ถาม.
ขออนุญาติถามนิดนึง 1 ปี อจ.อ่านพระคัมภีร์จบกี่รอบครับ?
อจ.คิดว่าการที่ผู้เชื่อเติบโตได้เพราะตัวผู้เทศนาดี,ผู้สอนดี,ตัวอาคารคริสตจักรดี, หรือเพราะพระเจ้าเองเป็นผู้ทรงกระทำ, หาก อจ.บอกว่าพระคัมภีร์แปลผิด=พระเจ้าไม่ได้ทรงควบคุมดูแลพระวจนะของพระองค์แล้วจึงเกิดความผิดพลาดได้ แล้วที่ยกมาอ้างการแปลแผ่นดินสวรรค์กับอาณาจักรสวรรค์เนื้อหาหลักที่ผู้อ่านเข้าใจไม่ผิดพลาดไม่ใช่อยู่ที่แผ่นดินหรืออาณาจักรแต่อยู่ที่สวรรค์ต่างหากมิใช่หรือ แต่ถ้าเขาแปลว่านรกอันนี้รับไม่ได้แน่นอน,
ถ้า อจ.บอกว่าพระคัมภีร์ฉบับภาษาไทยแปลผิดจะบางส่วนหรือมากหรือน้อยมันก็คือผิดซึ่งก็คือใช้ไม่ได้ เราต้องไปอ่านฉบับภาษาอังกฤษหรือ? มันจะเกิดการแบ่งชนชั้นใน คต.อีกหละ ใครใช้ฉบับภาษาอังกฤษคือรู้จริงใครใช้ฉบับภาษาไทยคือรู้ผิดๆใช่ใหม?
ที่จริงผู้เชื่อจะเติบโตไม่ได้อยู่ที่ผู้สอนหรือผู้เทศนา 100% แต่อยู่ที่การเปิดใจรับ (ดินดี) เมล็ดดี=พระวจนะที่ทรงฤทธิ์และพระเจ้าต่างหาก
(1คร 3:5-7)
คำถามสุดท้ายระหว่างคุณยายอ่านพระคัมภีร์จบปีละ 2 รอบ อธิษฐานเช้า 2 ชม. ก่อนนอน 2 ชม. เวลาว่างก็ออกไปประกาศเรื่องความรอด
กับนักศึกษาพระคริสตธรรม 4 ปีใครเข้าใจเติบโตกับพระเจ้ามากกว่ากัน? ครับ
ตอบ.
1. - 1 ปีเราจะอ่านกี่รอบก็ไม่ได้ช่วยให้เติบโตได้ถ้าหากเราอ่านฉบับที่แปลผิดและแม้แต่อ่านฉบับที่แปลถูกแต่ไม่ได้รับการเปิดเผยจากพระวิญญาณ เนื่องจากว่าผู้เขียนพระคัมภีร์ได้รับการดลใจจากพระวิญญาณ ผู้อ่านก็ต้องได้รับการเปิดเผยจากพระวิญญาณเช่นกันครับ
...
2. - มีการเชื่อผิด เข้าใจพระคำพระเจ้าและแผนการงานของพระองค์แบบผิดๆ ตั้งแต่สมัยอัครสาวกแล้ว พระเจ้าจึงเลือกเปาโลมาเพื่อเปิดเผยการแปลความหมายและข่าวประเสริฐที่ถูกต้อง
- พระเจ้าจะไม่เปิดเผยกับใครบางคนโดยพระองค์เองแบบมานั่งพูดคุยกับเรา แต่ทรงเลือกบางคนและให้ของประทานแก่เขาให้มีถ้อยคำแห่งความรู้และแห่งสติปัญญาเพื่อช่วยผู้เชื่อมากมายที่ยอมฟังเขาเหมือนยอมฟังเปาโล พวกเขาก็ได้รับการเปิดตาได้
...
3. - เมื่อเราเลือกใช้ฉบับที่แปลถูกกว่าหรือจากผู้รับใช้ที่สอนหลักคำสอนที่ถูกต้องกว่า แน่นอนจะมีการมองลบคิดลบจากพี่น้องหลายคน แต่ทว่า เขารักพระเจ้าและมีจิตใจที่เหมือนพระเยซู เขาก็คงจะไม่คิดลบแต่ยินดีไปกับพี่น้องที่เลือกเป็น แทนที่จะคิดลบนะครับ ส่วนเรา เราไม่ควรมองไปที่คำพูดของมนุษย์ที่ไม่เข้าใจเรา ถ้าหากเราเลือกในสิ่งที่ดีแล้วช่วยให้เราเกิดผลในชีวิตฝ่ายวิญญาณ เราทำถูกแล้วครับ
...
4. - คำตอบของคำถามสุดท้าย
*มันเป็นเรื่องของตา*
ทั้งคุณยายและนักศึกษา จะอ่านมากหรืออ่านน้อย จะจบจากไหนไม่สำคัญ ถ้าหากพระวิญญาณไม่ได้ทำงานและเปิดตาให้เห็นถ้อยคำแห่งพระวจนะของพระเจ้า ก็ไม่มีประโยชน์อะไรครับ พระเยซูตรัสว่า หลายคนที่ปราถนาจะได้เห็นแต่ไม่ได้เห็น ศาสดาห์และผู้ชอบธรรมมากมายก็ไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ทรงให้บางคนที่เป็นชาวประมงค์และผู้ไม่ได้เรียนรู้ คนไม่ฉลาดได้เห็น สังเกตุคำนี้นะครับ ทรงให้เห็น และ ไม่ทรงให้เห็น พระเจ้าเป็นผู้กำหนดครับ ไม่ใช่เราอ่านมากหรือน้อยหรือจบจากไหน แต่ อยู่ที่ ทรงให้เห็นหรือไม่ ด้วยรักนะครับ เอเมน
มธ 13:11, 13, 16-17
อ่านเพิ่มเติม: