ท่ามกลางผู้เชื่อมากมาย พระองค์นำเราเข้ามาสู่พระคำล้ำลึกพระคำแห่งความจริงโดยพระวิญญาณแห่งความจริง เราจึงได้อยู่ในสันติสุขอยู่ในสะบาโต อยู่ในชีวิตใหม่ อยู่ภายใต้พระคุณของพระเจ้า และอยู่ใต้พระบัญญัติใหม่ของพระองค์ ซึ่งมีพระองค์เองที่เป็นผู้ดำเนินชีวิตแทนเรารักษาพระบัญญัติแทนเราทำทุกสิ่งในการดำเนินชีวิตทั้งฝ่ายร่างกายและฝ่ายวิญญาณเพื่อเรา ขอพระเกียรติเป็นของพระองค์ สรรเสริญพระเยซูพวกเรารักพระองค์เอเมน
วันนี้พวกเราทุกคนร่วมใจกันและขอถวายความรักอันบริสุทธิ์ ด้วยหัวใจรักของพวกเราต่อพระองค์ ขอบพระคุณพระบิดาพวกเรารักพระบิดารักพระบุตรและรักพระวิญญาณบริสุทธิ์ สรรเสริญพระเยซูเอเมน
สำหรับเรื่องการดำเนินชีวิตคริสเตียน การฝึกเดินในฝ่ายวิญญาณ เป็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องการดำเนินชีวิตคริสตจักรการอยู่ร่วมกันกับพี่น้องเป็นเรื่องที่พระเจ้าต้องการให้เราทำมากกว่าและจะมีบำเหน็จมากกว่า เมื่อเราทำได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายการอยู่ร่วมกัน ซึ่งพี่น้องจะมีความคิดที่แตกต่างจะมีระดับความเชื่อที่ไม่เท่ากัน นี่คือเหตุผลที่เป็นสิ่งที่ยากมาก แต่คริสตจักรไหนทำได้ผ่านไปได้ก็จะเข้าสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์และเข้าสู่อาณาจักรมีส่วนในการครอบครองร่วมกับพระเยซูในยุคพันปีและชั่วนิรันดร์ เอเมน
อีกครั้ง การมาประชุมร่วมกับพระกายหรือเรียกว่าพระกายเที่ยงแท้ เป็นสิ่งที่เราคิดถูกเมื่อเราคิดที่จะมาร่วม เป็นสิ่งที่คิดถูกนะครับ เพราะว่ามันจะมีผลดีต่อชีวิตฝ่ายวิญญาณของเราอย่างมากมาย
การที่เราอยากจะมีส่วนในการรับใช้ในการงานของพระเยซูร่วมกับพี่น้อง เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดนะครับ
แต่การฝึกเดินร่วมกับพี่น้องค่อนข้างจะยากนะครับ ยากกว่าการฝึกเดินคนเดียว แต่บำเหน็จของการปรนนิบัติรับใช้พี่น้องและปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าก็มีมากมาย สรรเสริญพระเยซู
อีกครั้ง ท่ามกลางผู้เชื่อทั้งหลายที่มีคนที่เพิ่งกลับใจใหม่และเชื่อมานาน ระดับความเชื่อไม่เท่ากัน มีความเข้าใจและคิดไม่เหมือนกัน บางคนก็นำปัญหาเข้ามามากบางคนก็น้อย บางคนนำเข้ามาเป็นประจำบางคนก็บางครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้นพระเจ้าย่อมมีทางออกและเป็นสติปัญญาของเราถ้าหากเราพึ่งพาพระองค์อยู่เสมอ
เป็นเรื่องฝ่ายวิญญาณ เป็นเรื่องของพระเจ้ากับเรา เป็นเรื่องของพี่น้องกับพี่น้อง เพราะฉะนั้นถ้าหลีกเลี่ยงได้ อย่าให้ไปถึงชาวโลกที่ไม่เชื่อ นี่คือบทเรียนที่เรามาถึงวันนี้
เมื่อมีผู้เชื่อนะครับที่ยังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณมีเรื่องกับคนที่ไม่เชื่อและอาจจะว่าความกันถึงชั้นศาล เราให้พี่น้องอธิษฐานเผื่อ เพื่อพระเจ้าจะช่วยเขาให้ได้รับสิ่งที่ควรจะรับ
ส่วนผู้ที่เป็นหนุ่มและพ่อ สำหรับคริสเตียนที่เป็นหนุ่มและพ่อ คือเราอดทนได้ เรายอมเสียเปรียบได้ เรายอมถูกโกงได้ เพื่อเห็นแก่พระนามพระเยซูและเห็นแก่ข่าวประเสริฐ และเราเองรู้ดีว่าพระเจ้าทรงสอดส่องดูการกระทำของทุกคน และตอบแทนทุกคนตามการกระทำของตน
การตอบแทนแก้แค้นเป็นของใครครับ? เป็นของพระเจ้า เอเมน เรารู้ดีนะครับว่าเมื่อเราถูกโกง เสียเปรียบ เรื่องมันไม่ได้จบแค่นั้น อย่าเพิ่งน้อยใจ พระเจ้ารอเวลาที่จะตอบแทนทุกคนไม่ช้าก็เร็ว ขอให้ความจริงนี้ประจักษ์ชัดเจนอยู่ในความคิดของเรา ก็คือเมื่อเราโดนโกงเมื่อเราถูกทำร้ายเมื่อเราถูกเอารัดเอาเปรียบ เราขอบพระคุณพระเยซูที่สิ่งนี้เกิดขึ้น เรามอบทุกสิ่งไว้ที่พระหัตถ์ของพระองค์ พระเจ้าจะเป็นคนแก้ไขช่วยเหลือ และนำผลตอบแทนมาสู่เขา และนำพระพรบำเหน็จมาสู่เรา
ทีนี้มาพูดถึงเรื่องผู้ปกครองนะครับ ผู้ปกครอง/ผู้ดูแล ควรจะเป็นคนที่คนส่วนมากรักและเคารพ การตัดสินการแก้ปัญหาของพวกเขาอยู่ที่สติปัญญาของพระคริสต์ ด้วยจิตใจที่มีเมตตามีความรักไม่เป็นฝ่ายใคร ไม่อยู่ฝ่ายใคร ไม่เอาความลับของคนอื่นไปบอกอีกคนหนึ่ง
ส่วนพี่น้องในพระกายก็ต้องยอมรับในหน้าที่และการปรนนิบัติของพวกเขา เราที่เป็นพี่น้องในพระกาย เรารักเราเคารพเราวางใจในพระเยซูที่เลือกผู้ปกครองเหล่านี้
หรือกลุ่มไลน์พวกเราก็มีทีมประสาน อันนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่พระเจ้าเลือกเขาให้มาร่วมกัน ใช่ครับยังไม่มีใครเพอร์เฟกต์ ทุกคนก็ยังฝึกเดิน ทุกคนก็ยังฝึกรับใช้ ทุกคนก็ยังฝึกใช้ของประทานของตน เราหน้าที่ของเราก็คือให้เกียรติให้ความเคารพให้ความรักและให้ความร่วมมือกับเขา ไม่ดูถูกดูหมิ่นไม่กล่าวร้ายไม่ใส่ร้าย ไม่ไปพูดกับคนนู้นคนนี้บอกว่า (คนนี้ไม่ดีคนนี้พูดมาก คนนี้สอนไม่เป็น คนที่ทำอะไรไม่ได้ คนนี้ไม่ได้เติบโต) สิ่งเหล่านี้ขอให้เราอย่าให้มีอยู่ในลิ้นหรือริมฝีปากของเรา
เพราะว่าสำหรับเราอาศัยชีวิตที่อยู่ภายใต้ 2 โครินธ์ 5:16-17 เพราะว่าบุคคลผู้ใดอยู่ในพระคริสต์ก็ถูกสร้างขึ้นใหม่แล้ว สิ่งเก่าๆ ก็ล่วงผ่านไปดูเถิดมีแต่สิ่งใหม่ๆ ทั้งนั้น
เรามองทุกคนเป็นคนใหม่ เรามองผู้นำผู้ปกครองผู้ดูแลคริสตจักรเป็นคนใหม่ เราไม่โจมตีเราไม่ใส่ร้ายเราไม่เอาคำสิ่งที่ไม่ดีของเขาไปพูดกับอีกคนหนึ่ง เราจะกลายเป็นคนที่ขี้นินทา ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน ชอบพูดถึงเรื่องสิ่งไม่ดีกับคนนู้นคนนี้ เราจะถูกมนุษย์มองว่าเราไม่น่ารัก แล้วพระเจ้าก็จะมองเราว่าไม่เหมาะสมที่จะเป็นบุตรที่รักของพระเจ้า เอเมน
1. การตัดสินของพี่น้องศาสนาที่อยู่ในโบสถ์ทั่วๆ ไป ก็คือเปิดโปงและไม่อยู่บนความรักความเมตตา แต่คริสตจักรฝ่ายวิญญาณของพวกเรา ก็คือเราปกปิดความผิดของพี่น้อง ไม่เอาไปบอกไม่เอาไปพูดไม่เอาไปซุบซิบนินทา และเราเองให้โอกาสเขา เราให้พี่น้องในคริสตจักรให้โอกาสเขา
และเรื่องที่ 2. ก็คือคริสเตียนเด็กอาจจะต้องพึ่งพาการว่าความของบ้านเมืองที่เป็นคนที่ไม่เชื่อ และบางครั้งก็อาจจะถึงชั้นศาลด้วย เราอธิษฐานเผื่อและหนุนใจเรื่องพระเจ้ามองเห็นและอนุญาต ทั้งจะตอบแทนทุกการกระทำของทุกคน ให้เขาเข้าใจ ถ้าเขารับได้เท่าไหร่ก็ทำเท่านั้น ถ้าเขารับยังไม่ได้ก็ให้เขาไปพึ่งพาคนที่ไม่เชื่อหรือบ้านเมืองหรือผู้ปกครองบ้านเมือง ทั้งนี้ทั้งนั้นเรามีหน้าที่อธิษฐานเผื่อเขาและพูดในสิ่งที่เราควรจะบอกเขาเท่านั้น
ข้อที่ 3. ก็คือการให้เกียรติผู้ปกครอง และทีมประสาน และการรักมีเมตตารับผิดชอบในการเลี้ยงดู ดูแลพี่น้องทั้งหลายของทีมประสานของผู้ปกครอง เป็นสิ่งที่เราต้องตระหนัก เราเมื่อมาเป็นผู้รับใช้เมื่อเราสมัครใจจะเป็นสาวกจะเป็นคนต้นเรือน จะเข้าอยู่ในกลุ่มทีมประสาน เราต้องมีคุณสมบัติที่ยิ่งใหญ่ก็คือต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ เก็บความลับเป็น เอเมน
ถ้าหากคุณอยากจะเป็นผู้ปกครอง ผู้ดูแล ทีมประสานของพระกายเที่ยงแท้ คุณสมบัติอันแรกที่เป็นหลักต้องมีสิ่งเหล่านี้ ต่ำ ถ่อม ยอมเสียเปรียบ และเก็บความลับเป็น และพี่น้องที่อยู่ในพระกายก็ต้องรักให้เกียรติและเคารพ เราเชื่อนะครับว่าพระเจ้าเลือกเขาที่จะมาดูแลเรา เราก็ให้ความรักกับเขา เป็นแกะที่น่ารัก เป็นแกะที่รักผู้เลี้ยงแกะ
สำหรับข้อที่ 4. อาหารฝ่ายร่างกายเรากินอิ่มและไม่ต้องการอีกเมื่อเราตายไป อันนี้เป็นสิ่งที่ผมนำมาเพิ่มมาเสริม เมื่อเช้านะครับก็เข้าไปดูพี่น้องเข้าไปร่วมกับพี่น้องในกลุ่มที่เรียกว่า ผู้ชนะที่สุกงอม ก็ขอบคุณพระเยซูที่ใส่ชื่อนี้นะครับขอให้สุกงอมเร็วๆ เอเมน
ก็มีการพูดถึงเรื่องพระเยซูเป็นอาหารแห่งสวรรค์ ที่มาจากสวรรค์ การแสวงหาอาหารฝ่ายร่างกาย ก็ดีกินอิ่มแล้วไม่ต้องการอีกเมื่อเราตายไป แต่สำหรับอาหารฝ่ายวิญญาณ ซึ่งก็คือตัวตนของพระเยซูเองที่มาหาเราในลักษณะของพระคำอาหารแห่งชีวิต เรากินมากเท่าไหร่เราสนิทในพระองค์มากเท่าไหร่บอกรักพระองค์มากเท่าไหร่สะสมพระคำที่เป็นความจริงมากเท่าไหร่ เราก็จะกินอิ่มและเติบโตสู่ชีวิตฝ่ายวิญญาณ ชีวิตเราจะมาถึงผู้ชนะได้ เอเมน
สรุปก็คือ เราขอบพระคุณพระเจ้าที่เรามีคริสตจักรฝ่ายวิญญาณที่เราไม่ต้องไปร่วมกัน แต่เราเรียกว่าคริสตจักรฝ่ายวิญญาณในวิญญาณ เราร่วมกันในวิญญาณได้ ก็คือ ในกลุ่มไลน์นี้ และพวกเรามีทีมประสานที่เป็นผู้ปกครองผู้ดูแล ช่วยเหลือรักพวกเราเสริมสร้างก่อสร้างก่อร่างสร้างตัว ล้างเท้าพวกเรา ปรนนิบัติพวกเรา และเราเองก็ให้เกียรติรักเคารพในหน้าที่ของเขา
มีหลายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเท่าที่ผมเห็นนะครับ พี่น้องบางคนทะเลาะกับพี่น้องบางคน บางคนก็พูดเล็กๆ น้อยๆ ในลักษณะของพอยังพอมีความรักที่คุยกันอยู่ แต่บางคนก็มาถึงขั้นที่แบบแตกหัก ก็คือพูดไปพูดมาประชดประชัน พูดใส่ร้ายกันและกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ผ่านมาทีมประสานพวกเราทำงานกันอยู่ไหม เราทำอะไรกันอยู่ไหม หรือว่าปล่อยเขาทะเลาะกันอยู่ และพวกเราที่เป็นพี่น้องในพระกาย สิ่งที่พวกเราพูดมันทำให้เกิดอีกฝ่ายรักเราหรือเกลียดเรามากกว่าเก่า เราใช้คำพูดที่ประชดประชัน พูดใส่ หรือว่าเราใช้คำพูดที่รดน้ำเหมือนเจ้าของสวนรดต้นไม้ด้วยน้ำที่ทำให้ต้นไม้ชุ่มฉ่ำ
อย่าลืมนะครับเราอยู่ร่วมกันสิ่งสำคัญที่เราใช้ก็คือ “ความรัก” เอเมน และสิ่งต่อมาก็คือ “ความเมตตา การให้อภัย การให้โอกาสกันและกัน” นี่คือคุณสมบัติของพี่น้องในพระกายเที่ยงแท้
เราเหนื่อยมาพอแล้วที่จะเห็นอาการคำพูดลักษณะท่าทีที่เคยอยู่ในเนื้อหนังที่โบสถ์เก่าของเรา แต่เราหนีออกมาเรามาอยู่ในที่ที่ไม่อบอ้าว เราอยากให้ที่นี่เป็นที่ที่อบอุ่น คำพูดก่อนที่จะพูดขอให้พระคริสต์เยซูห้ามเราว่า “อย่าพูดสิ่งที่มันเป็นสิ่งที่ทำร้ายทำลายจิตใจกันและกัน ทำให้คนอื่นเกิดอบอ้าวไม่พอใจเสียใจน้อยใจท้อใจ” แต่สิ่งที่เราพูดด้วยความรัก ทำให้เขาอบอุ่น ด้วยความรัก ทำให้เขาใจเย็นสงบนิ่งได้รับกำลังใจได้รับการก่อขึ้น มันจะเป็นสิ่งที่ดีกว่า คนที่จะตอบแทนเราก็คือพระเยซูและผลที่จะตอบแทนเราก็คือบำเหน็จมากมาย เอเมน
ต่อไปในกลุ่มพวกเราในกลุ่มใหญ่ ถ้าหากว่ามีการพูดคุยกันไปมาแล้วต่างฝ่ายไม่ยอม ผมขอนะครับ 3 ครั้งพอ เอเมนไหมครับ ถ้าคุยกันไปมาพูดกันไปพูดกันมา 3 ครั้ง ถ้าหากว่าเราไม่สบายใจดูเหมือนจะไม่พอใจในสิ่งที่เขาพูด แล้วดูเหมือนเขาจะไม่ยอมเรา เราเองเป็นฝ่ายยอม เอเมนนะครับ 3 ครั้งนะครับถ้ามีการทะเลาะกัน ถ้ามีการพูดกันไปกันมาไม่ยอมกันและกัน ขอให้ 3 ครั้งจบ ถ้า 3 ครั้งยังไม่จบ ทีมประสานพวกเราจะแยกพวกเราออกก็คือให้ออกไปจากกลุ่มก่อน พักผ่อนนิดนึง ใจเย็น อธิษฐาน อภัยให้กัน แล้วกลับเข้ามาใหม่ เราจะทำแบบนี้ พวกเราเอเมนไหมครับ
เพราะว่าเวลามีปัญหา เห็นเราอยู่นิ่งทีมประสานไม่ทำอะไร เราก็ทะเลาะไปมา เราก็ทะเลาะทั้งวัน ก็คือข้อความมันจะยาวไปเรื่อย พี่น้องที่ต้องการรอรับพระคำพระเจ้า รับการเลี้ยงดู ล้างเท้า เสริมสร้าง ไม่ค่อยจะเห็น แล้วเขาสะดุดด้วยนะครับการทะเลาะกันของพวกเรา
แล้วอีกอย่างก็คือ บางคนพี่น้องบางคนเป็นคริสเตียนมานานแล้วหลายปีด้วย แล้วยังมีอาการทะเลาะกันแบบนี้อยู่ อันนี้ผมเห็นว่าขอการชำระจากพระเยซู เอเมนไหมครับ
ถาม.
สมมุติว่าเราผู้เชื่อในพระเยซู สมมุติว่าถูกชาวโลกโกง หรือว่าถูกเขาเอาเปรียบ สมมติว่าโกงเรา แล้วเราสามารถที่จะฟ้องร้อง หรือขึ้นศาลได้ไหมครับ หรือว่าเราต้องยอมเสียเปรียบอย่างเดียว เอเมนครับ
ตอบ.
สิ่งแรกที่เราต้องทำ ก็คือ “นั่งลง และอธิษฐาน พระเยซูตอนนี้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับข้าพระองค์” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเราพระเยซูอยู่ร่วมด้วยนะ เหตุการณ์นี้ตอนนี้เกิดขึ้นกับเรา เราจะทำยังไง “ขอพระองค์เป็นทางออก ขอพระองค์เป็นผู้ตัดสินใจ ขอพระองค์เป็นสติปัญญา” หลังจากนั้นนะครับเรารอสักนิดนึง เพื่อรับการเร้าใจ เพื่อรับการสัมผัส เพื่อรับคำตอบจากพระเยซูว่าจะให้ทำยังไง
เมื่อพระองค์ตรัสกับเราชัดเจน 2-3 ครั้งให้ยอมเสียเปรียบปล่อยเขาไป เราก็จำต้องทำเพื่อพระองค์จะเป็นคนตอบแทนเอง เราปล่อยมือวางไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซู พระเยซูจะทำได้ดีกว่า ดีกว่าเราที่ไปแก้ปัญหาเอง หรือบางครั้งอาจจะเป็นศัตรูเกิดมีการทะเลาะเบาะแว้งฆ่าฟัน หรือเราจะโดนหนักกว่าเดิมที่โดนโกงไปแล้ว
เพราะฉะนั้นทางออกที่ดี ก็คือนั่งลงก่อนอธิษฐาน ขอทางออกจากพระเจ้าให้พระเจ้าเป็นสติปัญญานำเราที่จะแก้ไขปัญหานี้ เมื่อเห็นว่าพระเจ้านะครับเป็นคนดลใจเราตรัสให้เราได้เข้าใจ 2-3 ครั้ง ย้ำนะครับ เราแน่ใจมั่นใจว่าเป็นทางที่พระเจ้าให้เรา เราก็ทำตามนั้น
แต่ถ้าหากว่าต้องอาศัย จำเป็นที่จะต้องอาศัยขึ้นถึงผู้ปกครองบ้านเมืองหรือถึงชั้นศาล เราก็ต้องทำ แต่ทำในลักษณะอยู่ในลูกแห่งความสว่าง คืออะไร..
คือการให้ความยุติธรรมเกิดขึ้น สองก็คือการให้ความเมตตาต่อเขาถ้าหากเขาแพ้ แต่ถ้าหากเขาชนะเขาโกงเราได้สำเร็จ เราก็พระเยซูบอกว่ายังไง เมื่อมันมาถึงขั้นนี้เราจำต้องยกโทษให้เขา “ขอพระบิดายกโทษให้เขาในสิ่งที่เขาโกงข้าพระองค์ ในสิ่งที่เขาทำข้าพระองค์ ในสิ่งที่เขาทำร้ายทำลายข้าพระองค์ ขอพระองค์ทรงเมตตายกโทษให้เขา”
เราจำกันได้ไหมพระเยซูถูกตรึงที่กางเขน พระเยซูพูดยังไงกับคนที่ตรึงพระองค์ “ขอพระบิดายกโทษเขา เขาทำโดยที่ไม่เข้าใจ”
มนุษย์โลกนะครับที่ทำกับคริสเตียนเนี่ยเพราะว่าเขาไม่เข้าใจ เขาอาจจะตั้งใจที่จะโกงเราที่จะทำร้ายทำลายเรา แต่เมื่อเราไม่มีทางที่จะรับความยุติธรรมจากเขาโดยอาศัยชั้นศาลหรือผู้ปกครองบ้านเมือง ก็คือเราก็ต้องปล่อยไป แล้วบอกว่า “พระเยซูขอยกโทษให้เขาที่เขาทำโดยที่เขาไม่รู้ไม่เข้าใจว่าพระองค์จะเป็นคนที่ตอบแทนเขา และตอบแทนข้าพระองค์” เมื่อเรายกโทษให้ การยกโทษนะครับนำมาซึ่งพระพร การกอบกู้ การฟื้นคืนสภาพที่เราเสียไปกลับมา แล้วได้รับมาหลายเท่า เอเมน
สำหรับเรื่องประสบการณ์นี้ผมเห็นมาเยอะนะครับ แล้วก็มีประสบการณ์แบบนี้มาบ่อย เมื่อเราทวงความยุติธรรมไม่ได้ สำหรับบุตรพระเจ้า ใช่ครับ ไม่ผิดที่เราจะทวงความยุติธรรม ไม่ผิดครับ แต่ทวงความยุติธรรมด้วยความรักด้วยความบริสุทธิ์ใจด้วยการที่ไม่มีอะไรที่ไม่โปร่งใส
แต่เมื่อเราแพ้อย่าลืมนะ มันไม่ได้จบแค่นั้น บทเรียนที่เราอ่านเมื่อกี้ มันไม่ได้จบแค่นั้น ก็คือพระเจ้าจะเป็นคนตอบแทน อีกไม่นานต่อมาเขาจะรับผลที่เขาทำกับเรา และเราเองจะได้รับพระพรเมื่อเราอภัยให้เขายกโทษให้เขาและมีเมตตาต่อเขา พระเยซูสั่งให้เรารักศัตรู เราก็รักศัตรู เพื่อพระเจ้าจะกอบกู้สิ่งที่เราเสียไปให้ได้คืนมา แล้วคืนมาอีกหลายเท่า ขอให้เชื่อพระเจ้าจะเป็นคนทำให้เห็น เอเมน
ดีกว่าที่เราไปแก้ปัญหาด้วยตัวเราเอง ซึ่งอาจจะเดือดร้อนมากกว่าเก่า หนักกว่าเดิมซะด้วยซ้ำ
ถาม.
แล้วอย่างที่มีอยู่เคสหนึ่ง คือทนายความของเราเขาบอกว่าเขาจะฟ้องกลับ ทนายความเขาไม่ยอมค่ะ แต่เราบอกว่าเราเป็นคริสเตียนเราไม่อยากฟ้องกลับ แล้วทีนี้ทนายความเขาบอกว่า บุคคลนี้เขาทำกับคนมามากเขาสืบดูแล้ว สืบดูว่าเขามีคดีเยอะเขาทำกับคนมาเยอะ และทนายความคนนี้เป็นคนที่เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึงเลยเขาไม่ต้องการ แต่เขาต้องการที่จะไม่ให้บุคคลนี้คนที่มีข้อพิพาทกับเราเนี่ย ไปทำกับคนอื่นอีก เพราะเราไม่ได้เรียนหนังสือนี่ก็น่าสงสารแล้ว แล้วทีนี้ทนายความเขาไม่ยอม เราก็เลยว่ามันยังไงดีอ่ะก็คิดไม่ออก จะทำยังไงดี แล้วแต่ทนายความเขาทำหรือว่ายังไงดีค่ะ
ตอบ.
ถ้าหากเขายืนยันนะครับว่าเขาจะทำ เราก็ปล่อยให้เขาทำ แล้วถ้าหากว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเราห้ามเรา ย้ำหลายครั้งว่าอย่าให้เขาทำ เราก็บอกเขานะครับ แต่การที่จะบอก สำหรับเรานะครับเมื่อเราอยู่ร่วมกับชาวโลก และเมื่อเรามีปัญหากับใคร ผมอยากจะแนะนำพวกเราแล้วก็ทุกคนด้วย ก็คือเราไม่จำเป็นที่จะบอกว่า ฉันเป็นคริสเตียน/ หนูเป็นคริสเตียน /หนูเชื่อพระเจ้า ก็เลยไม่อยากฟ้อง อันนี้ไม่จำเป็นครับ
ก็คือเราบอกว่า ไม่อยากฟ้องไม่อยากเอาเรื่อง ไม่เป็นไร ความยุติธรรมมันจะต้องเกิดขึ้นกับทุกคนแน่นอน ผลตอบแทนทุกคนก็จะได้รับ แค่นั้นก็พอครับ
ถาม.
ทนายความเขาก็บอกว่า เข้าใจในคริสเตียน เขาเข้าใจ แต่เขาก็บอกว่า บุคคลนี้เขาทำกับคนไว้มากเกิน พอดีทนายความคนนี้เขายุติธรรมไง เขาก็เลยอยากฟ้องกลับไปเลยค่ะ
ตอบ.
ในเมื่อเขายืนยันเขาต้องการที่จะทำ เราก็ปล่อยเขานะครับ แต่สิ่งสำคัญเราต้องดูที่ภายในจิตใจในวิญญาณของเราว่า พระวิญญาณบริสุทธิ์เร้าใจเราหรือไม่ ย้ำหลายครั้งกับเราหรือไม่ว่าจะทำยังไง
อย่าลืมนะครับการตัดสินใจการทำทุกสิ่งในชีวิตของเรา อยู่ที่พระคริสต์เป็นสติปัญญาของเรา เอเมน นั่นคือสิ่งหลักที่คริสเตียนฝ่ายวิญญาณพวกเรายึดเป็นหลักในการดำเนินชีวิต สิ่งที่สองก็คือเมื่อเขาย้ำหลายครั้งบอกว่าเขาจะทำ เขาจะทำเพื่อเห็นแก่ความยุติธรรมและเพื่อให้คนนั้นเข็ดหลาบ เราก็เอเมนครับ
ถาม.
ในตอนแรกก็เป็นความคิดของตัวเอง ไม่ใช่ความคิดของพระคริสต์ค่ะ ว่าเอ๊ะมันจะผิดไหมเราเป็นคริสเตียน เป็นความคิดของเราที่เราพูดออกไปปึ๊บเลย แล้วทีนี้เอาไปเอามาเดี๋ยวนี้ก็เฉยๆ แล้วจนลืมไปเลยว่าทนายความเขาจะฟ้องกลับ แต่มาวันนี้ก็เลยอยากถามค่ะมันข้องใจนิดนึงค่ะ
ตอบ.
สรุปก็คืออาศัยสติปัญญาของพระเยซูที่เร้าใจเราอยู่ภายใน 2. เราสังเกตดูสิ่งรอบข้างว่าพระเยซูตรัสกับเราผ่านสิ่งเหล่านี้หรือไม่ 3. ก็คือเมื่อเขายืนยันแล้วเขาก็เป็นชาวโลกเขาจะจัดการกับชาวโลก ก็คือคนตายฝังคนตาย คนตายจัดการกับคนตายก็คือปล่อยให้เขาทำ
แต่สิ่งสำคัญเราไม่ว่าเราจะไปไหน ทำอะไร อยู่ที่ไหนกับใคร บางคนชอบพูดว่าหนูเป็นคริสเตียนค่ะ ไม่ทานของไหว้ อันนี้เราหลีกเลี่ยงนะครับ เราบอกว่าไม่อยากทานขอบคุณค่ะ แค่นั้นเอง หรือจะทำอะไรก็ตาม เกิดเรื่องมีอะไรขึ้นชั้นศาลเราไม่จำเป็นต้องเอ่ยคำว่า (เราเป็นคริสเตียน) ไม่บอกก็ได้ แต่เราบอกที่ผลของพระวิญญาณ เราบอกที่การแสดงชีวิตและนิสัยของพระเยซูดีกว่า
เราขอบพระคุณพระเจ้าที่พระองค์เป็นพระเจ้าที่มีพระวิญญาณที่มีดวงตา 7 ดวง ขอบคุณพระเยซูไม่มีใครมีตามากกว่าพระเจ้า เรามีแค่ 2 ดวงตา แล้วก็สัตว์ทั่วไปก็มี 2 ดวงตา แต่พระเจ้ามีตา 7 ตา มีตา 7 ดวง ขอบคุณพระเยซู ความหมายก็คือพระองค์สอดส่อง พระองค์มองเห็น พระองค์รู้ทรงทราบทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ และโดยเฉพาะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้เชื่อหรือบุตรทั้งหลายของพระองค์
และโดยเฉพาะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับบุตรที่รัก ก็คือพวกเราที่รับพระคำล้ำลึก และฝึกเดินและอยู่ในการสนิทกับพระองค์ แน่นอนใครแตะเราไม่ได้ ใช่เขาอาจจะแตะเราได้ตอนนี้ แต่อย่าลืมเรื่องมันยังไม่จบต้องรอดูตอนต่อไป ก็คือพระเจ้าจะเป็นคนที่ตอบแทนทั้งการกระทำดีและชั่วของเขา แล้วพระพรก็จะมาถึงเรา ถ้าหากว่าเราโดนโกงโดนเอารัดเอาเปรียบ ผลตอบแทนก็มีมากมายสำหรับพวกเรา
ในข้อที่ 1 คร 6:7 เหตุฉะนั้นบัดนี้ จึงมีความผิดพลาดในท่ามกลางพวกท่านจริงๆ เพราะว่าพวกท่านไปเป็นความกันต่อกันและกัน ทำไมพวกท่านจึงไม่ทนต่อการร้ายเสีย
** นี่นะครับคือสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำ ทำไมเราไม่ทนต่อการร้าย
ทำไมพวกท่านจึงไม่ยอมให้ตนเองถูกโกงเสียดีกว่าเล่า
** อันนี้เป็นถ้อยคำของพระเจ้าต่อผู้เชื่อในระดับหนุ่มและระดับพ่อมากกว่า ซึ่งคริสเตียนฝ่ายวิญญาณที่เป็นเด็ก คือยังทำไม่ได้แน่นอน เพราะฉะนั้นพระเจ้าต้องการให้เรามาถึงมาตรฐาน มาตรฐานที่ว่า เราทนต่อการร้าย เรายอมถูกโกง ซึ่งตอนนั้นเป็นภาคแรกของชีวิตเราเป็นหนังของชีวิตเรา แต่ภาคต่อไปคือตอนจบ ก็คือพระเจ้าจะเป็นคนตอบแทนเขาในสิ่งที่เขาทำกับเราอย่างสาสม
และพระเจ้าจะให้เราได้รับพระพร ถ้าหากว่าเราอยู่ในการวางใจในพระองค์ ขอบคุณพระองค์ แล้วก็ให้อภัยเขา สิ่งดีก็จะเกิดขึ้นแน่นอน นี่เป็นกฎของพระเจ้าที่ท้าทายเรานะ คือถ้าหากว่าใครทำอะไรเราโกงเราทำให้ดีกับเรา เมื่อเราทวงความยุติธรรมไม่ได้ เราปล่อยแล้วเรายกโทษให้เขา สุดท้ายเขาก็จะได้รับสิ่งที่เขาควรได้รับอย่างสาสม แล้วเราเองก็จะได้รับพระพรอย่างมากมาย
ครั้งสุดท้ายที่ผมเจอนะครับก็คือ มีคนเป็นหนี้ ก็คือด้วยความที่สงสาร แล้วก็พอถึงเวลาไปทวงเขาก็ไม่ยอมให้ ทั้งสาปแช่งผมด้วยสารพัด ผมก็ปล่อยไป ต่อมาอีกไม่นานเขาก็ส่งรูปมาให้บอกว่า ร้านถูกไฟไหม้ ร้านไฟไหม้นะครับไหม้หมดเลย เขาบอกว่าเป็นเพราะคุณ คือก็ยังมาสาปแช่งผมต่อ แต่ผมบอกว่าคือผมไม่รับนะ สิ่งที่คุณพูดมา ผมไม่รับ ผมไม่ได้ทำอะไรให้คุณ ผมแค่ทวงหนี้ ถ้าคุณไม่ใช้ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร ก็แล้วแต่ ผมก็บอกแค่นี้ หลังจากนั้นต่อมาไม่นาน 2-3 เดือน ก็คือไฟไหม้ร้านของเขา
ขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับผมนะครับก็คือพระเจ้าเลี้ยงดูพระเจ้าใส่ใจพระเจ้าดูแลไม่เคยขัดสน ขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้ แล้วก็มีน้องชายคนนึงที่เป็นพี่น้องชาวไทยซึ่งมาเชื่อได้ไม่นาน มีคนเป็นหนี้อยู่ 2-3 แสน แล้วมันไม่น่าจะได้คืนโอกาสที่จะได้ยากมาก สำหรับคนที่เป็นเจ้าหนี้ใช่ไหม อันนี้เราก็รู้ดีมีประสบการณ์ แต่ปรากฏว่าพอใส่ใจสนใจเรื่องพระเยซูคริสต์ สุดท้ายพระเจ้าก็ตอบคำอธิษฐาน พระเจ้าให้คนคนนั้นมาใช้หนี้คืนทั้งหมด อันนี้เป็นสิ่งอัศจรรย์มาก ไม่ใช่บังเอิญนะครับเป็นสิ่งที่พระเจ้ากระทำกับคนที่วางใจในพระองค์ เป็นคนที่แสวงหาพระองค์ เอเมนพระเยซู
ถาม.
ขออนุญาตถามเผื่อพี่น้องนะคะ เพราะว่าก็รู้จักพี่น้องหลายคนที่เป็นคริสเตียนนะคะแล้วถูกคริสเตียนด้วยกันโกง ในกรณีแบบนี้ก็อยากให้อาจารย์ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่า พี่น้องจะจัดการความรู้สึกของตัวเองอย่างไร ที่มีปัญหาถูกหลอกให้ไปลงทุนเพราะว่าความที่ไว้ใจเห็นว่าเป็นลูกของพระเจ้าด้วยกัน ก็เลยมั่นใจก็เลยลงทุนไป สุดท้ายก็โดนหลอกก็หมดตัวค่ะ อยากให้ช่วยแนะนำพี่น้องที่เจอกรณีแบบนี้ค่ะ จะให้พี่น้องทำแบบไหนอย่างไรดีค่ะ
ตอบ.
สำหรับพี่น้องที่เป็นเด็กในฝ่ายวิญญาณอยู่นะครับ คือเรายังทำไม่ได้เรื่องการยกโทษให้เขา ยังทำไม่ได้เรื่องการปล่อยปลงวางสงบนิ่งยังไม่ได้ มันจำเป็นจริงๆ ก็คือทวงความยุติธรรมนะครับ ก็คือทำเท่าที่จะทำได้เรื่องเกี่ยวกับการรับความยุติธรรมกลับมา
แต่สำหรับคนที่เป็นหนุ่มหรือระดับพ่อ ก็ขอบพระคุณพระเจ้าที่ให้เรานิ่งสงบ สงบนิ่งได้ แล้วปล่อยวางได้ ยกโทษได้ แล้ววางปัญหาต่างๆ เรื่องการถูกโกงไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซู แล้วเชื่อว่าพระเยซูจะเป็นคนทำให้ทุกคนได้รับผลตามการกระทำของตน
สำหรับเรื่องการลงทุน ตอนนี้มีเยอะนะครับพี่น้องคริสเตียนตอนนี้เยอะมากที่ชวนไปลงทุนเรื่องเกี่ยวกับ ที่มีพี่น้องคนนึงชวนหลายๆ คนไป แล้วก็หลายคนก็ไปแล้วก็ไปเสียเงินเยอะมาก แล้วทุกวันนี้ก็ยังหลงยังเชื่อเขาอยู่ก็ทำอยู่ ก็มี เชื่อว่าเป็นการลงทุนเป็นการเอาไปใส่ทีละ 100 -200 -300 แล้วอีกไม่นานต่อมาหลายๆ ปีมันจะเพิ่มพูนเป็นล้าน 2 ล้าน 3 ล้าน 4 ล้าน 5 ล้าน
อันนี้น่าจะหลายปีนะครับที่ผ่านมาก็ยังมีคนเชื่อและมีคนทำอยู่ และเขาเองก็ยังทำกันอยู่ แล้วพี่น้องในศาสนาคริสต์ในคริสตจักรหลายๆ คริสตจักรก็ยังทำกันอยู่ แล้วอ้างว่าเป็นมาจากสถาบันมาจากในหลวงมาจากพระราชวัง ว่าให้เอาไปลงทุนร้อยนึงจะได้กลับมาล้านนึง ผมเองพอฟังก็ยังตกใจ อันนี้เราอธิษฐานนะครับอย่าไปเชื่อเป็นอันขาด ร้อยนึงได้ล้านนึงมันไม่มี เงินร้อยได้เงินล้านมันเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ยังมีคนเชื่อ
ในโลกนี้นะครับเมื่อมีใครมาหลอก มาพูดอะไรบางอย่าง อย่างน้อยไม่มีคนเชื่อน้อยก็มีคนเชื่อมาก ไม่มีคนเชื่อมากก็ต้องมีคนเชื่อน้อย ก็ต้องมีคนเชื่ออยู่ดี เพราะฉะนั้นเราเป็นบุตรพระเจ้าที่ฉลาดเหมือนงูสุภาพเหมือนนกเขา เราจะไม่เชื่อใครง่ายๆ เราอธิษฐานขอการนำพาของการเปิดเผยจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วทุกวันนี้ก็ยังมีคนหลงเชื่อเขาแล้วเขาเองก็ยังเชื่ออยู่ยังทำอยู่ เป็นสิ่งที่น่าสงสารพี่น้องนะครับ
แล้วก็เรื่องเข้าวงการเทรด วงการเทรดก็ยังมีเทรดสีเทา มีโบรกเกอร์ที่ปลอม ซึ่งโบรกเกอร์ของจริงก็มี แต่คนส่วนมากที่เข้าไปสู่วงการเทรดของจริงก็คือ 95% ที่เข้าไปแล้วก็คือล้มละลาย เจ๊ง เสีย ไม่มีได้ ทำกำไรไม่ได้ มีแต่เอาเงินไปให้เขา 95% นะครับ ซึ่งขอให้เราระมัดระวัง ถ้าหากใครขอสติปัญญาจากพระเยซู พระเยซูเป็นคนตัดสินใจนำพาเราเข้าสู่กิจการธุรกิจการงานไหนก็ตาม ขอพระเยซูนำเราไปจนถึงที่สุด แล้วพระองค์จะให้เราเห็นความสว่าง เอเมนไหมครับ
และสรุปเมื่อคริสเตียนโดนคริสเตียนโกง เราจะทำยังไง
เมื่อเราทวงความยุติธรรมไม่ได้ หรือไม่สำเร็จหรือหมดหนทาง เราจำต้องวางไว้ที่พระหัตถ์ของพระเยซู และสุดท้ายสิ่งที่เราต้องทำเพื่อจะได้คืนมาก็คือ 1. ขอบพระคุณพระเยซูในสิ่งที่เกิดขึ้น 2. เราปล่อยวาง และยกโทษให้เขา
“พระเยซูขอพระองค์ทรงอภัยให้เขาในสิ่งที่เขาทำกับข้าพระองค์ เขายังไม่เห็นความจริงว่าพระองค์จะเป็นคนตอบแทนเขาอย่างสาสม ขอพระองค์ยกโทษให้เขาเถิด และขอบพระคุณพระองค์ที่ทำให้มันเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ แล้วเพื่อหยั่งใจของข้าพระองค์ว่าจะโกรธไหมจะเกลียดไหม จะตอบแทนแก้แค้นเขาด้วยวิธีเนื้อหนังหรือไม่ แต่ข้าพระองค์เลือกที่จะขอบพระคุณพระองค์และอยู่ในพระองค์
เพราะว่าข้าพระองค์ยังมีพระองค์อยู่ และโลกนี้สิ่งนี้ที่เกิดขึ้นมันเป็นสิ่งชั่วคราว มันเป็นสิ่งที่ลองใจข้าพระองค์ว่าจะรักษาความเชื่อความรักการดำเนินชีวิตที่ต่ำถ่อมยอมเสียเปรียบยอมถูกโกงหรือไม่ และวันนี้ข้าพระองค์ได้เห็นแล้วเข้าใจแล้ว ข้าพระองค์จะขอบคุณพระองค์ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ข้าพระองค์ก็จะอยู่เพื่อขอบพระคุณพระองค์”
แน่นอนครับรอรับของดีที่มาจากพระเจ้า
มีพี่น้องบางคนนะครับอยากจะรู้เรื่อง “เกี่ยวกับการให้” การให้เป็น 1 ใน 3 สิ่งที่พระเยซูตรัสเพื่อเราจะได้รับพระพรบำเหน็จมากมายทั้งในชีวิตนี้และในอาณาจักร
สิ่งแรก ก็คือเรื่องการอธิษฐานอดอาหาร การอดอาหารเป็นสิ่งที่เราควรทำในที่ลับลี้ ในที่ลับลี้ในที่นี้ก็คือไม่ให้พี่น้องในพระกายรู้ว่าเราอดอาหารอยู่ ไม่ให้คนในครอบครัวไม่ให้ใครรู้เป็นอันขาด นอกเสียจากว่าถ้ามันจำเป็นจริงๆ ถ้ามันจำเป็นจริงๆ หรือมีคนชวนเราอดอาหาร ก็ในเฉพาะกลุ่มคนเหล่านั้นที่อดอาหารอยู่รู้ ห้ามให้คนอื่นรู้เป็นอันขาด เราจะหลีกเลี่ยงยังไงจะบอกเขายังไงก็แล้วแต่สติปัญญาที่พระเยซูให้เราดีกว่า
แล้วสำหรับเรื่องการให้ “การให้” คือพระเยซูตรัสอย่าให้มือข้างขวา รู้ในสิ่งที่มือข้างซ้ายกระทำ มือข้างซ้ายก็คือตัวเรา และมือข้างขวาก็คือพี่น้อง เราทุกคนตอนนี้เป็นอวัยวะของพระเยซู พระเยซูเป็นศีรษะ แล้วบางคนเป็นมือ บางคนเป็นแขน บางคนเป็นไหล่ บางคนเป็นขา บางคนเป็นลิ้น ทุกอวัยวะทุกส่วนเรียกว่าเป็นมือเป็นแขนเป็นขา
แล้วพระเยซูตรัสนะครับถ้าจะทำดี ถ้าจะให้ใคร อย่าให้พี่น้องรู้ว่าเราเป็นคนให้ เพราะว่าเมื่อพี่น้องได้รู้เขาก็จะยกย่องเรารักเราสรรเสริญเราเคารพเรา แล้วในที่สุดพระเจ้าก็จะไม่ให้บำเหน็จเรา เพราะว่าเราได้รับบำเหน็จแล้วไง ก็คือคำยกย่องสรรเสริญนั่นแหละ เพราะฉะนั้นเราหลีกเลี่ยงนะครับ
การให้ การช่วยเหลือพี่น้อง การให้คนขัดสนยากจน หญิงหม้าย เด็กกำพร้า เราให้ทรัพย์สินก็ดี เวลาก็ดี ทุกสิ่งก็ดี เมื่อเราให้เราช่วยอย่าให้ใครรู้เป็นอันขาดว่าเราเป็นคนให้ นอกเสียจากว่าคนที่อาจจะต้องอาศัยเขาใช้บัญชีของเขา หรือเราจะต้องอาศัยมือของเขาที่จะเป็นคนยื่นให้ก่อน เนื่องจากความไม่สะดวกนะครับ แค่นั้นเอง แล้วให้เขาเข้าใจด้วยว่าอย่าไปบอกใครว่าผมเป็นคนให้ อย่าไปบอกใครว่าดิฉันเป็นคนให้ เพราะว่าเราจะไม่มีบำเหน็จจากพระบิดาครับ
ถาม.
ในกรณีที่เป็นสามีภรรยากัน ปรึกษากันก่อนไหมคะว่าจะให้ใครช่วยใคร
ตอบ.
เมื่อเรามีสามีหรือภรรยาเราอยู่ด้วยกัน แล้วเป็นคริสเตียนเป็นผู้เชื่อด้วยกัน แน่นอนครับสิ่งที่สำคัญที่สุด เราต้องคุยกันก่อน พี่ค่ะ / น้องครับ / ที่รัก / เราจะให้คนนี้เท่านี้ดีไหม เราจะอธิษฐานกันร่วมกันเพื่อให้เกิดผลดีกับพี่น้องที่ขัดสนคนนี้ เราอธิษฐานแล้วเราคุยกัน
ถ้าสมมุติว่าทั้งสองตกลง เราก็ยังถามคำถามต่อมาก็คือ ให้เท่าไหร่ดี ถ้าเราบอกว่าร้อยนึงดีไหม สามีบอกว่ามันเยอะเกินไป เราก็ลดลงนะครับแปดสิบดีไหม ก็ยังเยอะอยู่เราก็ไม่มีมากเท่าไหร่ ก็ห้าสิบดีไหม ก็คือคุยกันนะครับ เมื่อทั้งสองตกลงตามจำนวนที่เห็นว่าไม่ฝืนใจไม่ขัดแย้ง ต่างคนต่างพอใจให้แล้วไม่เป็นการบังคับใจคือให้ด้วยความสะดวกใจด้วยความรัก เราให้เลยอันนั้นก็คือร้อยลด
แต่สิ่งสำคัญนะครับถ้าเรามีคู่มีครอบครัว เราต้องคุยกับครอบครัวเราก่อน ที่ผ่านมาเราเคยเห็นกันใช่ไหมมีการทะเลาะกันเรื่องสามีให้ภรรยาไม่ยอม ภรรยาให้สามีไม่ยอม สุดท้ายก็ทะเลาะกันบ้านแตก เกิดขึ้นได้นะครับ
เราที่มีความเชื่อระดับความเชื่อของเราสูงกว่าสามีเรา หรือภรรยาเรา เราอยากให้เขามาก แต่เราต้องดูที่ความเชื่อของภรรยาเราหรือสามีเราที่มีความเชื่อในระดับที่น้อยกว่าเราไม่ถึงเรานะครับ เมื่อเขาไม่พอใจในสิ่งที่เราอยากให้ เราก็ต้องยอมเขา อย่างที่ผมพูดนะครับก็คือร้อยบาท เขาไม่โอเค เราก็ห้าสิบบาท เมื่อเราพูดไปห้าสิบบาทเขาโอเค ก็ได้นะครับ
ถ้าบางคนนะครับบอกว่าขอบคุณพระเจ้าที่พระเจ้าอวยพรเรา ขอบคุณพระเจ้าที่กิจการรุ่งเรือง โอเคเราจะช่วยคนนี้สักห้าหกพันดีไหม หมื่นหนึ่งดีไหม แสนหนึ่งดีไหม แล้วต้องดูที่การตอบสนองตอบรับของภรรยาสามีของเราที่เป็นคู่ครองเรา ถ้าเขาโอเคถ้าเขาเอเมน เขาเชื่อว่าพระพรบำเหน็จจะมีมากมายมาสู่เขา เขารับได้ ก็ขอบคุณพระเยซู ก็ตกลงก็ให้ แล้วบำเหน็จก็จะมา แต่ถ้ามีการขัดแย้งมีการไม่พอใจ สามีพอใจแต่ภรรยาไม่พอใจให้ บำเหน็จไม่มานะครับเพราะว่าเป็นการให้ที่ฝืนใจเป็นการให้ที่บังคับใจเป็นการให้ที่ไม่พร้อมสำหรับพระเจ้า
อย่าลืมนะครับสามีภรรยาเป็นร่างกายเดียว เป็นบุคคลคนเดียวกันสำหรับพระเจ้า ซึ่งจะต้องตกลงกันก่อน
แต่นะครับกรณีหนึ่ง ถ้าสมมุติว่าเราเห็นแก่พระพรเราเห็นแก่ความรักพระเมตตาของพระเจ้าที่อวยพรครอบครัวเราช่วยเหลือครอบครัวเรามากมาย แล้วภรรยาหรือสามีของเราที่มีความเชื่อไม่ถึงเรา ระดับความเชื่อของเขาอาจจะยังเป็นเด็กฝ่ายวิญญาณอยู่ อันนี้ขอให้ใช้สติปัญญาของพระเยซู ก็คือการให้ที่เป็นการให้ในลักษณะที่เป็นการให้ในแบบลับๆ แต่ไม่มีการเดือดร้อนเกิดขึ้นภายหลัง เข้าใจตรงกันนะครับ
ถาม.
หมายถึงว่าตามกำลังของเราใช่ไหมคะ
ตอบ.
ตามกำลังตามขนาดของความเชื่อนะครับ เราดูที่ว่าทรัพย์ของเรา ทรัพย์สินเราเราให้ไปแล้วเราจะไม่เดือดร้อน พระเยซูสอนให้เรารักเราและครอบครัวเราก่อนทุกสิ่ง ให้เราดูแลเราที่เป็นวิหารของพระเยซู เราเป็นเรือนที่พระเจ้าอาศัยอยู่ ต้องให้เรือนนี้มีสุขภาพที่ดี มีทุนทรัพย์ มีค่าใช้จ่ายที่พอเพียง
หลังจากนั้นนะครับพระเจ้าให้เราเผื่อแผ่ไปจนถึงคริสตจักรหรือพระกายของพระองค์ ในการใช้จ่ายผู้รับใช้ หลังจากนั้นนะครับก็คือหญิงหม้ายและเด็กกำพร้า และคนที่ไม่เชื่อ หรือญาติหรือใครก็ตามที่อยู่ข้างนอก นี่คือขั้นตอนตามลำดับนะครับแล้วพระพรบำเหน็จก็จะมาสู่เรายัดสั่นแน่นพูนล้น
แต่สิ่งที่สำคัญอย่าให้ใครรู้ กลับมาสู่พื้นฐานนะครับ อย่าให้ใครรู้ว่าเราให้คนไหน เราช่วยคนไหน เราให้อะไรกับใคร นอกเสียจากว่ามันจำเป็นจริงๆ ที่เราจำเป็นที่จะต้องบอก แต่กระซิบเขาบอกว่าอย่าบอกคนนั้นว่าผมเป็นคนให้
เราใช้คำนี้ได้นะครับ เราอยากให้ใครบางคนอยากช่วยเขาเห็นว่าเขาขัดสนอยู่ เราอาจจะใช้บัญชีของเรา แต่เราพูดกับเขาโดยตรงแล้วบอกว่า “พี่น้องบางคน” คือใช้แทนเรานะครับ “พี่น้องบางคนมีน้ำใจ” “พี่น้องบางคนอยากจะให้” เท่านี้เท่านั้นเราก็พูดไป เราไม่เอ่ยถึงเราแล้วเราไม่ต้องพูดว่าไม่ใช่ฉัน เพราะว่ามันเป็นเราเองนะครับ
อันนี้เป็นสิ่งที่เปาโลใช้อยู่เป็นประจำ ข้าพเจ้ารู้จักพี่น้องบางคน ก็คือตัวเขาเองเขาไม่อยากอวดนะครับ
ถาม.
แล้วในกรณีที่มาขอเราโดยตรงล่ะคะ หมายถึงว่า 2 คนคือคุยกัน เหมือนกับว่าพี่น้อง A มาขอพี่น้อง B แล้วพี่น้อง B ก็ตกลงโอเคช่วยเหลือ แล้วจะไม่ให้พี่น้อง B รู้ได้ยังไงคะ ว่าพี่น้อง A เป็นคนให้อ่ะค่ะ
ตอบ.
ถ้าเป็นกรณีนี้ก็คือเขารู้มันก็จำเป็นต้องรู้นะครับ เรื่องนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้นะครับ ก็คือให้เขาไป เขารู้ก็เอเมน แต่ถ้ากระซิบเขาได้ถ้าบอกเขาได้ว่า อย่าไปบอกใครนะ อันนี้ก็คืออยากให้ แต่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ ก็ได้ครับ
ถาม.
ขอถามต่อที่ถามว่าสามีภรรยาที่เป็นคริสเตียนด้วยกัน แล้วในกรณีที่ว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคริสเตียน แต่อีกคนหนึ่งไม่ใช่ผู้เชื่อนะคะ การแบ่งปันช่วยเหลืออันนี้เราต้องปรึกษาหารือกันในครอบครัวไหมค่ะ เอเมนค่ะ
ตอบ.
สำหรับเรื่องสามีที่เชื่อ ภรรยาไม่เชื่อ หรือสามีไม่เชื่อแต่ภรรยาเชื่อ สิ่งนี้นะครับก็ต้องใช้สติปัญญาของพระเยซู การที่จะให้เขารู้ว่าเราให้คริสตจักรเราให้คนนู้นคนนี้ เป็นสิ่งที่แน่นอนอีกฝ่ายจะไม่พอใจเป็นอันขาดถ้าเขาเป็นคนที่ไม่มีใจกว้างพอ เข้าใจนะครับ
มีบางคนนะครับที่มีสามีเป็นคริสเตียน หรือภรรยาเป็นคริสเตียน แล้วสามีคริสเตียนหรือภรรยาคริสเตียน เขาทำดีเขาให้เขาช่วยเหลือคนในคริสตจักรแล้วเขาช่วยเหลือคนในครอบครัว
สิ่งที่สำคัญสิ่งที่เราต้องมองเห็นนะครับ เมื่อคุณช่วยคริสตจักรของคุณ ช่วยโบสถ์ที่คุณไปร่วม ไปเข้าศาสนาของคุณ แล้วถ้าหากคุณช่วยเหลือแม่พ่อญาติของฉัน หรือคนยากจนที่อยู่ข้างนอกที่อาจจะเป็นพุทธเป็นศาสนาอื่นที่ฉันเป็นอยู่ แล้วเมื่อคุณทำแบบนี้ยังสาสมอย่างเหมาะสม สมดุลนะครับ คนที่เป็นภรรยาหรือสามีที่ไม่เชื่อเนี่ย แน่นอนเขาจะดีใจและแน่นอนเขาจะทำให้มันไม่ยุ่งยาก เข้าใจมั้ยครับ
ก็คือถ้าหากเราช่วยพี่น้องในคริสตจักร ช่วยในการงานของคริสตจักร ช่วยเฉพาะคริสเตียน แล้วไม่ช่วยครอบครัวเขาไม่ช่วยเขาไม่ช่วยคนที่ไม่เชื่อ อันนี้เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เราต้องทำอย่างสมดุลอย่างเหมาะสม ก็คือช่วยทุกคน
แต่การช่วยเหลือของเราที่เราช่วยกับพี่น้องคริสเตียน พระเยซูสั่งว่า ให้ดูแลดีกว่าคนที่ไม่เชื่อ สิ่งนี้เราก็ต้องใช้สติปัญญาของพระเยซู ต้องฉลาดเหมือนงู อันนี้ผมจะไม่ตอบแต่ขอให้คิดเอา เอเมน
ขอให้ฉลาดเหมือนงูนะครับ พูดออกมาตรงๆ ผมไม่พูดดีกว่า ฉลาดเหมือนงูก็คือให้โดยที่ไม่ให้ภรรยารู้ว่าให้เท่าไหร่ ก็แค่บอกว่าให้ ถ้าเขาไม่ถามไม่ซักถามก็บอกว่าให้แค่นั้น แล้วอย่าลืมนะครับต้องช่วยภรรยาหรือสามีที่ไม่เชื่อ และครอบครัวของภรรยาของสามีที่ไม่เชื่อ คือทำให้มันสมดุลทำให้มันเหมาะสม เราเป็นคนที่แบบไม่เอียงซ้ายเอียงขวา เราเป็นคนที่น่ารักสำหรับภรรยาเราและสำหรับพระเจ้าด้วย
ถาม.
แล้วกรณีที่เราไม่ได้บอกสามีเลยว่าเราทำอะไร แล้วก็ให้พี่น้อง หรือว่าช่วยเหลือใคร เราไม่บอกเขาเลย อย่างนี้เราจะผิดไหมค่ะ
ตอบ.
ถ้าเราให้โดยที่ไม่บอกใครนะครับ คนที่ได้รับเขาไม่รู้ว่าใครเป็นคนให้ หรือเราเป็นคนให้ เขาไม่รู้ นี่คือการกระทำที่ถูกต้องตามน้ำพระทัยของพระเยซู พระเยซูบอกว่าเมื่อทำการดีเมื่อให้อย่าให้มือซ้ายรู้ถึงการกระทำของมือขวา มือขวาก็คือตัวเราที่เป็นคนให้เขา มือซ้ายก็คือพี่น้องในคริสตจักร หรือตัวเขาเองที่เป็นคนได้รับ เราอย่าบอกใคร
แต่ในกรณีที่สามีเราไม่เชื่อ แล้วเราเป็นคริสเตียนนะครับ เราอยากจะให้พี่น้อง อันนี้เราอธิษฐานขอพระวิญญาณนำพาเราให้เร้าใจเรา เมื่อเป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าเราให้โดยที่สามีเราอาจจะไม่รู้ แต่อย่าให้เกิดเรื่องเดือดร้อนอย่าให้มีความเดือดร้อนมาสู่เรา ความหมายก็คือเราให้ตามขนาดของความเชื่อ ตามจำนวนที่เราพอควรจะให้ เอเมนนะครับ
ไม่ใช่ว่าอะไรก็เกยไปให้คริสตจักร อะไรก็ยกไปให้ทั้งหมดที่อยู่ในความเชื่อของเรา อันนี้มีนะครับ บางคนที่ไม่มีเงินถวาย ก็ไปยืมคนอื่นมาถวายสิบลด อันนี้คือศาสนาคริสต์ สิ่งนี้เราไม่ทำนะครับ เราถวายตามขนาดของความเชื่อ เราให้ตามขนาดของความเชื่อ ความพอใจไม่ฝืนใจไม่บังคับใจและให้ด้วยความรัก และสามีภรรยาเราที่ไม่เชื่อ เราก็ฉลาดเหมือนงู ให้ด้วยความเหมาะสมไม่มากเกินไปไม่น้อยเกินไป พอดีๆ เพื่อเราจะรับพระพรจากพระบิดา
ถาม.
กรณีที่เรามีนายจ้าง แล้วนายจ้างของเราไม่ได้เป็นผู้เชื่อ แล้วด้วยความที่เราเป็นลูกจ้าง มันมีแนวความคิดบางอย่างวิธีการทำงานบางอย่างที่เขาปฏิบัติ แล้วเขาปฏิบัติไม่พอแต่เราต้องปฏิบัติเหมือนที่เขาพูด แล้วส่วนตัวของเราก็คือมันเป็นสิ่งที่เราไม่อยากทำเลย มันเป็นสิ่งที่เราไม่ควรทำหรือไม่ควรพูดแบบนั้นเลย แต่ว่านายจ้างบอกว่าเราต้องทำนะ เราจะเผชิญหรือเราจะมีวิธียังไงบ้างค่ะในการที่จะโต้ตอบหรืออะไรไป แต่ว่าส่วนตัวก็คือบอกกับนายจ้างว่าโอเคค่ะแค่นั้นเฉยๆค่ะ แต่ภายในจิตใจมันต้านนะคะ เราไม่อยากทำเหมือนที่เขาบอกให้เราทำ เอเมนค่ะ
ตอบ.
สิ่งแรกสำหรับคริสเตียนฝ่ายวิญญาณที่จะกระทำก็คือ ตั้งแต่เช้าตื่นนอนตอนเช้า
“พระเยซูสำหรับวันนี้ขอให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพ เรื่องการงาน เรื่องการซื้อขายค้าขาย ทำมาหากิน ทุกสิ่งขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระบิดาเอเมน”
เราวางสิ่งนี้ไว้เป็นสิ่งหลัก สำหรับการดำเนินชีวิตของเรา ตื่นแต่เช้าอธิษฐานแบบนี้
สิ่งต่อมาเมื่อเราสมัครใจไปทำงานกับเขา เขาเป็นนายเรา แล้วเขาสั่งให้เราต้องทำแบบนี้ เราจำต้องยอมทำครับ ถ้าหากเราไม่พอใจจะทำ หรือเห็นว่ามันไม่ใช่น้ำพระทัยพระเจ้า ไม่ถูกต้องตามพระคำพระเจ้า เป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับน้ำพระทัยของพระบิดา เราอธิษฐานบอกว่า
“พระเยซูเขาสั่งให้ข้าพระองค์ทำแบบนี้ แล้วข้าพระองค์เห็นว่ามันผิดต่อน้ำพระทัยของพระองค์ ขอพระองค์ชำระ ขอพระองค์ช่วยหาทางออกหาทางแก้ไขด้วยเถิด”
แล้วหลังจากนั้นก็คือขอบพระคุณและวางใจ รอดูการช่วยเหลือที่จะมาจากพระเยซู เอเมน
มันผิดอยู่ตรงที่เราสมัครใจ แล้วเราเป็นคนงาน เขาเป็นนายเรานะครับ แล้วสิ่งที่เราต้องแก้ไขต้องหาทางออกก็คือ ขอความช่วยเหลือจากพระเยซูแล้วพระองค์จะจัดการเอง อย่าลืมนะครับ “ทางตันสำหรับเรา คือทางออกสำหรับพระเจ้า”
เราขอบคุณพระเจ้าสำหรับเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นภายในคริสตจักร ภายในพระกาย ภายในกลุ่มพวกเราที่เป็นคริสตจักรเที่ยงแท้คริสตจักรฝ่ายวิญญาณ เมื่อพี่น้องทำผิด เราอะลุ่มอล่วย เรายกโทษ เราอภัย เราให้โอกาสกันและกัน เรารักกันไม่เกลียดกัน ไม่ชังกัน ไม่แบ่งแยก ไม่ซุบซิบนินทา ไม่พูดในสิ่งที่เป็นด้านลบเพื่อไม่ให้เขาเสียหาย
เราปกปิดความผิดของเขาเพราะว่าเราอยู่ในยุคพระคุณ พระเจ้าปกปิดความบาปของเราฉันใด เราก็ต้องปกปิดความผิดของพี่น้องฉันนั้น ไม่ไปเปิดเผย ไม่ไป expose ก็คือไม่ไปทำไปประจานให้เขาเสียหาย แต่เราช่วยเขาให้โอกาสเขารักเขาเหมือนเดิม
เมื่อมีการถกเถียงทะเลาะเบาะแว้ง อย่าลืมนะครับในกลุ่มพวกเราจะเริ่มทำแล้วนะครับ ถ้าหากว่าเราคุยกันยาวไม่มีใครยอมใคร เราจะให้พี่น้องหยุดถ้าไม่ยอมหยุด เราก็ขอให้ออกไปก่อน ถ้าไม่ออกไปเราจะเชิญออกไปนะครับ คือเอาออกไป แล้วไปคุยไปเคลียร์กัน ถ้ายกโทษให้กันได้คุยกันได้รักกันได้เหมือนเดิม ก็กลับเข้ามาใหม่ เป็นเรื่องที่เราจะทำในต่อไปนี้
เพราะว่าเราเห็นผ่านมามีปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยมาก คริสตจักรฝ่ายวิญญาณเราควรจะเป็นที่ที่อบอุ่น ไม่ใช่เป็นที่ที่อบอ้าว ทุกคนเข้ามาอยากได้รับความอบอุ่นและสันติสุข รับพระคำของพระเจ้าเพื่อการหล่อเลี้ยง การเสริมสร้าง แต่เรามาเห็นการถกเถียงการทะเลาะ หลายคนสะดุดนะครับ การที่จะทำให้พี่น้องสะดุด ก็คือเราเอาหินมัดแล้วก็โยนลงไปในทะเลก็ยังดีกว่า อันนี้อย่าให้เกิดขึ้นกับพวกเรานะครับ ถ้ามีการทะเลาะก็คุยกันเคลียร์กัน เชื่อฟังทีมประสานที่เขาเตือน แล้วสุดท้ายก็คือกลับเข้ามาอยู่ในความรักของพระเจ้า เอเมน
เราเชื่อว่าไม่ใช่บังเอิญที่พระเจ้าเลือกทีมประสานเข้ามา ใช่ บางคนอาจจะไม่เพอร์เฟกต์ บางคนอาจจะมีจุดบกพร่อง เราให้โอกาสเขา เขาก็ยังฝึกอยู่ แต่สิ่งที่สำคัญเขามีใจที่จะรับใช้พระเจ้า อยากเป็นคนต้นเรือนดูแลล้างเท้าเสริมสร้างพี่น้อง ก็ปล่อยให้เขาทำงานไป เราเคารพเขาในหน้าที่ของเขา สำหรับจุดบกพร่องพระเจ้าจะจัดการชำระช่วยเหลือเขาเองในอนาคต แล้วพี่น้องที่เป็นทีมประสานหรือผู้ปกครองก็ต้องรักแกะเหมือนพระเยซูรักแกะของพระองค์ ห้ามตีแกะห้ามทำร้ายแกะห้ามรังแกแกะของพระองค์ ก็คือพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล อ่อนสุภาพ ด้วยความรัก มีเมตตา ให้ทุกคนได้สัมผัสความรักจากเรา เอเมนไหมครับ
ถาม.
แต่ถ้าแกะรังแกเราล่ะค่ะ
ตอบ.
แกะรังแกเรา เราไม่ทำอะไรนะครับเราไม่ตอบโต้ เราให้พระเยซูจัดการเอง เรารักตอบเรารักศัตรูเรารักแกะ เราพูดด้วยน้ำเสียงด้วยคำพูดที่เหมาะสม เพราะว่าเราถูกเลือกให้เป็นคนต้นเรือน เราถูกเลือกให้อยู่ในทีมประสานผู้ดูแลคริสตจักร ผู้ดูแลต้องเป็นคนที่น่ารัก ผู้ดูแลต้องเป็นคนที่ทำใจ คนเลี้ยงแกะนะครับไม่มีฐานะไม่มีเกียรติไม่มีชื่อเสียงไม่มีตำแหน่งไม่มีอะไรเป็นคนที่ไร้ตัวตน นี่คือคนเลี้ยงแกะที่แท้จริงของพระเยซู เรายอมให้เขาด่า เรายอมให้เขาพูด เรายอมให้เขาดูถูก ทำอะไรก็แล้วแต่ แต่อย่าลืมนะครับพระเยซูจะจัดการกับเขาเอง
แล้วสิ่งหนึ่งเราจะไม่นิ่งเฉย ไม่นิ่งเฉยก็คือให้ทีมประสานพวกเราได้รับรู้ว่า สิ่งที่เขาทำมันไม่เหมาะสม แล้วพวกเราก็เรียกเขามาแล้วเตือนเขานะครับ แล้วกันเตือนการเรียกเขามา ขอให้พี่น้องหญิงที่เป็นทีมประสานติดต่อพูดคุยกับพี่น้องชาย แล้วให้พี่น้องชายไปเรียกเขามาแล้วคุย เราที่เป็นพี่น้องหญิงต้องสวมผ้าคลุมศีรษะอยู่เสมอนะครับ