1. พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าแห่งความชอบธรรม พระองค์เป็นความชอบธรรม ความชอบธรรมคือชีวิตของพระเจ้า
2. พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์เผ่าพันธุแรก (อาดัม) เพื่อให้เขาเป็นคนชอบธรรมและดำเนินชีวิตที่ชอบธรรม
3. เมื่ออาดัมและลูกหลานกลายเป็นคนบาปและไม่มีชีวิตที่ชอบธรรมต่อพระเจ้า พระองค์จึงไม่ "พอใจ"
4. เมื่อเราถือกำเนิดในอาดัม (เกิดเก่า) เรากลายเป็นคนบาปทันที และชีวิตของเราจึงไม่เป็นที่ "พอใจ" ของพระเจ้า
5. เมื่อมนุษย์ทำให้พระเจ้า พอใจ ไม่ได้พระองค์จึงต้องกระทำเองเพื่อช่วยพวกเรา เพื่อให้ชีวิตของเราเป็นที่ "พอใจ" ของพระองค์
6. พระเยซูเสด็จมาเพื่อมาทำให้ความชอบธรรมสำเร็จ พระองค์ดำเนินชีวิตที่ชอบธรรมและตายเพื่อไถ่บาปของอาดัมผู้อธรรม
7. พระเยซูตรัสกับยอห์นว่า "จงยอมเถิดเพราะว่าพวกเรา (พระเยซูและยอห์น) จะทำให้ความชอบธรรมสำเร็จทุกประการ"
8. เมื่อพระเยซูรับบัพติศมา พระบิดาตรัสว่า "นี่คือบุตรที่รักของเรา (มนุษย์เผ่าพันธุใหม่) คือผู้ที่เรา พอใจ มาก" This is my beloved Son, in whom I am well pleased. (มธ 3:17)
9. เมื่อเราถือกำเนิดในพระคริสต์ (บังเกิดใหม่) เป็นมนุษย์เผ่าพันธุใหม่คือมนุษย์วิญญาณ (ยน 3:5-6) เรากลายเป็นคนชอบธรรมทันที และชีวิตของเราจึงเป็นที่ "พอใจ"ของพระเจ้า
10. เมื่อพระเจ้าพอใจในชีวิตของเรา จึงทรงนับว่าเราเป็นคนชอบธรรมแล้ว การได้กลายเป็นคนชอบธรรมเราจึงได้รับหกสิ่งจากพระองค์
- 1. ความรักของพระเจ้าหลั่งไหลเข้ามาสู่ชีวิตเรา
- 2. ได้เข้าในร่มพระคุณ (อยู่ภายใต้การดูแลและการทำงานของพระเจ้า)
- 3. มีสันติสุขทุกวันเวลาในพระคริสต์
- 4. ชื่นชมยินดีในความหวัง (มั่นใจในความรอดของเรา)
- 5. ชีวิตพระคริสต์ในเราจะช่วยเราให้รอดในแต่ละวันได้
- 6. มีความหวังใจในสง่าราศีอันครบบริบูรณ์ของพระเจ้า
11. โดยความรักของพระเจ้า โดยการกระทำของพระคริสต์ และโดยการทำงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ เราได้สวมใส่ชีวิตของพระคริสต์เยซูที่เป็นเสื้อที่ดีที่สุดสามารถปกปิดเราซ่อนเราเอาไว้จากพระพิโรด ทุกครั้งที่พระบิดามองมาที่เราจะเห็น พระเยซู (กท 3:27) พระองค์ทรงเป็นความชอบธรรมของเราแล้ว(1 คร 1:30) วันนี้พระเจ้า พอใจท่านแล้ว ท่านเป็นคนชอบธรรมแล้ว (Justified by faith)
.....
เนื่องจากอาดัมมนุษย์คนแรก (มนุษย์เผ่าพันธุ์แรก) ล้มเหลวต่อแผนการงานของพระเจ้า พระเยซูจึงเสด็จมาเพื่อไถ่มนุษย์ให้กลับมาสู่สภาพเดิมแต่การเสด็จมาของพระองค์ไม่ใช่เพียงแต่ไถ่มนุษย์ให้พ้นจากพระพิโรธของพระเจ้าเท่านั้น แต่พระองค์ทำให้เกิดมีมนุษย์เผ่าพันธุใหม่และพระองค์เองเป็นบุตรหัวปีเป็นพี่ชายคนโตของมนุษย์คนใหม่นี้ เรียกว่า มนุษย์วิญญาณ (ยน 3:5-6) เป็นลูกหลานอับราฮัมฝ่ายวิญญาณเพื่อเข้าสู่ชีวิตที่ครบบริบูรณ์เพื่อรับมรดกทุกประการร่วมกับพระเยซูคริสต์
.....
ขณะที่ผู้เชื่อมากมายพยายามฝึกฝนชีวิตให้ได้กลายเป็นคนชอบธรรมด้วยการพยายามอดกลั้นฝืนใจรักษาพระบัญญัติและคำสั่งสอนของพระเยซู เรียกว่าการเปลี่ยนแปลงหรือการซ่อมจิตใจเก่า แต่สำหรับพระเจ้า พระองค์ทรงกระทำสิ่งที่ดีกว่านั้นคือประทานวิญญาณของพระคริสต์เข้ามาอยู่ในเราเพื่อแทนที่ชีวิตเก่าเนื้อหนังของเรา เรียกว่า เปลี่ยนใหม่ Transformed (อสค 36:26-27) ผลของชีวิตจึงไม่ใช่ผลของเราอีกต่อไปแต่คือผลของพระวิญญาณของพระคริสต์ (กท 2:20; 5:22-23) สำหรับเราผู้เชื่อทั้งหลาย การดำเนินชีวิตอยู่ก็คือพระคริสต์ (ฟป 1:21)
.....
พระคริสต์วันนี้เป็นศรีษะของเรา และเราผู้เชื่อทั้งหลายเป็นพระกายของพระองค์ ผู้เชื่อมากมายไม่เข้าใจว่าพระคริสต์ที่เป็นศรีษะของเรานั้นเป็นวิญญาณ เพราะฉะนั้นเราที่เป็นพระกายหรืออวัยวะของพระองค์ก็ต้องเป็นวิญญาณเช่นเดียวกัน นี่คือเหตุผลที่พระเจ้าทรงสร้างเราให้เป็นมนุษย์เผ่าพันธุใหม่เพื่อพร้อมที่จะเป็นพระกายของพระคริสต์และดำเนินชีวิตปรนนิบัติรับใช้ในพระวิญญาณ การถวายพระกายใหม่ในสภาพที่เป็นขึ้นมาจากความตาย คือเครื่องถวายบูชาที่เป็นที่พอใจของพระบิดายิ่งนัก (โรม 12:1)