ถาม.
ขอสอบถามค่ะ พอดีว่ามีพี่น้องหลายคนก็อยากสามัคคีธรรมกับดิฉันส่วนตัวนะคะเกี่ยวกับเรื่องชีวิตคริสเตียนแล้วก็พระคำของพระเจ้า มีทั้งพี่น้องคริสเตียนที่รับมานาฯ ด้วยกัน แล้วก็พี่น้องคริสเตียนที่อยู่ในศาสนา ก็ดิฉันก็เคยให้โอกาสในการที่จะสามัคคีธรรมกับพี่น้องเหล่านั้นแล้ว แต่ว่าคำว่าสามัคคีธรรมก็ต้องมีพูดทั้ง 2 ฝ่าย แต่ส่วนใหญ่เราจะเป็นผู้ฟังซะมากกว่า เวลาเขาแบ่งปันเหมือนกับว่าเขาอยากจะสอนเรามากกว่าค่ะ แล้วหลังจากนั้นไม่นานเวลาเขาทักมาหรือเขาโทรมา ดิฉันก็ไม่ได้รับสายเขาอาจจะติดธุระด้วยหรืออาจจะแบบไม่สะดวกใจที่จะสามัคคีธรรมกับพี่น้องเหล่านั้น สิ่งเหล่านี้ที่ฉันทำผิดต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าไหมค่ะ
ไม่ใช่เราไม่อยากจะถ่อมใจฟังนะคะ แต่แบบว่าเหมือนกับเขาต้องการมาสอนเรามากกว่า ก็คือเราก็รู้ไม่ใช่ว่าเรารู้เก่งหรือฉลาดนะคะ แต่คือเรารู้ความจริงแล้ว แล้วหลายคนยังอยู่ในความมืด หลายคนก็รับมานาฯ แล้ว ความรู้ความเข้าใจก็อาจจะมากน้อยไม่เท่ากัน แต่ดิฉันก็รู้สึกอึดอัด อึดอัดแบบว่าไม่อยากใช้เวลากับพี่น้องเหล่านั้น อันนี้คือมาจากพระเจ้าไหมค่ะ หรือว่าเรายังต่ำไม่พอค่ะ
ตอบ.
สำหรับเราที่เป็นพี่น้องหญิงนะครับเป็นพี่น้องหญิง เรื่องการอดทนถ้าหากมันเกินขอบขีดที่เราจะรับได้ เราไม่สะดวกเราก็อาจจะไม่ร่วมก็ไม่เป็นไรนะครับ
แต่ถ้าหากเราอดทนได้ แล้วพระเจ้าอนุญาตให้เราอดทนและอยู่กับพวกเขา เพื่อว่าเราจะมีโอกาส ถ้าหากเราจะพูดนะครับ เราจะเสริม เราพูดได้เสริมได้นะครับ แต่ในลักษณะของการที่เราเป็นพี่น้องหญิงที่สวมผ้าคลุม เข้าใจที่ผมพูดไหมครับ ก็คือเราร่วมถ้าหากเราอดทนได้ แล้วเราอยู่กับเขาเพื่อแสดงความรัก แต่ถ้าหากว่าเราอดทนไม่ได้แล้วรู้สึกว่ามันอึดอัดมันอยู่ยาก เราก็อธิษฐานเผื่อแล้วก็ออกมาก่อนครับ
สำหรับพี่น้องที่เป็นผู้เผยพระวจนะ หรือผู้พูด ไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชายหรือพี่น้องหญิง ขอให้เข้าใจตรงนี้นะครับ คือเราขอให้พิจารณาขอพระวิญญาณบริสุทธิ์เปิดใจเรา ให้เราเห็นว่าเรามีจุดบกพร่องอะไรบ้าง เราเป็นคนพูดในลักษณะแบบไหน เราพูดดีพอหรือยัง พี่น้องฟังแล้วได้รับชีวิต ได้รับพระวิญญาณ ได้รับสุข กับเราหรือไม่จากเราหรือไม่
ถ้าหากเราพูดไปพี่น้องมีเสียงตำหนิมา หรือหลายคนพูดถึงเราในแง่ลบ เราควรจะแก้ไข แล้วขอพระเจ้าชำระเรา เอเมนไหมครับ
แต่ถ้าหากว่าเรารู้สึกว่าอยู่กับใครแล้วอบอ้าว อยู่กับใครแล้วมันไม่ได้รับชีวิต ไม่ได้รับอำนาจของพระเจ้าฤทธิ์เดชของพระเจ้า และรับสันติสุขจากพระคำของพระเจ้า เราก็อธิษฐานเผื่อเขาแล้วออกมาก่อนหรือพูดคุยกับทีมประสาน บอกว่ากลุ่มนี้ที่เราไปร่วมด้วย คือมันเป็นแบบนี้ หรือมาคุยกับผมก็ได้ เราจะแก้ไขกันนะครับ เพื่อให้คริสตจักรของเราและทุกกลุ่มของพวกเรา ทุกคนที่เข้าไปอยู่ด้วยเนี่ยก็จะอบอุ่นไม่ใช่อบอ้าว แล้วจะอยู่ง่ายไม่ใช่อยู่ยาก รับสุขไม่ใช่รับทุกข์ เอเมน
เรายังต้องแก้ไขกันเยอะนะครับสำหรับพี่น้องหลายกลุ่ม หรือแม้แต่ในกลุ่มใหญ่ แต่สิ่งที่สำคัญขอให้เราเข้าใจว่าเรายังฝึกร่วมกันอยู่ ทุกคนก็ฝึกอยู่ ไม่ว่าจะเป็นผู้เผยพระวจนะ ไม่ว่าจะเป็นปุโรหิต คนต้นเรือนทั้งหลาย เราทุกคนนั่นแหละและเราเองด้วย
เพราะฉะนั้นสิ่งหนึ่งที่เราควรจะมีในหัวใจของเรา ก็คือความอดทน เห็นใจเขา เห็นอกเห็นใจกันและกัน ว่าโอเคเขาก็ยังฝึกอยู่ อาจจะมีผิดบ้างถูกบ้าง อย่าไปหวังทุกสิ่งจะราบรื่น อย่าไปหวังว่าทุกสิ่งจะดีทั้งหมดจะถูกใจเราทั้งหมด ถ้าเราทำได้แบบนี้ก็บำเหน็จก็เป็นของเรา เอเมน
พี่น้องที่โพสต์ในกลุ่มใหญ่และก็บางครั้งผมก็มีโอกาศได้เข้าไปร่วมกับพี่น้องที่สามัคคีธรรมร่วมกัน ผมก็เห็นนะครับว่ามีจุดบกพร่องก็เยอะอยู่ หลายคนพูดก็อาจจะยังไม่มาถึงความพอดีความเหมาะสมอยู่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะครับความอดทนของพวกเราควรจะมีต่อกัน ให้โอกาสกันและกันว่าโอเคเขายังฝึกอยู่ เราก็ยังฝึกอยู่ เขาก็ยังไม่ครบบริบูรณ์ เราเองก็ยังก็เหมือนกันก็ยังไม่ครบบริบูรณ์ เพราะฉะนั้นทุกคนให้โอกาสกันและกัน เห็นอกเห็นใจกันและกัน แล้วก็อธิษฐานเผื่อกันและกัน และเราจะอดทนต่อสู้ ฝึกฝนในความเชื่อ การรับใช้ไปด้วยกัน เอเมน
คืออย่างที่ผมพูดมีคริสเตียนบางคนนะครับที่ตอนที่อยู่ในคริสตจักรศาสนา เขาจะย้ายโบสถ์เป็นประจำ ถามว่าทำไม เพราะว่าไปโบสถ์ไหนก็แบบคือไม่ถูกใจเขาสักที่หนึ่ง ไม่มีที่ไหนถูกใจเขาเลย ก็เลยย้ายไปเรื่อยๆ แล้วเขาก็ไปเจออาจารย์ท่านหนึ่ง ก็ถามว่าอาจารย์ผมมีปัญหาตรงนี้ ก็คืออยากจะย้ายโบถ์สเพราะว่ามันเจอคริสตจักรที่ไม่ถูกใจสักที อยากจะไปหาคริสตจักรที่มันให้ทุกสิ่งได้เติบโตได้อะไรได้ คือพูดพี่น้องก็พูดดีได้ เอาใจหนุนใจ รักกันและกันได้
อาจารย์คนนี้ก็บอกว่าถ้าอยากไปโบสถ์ที่สงบสุขแล้วไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่มีการอิจฉาอะไรกัน ก็คือโน้นคุณไปโบถ์สหลังนั้น เขาก็ชี้ไปมันเป็นโบสถ์ร้างนะครับไม่มีใครอยู่ ความหมายก็คือว่า ทุกคริสตจักรต่างก็มีปัญหา แม้แต่คริสตจักรฝ่ายวิญญาณ แม้แต่พวกเราที่เป็นพระกายฝ่ายวิญญาณ เพราะฉะนั้นสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้เราทำก็คืออดทน เห็นอกเห็นใจกันและกัน รักกันและฝึกไปด้วยกัน อธิษฐานเผื่อกัน เอเมน
แล้วอย่าลืมการแก้ไข เราต้องมีนะครับ ไม่ใช่ว่าปล่อยให้เป็นไปแบบนั้นอยู่เรื่อยๆ ก็คือใครพบว่าพี่น้องคนไหนเป็นคนพูดนำ หรือเผยพระวจนะ อาจจะยาวกว่าเพื่อน หรือเป็นน้ำท่วมทุ่ง หรือไม่มีชีวิต ไม่มีพลังของพระเจ้าอยู่ในนั้น เราก็ต้องคุยกันอธิษฐานเผื่อ และมาพูดคุยกับทีมประสานหรือพูดคุยกับผม เราจะแก้ไข เอเมน
ก็มีพี่น้องหลายท่านก็อาจจะมาคุยกับผมบ้างเรื่องของพี่น้องคนโน้นคนนี้ พี่น้องหญิงพี่น้องชาย ผมก็ได้แต่อธิษฐานเผื่อ ถ้ามีโอกาสจริงๆ แล้วเขาพูดคือบ่อยครั้งบ่อยขึ้น ผมก็อาจจะไปคุยกับเขานะครับแต่ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลา ซึ่งผมเห็นว่าบางครั้งยังไม่ได้พูดแต่พระเจ้าเป็นคนนำเป็นคนทำงานก่อน ทั้งนี้ทั้งนั้นขอบคุณพระเยซูที่พระองค์บริหารคริสตจักรของพระองค์ พระกายของพระองค์อยู่ในการทำงานทำกิจของพระเจ้าอยู่เสมอ ขอบคุณพระเยซูเอเมน
คือเราดูได้จากคำพูดของพี่น้อง จากการต้อนรับของพี่น้อง จากเขาเห็นว่าเรามีความรักต่อเขา เห็นความเมตตา เห็นการพูดนอบน้อมถ่อมใจต่อเขา เขาก็จะบอกเรา หรือพูดคุยกับเรา หรือต้อนรับเรา ด้วยความอบอุ่น
แต่ถ้าหากเราพูดเราสอนเราเผยพระวจนะ แต่มีการตอบสนองที่จะเป็นในด้านลบมากกว่า อันนี้เราควรจะถามพระเจ้า แล้วก็ควรจะแก้ไขครับผม
เอเมนพระเยซูที่พระองค์เลือกพวกเราทั้งหลายให้เป็นพี่น้องผู้ที่รักชอบในการเผยพระวจนะ และขอบคุณที่พระองค์ใช้พวกเราผ่านมา และขอบพระคุณที่พระองค์จะชำระให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อถ้อยคำที่ออกจากพวกเราจะมาจากพระองค์ เป็นถ้อยคำที่มีชีวิต มีความจริง และเป็นฤทธิ์เดช สรรเสริญพระเยซู
เพื่อเสริมสร้างก่อพี่น้องขึ้นสู่ชีวิตผู้ชนะ เป็นการงานที่มีเกียรติสำหรับพระองค์ในอาณาจักรและเป็นการงานที่พระองค์ต้องการที่จะใช้พวกเราให้เผยพระวจนะเพื่อเลี้ยงดูพี่น้อง เราขอบคุณพระเยซูสำหรับการงานนี้เป็นการงานอันดีที่เราปรารถนาและเพื่อให้น้ำพระทัยของพระองค์สำเร็จ การชำระของพระองค์มีอยู่ท่ามกลางพวกเรา และจะทำให้พวกเราทำได้ดีขึ้นมากยิ่งขึ้น ขอบคุณพระเยซูที่พระองค์เลือกพวกเราและรักพวกเรา เอเมน
และอีกครั้ง คือสำหรับพี่น้องที่อยู่ร่วมกัน ก็คือเราเห็นอกเห็นใจกันและกัน ให้โอกาสกันและกัน อย่าเพิ่งไปคิดว่าเออไม่ไหวแล้วไม่เอาแล้ว ไม่ชอบคนนี้ไม่ชอบคนนั้น การพูดแบบนี้พูดยาวเกินไป คือเราอธิษฐานเผื่อและให้โอกาสนะครับ ซึ่งผมเห็นว่าพี่น้องพวกเราที่เป็นผู้เผยหลักหรือผู้เผยพระวจนะส่วนมากก็คือเราเห็นแต่คนถ่อมใจกันทั้งนั้น เราขอบคุณพระเยซูสำหรับสิ่งนี้เอเมน
และมาถึงตอนนี้นะครับผมเองก็เหมือนกัน ไม่ใช่ว่าผมครบแล้วครบถ้วนแล้วพูดเก่งพูดดีแล้ว ทุกสิ่งเป็นมาโดยพระวิญญาณ ผมยอมรับนะครับถ้าผมไม่มีพระวิญญาณพูด ก็คือคำพูดของผมก็ไม่มีความหมายอะไร ผมแต่ก่อนไม่เคยพูดเป็นไม่เคยพูดเก่งเป็นคนขี้อาย แต่มาถึงจุดนี้ก็สรรเสริญพระเจ้าพระองค์ได้รับเกียรติ แล้วถ้ามีอะไรที่อยากจะบอกอยากจะแนะนำก็บอกได้ครับผม ผมยินดีรับ เอเมน