานไล่ผีแล้วเราไม่ใช้ พระเจ้าก็จะไม่ให้อะไรเลย เรากลับใจเราสารภาพบาปขอโทษพระเจ้าที่ไม่ได้ใช้ของประทานไล่ผี แล้วอีกไม่นานพระเจ้าก็ให้อย่างอื่น
พระเจ้าอยากใช้เรานะ พูดจริงพระเจ้าอยากใช้เรา อยากทำงานผ่านเราทุกคนแหละ พระเจ้าไม่ได้ขี้เหนียวนะ พระเจ้าอยากให้ทุกคนใช้ของประทาน แต่เรานี่แหละไม่แสวงหาไม่ค้นหาว่าเรามีอะไรทำอะไรได้บ้าง
เดี๋ยวก่อนอันตรายนะ ถ้าไม่ใช้ของประทาน จำได้ไหมถ้าเราเอาเงินตะลันต์ (มัทธิว 25:14-30) เงินตะลันต์ก็คือของประทานถ้าเราเอาไปฝังดินไว้ ถ้าเราไม่เอาไปลงทุน เราไม่เอาไปใช้เพื่อประกาศข่าวประเสริฐ ไล่ผี รักษาโรค เสริมสร้างพี่น้องคริสตจักร เราจะถูกลงโทษอยู่ในเกเฮนา
ถ้าคุณยังไม่ได้ใช้ของประทาน คุณจะต้องแสวงหาของประทานของคุณ แล้วนำมาใช้ให้เกิดผลให้ได้
...
ผมนะครับผมไม่รู้ว่าผมมีของประทานนี้ คือของประทานแห่งสติปัญญาและของประทานแห่งความรู้ และผมไม่รู้ว่าผมมีของประทานแห่งการสั่งสอน 20 ปีผ่านไปผมจึงได้รู้ว่าผมมีของประทานแห่งสติปัญญาในการเปิดตาพี่น้อง 20 ปีเลยนะ
...
ถาม.
ยังไม่ถึงเวลา
ตอบ.
ก็ไม่ทราบ คือตอนแรกผมไปงานแต่งงานของพี่น้องบางคนที่เป็นคริสเตียน แล้วปรากฏว่าตอนนั้นผมไม่เคยประกาศมานาฯ ผมไม่เคยพูดให้ใครฟังเลย ผมคือเห็นแก่ตัว ได้รับมานาใช่ไหม แล้วก็เอามาฝึกคือสำหรับตัวผมเองให้มีสันติสุขทุกเวลาแล้วก็มีชีวิตใหม่ แต่คนอื่นผมไม่สนใจปล่อยเขาไป ใครจะทำยังไงเชื่อยังไงก็แล้วแต่ไม่สนหรอก
แต่ทีนี้ไปงานแต่งงานของพี่น้องคริสเตียนคนหนึ่ง แล้วปรากฏว่าเขาก็พูดเรื่องความเชื่อ คนนี้ก็พูดคนนั้นก็พูด ทีนี้เขาถามว่าอาจารย์...คิดยังไง (ผมนึกในใจถามผิดคนแล้ว)
ผมก็เลยบอกว่า ก็ถ้าเราเชื่อเราไม่เกิดผลในชีวิต เราก็ต้องถูกลงโทษเป็นเวลาพันปี
เขาบอกเอ๊ะ อะไรพันปี
ผม: ที่เกเฮนาไง
เขา: อะไรเกเฮนา
ผม: ก็ที่ทิ้งขยะที่นอกกรุงเยรูซาเล็ม
เขา: คุณไปเอามาจากไหน
ผม: ก็ไปดูสิ วิวรณ์บทที่ 20-21
แล้วเขาก็บอกว่าอธิบายหน่อยสิ (มาแล้วๆ อธิบายหน่อยสิ)
ผมก็เลยต่อเลยนะครับพูดต่อ มัทธิวบทที่ 7 ข้อที่ 21-23 บอกว่าคนทั้งหลายจะมายืนอยู่ต่อหน้าพระเยซู แล้วพระเยซูจะปฏิเสธหลายคนเห็นไหม หลายคนบอกว่าข้าพระองค์รักษาโรค ไล่ผี ทำการอัศจรรย์ อิทธิฤทธิ์ต่างๆ ในพระนามของพระองค์ พระเยซูก็ยังไล่เขาไป แล้วทุกวันนี้เห็นไหมครับคริสเตียนหลายคน ผมชี้นะคริสเตียนหลายคน คริสเตียนหลายคนทุกวันนี้ดำเนินชีวิตอยู่ รักษาโรคได้ ไล่ผีได้ เทศนาสั่งสอนได้ นำคนมาเชื่อได้ แต่เห็นไหมครับพระเยซูไล่ไป
เขาบอกเห็น
ผม: นี่แหละเพราะว่าเราไม่ได้ทำตามน้ำพระทัยพระบิดา
เขาบอกทำตามน้ำพระทัยพระบิดาคืออะไร
ผมก็บอกว่าอยากรู้เหรอพรุ่งนี้เจอกัน ก็ไปบ้านเขา เพราะว่าที่งานมีคนเยอะพูดกันไปกันมา
ผมก็ไปบ้านเขาแล้วก็คุยไปคุยมาแล้วเขาก็รับมานาฯ แล้วไม่ได้รับคนเดียวนะรับสามคน แล้วสามคนแรกก็คือทีมงานของพวกเราที่อยู่อเมริกา