มานาที่เปิดเผยและมานาที่ซ่อนไว้

มานาที่เปิดเผยและมานาที่ซ่อนไว้ คืออะไร // open Manna and Hidden Manna

ในพระคัมภีร์มีมานาสองประเภท คือมานาที่เปิดเผยและมานาที่ซ่อนไว้

ถามว่ามานาที่เปิดเผยคืออะไร มานาที่ซ่อนไว้คืออะไร

• มานาที่เปิดเผย คืออะไร

มานาที่เปิดเผย ก็คือมานาที่พระเจ้าส่งมาให้ชนชาติอิสราเอล ได้เก็บสะสมเพื่อนำไปรับประทาน ขณะที่เขาเดินทางอยู่ในถิ่นทุรกันดารเป็นเวลา 40 ปี (อพยพ 16:15:16) และมานานี้สามารถเก็บไว้ และกินได้แต่เฉพาะวันนั้น และเมื่อถึงพรุ่งนี้ก็ต้องไปเก็บใหม่ (อพยพ 16:19:)

ส่วนมานาที่ซ่อนไว้ ก็คือขนมปังที่อยู่ในพระวิหาร ซึ่งมหาปุโรหิตนำมาถวายแด่พระเจ้า แล้วมาหาปุโรหิตเป็นคนที่สามารถรับประทานได้

ถามว่ามานาที่เปิดเผยและมานาที่ซ่อนไว้เกี่ยวข้องอะไรกับชีวิตของเรา...เกี่ยวมากมายครับ

มานาที่เปิดเผย ก็คือพระวจนะพระเจ้าพระคำที่เราอ่านไม่มีความหมายอะไร ไม่เห็นอะไรซ่อนเร้นอยู่ เราอ่านหนังสือมัทธิว มาระโก ลูกา ยอห์น โรม อะไรก็ตามเราก็อ่านๆๆ เราก็ขอบพระคุณพระเจ้าได้เรียนรู้ ได้เข้าใจ เราได้สัมผัสชีวิตและสันติสุข ได้รับการหนุนใจมากมายน่ะครับ เราก็ดีใจ ยิ้ม ขอบพระคุณพระเจ้า รู้สึกว่าได้ชิมสันติสุข คือได้อิ่ม ประทังความหิวของเราภายในวันนั้นเวลานั้น และนี่คือที่มาของมานาที่เปิดเผย ซึ่งเกี่ยวกับฝ่ายวิญญาณ และผู้ป้อน ศิษยาภิบาล ผู้รับใช้ ผู้แบ่งพระคำเขาก็ป้อนให้เราในลักษณะของมานาที่เปิดเผย

คือให้เรากิน ให้เรารับ เมื่อเรารับไป ชื่นชมยินดีกลับบ้าน อีกไม่นานก็จืดจางห่างหายไป หมดไปน่ะครับ ไม่มีอะไร และเมื่อเราไปฟื้นฟู งานฟื้นฟูมากมายทุกวันนี้ก็ป้อนได้แต่เฉพาะมานาที่เปิดเผย คือไปงานฟื้นฟู โอ้.. มีสันติสุขมาก ได้รับการสัมผัสจากพระเจ้า ขอบพระคุณพระองค์ รับบทเรียนมานำมาใช้ที่บ้าน แต่ปรากฏว่าเมื่อกลับบ้านไปแล้ว บทเรียนที่เป็นมานาที่เปิดเผยนี้มันใช้ไม่ได้ เมื่อเราเปิดอ่านรู้สึกว่ามันไม่มีกะจิตกะใจที่จะอ่าน มันอ่านไม่ได้ ทิ้งไว้ดีกว่า สุดท้ายน่ะครับ หนังสือเหล่านี้ บทเรียนเหล่านี้ที่ได้รับมาจากการฟื้นฟู หรือจากค่าย จากการสัมมนา จากคริสตจักร จากการเทศนา เรานำกลับมาบ้าน แล้วก็สุดท้ายก็ไปอยู่ที่ตู้หนังสือหรือไม่งั้นก็ทิ้งไป

เมื่อเราไปฟื้นฟู เราจะเห็นว่าการฟื้นฟูต่างๆ "เราไปฟื้นแต่ไม่ฟู" ถามว่ารู้ได้ยังไง ก็รู้สิครับ ดูชีวิตของเราสิ ชีวิตของเราทุกวันนี้ยัง ขึ้นลงๆ สุขทุกข์ๆ ดีบาปๆ อยู่ไหม? ถ้าเรายังอยู่ในระบบนี้ คือการ ขึ้น ลง สุข ทุกข์ ดี บาป เราไปฟื้นแต่ไม่ฟูน่ะครับ การฟื้นฟู ฟื้นแต่ไม่ฟู และผู้แบ่งพระวจนะผู้สอนก็นำบทเรียนที่ตายแล้วมาสอนเรา บทเรียนที่เป็นมานาที่เปิดเผยนี่แหละครับ

• มานาที่ซ่อนไว้ คืออะไร

และส่วนมานาที่ซ่อนไว้ คืออะไร มานาที่ซ่อนไว้ ก็คือข้อลึกลับของพระวจนะคำของพระเจ้า คือปริศนา คือ Mystery of God คือ Mystery of the Bible คือ Mystery Of The Kingdom คือข้อลึกลับของพระเจ้า ข้อลึกลับของราชอาณาจักรสวรรค์ ข้อลึกลับของราชอาณาจักรของพระเจ้า ข้อลึกลับแห่งพระวจนะคำของพระเจ้า มีข้อลึกลับมากมายมหาศาลในพระคัมภีร์ใหม่

ซึ่งผู้เชื่อจะต้องแสวงหา ต้องขุดค้น ต้องดิ้นรน ต้องขอพระเจ้าจริงๆ จึงจะได้เห็นมานาที่ซ่อนไว้ และถ้าหากว่าเราได้กิน จะมีอะไรเกิดขึ้น คือฟื้นและฟูได้ เมื่อเราไปฟื้นฟู งานฟื้นฟูนั้นเราไปฟื้นและเราจะฟูน่ะครับ เรากลับมาบ้านอาการร้องไห้ของเราจะไม่ร้องไห้แต่เฉพาะ 2-3 ชั่วโมงในเวลานั้น เมื่อเราอยู่ในงานฟื้นฟูน่ะครับ แต่เรากลับมาบ้านเรายังร้องไห้ยังซาบซึ้งในความรักพระเจ้า พรุ่งนี้ก็ร้องไห้อีก มะรืนนี้ก็ร้องไห้ เป็นเดือนเป็นปีเราอยู่ในความรักพระเจ้า เราอยู่ในการที่จะแสวงหาดิ้นรน เราอ่าน เราเรียนรู้ เรารับมานาที่ซ่อนไว้เข้ามาสู่ชีวิตของเรา

เราเริ่มเห็นสันติสุขทุกวันเวลาได้และเราเริ่มที่จะเห็นชีวิตการเปลี่ยนแปลงใหม่ เราเริ่มเห็นการเติบโตจากเด็กๆ หรือการเป็นคริสเตียนศาสนา ก้าวเข้าไปสู่การเป็นบุตรหรือการเป็นคริสเตียนหนุ่มแล้ว และเมื่อคริสเตียนพบมานาที่ซ่อนไว้นี้ เขาจะได้เข้าสู่กระบวนการ การเติบโตและเป็นคริสเตียนที่สามารถดำเนินชีวิตอย่างผู้ชนะได้ การทำบาปน้อยลง (ไม่เหมือนเมื่อก่อน ทำดีอย่างหนึ่ง ทำบาป เก้าอย่าง นี่คือคริสเตียนศาสนา หรือคริสเตียนเด็ก และเมื่อไหร่ทำดีก็ดีใจใหญ่เลย ชื่นชมยินดีมากเป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ เมื่อไหร่ที่เราชนะบาปได้เป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ)

แต่คริสเตียนผู้ชนะ ทำบาปครั้งหนึ่งเป็นเรื่องใหญ่น่ะครับ เป็นเรื่องที่เขาเป็นทุกข์หนัก และทำดีน่ะครับเก้าอย่าง

สำหรับพี่น้องที่ต้องการแสวงหามานาที่ซ่อนไว้ (หรือเบื่อแล้วหรือว่าเรารับมานาที่เปิดเผยมานานแล้ว) ต้องการมานาที่ซ่อนไว้ ก็ขอพระเจ้าช่วยเรา อธิษฐานน่ะครับ ขอพระเจ้าช่วยเราให้ได้พบผู้ที่มีของประทาน ที่จะแบ่งปันพระสติปัญญาของพระเจ้า ข้อลึกลับ ล้ำลึกของพระวจนะคำของพระเจ้า ให้เราได้กิน ได้ดื่ม เพื่อเราจะสามารถมีสันติสุขได้ทุกวันเวลา อยู่ในความสงบสุขของพระเจ้า สนิทในพระคริสต์ทุกๆ วันเวลาไม่ออกมาเลย และชีวิตของเราเข้าสู่กระบวนการ การเปลี่ยนแปลง หลุดพ้นจากศาสนา หลุดพ้นจากการเป็นเด็กในพระคริสต์เราเป็นมานานเหลือเกินแล้วใช่ไหม?

คือ 5 ปี 10 ปี 20 ปีบางคนจนตายยังไม่สามารถมาถึงการเป็นคริสเตียนในระดับบุตรได้หรือเป็นหนุ่มได้ น่าเสียดายที่สุดท้ายทุกคนก็รอดแต่รอดเหมือนรอดผ่านไฟ (1 คร 3:12-15 / มธ 7:21-27) คือไม่มีอะไร ไม่ได้รับรางวัลอะไรเลย

และเมื่อเราเข้าสู่การเป็นผู้ชนะเป็นหนุ่มและเป็นพ่อในที่สุด เราก็มีส่วนครอบครองเป็นรัฐบาล เป็นผู้ปกครอง ผู้ร่วมครอบครองกับพระเยซูคริสต์ในยุคหน้าและชั่วนิรันดร์